วันที่ 1 | ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ - กรุงแมดริด (สเปน) |
07.00 น. | พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน |
09.55 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยเที่ยวบินที่ EK 375 |
13.00 น. | ถึงสนามบินนครดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
14.30 น. | ออกเดินทางต่อสู่กรุงแมดริด ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินที่ EK143 |
20.20 น. | คณะถึงสนามบิน Barajas International กรุงแมดริด หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รถโค้ชรอรับคณะแล้วออกเดินทางสู่โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Hotel Eurostar Madrid ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 2 | เที่ยวแมดริด - ปลาซา เดอ เอสปันญา - ปูเอต้า เดล ซอล - ปลาซา มายอร์ - ห้าง El Corte Ingles |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | นำคณะเที่ยวกรุงแมดริด เมืองหลวงของประเทศสเปนเก่าแก่นับพันปี ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไปชม ปลาซา เดอ เอสปันญา (Plaza de Espana) ชม อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปน ที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำชมนครแมดริดอันงามสง่า ผ่านน้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง และอาคารสวยงามใกล้ๆกันคือ ที่ทำการไปรษณีย์ ประตูชัยอาคาล่า (Puerta de Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ปลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสสำคัญของกรุงมาดริด อาคารเก่าแก่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมศตวรรษที่ 17 และอดีตที่ทำการเมือง ติดกันเป็น ตลาดซันมีเกล (San Miquel) ปัจจุบันย่านนี้เป็นถนนคนเดิน เต็มไปด้วยร้านกาแฟน่ารัก ปูเอต้า เดล ซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมือง ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปนแล้ว และห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ El Corte Ingles อิสระให้ท่านเดินเที่ยวย่าน Walking Street ตามอัธยาศัย |
20.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Eurostar Madrid ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | แมดริด - โตเลโด้ - มหาวิหารแห่งโตเลโด้ - อัลคาซาร์ - กรานาด้า |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | เดินทางสู่เมืองโตเลโด้ อดีตเมืองหลวงเก่าตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของสาม วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโฆเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก บนเนินเขาท่านจะเห็น กัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง เข้าสู่เขตเมืองเก่าโดยผ่านประตูเมืองปูเอร์ตา เด บิซากรา หนึ่งในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด ทุกทุกแห่งของเมืองท่านจะได้ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์, โกธิคและเรอเนสซองส์ มหาวิหารแห่งโตเลโด้ สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน เดิมมุสลิมใช้เป็นสุเหร่าต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อกและนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา นับเป็นมรดกแสดงความเป็นเมืองศาสนาของสเปน อีกด้านหนึ่งท่านจะเห็น ป้อมอัลคาซาร์เป็นผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน แล้วมีเวลาให้ท่านหาซื้อของที่ระลึกในย่านกลางเมืองเป็นงานฝีมือที่รู้จักกันดีมีชื่อเสียงของนครโตเลโด้คือ ดาบและมีดเหล็กกล้า แบบเคลือบดำฝังเงินทองและลวดทองแดง นอกจากนี้ยังมีงานเซรามิคทุกประเภทให้ท่านได้สะสมเป็นของประดับบ้านอีกด้วย |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ก่อนอำลาเมืองแวะจุดชมวิว เพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโตเลโด้ทั้งเมือง ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของ สเปนเอล เกรโก (EI Greco) ได้จำลองลงในแผ่นภาพที่งดงามยิ่งกว่าของจริง ออกเดินทางสู่ เมืองกรานาด้า อดีตเมืองหลวงของพวกมัวร์ เมืองที่มีความเจริญสูงสุดทั้งทางวัตถุและศิลปะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของพวกมัวร์และชาวยิว |
20.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร the oldest restaurant in the world |
ที่พัก | Barcelo Granada Congress ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | กรานาด้า - พระราชวังอะลัมบรา - กอร์โดบา |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | เข้าชม พระราชวังอะลัมบรา สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ไม่มีอันดับอย่างเป็นทางการ ความสุดยอดแห่งจินตนาการและความสามารถทางศิลปะของมัวร์ ไม่มีคำบรรยายใดจะเปรียบเปรยความวิจิตรพิสดารและความประณีตสมดุลอันน่าทึ่งนี้ได้ วังแห่งนี้มิได้ยิ่งใหญ่เฉพาะภายนอก แต่อลังการไปด้วยฝีมืออันประณีตจากช่างฝีมือในยุคก่อนที่ได้สร้างสรรค์การตกแต่งอย่างวิจิตร ชมพระราชวังหลวง (Nasrid Palace) โดดเด่นไปด้วยลวดลายแกะสลักบนเพดานไม้ ลายเครือเถาบนปูนปั้นที่ประดับผนัง ลายลดาวัลย์ และลายลูกไม้ฉลุบนเรียวโค้งของเสาหินอ่อน ด้านนอกเป็นสวนสวยราวกับจำลองสวนสวรรค์มาไว้บนดิน ลานดอกเมอร์เทิล ขนาบด้วยแนวพุ่มดอกเมอร์เทิล, ซาลอน เดโลส เอมบาฆาโดเรส ห้องสำหรับเข้าเฝ้ากษัตริย์ และสุดปลายทางใต้เป็นลานสิงโตสร้างขึ้นรอบน้ำพุโบราณขนาดใหญ่ ห้องพักที่เคยต้อนรับนักเขียนชื่อดัง วอชิงตัน เออร์วิง ในปี 1829 ที่เคยพำนักในพระราชวังแห่งนี้นานถึง 3 เดือนและจุดสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดชมก็คือ พระราชวังเฆเนราลิเฟ เดิมเป็นพระราชวังฤดูร้อน ความงดงามของอุทยานสวนอันร่มรื่นและเขียวขจี ประดับด้วยน้ำพุและสระน้ำสมกับความหมายที่ว่าอุทยานสถาปนิก |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางชมทัศนียภาพของสเปนตอนใต้ในแคว้นอันดาลูเซีย แคว้นแห่งเกษตรกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อสเปนมาทุกยุคทุกสมัย สร้างผลผลิต อาทิ น้ำมันมะกอก พืชไร่ องุ่น ฝ้าย และดอกทานตะวัน เมืองกอร์โดบา ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดเอกแห่งแคว้นอันดาลูเซีย เมืองที่นักประวัติศาสตร์สากลมักคุ้นในนามอาณาจักรกาหลิบ ว่ากันว่าในยุคศริสต์ศตวรรษที่ 10 เมืองนี้มีความยิ่งใหญ่มาก โดยถือเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของโลก รองจากอาณาจักรคอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรป มีการสร้างมหาวิทยาลัย เน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรมและวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์ |
20.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Eurostars Palace Cordoba ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | กอร์โดบา - เมซกิต้า - เซบียา - ปลาซา เดอ เอสปันญา - ระบำฟลามิงโก้ |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | เที่ยวชมเองกอร์โดบา ชมสถาปัตยกรรมสะพานแบบโรมัน (ปูเอนเต้ โรมาโน) ทอด ตัวข้ามแม่น้ำกวาดัลกีบีร์ เข้าชม มัสยิดหลวงเมซกีต้า สุเหร่าที่มีขนาดใหญ่ของบรรดากาหลิบแห่งอูมัยยาด ที่แห่งนี้คือบทสรุปของการปลูกฝังคริสต์ศาสนาลงบนอาณาเขตอันยิ่งใหญ่ของมุสลิมเดิม ท่านจะได้เห็นศิลปะการสร้างโบสถ์ของชาวคริสต์ อันยิ่ง ใหญ่แต่ในขณะเดียวกันศิลปะแบบมุสลิมซึ่งก็คือ มีห์รับ ซึ่งถือเป็นสุดยอดสถาปัตย กรรมชิ้นเอกบนกระเบื้องเซรามิคของศิลปินชาวมัวร์แท้ๆ ได้รับการอนุรักษ์เก็บรักษาให้ทรงคุณค่าความงาม จนแทบจะหาชมไม่ได้อีกแล้วบนโลกใบนี้ |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่เมือง เซวิลล์ หรือ เซบียา เมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปนและเป็นเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย เมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีพื้นที่โล่ง สวนสาธารณะ และสวนดอกไม้ เมืองในฝันสำหรับผู้ต้องการสัมผัสชีวิตราตรีอันเร่าร้อน นำท่านไปชมสิ่งก่อสร้างที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบของ ปลาซา เดอ เอสปาญา (Plaza de Espana) อาคารรูปครึ่งวงกลมเรียงต่อกันเป็นแนวยาว แต่ละโค้งประตูมีตราประจำจังหวัดไล่เรียงตามตัวอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็นอุทยานมาเรียลุยซ่า ร่มรื่นงดงามตระการตาและแฝงความโรแมนติค |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง พร้อมชมและเพลิดเพลินกับดนตรีและระบำฟลามิงโก อันเร่าร้อนสไตล์อันดาลูเซีย |
ที่พัก | Barcelo Sevilla Renacimiento Hotel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | เซบีญา - มหาวิหารแห่งเซบียา - หอคอยฆีรัลด้า - ลิสบอน |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | นำเที่ยวเมืองเซบียา เข้าชม มหาวิหารแห่งเมืองเซบียา (Seville) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างงามวิจิตร สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพ เขียน, เครื่องใช้ในพิธีของศาสนา ที่ทำมาจากทองคำและเงิน ล้วนแต่ประเมินค่ามิได้ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บศพของโคลัมบัสอีกด้วย จากนั้นขึ้นชม หอคอยฆีรัลดา ตึกทรงรูปสี่เหลี่ยม ผืนผ้าสูง 93 เมตร (ไม่แนะนำสำหรับท่านที่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย) ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของอิสลาม ด้านหน้าเป็นลานกว้างมี ปราสาทอัลคาซาร์ สถาปัตยกรรมที่ยังคงมีคราบเงาความบรรเจิดและความคิดสร้างสรรค์ของชาวมัวร์ ในอดีตเคยเป็นพระราช วังของกษัตริย์สเปนมาก่อน |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางข้ามพรมแดนสเปน สู่ประเทศโปรตุเกสที่เมืองฟารู (Faro) เป็นเมืองหลวงของเขตแอลการ์ฟ (Algarve) มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 40,000 คน เมืองนี้มีความ สำคัญขึ้นมาในปี ค.ศ. 1577 ฟารูได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองที่พำนักของผู้ดำรงตำแหน่งบิชอป เมืองฟารูครอบคลุมอาณาเขตอุทยาน และทะเลสาบ ริโอฟอร์โมซา (Rio Formosa) แหล่งอนุรักษ์ทางธรรมชาติของนกหลากหลายสายพันธุ์ ที่อพยพมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง จนเข้าสู่ กรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกสตั้งอยู่ในทวีปยุโรปตอนใต้บนคาบสมุทรไอบีเรีย |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Eurostars Universal Lisboa ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 7 | ลิสบอน - มหาวิหารเจอโรนิโม - หอคอยเบเล็ม - แวะร้านขนมชื่อดัง - แหลมโรก้า - ซินทร้า |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | เที่ยวชมกรุงลิสบอน ชมอดีตพระราชวังหลวงอายุเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ผสม ผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโกธิคและมัวร์อย่างสวยงาม ปัจจุบันเป็นที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี มหาวิหารเจอโรนิโม ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโก ดากามา และการเดินทางสู่อินเดียเป็นผลสำเร็จในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่า มานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 70 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าเป็น World Heritage Site ภายในประกอบไปด้วย อาคารสำคัญต่างๆ แล้วไปชมหอคอย เบเล็ม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสำรวจและค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา และนักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมมานูเอลไลน์ที่สวยงาม บันทึกภาพกับ อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ของ เจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ และยกย่องนักเดินเรือสำรวจรอบโลก เชิญท่านลองชิมขนมทาร์ตคัสตาร์ด (Nata de Pasteis) ในร้านขนมเก่าแก่ที่ให้บริการมากว่าร้อยปี แวะชิมขนมโปรตุเกสต้นตำรับของขนมไทย อาทิ ทองหยอด, ฝอยทองที่มีต้นตำรับแท้อยู่ที่โปรตุเกสและเข้าไปเผยแพร่ในกรุงศรีอยุธยา โดยท่านท้าวทองกีบม้า |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่เมืองเล็กๆ น่ารักแถบชานเมืองลิสบอน เมืองซินทรา (Sintra) อีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงาม ที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย เป็นเมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ไม้ดอก และแนวต้นปาล์ม และคลาสสิค ด้วยรีสอร์ตตากอากาศสีพาสเทล นำท่านไปชม แหลมโรก้า (Capo Da Roca) จุดตะวันตกสุดของยุโรป ก่อนกลับเข้าเมือง อิสระให้ท่านได้เดินเล่นบนถนนคนเดิน จัตุรัสใจกลางเมือง ย่าน ช้อปปิ้งสินค้าของเมืองตามอัธยาศัย |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Eurostars Universal Lisboa ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | บาร์เซโลนา - ยอดเขามอนต์จูอิก - ถนนลาลัมบรา - ช้อปปิ้งถนนกราเซีย |
07.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางสู่ เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน โดยเที่ยวบินภายในประเทศ คณะเดินทางถึงเมืองบาร์เซโลนา เมืองซึ่งได้รับการขนานนามให้เป็นนครหลวงใน เมดิเตอร์เรเนียน ที่สวยงามเจริญรุ่งเรืองด้วยธุรกิจท่าเรือและการค้า อีกทั้งยังผสม ผสานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ และความทันสมัยให้สมกับเป็นเมืองโอลิมปิก เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เที่ยวชมเมือง ขึ้นสู่ยอดเขามอนต์จูอิก ชมความสวยงามของตัวเมืองอีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิกในปี 1992 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมบนถนนกราเซีย นำคณะเข้าสู่จัตุรัสกาตาลุนญา จุดเริ่มของย่านถนนคนเดิน Las Ramblas ถนนที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในบาร์เซโลน่า มีทั้งสินค้านานาชนิด, แผงดอกไม้, ศิลปินเร่และละครใบ้ เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเดินชมอย่างไม่รู้เบื่อ ปลายสุดของถนนเป็นอนุสาวรีย์โคลัมบัส นักเดินเรือผู้ค้นพบโลกแถบใหม่หมู่เกาะ เวสต์อินดีส |
20.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Exe Cristal Palace Hotel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 9 | ซิตี้ออฟเกาดี้ - สวนสาธารณะ เกวล - โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย - สนามฟุตบอลกัมป์นู - เดินทางไปสนามบิน |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | นำคณะไปชมงานสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของเกาดี้ ที่ชาวบาร์เซภาคภูมิใจจนมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า City of Gaudi ท่านจะได้พบกับงานสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าคือ กาซ่า บัตโย ที่เกาดี้ออกแบบให้กับเศรษฐีสิ่งทอในบาร์เซโลนา อีกหนึ่งแห่งที่น่าชมคือ กาซา มิลา เกาดี้ ออกแบบให้กับนักธุรกิจผู้มั่งคั่งในปี 1906 แสดงถึงฐานะความมั่งคั่ง, ความคิดสร้างสรรค์ซึ่งถือเป็นแฟชั่นในยุคนั้น นำท่านไปชม สวนสาธารณะเกวล (Park Guell) เป็นหนึ่งในงานสุดรักสุดหวงที่เกาดี้อุทิศให้กับชาวเมือง ออกแบบตั้งแต่ปีค.ศ.1900-1914 นำชมสถานที่สุดท้ายของเกาดี้คือ โบสถ์ซากราด้า แฟมิเลีย เมื่อสร้างเสร็จจะเป็นโบสถ์ที่หอคอยสูงที่สุดในยุโรป 172.5 เมตร (ปัจจุบันหอคอยที่สูงที่สุดอยู่ที่เมือง Ulm ในประเทศเยอรมนี) ความพิเศษในงานของเกาดี้คือ การรวบรวมรูปทรงและพื้นผิวต่างๆ ในธรรมชาติมาใช้และสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขา และความสูงของมองต์เซร์ราต |
13.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำเข้าชม สนามฟุตบอล เอล กัมป์ โนว ของทีมบาร์เซโลน่า หรือคัมป์ นู (Camp Nou) ความจุ 98,787 คน เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ใน เมืองบาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้านกาตาลูนย่า เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1957 เคยใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี ค.ศ. 1982 นำชมความยิ่งใหญ่ของทีมบาร์เซโลน่า ในส่วนที่จัดแสดงเป็นมิวเซียม มีห้องถ้วยรางวัล, ห้องจัดแสดงประวัติและเรื่องราวของทีม, ห้องผลงานของเมสซี ที่รวบรวมแมทช์และการทำประตูอันน่าประทับใจ บางเรื่องราวบอกผ่านด้วยระบบมัลติมีเดีย รวมถึงการชมแมทช์การแข่งขันแบบพาโนรามา ห้องแถลงข่าว และห้องเก็บตัวของนักฟุตบอลชื่อดังระดับโลก (ในกรณีวันเข้าชมตรงกับการแข่งขัน ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่าเข้าชม) ออกเดินทางสู่สนามบินกรุง Barcelona เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ |
21.00 น. | ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK 188 |
วันที่ 10 | เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ |
05.55 น. | ถึงนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
09.40 น. | ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK 372 |
18.55 น. | นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ *** หมายเหตุ : ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้ |