รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์เรือสำราญ

TE385 : โปรแกรมทัวร์ล่องเรือสำราญทะเลเมดิเตอร์เรเนียน MSC SEAVIEW 10 วัน 8 คืน (EY)


Etihad Airways (EY)
คัดลอก URL คัดลอก URL

ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน MSC SEAVIEW 
พักห้องระเบียง Balcony ทุกห้อง
เจนัว – ลา สเปเซีย - ฟลอเร้นซ์ – ปิซ่า - ชีวีตาเวกเกีย - โรม - ปัลมา เดอ มายอร์กา บาร์เซโลนา – คานส์ – นีซ – ปอร์โตฟิโน – ช้อปปิ้งเอาท์เลต 


กำหนดการเดินทาง

รหัสทัวร์วันที่เดินทางเดินทางโดยราคาเริ่มต้นสถานะ
TE385-00111-20 พ.ค. 68Etihad Airways (EY)133,000จองด่วน
 
รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพมหานคร
18.30 น.คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบิน เอทิฮัดแอร์เวย์ (EY) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
21.25 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี (AUH) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย สายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY407  (ใช้เวลาบินประมาณ 6.25 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินมีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน
วันที่ 2อาบูดาบี – มิลาน – เจนัว - เช็คอินลงเรือ MSC SEAVIEW
00.50 น.เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี (AUH) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง 
02.50 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินมิลาน (MXP) ประเทศอิตาลี โดย สายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY081 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.30 ชม.) สายการบินมีบริการ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน 
07.20 น.เดินทางถึง สนามบินมิลาน (MPX) ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (ระยะทาง 205 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชม.)
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
14.00 น.นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือเจนัว (Genoa) เพื่อเช็คอิน ลงเรือ MSC SEAVIEW
18.00 น.เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือเจนัว (Genoa) มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือ ลา สเปเซีย 
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ 

หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่ 3ลา สเปเซีย – ชิงเกว่ แตร์เร – ฟลอเรนซ์ – ปิซา - หอเอนเมืองปิซา
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือ ลา สเปเซีย 

นำท่านเดินทางสู่เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) (ระยะทาง 150 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เป็นเมืองในภาคกลางของประเทศอิตาลี เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของแคว้นตอสคานา นำท่านชมเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าและการเงินของยุคกลางและถือเป็นหนึ่งในนครที่ร่ำรวยที่สุดในยุคนั้น นักวิชาการจำนวนมากถือว่าฟลอเรนซ์เป็นถิ่นกำเนิดของศิลปะเรเนซองส์ ในยุคเรเนซองส์ฟลอเรนซ์ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางศิลปะ วัฒนธรรม การค้า การเมือง เศรษฐกิจ และการเงินที่สำคัญ ฟลอเรนซ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนในแต่ละปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปีค.ศ. 1982 นครฟลอเรนซ์มีวัฒนธรรม, อนุสาวรีย์, สถาปัตยกรรมเรอแนซ็องส์ และงานศิลป์ที่ลือเลื่อง[9] ภายในเมืองมีห้องจัดแสดงงานศิลปะและพิพิธภัณฑ์อยู่มากมาย อาทิ หอศิลป์อุฟฟีซีและวังปิตตี เป็นต้น
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางสู่เมืองปิซา (Pisa) (ระยะทาง 84 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชม.) เป็นเมืองเอกของจังหวัดปิซา อยู่ในแคว้นตอสคานา ฝั่งแม่น้ำอาร์โน ประเทศอิตาลี อยู่ทางตะวันตกของเมืองฟลอเรนซ์ (ฟีเรนเซ) ประมาณ 100 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนาปรมาณ 130 กิโลเมตร

นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอเอนเมืองปิซา (Learning tower of Pisa) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี ในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (Piazza Del Duomo) เป็นหอระฆังของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก มีลักษณะเป็นหอทรงกระบอก 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) น้ำหนักรวมประมาณ 14,500 ตัน มีบันไดรวมทั้งสิ้น 293 ขั้น เอียง 3.97 องศา ยอดของหอห่างจากแนวตั้งฉาก 3.9 เมตร อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย เริ่มสร้างเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1173 และสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1350 ใช้เวลาสร้างประมาณ 175 ปี แต่การก่อสร้างนั้นมีการหยุดชะงักถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกหยุดสร้าง เมื่อสร้างไปได้ถึงชั้น 3 เนื่องจากพื้นใต้ดินเป็นพื้นดินที่นิ่ม ทำให้หอมีการยุบตัว โดยตอนแรกหอเอนปิซาได้เอนไปทางทิศเหนือ และต่อมาในปี ค.ศ. 1272 จีโอแวนนี่ ดี สิโมน สร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้เกิดความสมดุล โดยการสร้างถ่วงไปทางทิศใต้ แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเนื่องจากเกิดสงคราม ภายหลังได้มีการสร้างหอต่อขึ้นอีก ทำให้หอมีความสูงทั้งหมด 7 ชั้น ในปี ค.ศ. 1319 แต่หอเอนนี้ถูกสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1372 หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1990-2001 หอเอนปีซาได้รับการปรับปรุงฐานให้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้หอล้มลงมา และปัจจุบัน ในทุก ๆ 20 ปี หอจะเอนลง 1 นิ้ว (ไปทางทิศใต้) โดยมีการคาดเดาว่า หอจะล้มลงมาในปี ค.ศ. 2220 ถ้าหากไม่มีการป้องกันใด ๆ ปัจจุบันได้มีการคิดค้นสปริงลูกตุ้มไปถ่วงอีกฝั่ง เพื่อชะลอการถ่วงลงมาของหอเอนเมืองปิซา

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือ ลา สเปเซีย (La Spezia)
18.00 น.เรือเดินทางออกจากท่าเทียบเรือ ลา สเปเซีย (La Spezia) มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือชิวิตาเวคเคีย (Civitavecchia) ประเทศอิตาลี
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ 

หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่ 4โรม – โคลอสเซียม  - บันไดสเปน – น้ำพุเทรวี
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือชิวิตาเวคเคีย (Civitavecchia) ประเทศอิตาลี

นำท่านเดินทางสู่กรุงโรม (Rome) (ระยะทาง 71 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) นำท่านแวะถ่ายรูปกับโคลอสเซียม (Colosseum) เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่าง ๆ ในปัจจุบัน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 โคลอสเซียมได้รับเลือกให้เป็น 1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางชมบันไดสเปน (Spanish Steps) เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ที่เชื่อมระหว่างปียัซซาดีสปัญญากับปียัซซาตรีนีตาเดย์มอนตี เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ฟรันเชสโก เด ซังค์ติส (Francesco de Sanctis) กับอาเลสซันโดร สเปคคี (Alessandro Specchi) สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1723-1725 ด้วยเงินจากกองทุนมรดกของนักการทูตฝรั่งเศส เอเตียน เกฟีเย (Étienne Gueffier)

จากนั้นนำท่านเดินทางชมน้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) ตั้งอยู่ในเขตเทรวี กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยอนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่บริเวณจุดสิ้นสุดของท่อระบายน้ำเก่าแก่ที่มีชื่อว่า ท่อส่งน้ำอะควีดักท์ (Aqueduct) ซึ่งสร้างโดยจักรพรรดิซีซาร์ออกุสตุส ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้น้ำที่น้ำพุเทรวีใสและสะอาดอย่างมาก เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงโรม ประเทศอิตาลี เห็นทีจะหนีไม่พ้นน้ำพุเทรวี ซึ่งมีผู้คนพากันมาเที่ยวที่แห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย เพราะหลายคนเชื่อว่าหากได้โยนเหรียญที่น้ำพุเทรวีแล้วจะสามารถอธิษฐานขอพรให้สมหวังได้ นอกเหนือจากความงดงามของสถาปัตยกรรมยุคบารอกแล้ว น้ำพุเทรวียังได้ชื่อว่าเป็นน้ำพุที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของดินแดนอิตาลีเลยทีเดียว อย่าลืมจอ

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือชิวิตาเวคเคีย (Civitavecchia) (ระยะทาง 76 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.)
19.00 น.เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือชิวิตาเวคเคีย (Civitavecchia) มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca) ประเทศสเปน
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ 

หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่ 5Cruising
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น


Public Room
: บาร์และเลาจน์, ห้องสมุด, ห้องอินเตอร์เนต
Entertainment :ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆหลากหลายสไตล์คาสิโน, ดิสโก้เธค, ห้องเล่นเกมส์, ซิปไลน์, โบว์ลิง, คิดส์คลับ
Sport and Activities : สระว่ายน้ำ, สปอร์ทคอร์ท, ฟิตเนต, 
Spa and Wellness : ห้องสปา, ห้องยิม และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน / ค่ำรับประทานอาหารกลางวันและอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่ 6ปัลมา เดอ มายอร์ก้า – มหาวิหารปัลมา - พระราชวังหลวงลาอัลมูไดนา
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca) ประเทศสเปน

นำท่านเที่ยวชมเมืองปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca) แห่ง หมู่เกาะมายอร์กา (Mallorca) หมู่เกาะแสนสวยในประเทศสเปน ซึ่งตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะแบลีแอริก เมืองหลวงของเกาะคือเมืองปัลมา เมืองซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในวันหยุดที่ได้รับความนิยมมาก          

นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารเลอซู (La Seu, Cathedral of Palma) โบสถ์โกธิคโรมันคาทอลิก คู่บ้านคู่เมืองของเกาะมายอร์กา สร้างขึ้นตามบัญชาของกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอารากอนในปี ค.ศ. 1229 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1601 โดยใช้เวลาร่วม 370 ปีในการก่อสร้าง และได้มีการปรับปรุงตามแบบฉบับของอันโตนิโอ เกาดี้ สถาปนิกและผู้ออกแบบผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองบาร์เซโลนาในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1901-1914 นำท่านเข้าชมความงดงามภายในมหาวิหารแห่งปัลมา ชมความงามของสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคโรมันที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตกแต่งด้วยกระจกลายสีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
บ่ายนำท่านเข้าชมพระราชวังหลวงลาอัลมูไดนา (Royal Palace of La Almadaina) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 14 เป็นที่ประทับของกษัตริย์และราชินีสเปน ระหว่างการพำนักในมายอร์กา พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตรงข้ามกับมหาวิหารแห่งปัลมา เป็นจุดเช็คอินที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนหากมายังหมู่เกาะมายอร์กา นำท่านเข้าชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของพระราชวังหลวงแห่งหมู่เกาะมายอร์กา สมควรแก่เวลาอิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของเมือง หรือจะเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย 

ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ ท่าเทียบเรือปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca)
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ 

เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca) มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่ 7 บาร์เซโลนา – มหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ - ช้อปปิ้ง
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา (Barcelona) ประเทศสเปน

นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 โบสถ์ที่สร้างไม่เสร็จนี้เป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา  เป็นงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้มีความสูง 170 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงานชิ้นอื่นของเกาดี
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนำท่านเดินทางสู่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ El Corte Ingles (ระยะทาง 51 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ซึ่งเป็นห้างที่รวมสินค้าแบรนด์เนมต่างๆมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม หรือ ของฝากตามอัธยาศัย

จากนั้นนำท่านสู่ ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนา ถนนลารัมบลา (Larambla) ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง  1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนน Passeig de gracia ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆอีกมากมาย

ได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา (Barcelona)
17.00 น.เรือเดินทางออกจากท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา (Barcelona) มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือคานส์ (Cannes) ประเทศฝรั่งเศส
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ 

หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
วันที่ 8คานส์ - นีซ - เลอ ซูเกต์ - ตลาดมาร์เช่ ฟอร์วิลล์
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

รือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือคานส์ (Cannes) ประเทศฝรั่งเศส

นำท่านเดินทางสู่เมืองคานส์ (Cannes) เป็นหนึ่งในเมืองที่เป็นที่รู้จักที่สุดของเฟรนช์ริเวียรา (รวมหลายๆ เมืองอยู่ด้วยกัน เช่น เมืองอองตีบส์ นีซ แซ็งต์-ฌอง-กัป-แฟราต์ วิลฟรองช์-ซูร์-แม) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ริมชายฝั่งโกต์ ดาซูร์ (Côte d’Azur) ในจังหวัดอาลป์-มารตีม บนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของเทศกาลภาพยนตร์ ที่จัดขึ้นในเมืองคานส์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่องานพรมแดง เมืองนี้ยังมีชื่อเสียงด้านร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมที่หรูหรา มีป้อมปราการที่สร้างขึ้นโดยพวกนักบวชในตอนต้นสมัยกลางเพื่อป้องกันการโจมตีทางทะเล ใน ค.ศ. 1815 สมัยก่อนเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ กระทั่งยุคศตวรรษที่ 19 เมืองเริ่มเจริญขึ้น มีการสร้างสถานที่พักตากอากาศสำหรับชนชั้นสูง มีสภาพอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี

นำท่านเดินทางสู่เมืองนีซ (Nice) (ระยะทาง 34 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เป็นเขตเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ในฝรั่งเศส นีซตั้งอยู่ในโกตดาซูร์ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่า เฟรนช์ริวีเอรา (อังกฤษ: French Riviera) บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ เมืองนีซเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นพรอว็องซาลป์-โกตดาซูร์ รองจากมาร์แซย์
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
บ่ายนำท่านเดินทางชมย่านเลอ ซูเกต์ (Le Suquet) หรือเรียกอีกชื่อว่าย่าน Old Port เป็นย่านเก่าแก่ของเมืองคานส์ ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจรู้จักเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นถนนที่มีทางเดินเลียบเนินเขาที่ปูด้วยหินกรวดและมีร้านอาหารท้องถิ่นมากมายตามแนวถนน Rue St Antoine ย่านนี้มีหอนาฬิกาและโบสถ์ที่ตั้งอยู่สูงเหนือเมือง โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก มองเห็นอ่าวและเมืองคานส์ ที่ด้านล่างของ Le Suquet บน Rue Dr. P. Gazagnaire คือ ตลาดมาร์เช่ ฟอร์วิลล์ (Marché Forville) ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดที่จัดขึ้นในตอนเช้าและต้นบ่าย พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่ชาวประมงของเมืองคานส์อาศัยอยู่ และบ้านเรือนที่นี่ล้วนเก่าแก่มาก ถนนเหล่านี้ถูกวางแผนไว้เมื่ออย่างน้อย 400 ปีที่แล้ว ย่านนี้อยู่ห่างจากชายหาดเพียง 5 นาทีเดินเท้า และมีร้านอาหารมากมายรอบๆ ถนน Rue Saint Antoine และ Rue du Suquet ซึ่งเป็นถนนหลักเดิมที่เข้าสู่เมืองคานส์ ถนน Rue du Suquet เป็นเขตที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์เข้าไป และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวสำคัญสำหรับผู้ที่มาเยือนเมืองคานส์

ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือคานส์
17.30 น.เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเมืองคานส์ มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือเจนัว
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ 

หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

หมายเหตุ ก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ
วันที่ 9เจนัว – ปอร์โตฟีโน - โบสถ์เซนต์มาร์ติน
เช้ารับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ

เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเจนัว ประเทศอิตาลี

นำท่านเดินทางสู่เมืองปอร์โตฟีโน (Portofino) (ระยะทาง 38 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขต จังหวัดของเจนัว ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวรรค์แห่งเมืองท่า" เมืองปอร์โตฟิโน เป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนน่ารัก ภายในตัวเมืองประกอบไปด้วยด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ซึ่งตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มี เรือยอร์ช (Yatch )จอดเต็มไปหมด

นำท่านชมความงดงามของโบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยตัวโบสถ์นั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่โต แต่ก็มีความสวยงามมากพอสมควร จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับปราสาทและป้อมปราการ Castello Brown ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ในอดีตเคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึก แต่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของเมืองอีกด้วย 

นำท่านเดินทางสู่หนึ่งในช้อปปิ้งเอาท์เลทขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป SERRAVALLE Shopping Outlet (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองมิลาน สถานที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมือง และจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein, Guess, Etro, Nike, Mariella Burani, Swarovski และอื่นๆอีกมากมาย โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดปี อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
กลางวัน***อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย เพื่อให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งแบบเต็มที่***
17.30 น.นำท่านเดินทางสู่ สนามบินมิลาน (MXP) เพื่อเชคอินและทำ Tax Refund 
22.15 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินอาบูดาบี (AUH) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย สายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY80 (ใช้เวลาบินประมาณ 5.55 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินมีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน
วันที่ 10กรุงเทพมหานคร
06.10 น.เดินทางถึง สนามบินอาบูดาบี (AUH) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง
10.30 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) โดย สายการบินเอทิฮัดแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ EY406 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.30 ชม.) สายการบินมีบริการ อาหารเช้า บนเครื่องบิน
20.00 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)


อัตราค่าบริการราคา
ราคาต่อท่านสำหรับรอบการเดินทางที่ : 11 - 20 พฤษภาคม 2568 133,000 บาท
 TE385-001: โปรแกรมทัวร์ล่องเรือสำราญทะเลเมดิเตอร์เรเนียน MSC SEAVIEW 10 วัน 8 คืน (EY)แสดง รายละเอียด

เงื่อนไขในการจอง

ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ
  • กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ป หากออกตั๋วแล้ว ไม่สามารถขอคืนเงินได้ และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้
  • กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลด ท่านละ 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 25 กก. 
  • กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Hand Carry) น้ำหนักไม่เกิน 7 กก. 
โปรแกรมท่องเที่ยวล่องเรือสำราญ (ตามที่ระบุไว้ในรายการ) อัตรานี้รวมถึง
  • ตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นนักท่องเที่ยวโดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส  (EY) (กระเป๋าเดินทาง นน. ไม่เกิน 25 กก./ท่าน)
  • ค่าภาษีสนามบิน, ภาษีน้ำมัน, ประกันภัยทางอากาศ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,500,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 2,000,000 บาทค่ารักษาพยาบาลหลังกลับจากต่างประเทศภายใน 21 วัน วงเงิน 40,000 บาท   (ประกันภัยไม่ครอบคลุมผู้ที่อายุเกิน 85 ปี) ประกันครอบคลุมการติดเชื้อ Covid 19
  • ค่าภาษี (Port Fee) ในทุกประเทศ 
  • ค่าบริการ (Service fee, Gratuities) บนเรือ
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ, ค่าพาหนะ หรือรถรับ-ส่ง ระหว่างนำเที่ยว, ค่าเข้าชมสถานที่
  • เจ้าหน้าที่ (ไกด์ไทย) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง และ ทิปต่างๆ
อัตรานี้ไม่รวมถึง
  • ค่าวีซ่าเชงเก้น ท่านละ 4,500 บาท (เรียกเก็บจากอินวอยซ์)
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ซึ่งท่านต้องดูแลกระเป๋าด้วยตัวท่านเอง หรือไปจ่ายที่โรงแรมได้หากต้องการ Porter Service
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักรีด, โทรศัพท์, แฟกซ์, เครื่องดื่มมินิบาร์ และค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
การชำระเงิน
  • งวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 50,000 บาท/ท่าน ภายใน 3 วันหลังมีการยืนยันกรุ๊ปออกเดินทางแน่นอน สำรองที่นั่ง (ผู้เดินทางพักเดี่ยว) ท่านละ 60,000 บาท
  • งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 60 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 
กรณียกเลิก

กรณียกเลิก (ตามเงื่อนไขของเรือสำราญ)

  • ยกเลิก 120 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง (ไม่มีค่าใช้จ่าย) 
  • ยกเลิก 30-119 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่ามัดจำเรือ, มัดจำตั๋ว เครื่องบิน, ค่าวีซ่า หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกิดขึ้นจริง
  • ยกเลิก 0-29 วัน ล่วงหน้าก่อนเดินทาง หักค่าทัวร์เต็มจำนวน

***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังได้ทำการยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้ว บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการนำเล่มพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช้จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม***

หมายเหตุ : 
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกการเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทาง ต่ำกว่า 15 ท่าน โดยจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันก่อนการเดินทาง 
  • บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงการพาเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวใดๆที่ปิดทำการ โดยจะจัดหาสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆเพื่อทดแทนเป็นลำดับแรก หรือคืนค่าเข้าชมแก่คณะผู้เดินทางแทน
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยว กรณีที่เกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย อาทิ การล่าช้าของสายการบิน  การนัดหยุดงาน  การประท้วง  ภัยธรรมชาติ  การก่อจลาจล  อุบัติเหตุ  ปัญหาการจราจร ปัญหาการเสริฟ์ช้าของร้านอาหาร หรือ เหตุใดๆที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ฯลฯ   ทั้งนี้จะคำนึงและรักษาผลประโยชน์ของผู้เดินทางไว้ให้ได้มากที่สุด และหากหัวหน้าทัวร์ไม่ได้ดำเนินการทำทัวร์ตามโปรแกรม ท่านต้องแย้งและเรียกร้องสิทธิ์ในรายการนั้น หากท่านไม่มีการแย้งใดๆ ถือว่าท่านยอมรับการทำทัวร์ดังกล่าว
  • เนื่องจากการท่องเที่ยวนี้เป็นการชำระแบบเหมาจ่ายกับบริษัทตัวแทนในต่างประเทศ  ท่านไม่สามารถที่จะเรียกร้องเงินคืน ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือสละสิทธิ์ ในการใช้บริการที่ทางทัวร์จัดให้ ยกเว้นท่านได้ทำการตกลง หรือ แจ้งให้ทราบ ก่อนเดินทาง
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หากท่านถูกปฏิเสธการตรวจคนเข้าเมือง และจะไม่คืนเงินค่าทัวร์ที่ท่านชำระมาแล้ว  หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากการกระทำที่ส่อไปในทางผิดกฎหมาย หรือการหลบหนีเข้าเมือง 
  • ในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน) เดินทางกับคณะ  บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบ หากท่านถูกปฎิเสธการเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง เพราะโดยปกตินักท่องเที่ยวใช้หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา เล่มสีเลือดหมู
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น
กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only)
  • ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม
เงื่อนไขอื่น

ตั๋วเครื่องบิน

  • การจัดที่นั่งบนเครื่องบินของสายบการบิน ขณะนี้สายการบินมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดที่นั่ง (Assign seat) ทุกที่นั่ง สนนราคา 2,000 – 4,000 บาทต่อเที่ยวบิน หากท่านไม่ต้องการเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้ ต้องทำการขอที่นั่ง ณ เคาน์เตอร์เชคอินที่สนามบินเท่านั้น แต่หากท่านต้องการจัดที่นั่งและชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้ สามารถแจ้งกับทางบริษัทฯ หลังทำการออกตั๋วเครื่องบินแบบหมู่คณะไปแล้วเท่านั้น
  • ในการเดินทางเป็นหมู่คณะผู้โดยสารจะต้องเดินทางไป-กลับ หากท่านต้องการเลื่อนวันเดินทางกลับ ท่านจะต้องชำระ ค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่สายการบินเรียกเก็บโดยสายการบิน เป็นผู้กำหนด ซึ่งทางบริษัทฯ ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ และในกรณีที่ยกเลิกการเดินทาง ถ้าทางบริษัทได้ออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ผู้เดินทางต้องรอ Refund ตามระบบของสายการบินเท่านั้น (ในกรณีที่ตั๋วเครื่องบินสามารถทำการ Refund ได้เท่านั้น)
  • ท่านที่จะออกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ ฯลฯ โปรดแจ้งฝ่ายขายก่อนเพื่อขอคำยืนยันว่าทัวร์นั้นๆ ยืนยันการเดินทาง แน่นอน หากท่านออกตั๋วภายในประเทศโดยไม่ได้รับการยืนยันจากพนักงาน แล้วทัวร์นั้นยกเลิก บริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆที่เกี่ยวข้องกับตั๋วเครื่องบินภายในประเทศได้
  • เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้งแล้วข้างต้น

โรงแรมและห้อง

  • ห้องพักในโรงแรมเป็นแบบห้องพักคู่ ( TWN/DBL ) ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะพักแบบ 3 ท่าน / 3 เตียง(TRIPLE ROOM ) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของห้องพักและรูปแบบของห้องพักของแต่ละโรงแรม ซึ่งมักมีความแตกต่างกัน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านไม่ได้ห้องพักติดกันตามที่ต้องการ หรือ อาจไม่สามารถจัดห้องที่พักแบบ 3 เตียงได้
  • โรงแรมหลายแห่งในยุโรป จะไม่มีเครื่องปรับอากาศเนื่องจากอยู่ในแถบที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องปรับอากาศที่มีจะให้บริการในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น
  • ในกรณีที่มีการจัดประชุมนานาชาติ ( TRADE FAIR ) เป็นผลให้ค่าโรงแรมสูงขึ้น 3-4 เท่าตัว บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมืองเพื่อให้เกิดความเหมาะสม

กระเป๋าเล็กถือติดตัวขึ้นเครื่องบิน

  • กรุณางดนำของมีคม ทุกชนิด ใส่ในกระเป๋าใบเล็กที่จะถือขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ กรรไกรตัดเล็บทุกขนาด ตะไบเล็บ เป็นต้น กรุณาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ห้ามนำติดตัวขึ้นบนเครื่องบินโดยเด็ดขาด
  • วัตถุที่เป็นลักษณะของเหลว อาทิ ครีม โลชั่น น้ำหอม ยาสีฟัน เจล สเปรย์ และเหล้า เป็นต้น จะถูกทำการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 10 ชิ้น ในบรรจุภัณฑ์ละไม่เกิน 100 ml. แล้วใส่รวมเป็นที่เดียวกันในถุงใสพร้อมที่จะสำแดงต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตามมาตรการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
  • หากท่านซื้อสินค้าปลอดภาษีจากสนามบิน จะต้องปิดผนึกถุงโดยระบุ วันเดินทาง เที่ยวบิน จึงสามารถนำขึ้นเครื่องได้ และห้ามมีร่องรอยการเปิดปากถุงโดยเด็ดขาด

สัมภาระและค่าพนักงานยกสัมภาระ

  • สำหรับน้ำหนักของสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้โหลดใต้ท้องเครื่องบิน คือ 20-30 กิโลกรัม (สำหรับผู้โดยสารชั้นประหยัด/ Economy Class Passenger ซึ่งขึ้นกับแต่ละสายการบิน) การเรียกเก็บค่าระวางน้ำหนักเพิ่มเป็นสิทธิ์ของสายการบินที่ท่านไม่อาจปฏิเสธได้ หาก น้ำหนักกระเป๋าเดินทางเกินกว่าที่สายการบินกำหนด
  • สำหรับกระเป๋าสัมภาระที่ทางสายการบินอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัมและมีสัดส่วนไม่เกิน 7.5 x 13.5 x 21.5 สำหรับหน่วยวัด “นิ้ว” (Inch) หรือ 19 x 35 x 55 สำหรับหน่วยวัด “เซนติเมตร” (Centimeter)
  • ในบางรายการทัวร์ ที่ต้องบินด้วยสายการบินภายในประเทศ น้ำหนักของกระเป๋าอาจจะถูกกำหนดให้ต่ำกว่ามาตรฐานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับภาระ ความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในน้ำหนักส่วนที่เกิน
  • กระเป๋าและสัมภาระที่มีล้อเลื่อนและมีขนาดใหญ่เกินไป ไม่เหมาะกับการเป็นกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน (Hand carry)

การชดเชยค่ากระเป๋าในกรณีเกิดการสูญหาย

  • ของมีค่าทุกชนิด ขอแนะนำไม่ควรใส่เข้าไปในกระเป๋าใบใหญ่ที่เช็คไปกับเครื่อง เพราะหากเกิดการสูญหาย สายการบินจะรับผิดชอบชดใช้ตามกฎไออาต้าเท่านั้น ซึ่งจะชดใช้ให้ประมาณ กิโลกรัมละ 20 USD คูณด้วยน้ำหนักกระเป๋าจริง ทั้งนี้จะชดเชยไม่เกิน USD 400 กรณีเดินทางชั้นธรรมดา (Economy) หรือ USD 600 กรณีเดินทางชั้นธุรกิจ (Business) ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้โหลดของมีค่าทุกประเภทลงกระเป๋าใบใหญ่
  • กรณีกระเป๋าใบใหญ่เกิดการสูญหายระหว่างการท่องเที่ยว (ระหว่างทัวร์ ไม่ใช่ระหว่างบิน) โดยปกติประกันภัยการเดินทางที่บริษัททัวร์ได้จัดทำให้ลูกค้าจะไม่ครอบคลุมค่าชดเชยในกรณีกระเป๋าใบใหญ่สูญหาย 
  • กรณีกระเป๋าใบเล็ก (Hand Carry) เกิดการสูญหาย บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายให้ท่านได้ ดังนั้นท่านต้องระวังทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเก้น (ใช้เวลาในการขอวีซ่าประมาณ 10-15 วันทำการ)
สถานทูตไม่อนุญาตให้ดึงเล่มพาสปอร์ต หากได้ยื่นเข้าไปแล้ว ดังนั้นถ้าท่านรู้ว่าต้องใช้เล่มกรุณาแจ้งบริษัททัวร์ฯ เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย
เพื่อขอยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนกรุ๊ป และให้แนบตั๋วเครื่องบินในช่วงที่ท่านจะเดินทางมาด้วย
(การเตรียมเอกสาร กรุณาอ่านให้เข้าใจ และเตรียมให้ครบ)


1. หนังสือเดินทาง อายุใช้งานได้ เกิน 6 เดือนขึ้นไป และ มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 แผ่น
2. รูปถ่ายสีหน้าตรง ขนาด 3.5 x 4.5 มม. 2 รูป พื้นฉากหลังรูปต้องเป็นพื้นสีขาว (อย่าถ่ายเอง เพราะพื้นเป็นสีเทา ใช้ไม่ได้) ห้ามสวมแว่นสายตา จะต้องเห็นคิ้วและใบหู ชัดเจน (รูปถ่ายต้องถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน...สถานทูตมีการเทียบรูปกับหน้าวีซ่าที่เคยได้) ***ความสูงหน้าผากจนถึงคาง ต้องมีขนาดระหว่าง 32-36 มม.เท่านั้น***
3. สำเนาบัตรประชาชน 
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (กรุณาถ่ายหน้าแรกที่มีรายละเอียดบ้านเลขที่มาด้วย)
5. สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีผู้หญิง.....หากมีการเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น ...นาง... ต้องแนบมา)
6. สำเนาทะเบียนหย่า (กรณีผู้หญิง.....ถ้าหย่าและหากมีการใช้คำนำหน้าเป็น ....นาง...ต้องแนบมา)
7. สูติบัตร (กรณีเด็กต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ต้องแนบสูติบัตรมา) 
8. กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์: (หากเด็กไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่) ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมดังนี้ 
- เด็ก เดินทางกับบุคคลอื่น บิดาและมารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอม ซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น และให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็ก เดินทางกับบิดา มารดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อบิดา) 
- เด็ก เดินทางกับมารดา บิดาต้องทำหนังสือแสดงความยินยอมซึ่งออกให้โดยที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้นและให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อมารดา)  
9. หลักฐานการทำงาน (จดหมายรับรองการทำงาน) ทำเป็นภาษาอังกฤษ
จดหมายรับรองการทำงานให้ระบุ  TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูตและประเทศ)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของกิจการ : ใช้หนังสือจดทะเบียนบริษัทฯ ที่มีรายชื่อผู้ประกอบกิจการ (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีผู้เดินทางเป็นเจ้าของร้านค้า : ใช้ทะเบียนพาณิชย์ที่มีชื่อผู้เป็นเจ้าของร้านค้า
- กรณีพนักงานบริษัท : ใช้จดหมายรับรองการทำงานจากนายจ้าง ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการว่าจ้าง เงินเดือน 
- กรณีที่เป็นข้าราชการ : ใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงาน 
- กรณีเกษียณอายุราชการ: ถ่ายสำเนาบัตรข้าราชการบำนาญ
- กรณีเป็นนักเรียนนักศึกษา ต้องมีหนังสือรับรองจากสถาบันศึกษา นั้นว่ากำลังศึกษาอยู่ ระบุชั้นปีที่ศึกษา 

10. หลักฐานการเงิน :  (กรุณาเตรียมให้ถูกต้อง ใช้เป็น Statement เท่านั้น!!!)
- Bank Statement (รายการเดินบัญชี) ย้อนหลัง 6 เดือนพร้อมประทับตราธนาคาร ใช้เป็นบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ที่ออกโดยทางธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชีให้ถูกต้องครบถ้วนตามตัวสะกดในพาสปอร์ต มีอายุไม่เกิน 20 วันนับจากวันที่จะยื่นวีซ่า และ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 
************* ต้องเป็นสมุดบัญชีออมทรัพย์เท่านั้น **************
- บัญชีฝากประจำ (Fixed) **สามารถแนบประกอบได้ (ไม่สามารถใช้เป็นบัญชีหลักในการยื่นได้) 
     ท่านต้องใช้บัญชีออมทรัพย์ (Saving) เป็นหลักในการยื่น
หากใช้บัญชีฝากประจำในการแนบประกอบ ต้องเตรียมดังนี้
- สำเนาสมุดบัญชีฝากประจำ มียอดเงินไม่ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อการรับรอง 1 ท่าน 

**กรณีรับรองการเงินให้คนภายในครอบครัว ต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองทางการเงิน (Bank Guarantee) ต้องระบุชื่อเจ้าของบัญชี รับรองค่าใช้จ่ายให้ใคร (ต้องระบุชื่อผู้ถูกรับรองในจดหมายด้วย) จะต้องสะกดชื่อให้ถูกตามพาสปอร์ต 
- กรุณาแนบสูติบัตร, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส หรือหลักฐาน เพื่อแสดงสถานะ และความสัมพันธ์ว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
กรณีนายจ้างรับรองค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง
- จดหมายรับรองจากนายจ้างระบุว่าเป็นผู้รับรองค่าใช้จ่าย พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
- หนังสือรับรองเงินฝาก ดังข้อ 11.1 และ 11.2 
 
 (สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวันในทุกกรณี ไม่ต้องแนบมา)

ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy