วันที่ 1 | กรุงเทพ – แวนคูเวอร์ – สแตนลีย์ พาร์ค – แกสทาวน์ (พักค้าง 2 คืน) |
08.00 น. | คณะฯพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์ส |
11.00 น. | ออกเดินทางสู่ ฮ่องกง โดยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์ส เที่ยวบินที่ CX750 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) สายการบิน มีบริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน พร้อมเพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง |
15.00 น. | เดินทางถึง สนามบินเช็คแล๊ปก๊อก ประเทศฮ่องกง เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่องสู่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินตามอัธยาศัย |
16.05 น. | ออกเดินทางจากสนามบินเช็คแล๊ปก๊อก (HKG) สู่ สนามบินแวนคูเวอร์ (YVR) โดยเที่ยวบิน CX810 (ใช้เวลาบิน 11.55 ชั่วโมง) ********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล ******* สายการบินมีบริการอาหารเช้า และ อาหารค่ำบนเครื่องบิน |
12.55 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ เมืองแวนคูเวอร์ มลรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และ ศุลกากร นำท่านเที่ยวชม สะพานแขวนคาปิลาโน (Capilano Suspension Bridge) สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นและสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางความงามอันน่าทึ่งของป่าฝนเขตอบอุ่น สะพานที่มีความยาว 140 เมตรและสูงกว่าแม่น้ำ 70 เมตร สะพานแขวนแห่งนี้สร้างขึ้นท้าทายผู้ที่ไม่กลัวความสูงมาตั้งแต่ปีค.ศ.1889 สะกดทุกสายตาด้วยทัศนียภาพจากบนสะพานที่มองเห็นแม่น้ำคาพิลาโน หากยืนบนสะพานแห่งนี้จะมองเห็นทิวทัศน์ของหุบเขาลึกจากเบื้องบนได้อย่างชัดเจน เบื้องล่างเป็นสายคดเคี้ยวล้อมรอบด้วยสีเขียวของต้นไม้สูงที่อายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนสะพานแขวนคาพิลาโนมากถึงหนึ่งล้านคน การันตีได้ถึงความนิยมของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูเป็ดปักกิ่ง) |
ที่พัก | River Rock Hotel Vancouver **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1) |
วันที่ 2 | เกาะวิคตอเรีย – สวนบูชาร์ด การ์เด้น |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือซอร์วาสเซน (Tsaw Wassen) เพื่อนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามช่องแคบจอร์เจียอันสวยงามสู่ “เกาะวิคตอเรีย” เมืองหลวงของรัฐบริติชโคลัมเบีย ระหว่างทางถ้าโชคดีท่านอาจจะมีโอกาสเห็นฝูงปลาโลมา และปลาวาฬเพชฌฆาต ว่ายวนอยู่ในบริเวณอ่าว นำท่านชม เมืองวิกตอเรีย (Victoria) ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งสวน" (City of Gardens) อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของรัฐบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) รัฐหนึ่งของประเทศแคนาดา นำท่านเที่ยวชมและถ่ายรูปกับ อาคารรัฐสภาในเมืองวิกตอเรีย (British Columbia Parliament Buildings) โดยตัวอาคารนั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองวิกตอเรีย อาคารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1893 -1896 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ รูปปั้นพระนางเจ้าวิคตอเรีย แห่งประเทศอังกฤษ นำท่านชมสวนบีคอนฮิลล์ (Beacon Hill Park) อีกหนึ่งพื้นที่สีเขียวที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง โดยส่วนแห่งนี้มีพื้นที่ 75 ไร่ (185 เอเคอร์) อยู่ติดกับชายฝั่งทางตอนใต้ของเมืองวิกตอเรีย ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในส่วนก็คงจะเป็น "โทเทม" (Totem) หรือ "เสาโทเทม" (Totem pole) ซึ่งมีความสูงประมาณ 38.8 เมตร (127 ฟุต) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ปราสาทเครคดารอค (Craigdarroch Castle Historical Museum) ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุควิกตอเรียน และเป็นอีกหนึ่งอาคารที่ถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติของแคนาดา อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมสวนบูชาร์ด (Butchart Gardens) สวนดอกไม้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสวนดอกไม้ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งมีอายุมากว่า 100 ปี จากการชอบตกแต่งสวนของครอบครัว บูชาร์ด นำท่านชมสวนดอกไม้และเดินชมบริเวณสวนที่ถูกจัดแต่งในหลากหลายรูปแบบหลากหลายสไตล์ มีทั้งการจัดสวนแบบชังเค่น, สวนแบบอังกฤษ, สวนญี่ปุ่น ฯลฯ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก ของตกแต่งบ้านและสวน ภาพเขียน พันธุ์ไม้ต่างๆ ภายในร้านขายของที่ระลึกสวนบูชาร์ดตามอัธยาศัยอิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย ก่อนนำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่กลับสู่แวนคูเวอร์ |
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | River Rock Hotel Vancouver **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2) |
วันที่ 3 | แวนคูเวอร์ - แคลกะรี |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชม สวนสาธารณะสแตนลีย์ ปาร์ก (Stanley Park) ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองแวนคูเวอร์ เป็นเหมือนเกาะยื่นลงไปในเบอร์ราดอินเลท มีพื้นที่กว่า 10,000 เอเคอร์ ในสวนมีต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีอายุนับ 100 ปี ลอร์ด สแตนลีย์ ผู้ว่าการเขตปกครองแคนาดา เป็นผู้ริเริ่มให้สร้างสวนแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1888 สวนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ชาวแคนาดาทุกเพศทุกวัยและทุกสีผิวได้มาใช้ประโยชน์บนพื้นที่สีเขียวกลางเมือง เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ และออกกำลังกาย จุดเด่นของสวนสาธารณะที่นักท่องเที่ยวเข้าชมกันมากที่สุด คือ กลุ่มเสาโทเทม (Totem) เสาสัญลักษณ์ที่ตั้งไว้เพื่อระลึกว่าบริเวณนี้เคยเป็นถิ่นที่อยู่ของชนพื้นเมืองอินเดียน มาก่อน ซึ่งในสมัยก่อนชนพื้นเมืองใช้เสาโทเทม เล่าเรื่องราวความเป็นมาของเผ่าและเป็นที่เก็บอัฐิของคนตาย หรือสถานที่ประจานศัตรู กลุ่มเสาแห่งนี้ได้ถูกนำมาจากที่ต่างๆ เป็นการรวมเอาเสาโทเทมแบบต่างๆ ที่ชาวพื้นเมืองในท้องถิ่นทำขึ้น จากนั้น นำท่านแวะถ่ายรูปกับ แคนาดาเพลส (Canada Place) สถาปัตยกรรมหลังคารูปใบเรือสีขาว คล้ายโรงโอเปร่าเฮาส์ของนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย หลังคาใบเรือนี้เดิมสร้างขี้นเป็นหลังคาของ Canada Pavilion ในงาน World's Fair ที่จัดขึ้นที่แวนคูเวอร์เมื่อปี ค.ศ. 1986 ได้เวลานำท่านชมอาคารที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมโดดเด่นอันน่าสนใจ คือ สถานีรถไฟแคนาเดียนแปซิฟิก (Canadian Pacific Railway Station) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1880 เป็นสถานีชุมทางรถไฟสายข้ามทวีป ปัจจุบันเป็นสถานีรถลอยฟ้ากับเรือข้ามฟากของเมืองแวนคูเวอร์ จากนั้นนำท่านเที่ยวชม ย่านแกสทาวน์ (Gass Town) เป็นชุมชนแรกของคนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในรัฐบริติชโคลัมเบียก่อนที่จะมาเป็นแวนคูเวอร์ ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะมาเยี่ยมชมแหล่งกำเนิดของเมืองแวนคูเวอร์ สำหรับเมืองแกสทาวน์มีบรรยากาศของเมืองเก่าสถาปัตยกรรมวิกตอเรียนที่ได้รับการบูรณะใหม่และรักษาให้อยู่ในสภาพดี จุดที่น่าสนใจ คือ รูปปั้นของแกสซี แจ็คที่ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสกลางเมือง จากนั้นนำท่านชมนาฬิกาเรือนแรกของโลกที่เดินได้ด้วยพลังไอน้ำ โดยนาฬิกาไอน้ำ จะตีเสียงดังบอกเวลาทุก 15 นาที เป็นเสียงดนตรีเสียงเดียวกับนาฬิกาบิ๊กเบนในกรุงลอนดอนและนาฬิกาจะพ่นไอน้ำพวยพุ่งออกมาทุก 1 ชั่วโมง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูลอบสเตอร์) |
13.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินแวนคูเวอร์ เพื่อขึ้นเครื่องบินสู่เมืองแคลกะรี |
16.00 น. | ออกเดินทางจาก สนามบินแวนคูเวอร์ สู่ สนามบินแคลกะรี โดยสายการบินเวสท์ เจท เที่ยวบิน AC 216 |
18.30 น. | เดินทางถึง สนามบินแคลกะรี (Calgary) |
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Delta Calgary Airport Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | แคลกะรี – โคลัมเบียร์ไอซ์ฟิลด์ - เลคหลุยส์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ทุ่งน้ำแข็งโคลัมเบียร์ไอซ์ฟิลด์ (Columbia Icefield) (ระยะทาง 325 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านขึ้น รถ Snow Coach มุ่งหน้าสู่ลานน้ำแข็งโคลัมเบียร์ไอซ์ฟิลด์ เป็นธารน้ำแข็ง Glacier ที่มีอายุนับหลายล้านปี ซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆ กับเมืองหนึ่งเมือง เป็นเนินเขาที่มีหิมะปกคลุมหนาเป็นเมตร เรียกได้ว่าเป็นดินแดนสวรรค์ของนักสกี นำท่านชม ความงดงามของธารน้ำแข็ง อันขาวโพลนกว้างไกลสุดสายตานับเป็นไอซ์ฟิลด์ขนาดใหญ่ของเทือกเขาแคนาเดี้ยนร็อกกี้ และธารน้ำแข็งเพย์โต้กลาเซียร์ ให้ท่าน ได้สนุกสนานกับการนั่งรถ Snow coach ผ่านทุ่งน้ำแข็ง และ เก็บภาพความทรงจำและความสวยงามของ ทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ในแคนาดาแห่งนี้ (โคลัมเบีย ไอซ์ฟิลด์ ประกาศปิด ช่วง กลาง ตุลาคม - สิ้นเดือนเมษายน ของทุกปี) หมายเหตุ : กรณี โคลัมเบีย ไอซ์ฟิลด์ปิด จะนำท่าน ล่องเรือที่ทะเลสาบ Minnewanka ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Banff ให้ชื่นชมทัศนียภาพของเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดาและทุ่งหญ้าแพรรี ในขณะล่องเรือข้ามทะเลสาบสีฟ้าคราม หากโชคดีท่านอาจได้เจอ แกะเขาใหญ่ กวาง นกอินทรีหัวล้าน และแม้แต่หมี นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเลคหลุยส์ (Lake Louise) (ระยะทาง 129 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อของรัฐอัลเบอร์ตา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) |
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Banff Hotel / Lake Louise Inn Hotel *** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | เลคหลุยส์ - ทะเลสาบเลคหลุยส์ - ทะเลสาบโมเรน - เทือกเขาซัลเฟอร์ (แคนเนเดี้ยน ร็อกกี้) -ขึ้นกระเช้าชมเทือกเขาซัลเฟอร์ - อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ – แคลกะรี |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชม ทะเลสาบเลคหลุยส์ (Lake Louise) เป็นทะเลสาบที่มีชื่อของรัฐอัลเบอร์ตา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) ชาวยุโรปคนแรกที่มาเห็นความงามของทะเลสาบหลุยส์ คือ นักสำรวจชื่อ ทอม วิลสัน (Tom Wilson) ค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1882 เลคหลุยส์เป็นเมืองชนบทที่อยู่ต่ำกว่าทะเลสาบ เดิมเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่คนงานสร้างทางรถไฟใช้เป็นที่พักในสมัยนั้น ชุมชนนี้มีชื่อว่า Holt City ต่อมาในปี ค.ศ. 1914 จึงได้ชื่อใหม่ว่า Lake Louise เพื่อเป็นเกียรติ แก่เจ้าหญิงหลุยส์ คาโรไลน์ อัตเบอร์ตา พระธิดาองค์หนึ่งของ ควีนวิกตอเรีย เนื่องจากเจ้าหญิงได้ติดตามพระสวามีซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการของอังกฤษมาอยู่ในแคนาดา จึงได้ชื่อตามพระนามของเจ้าหญิง ทะเลสาบหลุยส์ตั้งอยู่เหนือเมืองบานฟ์ขึ้นไปราว 60 กิโลเมตร ทะเลสาบอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,730 เมตร แวดล้อมด้วยเทือกเขาที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมยอดเขา น้ำในทะเลสาบเป็นสีเขียวมรกต จึงได้ชื่อว่า “ทะเลสาบมรกต” มีผิวน้ำนิ่งที่เรียบใสราวกับกระจกสะท้อนเงาของขุนเขาและ ธารน้ำแข็งที่อยู่สูงขึ้นไปเป็นภาพที่งดงาม สุดพรรณนา ทะเลสาบแห่งนี้เป็นจุดตั้งต้นของการปีนเขาเพื่อขึ้นไปดูธารน้ำแข็ง หรือไปชมทะเลสาบเล็กๆ รายล้อมด้วยเทือกเขางดงาม อีกทั้งในทะเลสาบยังมีก้อนน้ำแข็งลอยฟ่องอยู่เป็นจุดๆ อิสระให้ท่านได้ชมความงาม ดั่งสวรรค์บนดินของทะเลสาบเลคหลุยส์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ทะเลสาบโมเรน (Moraine Lake) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) ในหุบเขา The Valley of the Ten Peaks ที่ระดับความสูงประมาณ 1,885 เมตร และมีพื้นที่ประมาณ 0.5 ตารางกิโลเมตร ลึกถึง 14 เมตร และยังอยู่ในละแวกเดียวกับทะเลสาบ Lake Louise อีกด้วย และน้ำสีฟ้าสวยนี้เกิดจากการหักเหของแสงและธารน้ำแข็ง ซึ่งน้ำของทะเลสาบจะสีสวยมาก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามทางธรรมชาติของทะเลสาบโมเรน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบมฟ์ (Banff) (ระยะทาง 75 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ใน หุบเขาชื่อ โบว ริเวอร์วัลเล่ย์ (Bow River Valley) มีฉากหลังเป็นเทือกเขาแคสเคด ที่มีความสูงถึง 2,998 เมตร ประวัติของเมืองมีอยู่ว่าในปี ค.ศ. 1880 ลอร์ดสตาร์ชโคนา มาเยือนชุมชนแห่งนี้และเกิดความประทับใจ ในความงามของภูมิประเทศ จึงตั้งชื่อเมืองตามชื่อเมืองแบมฟ์เชียร์ อันเป็นบ้านเกิดของท่าน Banff เมืองแบมฟ์ เป็นเมืองเล็กๆ และเป็นปากทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เทือกเขาซัลเฟอร์ (Sulphur Mountain) ภูเขาสูงที่เป็นจุดกำเนิดของบ่อน้ำร้อนในอุทยานแห่งชาติ เมื่อฝนตกลงที่ยอดเขาน้ำฝนจะไหลผ่านชั้นกำมะถันลงไปรวมกันในทางน้ำใต้ดินที่ได้รับความร้อนจากใต้โลก เมื่อสะสมมากเข้าน้ำที่ไหลออกมาจากพื้นดินใต้ภูเขาจะกลายเป็นน้ำร้อน ซึ่งบางแห่งไม่มีทางน้ำไหล ทำให้น้ำร้อนใต้ดินพุ่งออกมาตามรอยปริแตกของชั้นหินกลายเป็นน้ำพุร้อนขึ้นมา นำท่านสู่สถานีรถกระเช้า ชื่อว่า Sulphur Mountain Gondola Lift (กระเช้า 1 หลัง นั่งได้ประมาณ 4 ท่าน) นำท่านนั่งกระเช้าขึ้นสู่จุดชมวิวบนยอดเขาซัลเฟอร์ ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,285 เมตร บนยอดเขามีทางเดินไปยังส่วนที่สูงที่สุดของยอดเขา คือ ยอดแซนซัน (Sanson Peak) สูง 2,337 เมตร บนเทือกเขามีอาคารที่ทำการสำหรับนักพยากรณ์อากาศ ซึ่งชาวแคนาดา เรียกอาคารนี้ว่า “รังนกอินทรี” อาคารนี้เป็นสถานที่ซึ่งนักพยากรณ์อากาศชื่อ นอร์มัน แซนซัน (Norman Sanson) ใช้เป็นสถานที่ทำงานในการพยากรณ์อากาศเมื่อปี ค.ศ. 1903 ในอาคารยังมีโต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน และสิ่งของเครื่องใช้สมัยที่แซนซันมาทำงานอยู่ ระหว่างทางเดินไปยังยอดเขามีจุดชมวิวอยู่เป็น ระยะ ๆ และมีป้ายให้ความรู้เรื่องสัตว์ป่าในท้องถิ่นกับธรรมชาติที่เห็นอยู่รอบตัว และจุดชมวิวแห่งนี้ยังสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาร็อกกี้ และทะเลสาบมรกตอันงดงามอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปและชมวิวจากมุมสูง นำท่านเที่ยวชม อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกและมีชื่อเสียงมากที่สุดของแคนาดา ตั้งอยู่ริมเส้นทางสาย Trans Canadian Highway เมืองสำคัญ 2 เมืองในบริเวณนี้ คือ เมืองแบมฟ์ และเมืองเลคหลุยส์ เมื่อปี ค.ศ. 1841 สมัยนั้นยังไม่มีใครรู้จัก ดินแดนแถบนี้เลย จนถึงปลายปี ค.ศ. 1880 ได้มีการก่อสร้างทางรถไฟข้ามทวีปสาย Canadian Pacific Railway คนงานก่อสร้างได้มาเห็นความงดงามของธรรมชาติที่เป็นดินแดนแห่งภูเขาที่สวยงามนี้ จึงนำไปเล่าลือถึงความงดงามของภูมิประเทศบนเทือกเขาร็อกกี้ และต่อมาได้มีการค้นพบบ่อน้ำพุร้อนที่มีแร่กำมะถันมากมายในบริเวณนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนเข้ามาหาประโยชน์จากน้ำพุร้อนซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลบริติชโคลัมเบียจึงประกาศจัดพื้นที่ 10 ตารางไมล์ของ เทือกเขาซัลเฟอร์นี้เป็นเขตอุทยานเทือกเขาร็อกกี้ (Rocky Mountain Park) ขึ้นในบริเวณที่พบน้ำพุร้อนในปี ค.ศ. 1885 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแคลกะรี (ระยะทาง 138 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Delta Calgary Airport Hotel**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | แคลกะรี – มอนทรีออล (พักค้าง 2 คืน) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบินแคลกะรี |
09.20 น. | ออกเดินทางจาก สนามบินแคลกะรี สู่สนามบินมอนทรีอัล โดยสายการบินเวสต์เจ็ตแอร์ไลน์ เที่ยวบิน WS 212 (ใช้เวลาบินประมาณ 4.16 ชั่วโมง) ไม่มีบริการอาหารกลางวัน (ไม่รวมในรายการทัวร์) แนะนำให้ท่านซื้ออาหารไว้รับประทาน |
15.36 น. | เดินทางถึงสนามบินมอนทรีอัล (Montreal) นำท่านชมเมืองมอนทรีอัล (Montreal) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตการปกครองของรัฐควิเบก และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศแคนาดา มอนทรีอัลเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดถึงในปี 1970 หลังจากนั้นเมืองโตรอนโตก็แซงหน้าไป เมืองมอนทรีอัลมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ผสานกลิ่นไอของฝรั่งเศส และ ยุโรป แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกของความเป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนืออย่างชัดเจน นำท่านชมความงามของ เขตเมืองเก่า (Old Town) และเมืองใหม่ (New Town) ซึ่งมีอาคารสูงทันสมัย ชมบรรยากาศเมืองในแบบฝรั่งเศส เนื่องจากเมืองนี้ประชากรส่วนใหญ่สื่อสารโดยภาษาฝรั่งเศส เรียกได้ว่าเป็นชุมชนฝรั่งเศสขนาดใหญ่นอกประเทศฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ นำท่านถ่ายรูปวิหารนอร์ธเทอดาม (Notre Dame Basilica of Montreal) ซึ่งเป็นวิหารเก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองมอนทรีออล ตัวอาคารดั้งเดิมสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 แต่อาคารปัจจุบันนี้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1829 ในศิลปะแบบนีโอคลาสสิกและนีโอกอธิก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hotel Le Cantlie Suites / Novotel Hotel Montreal**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 7 | มอนทรีออล – ควิเบก |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองควิเบก (Quebec) (ระยะทาง 263 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชั่วโมง) หรือภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า เกแบ็ก (Québec) เป็นเมืองหลวงของ รัฐควิเบก เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาอยู่ทางตะวันออกของประเทศ และเป็นรัฐเดียวที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการในระดับรัฐ แต่ใช้ภาษาฝรั่งเศสแทน เมืองควิเบกใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก มอนทรีออลและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของแคนนาดา เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ ประวัติศาสตร์เก่าแก่ และเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่สำคัญ อีกทั้งเป็นเมืองโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่ง ซึ่งเราสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูและเที่ยวได้ตลอดปีอีกด้วย องค์การยูเนสโกยังจัดให้เมืองควิเบกเป็นมรดกโลกในปี 1985 นำท่านเดินเล่นชมทัศนียภาพที่ดีที่สุดในเมืองควิเบก (Quebec City) ณ Dufferin Terrace (ดัฟเฟริน เทอร์เรซ) คือทางเดินริมแม่น้ำที่อยู่ใต้ Fairmont Château Frontenac โรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง ตกแต่งสไตล์ปราสาท เดินชมเมืองเก่าควิเบก โดยมีวิวสวยๆ ของแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ (Saint Lawrence River) ขนาบข้าง เมื่อเดินไปตามทางจะพบสวนสาธารณะขนาดใหญ่ Park Canada’s Dufferin Terrace ผู้คนจะออกมานั่งพัก ทำกิจกรรมกัน หรือเดินชมปืนใหญ่ ซากปรักหักพังของป้อมปราการที่เคยปกป้องเมือง นำท่านแวะชมรูปปั้นนักสำรวจ ซามูแอล เดอ ช็องแปล็ง ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมือง นำท่านเที่ยวชม Citadelle de Quebec ป้อมปราการที่สำคัญมากของเมืองเก่า ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน มรดกโลก UNESCO ในปี 1985 จากนั้น นำท่านชมจัตุรัสปลาส รอยาล เป็นพลาซ่าขนาดเล็กที่มีเสน่ห์ดึงดูด เคยเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเมืองและเป็นบริเวณเริ่มก่อตั้งเมืองควิเบก ตั้งอยู่ในเมืองตอนล่างของเมืองควิเบก นอกจากนี้ปลาส รอยาล เป็นจัตุรัสเมืองหินกรวดอันเลื่องชื่อกั้นด้วยอาคารต่างๆ ในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 ที่นี่เป็นถิ่นกำเนิดของอเมริกันฝรั่งเศส เนื่องจากชุมชนฝรั่งเศสแห่งแรกเริ่มขึ้นที่นี่ในปี 1608 เป็นแหล่งการค้าหลักของเมืองและเป็นศูนย์กลางในการทำธุรกิจเป็นเวลามากกว่า 200 ปี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ใช้ประหารอาชญากรในยุคแรกเริ่มด้วย จัตุรัสและบ้านเรือนต่างๆ ตกอยู่ในสภาพทรุดโทรมในช่วงทศวรรษ 1880 และได้รับการฟื้นฟูหรือบูรณะระหว่างปี 1960 และ 1980 |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูเป็ดปักกิ่ง) |
บ่าย | นำท่านชม ปอตี ช็องแปล็ง (Quartier Petit-Champlain) เป็นย่านเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ยังคงกลิ่นอายสไตล์ฝรั่งเศส เป็นตรอกอาคารหินเก่า ขายของหลากหลายที่เราสามารถเดินเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และอาหารที่ปรุงสดใหม่ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาแห่งควิเบก (Parliament Hill of Québec) นำท่านเดินเล่นชมสวนและอนุสรณ์ต่างๆ เป็นที่ตั้งของรัฐบาลประจำรัฐควิเบก ตั้งอยู่ท่ามกลางสวน อนุสรณ์ และทางเดินอันงดงาม อาคารนี้ตั้งอยู่บนยอดพาเลียเมนท์ฮิลล์มาเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ นำท่านแวะถ่ายรูป น้ำพุ Fontaine de Tourny ตั้งอยู่โดดเด่น ที่มีหุ่นสลักเล็กๆ ทางด้านหน้าของอาคารรัฐสภา จากนั้นนำท่านเข้าชมโบสถ์นอทร์ ดาม เด วิกตัวร์ (Church Notre-Dame-des-Victoires) เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง ชมความงามของงานศิลป์และแท่นบูชาที่มีลักษณะคล้ายป้อมปราการ อีกทั้งใกล้ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงศิลปวัตถุโบราณอายุกว่า 5,000 ปี และอื่นๆ จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณ ท่าเรือเก่า (Old Port) ให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองควิเบกได้ตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควร นำท่าเดินทางกลับสู่ มอนทรีออล |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Hotel Le Cantlie Suites / Novotel Hotel Montreal**** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 8 | มอนทรีออล - ออตตาวา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านออกเดินทางสู่เมืองออตตาวา (Ottawa) (ระยะทาง 200 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม.) เป็น เมืองหลวงของประเทศแคนาดา เมืองที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสวยงาม และเป็นจุดศูนย์รวมของสถานที่ ทางประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ ให้เที่ยวชมมากมาย เมืองออตตาวา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่ง แม่น้ำออตตาวา (Ottawa River) อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศ และยังเมืองใหญ่อันดับสองของรัฐออนแทรีโอ (Ontario) ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่บริวเณตอนกลางของประเทศแคนาดา ปัจจุบันเมืองออตตาวาได้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในทวีปอเมริกา และยังเป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับว่ามีความสะอาดเป็นอันดับ 2 ในประเทศแคนาดา และเป็นเมืองที่สะอาดเป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย นำท่านถ่ายรูปและชมความยิ่งใหญ่ของ อาคารพาเลียเมนท์ ฮิลล์ (Parliament Hill) อาคารรัฐสภาที่สร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ที่มีผู้ชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยอาคารรัฐสภานั้นเป็นอาคารตัวอย่างที่ดี ของอาคารที่สร้างขึ้นในสไตล์ฟื้นฟูกอธิค (Gothic Revival style) สร้างขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1916 แล้วเสร็จใน วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1927 ตัวอาคารตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองออตตาวา ซึ่งจากจุดนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำออตตาวาได้อย่างชัดเจน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูกุ้งมังกร) |
บ่าย | นำท่านถ่ายรูปกับ อาคารหอศิลป์แห่งชาติแคนาดา (National Gallery of Canada) ซึ่งเป็นอาคารกระจกและอาคารหินแกรนิต ออกแบบโดย Moshe Safdie สร้างขึ้นในปี 1880 และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1988 ภายใน มีการจัดแสดงภาพวาด, รูปปั้น และรูปถ่ายเป็นจำนวนมาก โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของคอลเลกชันในการ จัดแสดงก็คงจะเป็น รูปปั้นแมงมุมยักษ์ (The Maman statue) ของหลุยส์ บูร์ชัวส์ (Louise Bourgeois) ศิลปิน ชาวฝรั่งเศส ซึ่งถูกจัดแสดงไว้บริเวณทางเข้าหลักของอาคารหอศิลป์แห่งชาติแคนาดา จากนั้นนำท่านเดินเล่น ใน ย่านออตตาวา ดาวน์ทาวน์ (Downtown Ottawa) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองออตตาวา ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจของเมือง นำท่านชม ย่านถนนแอลจิน (Elgin Street ) เป็นถนนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ของเมืองออตตาวา ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และอื่นๆ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Courtyard by Marriott Ottawa East/ Four Point by Sheraton**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | ออตตาวา – คิงส์ตัน – ล่องเรือชม 1000 Island – น้ำตกไนแองการ่า – พักห้องวิวน้ำตก |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองคิงส์ตัน (Kingston) (ระยะทาง 195 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ช.ม.) ซึ่งเป็นเมืองเล็กเมืองหนึ่งของแคนาดา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลสาบออนทาริโอจบกับแม่น้ำเซ็นต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrence River) เป็นจุดเริ่มต้นของ 1000 Island คิงส์ตันเป็นเมืองหลวงเมืองแรกของประเทศแคนาดา แต่ด้วยเนื่องจากเป็นเมืองขนาดเล็กทำให้ถูกโจมตีจากอเมริกา ดังนั้นจึงได้มีการเปลี่ยนเมืองหลวงใหม่เป็น มอนทรีอัล โตรอนโต และเป็น ออตตาวา ในที่สุด นําท่านล่องเรือเที่ยวชม 1000 ไอส์แลนด์ (Thousand Island) ชมความสวยงามของเกาะแก่งต่างๆมากมาย นับพันเกาะ เรียงรายอย่างสวยงาม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมืองคิงส์ตัน (City Hall) ซึ่งเป็นอาคารสร้างขึ้นในปี 1843 ในแบบสไตล์บริติช เรเนซองส์ อันสวยงาม นำท่านเดินทางสู่น้ำตกไนแองการ่า อันยิ่งใหญ่และชื่นชมความงดงามของน้ำตกที่สรรค์สร้างขึ้นโดยธรรมชาติ และถือว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่คุณท่านต้องมาสัมผัส |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Marriott on the Fall / Sheraton / Hilton on the Fall (Fall view)**** หรือเทียบเท่า พิเศษ....ห้องพักวิวน้ำตก ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศน้ำตกไนแองการ่าอย่างใกล้ชิด และชื่นชม แสง สี ยามค่ำคืน |
วันที่ 10 | ล่องเรือน้ำตกไนแองการ่า – พิเศษอาหารกลางวัน Skylon Tower - โตรอนโต – ขึ้นหอคอย CN Tower |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านสัมผัสประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ในการชม น้ำตกไนแองการ่า อย่างใกล้ชิดจริงๆกับโปรแกรมการล่องเรือในน้ำตกไนแองการ่า (Hornblower Niagara Cruises) ชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกไนแองการ่า น้ำตกที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่สวยงามติดอันดับโลก อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย และ เดินเล่นรอบบริเวณน้ำตกไนแองการ่า รา (หมายเหตุ: โปรแกรมล่องเรือ Horn Blower Cruise จะเปิดให้บริการ1 เมษายน ของทุกปี แต่อย่างไรก็ตามขึ้นกับสภาพอากาศแต่ละปีด้วย หากกรุ๊ปเดินทางและทางเรือปิดให้บริการ ทางทัวร์จะทำการเปลี่ยนโปรแกรม Journey behind the falls ให้ลูกค้า) (สำหรับท่านใดที่อยากชมน้ำตกไนแอการา หนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในโลกด้วยการนั่งเฮลิคอปเตอร์ ท่านสามารถเลือกซื้อทัวร์เพิ่มได้ โดยสามารถสอบถามได้จากหัวหน้าทัวร์ของท่าน) นำท่านขึ้นหอคอยสกายลอน (Skylon Tower) เพื่อชมวิวที่สวยสดงดงามของน้ำตก ให้ท่านสามารถขึ้นสู่จุดชมวิวชั้นบนของหอคอยสกายลอนเพื่อถ่ายรูปมุมสูงของน้ำตกไนแองการ่า |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน มื้อพิเศษ บนหอคอย Skylon Tower |
บ่าย | นำท่านออกเดินทางสู่ นครโตรอนโต เมืองหลวงของรัฐออนตาริโอ (ระยะทาง 130 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) นครที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแคนาดา เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดของประเทศ และใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของแคนาดา และยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าในฝั่งตะวันตก นำท่าน ขึ้นหอคอยซีเอ็น (CN Tower) ซึ่งมีความสูงถึง 520 เมตร เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก ท่านจะได้ชมทัศนียภาพโดยรอบของนครโตรอนโตได้อย่างจุใจ ได้เวลานำท่านเที่ยวชมเมืองโตรอนโต เป็นเมืองที่ทันสมัยอีกเมืองของประเทศแคนาดา เมืองนี้มีประชากร 2.5 ล้านคนอาศัยอยู่ และเป็นหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจของโลกที่สำคัญ รวมทั้งยังเป็นศูนย์รวมของผู้คนจากหลากหลายเชื้อชาติ อาทิ เช่น ชาวโปรตุเกส, ชาวอิตาลี, ชาวละตินอเมริกา และชาวเอเชีย ซึ่งเมืองโตรอนโตยังมีชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ เมืองโตรอนโต ประกอบไปด้วย 6 เขต ได้แก่ Downtown, North York, East York, York, Scarborough และ Etobicoke |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
20.30 น. | หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองโตรอนโต |
วันที่ 11 | โตรอนโต – ฮ่องกง |
01.40 น. | ออกเดินทางจาก สนามบินโตรอนโต (Toronto) สู่สนามบินเช็คแล๊ปก๊อก ประเทศฮ่องกง (Hong Kong) โดย สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์ส เที่ยวบิน CX829 (ใช้เวลาบินประมาณ 15.15 ชั่วโมง) ********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล ******* สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน |
วันที่ 12 | กรุงเทพมหานคร |
05.00 น. | เดินทางถึง สนามบินเช็คแล๊ปก๊อก ประเทศฮ่องกง (Hong Kong) |
08.00 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์ส เที่ยวบิน CX705 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.45 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน |
10.00 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ.... |