รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์โมร็อกโก

TE372 : ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ช่วงอากาศดีที่สุด 11 วัน 8 คืน (EK)


Emirates (EK)
คัดลอก URL คัดลอก URL
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Bacelo Fez Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Dar Echchaouen Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Novotel City Center Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Novotel Hivernage Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Raid Ouarzazate Hotel
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Taddart, Midelt
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Tombouctou Hotel ,Merzouga
TE372 : ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ช่วงอากาศดีที่สุด 11 วัน 8 คืน (EK)

ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ... ช่วงอากาศดีที่สุด

คาซาบลังกา | ราบัต | เชฟชาอูน | โวลูบิลิส | เมคเนส | เฟซ | มิเดลท์ | เมอร์ซูก้า | ทะเลทรายซาฮาร่า | นั่งรถ 4WD | ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า โอเอซิสแห่งแทนเกียร์ | วอซาเซท | เอทเบนฮัดดู | มาราเกช


กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาเริ่มต้นสถานะ
TE372-00625 ธ.ค. 67-04 ม.ค. 68Emirates (EK)125,900จองด่วน
TE372-00325 ม.ค.-04 ก.พ. 68Emirates (EK)119,900จองด่วน
TE372-00414-24 ก.พ. 68Emirates (EK)119,900จองด่วน
TE372-00521-31 มี.ค. 68Emirates (EK)119,900จองด่วน
TE372-00710-20 เม.ย. 68Emirates (EK)125,900จองด่วน
 
รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร - ดูไบ
22.00 น.คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
วันที่ 2ดูไบ – คาซาบลังกา
01.35 น.ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK385 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน 
04.45 น.เดินทางถึงดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน EK751 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย 
07.30 น.ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ สู่ สนามบินคาซาบลังกา บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 8.45 ชั่วโมง)
12.45 น.เดินทางถึงสนามบินคาซาบลังกา ประเทศโมร็อกโก นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร

นําท่านชม เมืองคาซาบลังกา เมืองใหญ่ทางตะวันตกของโมร็อกโก ซึ่งชื่อของ เมืองคาซาบลังกา คำว่า คาซา แปลว่าบ้าง และบลังกา แปลว่า สีขาว เมืองที่คนทั่วโลกรู้จัก เพราะนอกจากจะเป็นเมืองท่าและเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานระหว่างประเทศแล้ว ยังถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง Casablanca ออกฉายในปี ค.ศ.1942 (โดยที่ไม่ได้ถ่ายทำในคาซาบลังกาเลย) เป็นเรื่องราวความรักระหว่างนายทหารอเมริกันและหญิงคนรัก ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้คาซาบลังก้าเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และปัจจุบันเป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของโมร็อกโก
 
นำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่าแห่งคาซาบลังกา (Medina of Casablanca) ซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองสูง ในอดีตเคยใช้ปกป้องตัวเมืองจากข้าศึก สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เริ่มต้นจากหอนาฬิกาประจำเมืองเก่า บริเวณรอบๆตัวเมืองเก่าหรือเมดิน่า ท่านจะเห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆของเมืองที่ทันสมัยแห่งนี้ หลายสิ่งก่อสร้างเป็นของดั้งเดิมตั้งแต่สมัยที่ถูกรุกรานโดยประเทศฝรั่งเศส และเต็มไปด้วยบ้านเรือนตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 สองริมข้างทางจะมีร้านค้าแผงลอยขายของฝากพื้นเมือง

นำท่านเข้าชมสุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 (Mosque of Hassan II) สุเหร่าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเมืองเมกกะ สร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ค.ศ. 1993 ในวาระเฉลิมพระชนม์ครบ 60 พรรษาของกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 เป็นสุเหร่าที่มีขนาดใหญ่มาก จุคนได้ราว 25,000 คน และมีหอคอยสูงถึง 210 เมตร ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส มิเชล แปงโซ การตกแต่งทั้งภายในและภายนอกมีความสวยงามโดดเด่น เป็นไปตามเอกลักษณ์ของศิลปะมุสลิมที่ผสมผสานงานศิลปะพื้นเมืองของโมร็อกโกได้อย่างกลมกลืน อาคารทั้งหลังใช้หินอ่อน แผ่นกระเบื้อง ประดับประดาด้วยศิลปะแบบมัวร์ ประตูรอบสุเหร่าสร้างด้วยไทเทเนียมและทองเหลืองสลักเสลางดงาม อิสระให้ท่านชมทิวทัศน์รอบๆสุเหร่าอันเป็นจุดชมวิวริมฝั่งทะเล

นำท่านเที่ยวชม Corniche ริมชายหาดของคาซาบลังกา ในย่านชานเมือง Ain Diab ชายฝั่งทะเล ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องคลับสุดหรูริมหาด Atlantic และเป็นที่นิยมในหมู่นักโต้คลื่นและผู้ที่ชื่นชอบการอาบแดด เมื่อตกดึกเหล่านักท่องเที่ยวต่างไปรวมตัวกันที่ไนท์คลับ เลานจ์ค็อกเทล และบาร์ติดทะเล ส่วนที่ถนน Boulevard de la Corniche นั้นมีร้านอาหารหลากหลายตั้งแต่ร้านอาหารแบบเรียบง่ายไปจนถึงร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรู
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
ที่พักNovotel City Center Hotel**** หรือเทียบเท่า
วันที่ 3คาซาบลังกา – ราบัต – เชฟชาอูน
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองราบัต (Rabat)  (ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรโมร็อกโกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1956 เมื่อโมร็อกโกหลุดพ้นจากการเข้าแทรกแซงทางการเมืองของฝรั่งเศส และเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง และทำเนียบทูตานุทูตจากต่างแดน เป็นเมืองสีขาวที่สะอาดและสวยงาม

นำท่านเข้าชมป้อมอูดายา (Oudayas Fortress) ป้อมขนาดใหญ่ 2 ชั้นที่ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงใหญ่ ด้านในเป็นเมดิน่า หรือชุมชนชาวเมืองซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนทาทาบด้วยสีฟ้า ที่สะอาดตาน่าเดินเล่น นับเป็นหนึ่งในป้อมปราการที่สำคัญของโมร็อกโก ที่ป้องกันข้าศึกจากการรุกรานทั้งประเทศที่ล่าอาณานิคมและในยุคที่โจรสลัดชุกชุม

จากนั้นนำท่านเข้าชม สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 (Mohammed V Mausoleum) พระอัยกาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีทหารยามยืนเฝ้าสง่าทุกประตู และเปิดให้คนทุกชาติทุกศาสนาเข้าไปเคารพพระศพที่ฝังอยู่เบื้องล่าง ด้านหน้าของสุสาน คือสุเหร่าฮัสซันที่เริ่มสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 แต่ไม่สำเร็จ และพังลงจนเหลือแต่เพียงเสาไว้ 365 ต้น ในบริเวณกว้าง 183x139 เมตร
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านเดินทางสู่เมืองเชฟชาอูน (Chefchaouen) (ระยะทาง 250 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.45 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูเขา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโมร็อกโก ถูกสร้างขึ้นในปีคริสต์ศักราช 1471 ถือเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศโมร็อกโก ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองนี้ ที่มีความแปลกตาของอาคารบ้านเรือน มีสีสันสดใส ถูกทาด้วยสีฟ้าและสีน้ำเงิน  โดยความเชื่อทางศาสนาของชาวยิว เชื่อว่า สีน้ำเงินนั้นเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้า เป็นสีของท้องฟ้า และทะเล  อีกทั้งยังเป็นสีกึ่งกลางระหว่างขาวและดำที่แสดงถึงความสมดุล ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชาวยิวในเมืองนี้ ร่วมกันทาสีทั่วเมืองให้เป็นสีน้ำเงิน เพื่อรำลึกถึงพระเจ้า

นำท่านเที่ยวชม เมดิน่าของเมืองเชฟเชาอูน ที่บ้านเรือนตกแต่งด้วยอาคารสีฟ้า อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของนครสีฟ้า ได้ตามอัธยาศัย
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พักDar Echchaouen Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 4เชฟชาอูน – เมคเนส – โวลูบิลิส – เฟซ
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมคเนส (Meknes)  (ระยะทาง 207 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.15 ชั่วโมง) นำท่านเที่ยวชม เมืองเมคเนส (Meknes) หนึ่งในเมืองมรดกโลกรับรองโดยยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.1996 อดีตเมืองหลวงโบราณในสมัยสุลต่าน มูเล อิสมาอิล แห่งราชวงศ์อะลาวิท อดีตกษัตริย์จอมโหดผู้ชื่นชอบการทำสงครามในช่วงศตวรรษที่ 17 ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เมกเนสจึงเป็นเมืองศูนย์กลางการผลิตมะกอก ไวน์ และพืชพรรณนำท่านแวะถ่ายรูปกับ ประตูบับมันซู (Babmansour Monument gate)  หนึ่งในประตู 7 ประตู ประจำกำแพงเมืองเก่าที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1732 ตกแต่งด้วยโมเสกและกระเบื้องหินอ่อนบนผนังสีแสด

จากนั้นนำท่านเข้าชม สุสานสุลต่านมูเลย์ อิสมาอิล (Moulay Ismail Mausoleum) เป็นหนึ่งในสุสานสุลต่านเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมเข้าเยี่ยมชมได้ แม้จะไม่สามารถเข้าไปในส่วนที่บรรจุหีบพระศพจริงๆได้ก็ตาม
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านเข้าชม เมืองโรมันโบราณโวลูบิลิส (Roman City of Volubilis) อดีตเมืองโบราณแห่งจักรวรรดิโรมันที่มีความสำคัญยิ่งในยุคศตวรรษที่ 3 และล่มสลายถูกปล่อยเป็นเมืองร้างในศตวรรษที่ 11 ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในปี ค.ศ. 1755 แต่ยังคงเห็นได้ถึงร่องรอยความยิ่งใหญ่ของเมืองในจักรวรรดิโรมันในอดีต เมืองโรมันโบราณแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1997

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองเฟซ (Fes) (ระยะทาง 82 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองหลวงเก่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงศตวรรษที่ 8 และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมร็อกโก

นำท่านเข้าชม สุสานของมูเลไอดริสที่ 2 (Mouley Idriss Mausoleum II) ที่ชาวโมร็อกโกถือว่าเป็นแหล่งมาแสวงบุญที่ศักดิ์สิทธิ์ โดยชายชาวมุสลิมจะมาขอพรก่อนการเข้าสุหนัต และหญิงสาวชาวมุสลิมมักจะมาขอพรเพื่อให้ได้บุตร

จากนั้นนำท่านเข้าชม  สุเหร่าใหญ่ไคเราวีน (Kairaouine Mosque & University) มัสยิดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโมร็อกโก รองจากมัสยิดพระเจ้าฮัวซันที่ 2 ที่คาซาบลังกา เป็นทั้งมหาวิทยาลัยสอนศาสนาแห่งแรกของโมร็อกโกและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว (อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น) 

จากนั้นนำท่านผ่านชม ประตู Bab Bou Jeloud ประตูขนาดใหญ่ที่กั้นระหว่างเมืองเก่ากับเมืองใหม่ 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พักBacelo Fez Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 5เฟซ - มิเดลท์
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินชม ย่านเมืองเก่าแห่งเฟซ (Medina of Fes) เขตเมืองเก่าอันกว้างใหญ่ มีซอยกว่า 10,000 ซอย โดยจะแบ่งเป็นย่านต่างๆ เช่น ย่านเครื่องใช้ทองเหลือง ทองแดง จะมีร้านค้าเล็กๆที่หน้าร้านจะมีหม้อ กระทะ อุปกรณ์เครื่องครัว วางแขวนห้อยเต็มไปหมด ย่านขายพรมที่วางเรียงรายอย่างสวยงาม ย่านงานเครื่องจักสาน งานแกะสลักไม้ เต็มไปด้วยบรรยากาศอันคึกคัก ข้าวของกระจุกกระจิก มีเวลาให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย (กรุณาเดินตามเส้นทางที่หัวหน้าทัวร์แจ้งไว้ เพื่อป้องกันการหลงกับหมู่คณะ) นำท่านเดินชมย่านเครื่องหนังและแวะชม บ่อฟอกและย้อมสีหนังแบบโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองเฟส ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโกอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปโดยรอบบริเวณ ซึ่งมีสีสันสดใสสวยงาม
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่านเดินทางเดินทางสู่ เมืองอิเฟรน (Ifrane) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองพักตากอากาศบนความสูงกว่า 1,650 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งในอดีตฝรั่งเศสได้มาสร้างขึ้นบริเวณนี้ เป็นสถานที่พักผ่อนทั้งฤดูหนาวและฤดูร้อน บ้างก็เรียกเมืองอิเฟรนว่า สวิตเซอร์แลนด์แห่งโมร็อกโก บ้านส่วนใหญ่มีหลังคาสีแดง มีดอกไม้ และทะเลสาบสวยงาม นำท่านเดินเล่นภายในเมืองและเก็บภาพบรรายากาศอันสวยงามอีกแห่งของโมร็อกโก ปัจจุบันเมืองอิเฟรนเป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยม ถ่ายรูปกับ สิงโตแห่งอิเฟรน (Ifrane’S Lion) พร้อมเก็บภาพบรรยากาศอันงดงาม 

นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองมิเดลท์ (Midelt) (ระยะทาง 136 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชั่วโมง ) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาแอตลาส เมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้า การทำเหมืองแร่ ของโมร็อกโก เสน่ห์แห่งโมร็อกโก กลิ่นอายแห่งอิฐ สี ตลาด และเมืองเก่า เมืองที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงที่ 1,508 เมตร หนึ่งในเมืองใหญ่ที่สูงที่สุดในโมร็อกโก เที่ยว Souk Jdid  ตลาดประจำเมือง ชม และเลือกซื้องานฝีมือท้องถิ่นของเมือง การทอพรมและผ้าห่ม สินค้าสำคัญของเมืองมิเดลท์ และสินค้าพื้นเมืองอื่นๆอีกมากมาย  
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก 
ที่พักTaddart, Midelt  **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 6มิเดลท์ - เมอร์ซูก้า – ทะเลทรายซาฮาร่า – นั่งรถ 4WD  - ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมอร์ซูก้า (Merzouga) เมืองที่เรียกได้ว่า ประตูสู่ทะเลทรายซาฮาร่า (ระยะทาง 268 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม.) เมืองเงียบสงบที่มีนักท่องเที่ยวผ่านไปมา เพื่อเดินทางต่อสู่ทะเลทรายซาฮาร่า
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนำท่าน สัมผัสประสบการณ์นำท่านนั่งรถ 4WD เพลิดเพลินกับการตะลุย ทะเลทรายซาฮาร่า (Sahara Desert) จากนั้นนำท่านขี่อูฐชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ทะเลทรายซาฮาร่า  ซึ่งเป็นทะเลทรายที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดในโลกคือ มีเนื้อที่ประมาณ 9.3 ล้านตารางกิโลเมตร (ใหญ่เท่าอเมริกาทั้งประเทศ) และตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกา ทะเลทรายซาฮาร่ามีสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของชีวิตมนุษย์ สัตว์ หรือพืช เพราะฝนตกน้อยมาก และพื้นที่ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูกหรือเลี้ยงสัตว์ หากมีสัตว์และพืชพันธุ์ใดที่สามารถเติบโตในทะเลทรายได้ ก็ต้องปรับตัวกันอย่างมาก เช่นเดียวกับมนุษย์ที่ต้องหาวิธีในการใช้ชีวิตให้อยู่รอดได้ 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
ที่พักTombouctou Hotel ,Merzouga  **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 7เมอร์ซูก้า – โอเอซิสแห่งแทนเกียร์ - วอซาเซท 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ โอเอซิสแห่งแทนเกียร์ (Oasis of Tinghir) (ระยะทาง 199 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.) ชุมชนที่เกาะกลุ่มอยู่รวมกันบนความชุ่มชื้นของโอเอซิสและต้นปาล์มท่ามกลางความแห้งแล้ง โดยน้ำในโอเอซิสจะมีมากหรือน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาสูงหรือปริมาณน้ำจากใต้ดิน โดยน้ำใต้ดินอาจผุด ขึ้นมาตามธรรมชาติบนพื้นที่ที่เป็นทราย หรือถูกขุดนำขึ้นมาใช้โดยระบบชลประทานใต้ดิน การทำเครือข่ายและระบบชลประทานใต้ดินดังกล่าวนี้ สามารถทำให้พื้นที่แห้งแล้งทางใต้ของโมร็อกโกมีน้ำใช้ได้อย่างทั่วถึงและกว้างขวาง และยังเคยเป็นที่ตั้งของกองทหารและเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ โดยในปี ค.ศ. 1928 ฝรั่งเศสได้ตั้งกองกำลังทหารและพัฒนาที่นี่ให้เป็นศูนย์กลางการบริหารเพื่อการรบ

นำท่านเข้าชมมัสยิดอิคาลัลเน่  (Ikalalne Afanour) มัสยิดเก่าแก่ท่ามกลางโอเอซิส ที่ท่านจะได้ชมห้องต่างๆ พร้อมชมวิวโอเอซิสที่งดงาม 
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ เมืองวอซาเซท (Ouarzazate) (ระยะทาง 173 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) นำท่านเที่ยวชม เมืองวอซาเซท (Ouarzazate) ดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ประตูสู่ทะเลทราย นับเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีการพัฒนาพื้นที่ในทะเลทรายเพื่อการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การขี่มอเตอร์ไซค์ ขี่อูฐ และกิจกรรมผจญภัยกลางทะเลทรายต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งของแอตลาสสตูดิโอ (Atlas Studio) โรงถ่ายภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในโมร็อกโก บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางกิโลเมตร

นำท่านแวะถ่ายรูปภายนอกกับ ป้อมทาเริท (Taourirt Fortress) ป้อมแห่งตระกูลกลาวี ภายใต้หมู่อาคารขนาดใหญ่ นับเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของโมร็อกโกตอนใต้ ซึ่งภายในประกอบด้วยห้องต่างๆจำนวนมากซ่อนอยู่เชื่อมต่อกันด้วยถนนเล็กๆ และเส้นทางลับคดเคี้ยวตามอาคารที่เบียดเสียดกัน  
ค่ำรับประทานอาหารค่ำในโรงแรม
ที่พักRaid Ouarzazate Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 8วอซาเซท – เอทเบนฮัดดู – มาราเกช 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านชม เมืองเอทเบนฮัดดู (Ait Ben Haddou) (ระยะทาง 30 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที) หนึ่งในมรดกโลกทางด้านประวัติศาสตร์ตั้งแต่ ปีค.ศ. 1987 ปัจจุบันยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "GLADIATOR" และล่าสุดคือซีรี่ย์อเมริกาชื่อดัง “GAME OF THRONE” นับเป็นกลุ่มอาคารที่โดดเด่นมีกำแพงล้อมรอบ สร้างจากโคลนดินแห้งสีแดง และมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการหรือคัสบาห์หลายๆป้อมที่สร้างต่อเรียงรายกัน ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำเมลลาห์ เส้นทางคาราวานการค้าโบราณระหว่างทะเลทรายซาฮาร่ากับเมืองมาราเกช

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาราเกช (Marrakesh) (ระยะทาง 182 ก.ม.ใช้เวลาเดินทาง 2.45 ช.ม.)
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่ายนำท่านชม เขตเมืองเก่า (Medina of Marrakesh) ที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ ประกอบด้วยสถานที่สำคัญมากมาย รวมทั้งตลาด ย่านการค้า ป้อมปราการ โรงเรียนสอนศาสนา และชุมชนชาวยิว

นำท่านชม จตุรัสเจมา เอล์ฟนา (Djemaa Fnaa Square) จตุรัสกลางเมืองเก่าที่มีชื่อเสียงที่สุด และในปีค.ศ. 1985 องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เขตเมืองเก่าของมาราเกชเป็นมรดกโลกทางด้านประวัติศาสตร์

จากน้ำนำท่านเข้าชม สวนจาร์ดีน มาจอแรล (Jardin Majorelle) หรือ สวนยิปแซงลอลองค์ (Yves Saint Laurant Gardens) ชื่อนี้เป็นที่คุ้นเคยของสาวๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่นสุดหรูของ Yves Saint Laurent นักออกแบบแฟชั่นดีไซน์ แห่งปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสวนแห่งนี้ สวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมด 2.5 เอเคอร์ สวนที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้เมืองร้อน กระบองเพชร และปาล์มชนิดต่างๆ ที่ตัดกับตัวอาคารไตล์โมร็อกโกสีฟ้าโคบอล์ท อย่างมีเอกลักษณ์
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พักNovotel Hivernage Hotel **** หรือเทียบเท่า
วันที่ 9มาราเกช – คาซาบลังกา 
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมพระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) ซึ่งสร้างขึ้นโดย SI MOUZZA ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ โดยที่ตั้งใจจะให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในสมัยนั้น แต่ด้วยความที่มีการวางแผนก่อสร้างและตกแต่งอย่างเร่งรีบ จึงเป็นที่วิจารณ์กันว่ารายละเอียดหลายๆ อย่างในพระราชวังแห่งนี้ยังไม่สมบูรณ์ลงตัว พระราชวังมีการตกแต่งโดยการแกะสลักปูน STUCCO มีการวาดลายบนไม้ และประดับประดาด้วยโมเสคสวยงาม

นำท่านชมพระราชวัง เอลบาดิ (Palace El Badi) ศิลปะแบบโมร็อกกัน-อันดาลูเซียน ที่ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 20 ที่ใช้ทั้งหินอ่อนคาร์ราราจากอิตาลี และวัสดุก่อสรางล้ำค่าจากอินเดีย เคยเป็นหนึ่งในพพระราชวังที่มีคว่มงดงามที่สุดๆของโลก แต่ปัจจับนเหลือเพียงซากปรักหักพัง
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านชม มัสยิดคูตูเบีย (Koutoubia Mosque)  มัสยิดใหญ่ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองมาราเกซ ไม่ว่าจะเดินไปแห่งใดก็จะเห็นหอคอยของมัสยิดที่มีความสูง 77 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 12 นอกจากนี้ การออกแบบอันงดงามของมัสยิดแห่งนี้ จึงเป็นต้นแบบของการก่อสร้างหอคอยอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหอคอยฆีรัลดาแห่งเมืองเซบีย่าของประเทศสเปน และหอคอยฮัสซันแห่งเมืองราบัต

นำท่านชม สุสานแห่งราชวงศ์ซาเดียน (Saadian Tombs) ที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างมากกว่า 2 ศตวรรษ ภายหลังได้รับการบูรณะและเปิดให้เข้าชมความงดงามในแบบฉบับของศิลปะแบบมัวริสแท้ๆ ความวิจิตรอลังการของห้องโถงภายใน เสาคอลัมน์หินอ่อนสีสวย ลวดลายงานปูนที่ประดับประดาบนผนังและเพดาน สวนสวยภายนอกที่สร้างขึ้นใหม่ ตามแบบ Allah’s Paradise  ให้ท่านได้เพลินเพลินกับการเลือกซื้อชอปปิ้ง ของพื้นเมือง ของที่ระลึก

นำท่านออกเดินทางสู่เมืองคาซาบลังกา (ระยะทาง 245 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ช.ม.) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพระหว่างการเดินทาง
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พักNovotel City Center Hotel**** หรือเทียบเท่า
วันที่ 10คาซาบลังกา - ดูไบ
เช้ารับประทานอาหารเช้าในโรงแรม

นำท่านเข้าชมโบสถ์แม่พระแห่งลูร์ด (Notre Dame de Lourdes) โบสถ์คาทอลิกสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1954 โดยสถาปนิก Achille Dangleterre และวิศวกรGaston Zimmer  ชมความงดงามของกระจกแก้วหลากสี ของศิลปินกระจกสีชื่อดังระดับโลก Gabriel Loire

นำท่านถ่ายรูปกับ จตุรัสโมฮัมเหม็ดที่ 5 (Place Mohammed V) จัตุรัสสาธารณะที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเชิงสัญลักษณ์ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคาซาบลังกา จัตุรัสศูนย์กลางเมือง เป็นที่ตั้งของอาคารหน่วยงานราชการ สำคัญของเมือง เช่น ที่ทำการเมือง ศาลยุติธรรม ไปรษณีย์กลาง สถานฑูตฝรั่งเศส

จากนั้นถ่ายรูปกับมะห์กามัต อัล ปาชา (Mahkama Du Pacha) ศาล และเรือนจำของ คาซาบลังกา ที่สร้างในปี 1941 – 1942  
12.00 น.นำท่านเชคอินสายการบิน เอมิเรสต์ 

อิสระอาหารกลางวันภายในสนามบินตามอัธยาศัย
15.05 น.ออกเดินทางจาก สนามบินคาซาบลังกา กลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK752 (ใช้เวลาบินประมาณ 7.25 ชั่วโมง) สายการบินบริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่องบิน
วันที่ 11ดูไบ - กรุงเทพมหานคร
01.30 น.เดินทางมาถึง ดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งใน DUTY FREE SHOP ภายในสนามบิน
02.50 น.ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK384 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง)  สายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า
12.30 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)


อัตราค่าบริการราคา
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 25 ธันวาคม 2567 - 04 มกราคม 2568 125,900 บาท
 TE372-006: ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ช่วงอากาศดีที่สุด 11 วัน 8 คืน (EK)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 25 มกราคม - 04 กุมภาพันธ์ 2568 119,900 บาท
 TE372-003: ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ช่วงอากาศดีที่สุด 11 วัน 8 คืน (EK)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 14 - 24 กุมภาพันธ์ 2568 119,900 บาท
 TE372-004: ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ช่วงอากาศดีที่สุด 11 วัน 8 คืน (EK)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 21 - 31 มีนาคม 2568 119,900 บาท
 TE372-005: ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ช่วงอากาศดีที่สุด 11 วัน 8 คืน (EK)แสดง รายละเอียด
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 10 - 20 เมษายน 2568 125,900 บาท
 TE372-007: ทัวร์แกรนด์โมร็อกโก เที่ยววงใหญ่ ช่วงอากาศดีที่สุด 11 วัน 8 คืน (EK)แสดง รายละเอียด

เงื่อนไขในการจอง

อัตราค่าบริการนี้รวมถึง
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบิน EK (กระเป๋าเดินทาง น.น. ไม่เกิน 30 กก.)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาทค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี)
  • ค่าภาษีในประเทศสเปน และโปรตุเกส
  • ค่าที่พักตลอดการเดินทาง (พักห้องคู่)
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่, ค่าวีซ่าโมรอคโค (Single Entry)
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) ผู้ชำนาญเส้นทาง คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวมถึง
  • ค่าทิปพนักงานยกกระเป๋า ซึ่งท่านต้องดูแลกระเป๋าของท่านเอง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์-แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
การชำระเงิน
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 
กรณียกเลิก
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (หากไม่ได้มีการยื่นวีซ่าล่วงหน้า)  (สงกรานต์-ปีใหม่ 60 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-44 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท + ค่าวีซ่า (ถ้ามี)   (สงกรานต์-ปีใหม่ 44-59 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-30 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท + ค่าใช้จ่ายอื่น (ถ้ามี)  (สงกรานต์-ปีใหม่ 20-43 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 0-9 วัน หักค่าใช้จ่าย 75-100% ของค่าทัวร์    (สงกรานต์-ปีใหม่ 0-19วัน)

***ผู้เดินทางที่ไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากการยื่นเอกสารปลอม หักค่าใช้จ่าย 100% 
***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

หมายเหตุ :
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
เงื่อนไขอื่น

ตั๋วเครื่องบิน

  • การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย

  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
เอกสารประกอบการขอวีซ่า (ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 5-7 วันทำการ)
สถานทูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ 
เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)
1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 มม. 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา จะต้องเห็นคิ้วและใบหู ชัดเจน (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานทูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) ***ความสูงหน้าผากจนถึงคาง ต้องมีขนาดระหว่าง 32-36 มม.เท่านั้น***
3. สำเนาบัตรประชาชน 
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานฑูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 

เอกสารรับรองการทำงานที่ออกในลักษณะจดหมาย ต้องเป็นฉบับจริง มีอายุไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่จะยื่นวีซ่า

10. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้เป็น Statement)
- Bank Statement (รายการเดินบัญชี) ใช้เป็นบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ออกโดยทางธนาคารย้อนหลัง 3 เดือน (ห้ามข้ามเดือน) ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วนตามตัวสะกดในพาสปอร์ต มีอายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า และ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรองการเดินทาง 1 ท่าน 

************* ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เท่านั้น หรือ กระแสรายวันที่ไม่ติดลบ **************

- บัญชีฝากประจำ (Fixed) **สามารถแนบประกอบได้ (ไม่สามารถใช้เป็นบัญชีหลักในการยื่นได้) 
     ท่านต้องใช้บัญชีออมทรัพย์ (Saving) เป็นหลักในการยื่น
หากใช้บัญชีฝากประจำในการแนบประกอบ ต้องเตรียมดังนี้
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 

**กรณีรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) จะต้องสะกดชื่อให้ถูกตามพาสปอร์ต 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2 
 
 (สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)


ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy