ประเทศโครเอเชีย ดินแดนมหัศจรรย์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์อันหน้าหลงใหล ที่มีแนะนำใน โปรแกรมทัวร์โครเอเชีย อย่างกรุงซาเกรบ (Zagreb) กันก่อนเลยนะครับ ที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี แวะเยี่ยมชมบรรยากาศความงดงามของ “เมืองเก่าซาดาร์” ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ห้าของโครเอเชีย และนอกจากจะเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่แล้วยังเป็นที่ที่แสนโรแมนติกมากอีกด้วยนะครับ โดยเขตเมืองเก่านี้มีอายุมากกว่า 3,000 ปีด้วยกัน ถือว่าเมืองนี้มีอายุเก่าแก่มากเลยทีเดียวครับ และเมืองนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรขนาดใหญ่ของทะเลอาเดรีติกและที่สำคัญในอดีตเป็นเมืองหลวงของแคว้นดัลเมเทียอีกด้วย
หลังจากนั้นเราก็แวะชมกันต่อที่ “มหาวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์” ครับ โดยสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 เป็นรูปแบบศิลปะแบบโรมันเนสก์ โดยมีสิงโต อดัม & อีฟ รวมถึงรูปสลักนักบุญองค์สำคัญต่างๆ นอกจาก “มหาวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์” แล้ว ที่ “เมืองเก่าซาดาร์” ยังมีระฆังแห่งวิหาร THE CATHEDRAL BELFRY แท่นบูชาของเซนต์โดมินัสและเซนต์สตาซิอุส รวมไปถึงชมน้ำพุโบราณทรงกลม ซึ่งเป็นน้ำพุที่ใช้หล่อเลี้ยงประชากรในยามมีศึกสงคราม โดยถือได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นความงดงามทำให้โครเอเชียมีเสน่ห์ชวนให้หน้าหลงใหลและน่าสัมผัสเป็นอย่างมาก และยิ่งหากใครเป็นผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแบบผมด้วยแล้วล่ะก็ เชื่อได้เลยครับว่าจะต้องลั่นชัตเตอร์แบบรัวๆ เหมือนผมแน่นอน ครับ สวยจริงๆ หากยิ่งถ้าได้นั่งเฉยๆ ทอดสายตามองไปยังสถานที่ต่างๆ แล้วล่ะก็มีมองเพลินกันไปหลายชั่วโมงกันเลยทีเดียวครับ
และหากท่านใดที่ยังไม่จุใจกับบรรยากาศความงดงามของ “เมืองเก่าซาดาร์” แล้วล่ะก็ ผมขอต่อด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ “อุทยานพลิตวิเซ่ (Plitvice National Park)” ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชียนั่นเองครับ โดยอุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดถึง 296.85 ตารางกิโลเมตร ที่นี่เปรียบเหมือนกับหอศิลป์ที่รวบรวมเอาผลงานชิ้นเอกของธรรมชาติมาไว้ด้วยกันก็ว่าได้เลยนะครับ เพราะมีทั้งน้ำตกใหญ่ที่มีขนาดเล็กและใหญ่รวมไว้ด้วยกันที่นี่ นอกจากนั้นยังมีผืนป่า และสัตว์ต่างๆ มากมายนานาชนิด รวมไปถึงทะเลสาบกว่า 16 แห่งด้วยกัน ซึ่งหากใครได้มาสัมผัสและชื่นชมความสวยงามตามธรรมชาติของที่นี่แล้วล่ะก็ไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ และจุดเด่นของทะเลสาบทั้ง 16 แห่งที่ว่านี้ก็คือ “สีของน้ำ” นั่นเองครับ โดยสีของน้ำที่นี่จะมีตั้งแต่สีเขียวมรกตไล่ไปจนถึงสีฟ้าใสแบบท้องฟ้า น้ำที่นี่ใสเหมือนกระจกก็ว่าได้ครับ ดังนั้นผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ถึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1979
หลังจากที่เที่ยวชมธรรมชาติอันงดงามไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มาเที่ยวต่อกันที่เมืองซาดาร์ (Zadar) เมืองสปลิท (Split) เมืองสตอน (Ston) เมืองโทรเกียร์ (Trogir) และเมืองซิเบนิค (Sibenik) เมืองชายทะเลที่งดงามด้วยธรรมชาติและสถาปัตยกรรม รวมถึงเดินเล่นสูดบรรยากาศอันสดชื่นและซึมซับประสบการณ์อันน่าหลงใหลที่ เมืองดูบลอฟนิก (Dubrovnik) เมืองมรดกโลกที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” หรือจะทิ้งตัวพักขาลองนั่งกระเช้า สู่ SRD HILL จุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองดูบรอฟนิคก็น่าสนไม่น้อยเลยนะครับ
แต่หน้าเสียด้ายที่ในโปรแกรมนี้ ผมใช้เวลาในการเที่ยวเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ ด้วยกันทั้งหมดแค่ 7 วัน กับอีก 4 คืน ในโครเอเชียเท่านั้น เพราะยังมีอีกสถานที่ที่ผมยังไม่ได้แนะนำนั่นและพาเที่ยวชมในทริปนี้ก็คือ ล่องเรือข้ามทะเลสาบ KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานและเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนบนและอุทยานตอนล่าง (เพราะการล่องเรือและการเดินในอุทยานที่นี่นั้นจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันครับ) แต่ถึงอย่างไรสำหรับโปรแกรมท่องเที่ยว “ทัวร์ยุโรป โครเอเชีย” ในครั้งนี้ ผมก็รู้สึกว่าคุ้มค่าไม่น้อยกันเลยทีเดียว แบบว่าแบกความสุข ความสนุก และตื่นเต้นกับบ้านแบบล้นกระเป๋าก็ว่าได้เลยล่ะครับ คุ้มค่าจริงๆ ทั้งบรรยากาศและความสวยงามที่ได้พบเจอ
ปล. เหมือนผมจะลืมบอกไปครับ นอกจากที่นี่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่อย่างห้างสรรพสินค้า “อารีน่า เซนตาร์” ไว้เพื่อละลายเงินคูน่าก่อนเดินทางกลับประเทศไทยอีกด้วยแน่นอน เพราะห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มีสินค้าให้ท่านเลือกซื้อมากมาย และมีซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ให้ท่านซื้อสินค้าท้องถิ่นเป็นของฝากกลับบ้าน เช่น ช็อคโกแลตยี่ห้อ KRAS ไวน์โลกเก่าจากโครเอเชีย, น้ามันมะกอกเมดิเตอร์เรเนียน, เห็ดทรัฟเฟิลซีกันเต้ ก็มีไว้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ เอาเป็นว่าช้อปกันแบบจุใจกันไปเลยทีเดียว
บทความท่องเที่ยวแนะนำ : ทัวร์อิตาลี สวิส ฝรั่งเศส เที่ยว 3 เมืองใหญ่ Roma, Zurich, Paris