วันที่ 1 | ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ - กรุงออสโล (นอร์เวย์) |
21.00 น. | พร้อมคณะที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 3 เคาน์เตอร์ D (16-19) สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้
|
วันที่ 2 | กรุงออสโล (นอร์เวย์) - เที่ยวกรุงออสโล - กรุงเรคยาวิก (ไอซ์แลนด์) |
00.55 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG954 |
07.25 น. | ถึงสนามบินการ์ดเดอมูน กรุงออสโล ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและการตรวจของศุลกากรแล้ว นำท่านเที่ยวชม กรุงออสโล ผ่านไปชม ปราสาท Akurshus งานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในยุคเรอเนสซองส์สร้างในปี 1648 แล้วไปชมอุทยานฟร็อกเนอร์ ที่มีประติมากรรมที่แสดงถึงความเป็นอยู่สภาพชีวิต และการดิ้นรนต่อสู้ของมนุษย์ชาติ ซึ่งเป็นผลงานประติมากรชื่อดังกุสตาฟวิเกอแลนด์ แล้วกลับเข้าสู่เขตใจกลางเมือง ชม ทำเนียบรัฐบาล, พระบรมมหาราชวัง, อาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อาทิ เนชั่นแนลเธียเตอร์, อาคารรัฐสภา และ ศาลาเทศบาลเมืองเก่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | หลังอาหาร รถโค้ชนำคณะกลับสู่ สนามบินการ์ดเดอมูน กรุงออสโล อีกครั้ง |
13.40 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ (ใช้เวลาในการบินประมาณ 2.40 ชั่วโมง) |
14.40 น. | ถึง สนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) กรุงเรคยาวิก (อ่าวแห่งควัน) เนื่องจากควันไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน นอกจากนี้ยังมีตำนานไวกิ้งโบราณ ที่มีหลักฐานแสดงถึงการปกครองดินแดนแถบนี้มาก่อน นำท่านเที่ยวชมสู่ กรุงเรคยาวิก ชม โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมืองที่เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพของกรุงเรกยาวิกโดยรอบ โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะที่เป็น ศาสนสถาน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์สถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) เป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมเพรสชั่นนิสท์ รวมเวลาการก่อสร้าง 38 ปี คือตั้งแต่ปีเริ่มสร้างปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 อีกหนึ่งสถานที่ในประวัติศาสตร์คือ Hofdi House บ้านที่มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติอันน่าสนใจ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยงผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในการยุติสงครามเย็น |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | FOSSHOTEL REYKJAVIK หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | เรคยาวิก - เมืองโอลาร์ฟวิค - ล่องเรือชมวาฬ - เคิร์คจูเฟล สัญลักษณ์แห่งไอซ์แลนด์ - บอร์กาเนส |
บ่าย | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองโอลาร์ฟวิค เป็นหมู่บ้านชาวประมงบนคาบสมุทรสแนเฟลล์สเนส ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีการค้าขายทางเรือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์และยังเป็นเมืองแรกที่ได้รับใบอนุญาตทำการค้าจากกษัตริย์ เดนมาร์คตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเดินทางสู่ ท่าเรือเมืองโอลาร์ฟวิค บนคาบสมุทรสแนเฟลล์สเนส ในเขต West Iceland มีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือการ ล่องเรือชมวาฬ กล่าวกันว่าการชมวาฬในเขตนี้ท่านอาจโชคดีได้พบกับ 5 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องทะเล (Big 5 of the Sea) ในเขตภูมิภาคนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับวาฬแบบธรรมชาติมากที่สุด วาฬสีน้ำเงิน, วาฬสเปิร์ม หรือ วาฬหัวทุย, วาฬมิงค์, วาฬหลังค่อม หรือ วาฬฮัมแบ็ก, วาฬเพชฌฆาต หรือ วาฬออร์กา ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ (บนเรือมีชุดกันหนาวให้ยืมและขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่บริษัทเรือยกเลิกให้บริการ อันเนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย การล่องเรือชมวาฬใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง) นำคณะเดินทางสู่ เคิร์คจูเฟล (Kirkjufell) ในเขต West Iceland หนึ่งในสถานที่โปรโมตในการถ่ายภาพทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ในมุมมองยอดเขารูปกรวยคว่ำมีน้ำตกและธารน้ำรายรอบ เป็นภาพสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ ภูเขาลูกนี้มีความสูงประมาณ 463 เมตร ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | ICELANDAIR HOTEL HARMAR หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | บอร์กาเนส - เรย์คอร์ท - โกลเด้นเซอร์เคิล - ซิงเควลลีร์ - น้ำตกกูลล์ฟอสส์ (ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์) - น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเรย์คอล์ท เพื่อชม บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver Thermal Spring) มีอุณหภูมิน้ำสูงที่สุดถึง 97 องศาเซลเซียส เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุด แล้วไปชมความสวยงามของน้ำตกเฮินฟอซซ่า ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีน้ำตกสวยหลายแห่ง ซึ่งเป็นน้ำตกสาขาหนึ่งของน้ำตกใหญ่ที่ก่อกำเนิดจากแหล่งลำธาร และแม่น้ำสายต่าง ๆ เป็นระยะทางกว่า 900 เมตร ของทุ่งลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟที่อยู่ภายใต้ธารน้ำแข็งแลงโจกุล Langjökull ธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชม ความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ใน เส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ และมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซีย และทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี ค.ศ.1789 ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดด้านประวัติศาสตร์และด้านธรณีวิทยาเพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลก เป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ไปชม น้ำตกกูลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศและยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่า ทองคำ และ Foss ที่แปลว่า น้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึง น้ำตกทองคำ ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลก ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่ความสูงกว่า 30 เมตร จากนั้นนำคณะเดินทางเข้าสู่ ที่พัก แล้วไปชม น้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อน หรือ เกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีย์เซอร์ geyser ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที ไอซ์แลนด์เหมือนพระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างประณีต พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | LITLI GEYSIR HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | South Shore - น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ - หมู่บ้านวิก - หาดทรายสีดำ - ขับสโนว์โมบิลตะลุยธารน้ำแข็ง |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านท่องเที่ยว เส้นทางแสนสวย South Shore ประเทศไอซ์แลนด์มีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิง ทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วยทัศนียภาพสองข้างทางเว้นระยะไปด้วย ฟาร์มปศุสัตว์ มีภูเขาไฟ Eyjafjallajokull เด่นตระหง่านเป็นฉากหลัง และเป็นภูเขาไฟที่ยังมีการปะทุอยู่ตลอดเวลา ในอดีตการระเบิดในปี 2010 ของภูเขาไฟแห่งนี้ก่อนให้เกิดการปิดน่านฟ้าทั่วทวีปยุโรปเป็นระยะเวลาถึง 6 วัน แวะถ่ายรูปกับน้ำตกเซลยาแลนส์ฟอสส์ (Seljalansfoss) มีความสูง 60 เมตร และน้ำตกอีกแห่งหนึ่งคือ สโกการ์ฟอสส์ (Skogarfoss) มีความสูง 62 เมตร ประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกที่เป็นธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา, โตรกผา และหุบเหว
|
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นออกเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านวิก (Vik) หมู่บ้านเล็กๆ ทางใต้ของไอซ์แลนด์ ที่มีรายชื่อในการจัดอันดับชายหาดที่สวยที่สุดในโลกเมื่อปี 1991 เป็นหมู่บ้านที่มีฝนตกมากที่สุดในไอซ์แลนด์ ระหว่างทางแวะชมหาดทรายสีดำ ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ เป็นหินอัคนีที่พบได้โดยทั่วไป เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก จากนั้นนำท่านพบกับประสบการณ์ใหม่กับคำเปรียบเปรยที่ว่า “อย่าเพิ่งไปจากไอซ์แลนด์ หากท่านยังไม่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากธารน้ำแข็ง” ด้วยการขับรถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็ง Mýrdalsjökull Glacier บนดินแดนที่อยู่สูงที่สุดของโลก มีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 ของธารน้ำแข็งทั้งหมดในไอซ์แลนด์ พื้นที่กว่า 595 ตารางกิโลเมตร ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง (ชุดกันความหนาว,หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบู๊ท มีให้บริการ) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | HOTEL LAKI หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | โจกุลซาร์ลอน - ธารน้ำแข็งแห่งวัทนาโจกุล - เซลฟอส์ส |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะออกเดินทางสู่ โจกุลซาร์ลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตารางกิโลเมตร เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนามากที่สุด หนาประมาณ 1,000 เมตร เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งที่มากขึ้น ๆ ในทุก ๆ ปี ปัจจุบันโจกุลซาร์ลอนมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร ตื่นตาตื่นใจกับการ ชม ภูเขาน้ำแข็ง (ไอซ์เบิร์ก) ก้อนโต ๆ เรียงรายโผล่พ้นพื้นน้ำในทะเลสาบ ยามกระทบแสงแดดก่อให้เกิดสีสันสวยงามที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก |
บ่าย | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | หลังจากนั้นนำคณะเดินทางสู่ เมืองเซลฟอส์ส |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | HOTEL SELFOSS หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมในเขต South Iceland มีข้อจำกัดในการรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงจากไปจากโปรแกรมการท่องเที่ยว |
วันที่ 7 | เซลฟอส์ส - คีร์ยซูริค - อาบน้ำแร่บลูลากูน - เรคยาวิก |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเดินทางสู่ คีร์ยซูริค (Krysuvik) เป็นพื้นที่ความร้อนใต้พิภพบนคาบสมุทร หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า Gunnuhver และน้ำพุร้อนใต้ทะเลสาบ Kleifarvatn แผ่นเปลือกโลกในคาบสมุทรเรคยาเนส อ่อนไหวต่อการเกิดแผ่นดินไหว |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเข้าสู่ บ่อน้ำแร่ร้อนและสปาที่โด่งดังระดับโลก บลูลากูน หรือ ทะเลสาบสีฟ้า สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลกและโด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวกว่า 95% ต่างไม่พลาดกับการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ เชิญท่าน อาบน้ำแร่ธรรมชาติ เพื่อการบำรุงผิวพรรณ ผ่อนคลายไปกับ Stream & Sauna เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
พักที่ | PARK INN BY RADISSON KEFLAVIK AIRPORT HOTEL หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | สนามบินเคฟลาวิก - สนามบินออสโล - เดินทางกลับกรุงเทพฯ |
06.00 น. | เช็คเอ๊าท์แล้วคณะออกเดินทางสู่ สนามบินเคฟลาวิก |
07.50 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงออสโล โดยสายการบิน Iceland Air |
12.30 น. | คณะเดินทางกลับถึง สนามบินกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เพื่อรอต่อเครื่อง |
14.15 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG955 |
วันที 9 | เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ |
06.15 น. | นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |