วันที่ 1 | กรุงเทพฯ |
20.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอินแถว D ประตูทางเข้าที่ 1- 4 อาคารผู้โดยสาร สายการบินไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
23.45 น. | ออกเดินทางสู่ มหานครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดย สายการบินไทย เที่ยวบิน TG 920 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.35 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์และจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง ทั้งนี้สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และอาหารเช้า บนเครื่องบิน |
วันที่ 2 | แฟรงก์เฟิร์ต – ฮาเนา – มาร์บวร์ก – คาสเซล |
06.15 น. | เดินทางถึง สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต (FRA) ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮาเนา (Hanau) (ระยะทาง 30 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 25 นาที) เมืองบ้านเกิดของพี่น้องกริมม์ นำท่านวถ่ายรูปกับบ้านโบราณกึ่งไม้ ที่เรียกว่า half-timber house จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Brothers Grimm Monument อนุสาวรีย์พี่น้องกริมม์ ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองและแหล่งนัดพบของชาวเมือง รูปปั้นนี้ทำจากทองสำริดสูงเกือบ 6.5 เมตร โดยมี Wilhelm นั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมหนังสือเล่มใหญ่บนตัก และมี Jacob ยืนอยู่ข้างๆ จากนั้นนำท่านเที่ยวชม Wilhelmsbad Park สวนสวยที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ภายในมีพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตา Hessien Doll Museum ซากปราสาทเก่า บ้านโบราณ ม้าหมุน ลานน้ำพุ นับว่าเป็นสวยที่สวยงามและกว้างขวางมาก จากนั้นนำท่านเข้าชมบ้านโกลด์สมิธ (German Goldsmith’s House) หรือศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ช่างทองและอัญมณี ตัวอาคารเป็นไม้ขาวตัดขอบเป็นตารางสีแดงทั้งหลัง สวยงามเป็นอย่างยิ่ง ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองมาร์บวร์ก (Marburg) (ระยะทาง 100 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัย Philipps-Universität Marburg ที่สองพี่น้องตระกูลกริมม์ได้เข้าไปศึกษา พวกเขาเริ่มรวบรวม เรียบเรียง และจัดพิมพ์นิทานพื้นบ้านขึ้นเป็นครั้งแรกที่เมืองนี้เมื่อ 200 ปีก่อน นำท่านเดินชมความงามบน เส้นทางแห่งเทพนิยายกริมม์ (Grimm Path) เส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นที่ตั้งของปราสาท บ้านเรือน และที่เที่ยวแห่งเทพนิยายกริมม์ นำท่านชมความงามของบ้านไม้โบราณ และหมู่อาคารไม้โบราณ ณ จัตุรัสกลางเมือง (The Market Platz) ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยร้านรวงและคาเฟ่ อดีตเคยเป็นศูนย์กลางของเมืองในศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดตลาดคริสต์มาสประจำเมือง และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ Half-timbered house เป็นบ้านที่ก่อสร้างในแบบโบราณตั้งแต่ในสมัยยุโรปยุคกลาง โครงสร้างหลักเป็นไม้เนื้อแข็ง และข้อต่อยึดด้วยหมุดไม้ขนาดใหญ่ ผนังภายนอกและภายในของบ้านเป็นไม้ ประกบกับกำแพงของบ้านที่เป็นอิฐ หรือหิน ซึ่งมีความคงทนและอยู่ได้เป็นร้อยปี |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองคาสเซล (Kassel) (ระยะทาง 96 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ช.ม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นเฮสเซ่น (Hessen) ประเทศเยอรมนี อยู่บนแม่น้ำ Fulda เป็นเมืองหลวงของแคว้นคาสเซล นำท่านเข้าชม ปราสาทวิลเฮมชอร์ (Schloss Wilhelmshohe) ซึ่งตั้งอยู่ใน Bergpark Wilhelmshohe อันได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก Unesco World Heritage Site ในปี 2013 ซึ่งภายในบริเวณโดยรอบ Bergpark เป็นที่ตั้งของปราสาทโบราณที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์และเก็บรักษาในสภาพดี ปราส่ทแห่งนี้เป็นปราสาทแบบนีโอคลาสสิก สร้างในสมัยศตวรรษที่ 18 และเป็นปราสาทฤดูร้อนของจักรพรรดิไกเซอร์ วิลเลียม ในระหว่างปี 1888 – 1918 อีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | H4 Hotel Kassel / Wyndham Garden Kassel**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | คาสเซล – ฮิลเดสไฮม์ – เบราน์ชไวก์ - ลือเนอบวร์ก |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองฮิลเดสไฮม์ (Hildesheim) (ระยะทาง 140 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.45 ช.ม.) เมืองแห่งศิลปะทางศาสนาสไตล์โรมาเนสก์จากจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เมืองนี้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากจากวิหารฮิลเดสไฮม์ และโบสถ์เซนต์ไมเคิล เพราะเป็นวิหารที่มีรูปแบบไม่ธรรมดา จนองค์การยูเนสโก ได้ยกย่องให้เป็นมรดกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในปีค.ศ. 1985 นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บงานศิลปะระดับโลก และสมบัติทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้ตามพิพิธภัณฑ์ในเมืองให้เราได้ชมอีกด้วย นำท่านเข้าชมภายในวิหารฮิลเดสไฮม์ (Hildesheim Cathedral) ซึ่งยังเป็นที่ตั้งของต้นกุหลาบ 1000 ปี ที่ยังยืนต้นให้ได้เห็นตราบจนปัจจุบัน ได้เวลานำท่านเที่ยวชมเมือง ซึ่งมีหมู่อาคารโบราณที่สร้างด้วยไม้ นับเป็นเมืองเก่าที่สร้างด้วยไม้ และเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเยอรมัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบราน์ชไวก์ (Braunschweig) (ระยะทาง 44 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เป็นเมืองหนึ่งในรัฐโลว์เออร์แซกโซนี ประเทศเยอรมนี มีฐานะเป็นเมืองอิสระ (Kreisfreie Stadt) ตามการบริหารเขตปกครองของเยอรมนี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐ ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของรัฐโลว์เออร์แซกโซนีรองจากฮันโนเวอร์ เบราน์ชไวก์เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของประเทศและสหภาพยุโรป นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทดังก์วาเดอโรป (Dankwarderode Castle) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1160 โดยประสงค์ของดยุคเฮนรี่ เดอะไลอออน เพื่อใช้เป็นราชวังหลวง โดยใช้เวลาเพียง 15 ปีเท่านั้นในการก่อสร้าง และเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1175 นอกจากนี้ยังมีประสงค์ให้สร้างโบสถ์เบราน์ชไวก์ (Bruaunschweig Cathedral) ไว้ในบริเวณใกล้เคียงด้วย ทั้งนี้ปราสาทแห่งนี้หมดความสำคัญในเวลาไม่นาน เพียงเพราะอาณาเขตเมืองที่ขยายโดยรอบอย่างรวดเร็ว และภายหลังถูกผลัดเปลี่ยนวัตถุประสงค์ใช้งานหลายครั้งหลายครา นำท่านเดินทางสู่เมืองลือเนอบวร์ก (Luneburg) (ระยะทาง 124 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ช.ม.) ป็นเมืองโบราณที่อยู่ห่างจาก Hamburg เพียง 30 นาที และเป็นเมืองเก่าที่รอดพ้นจากการถูกระเบิดทำลายระหว่างช่วงสงครามโลก ส่งผลให้ตึกรามบ้านช่องเก่า ๆ ยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้ อาคารบางหลังมีอายุกว่า 700 ปี เมืองนี้ตั้งอยุ่ในเขตรัฐ Lower Saxony ทางเหนือของประเทศ เขตเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Ilmenau ซึ่งแยกออกมาจากแม่น้ำ Elbe แห่งนี้มีชื่อเสียงจากบ้านเรือนสไตล์ half-timbered ยุคกลางตลอดสองฝั่งแม่น้ำที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ในอดีตเมืองดังกล่าวเป็นศูนย์กลางการผลิตและค้าขายเกลือที่สำคัญที่สุดของเยอรมัน ปัจจุบันเมืองแห่งนี้เติบโตด้วยการเป็นเมืองบำบัดรักษาโรคจากสปาธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปบริเวณเขตเมือง นำท่านเที่ยวชมเมืองที่มีหมู่อาคารไม้โบราณสวยงามมากอีกแห่งของเยอรมนี อิสระให้ท่านได้เก้บภาพตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองฮัมบรูก์ (Hamburg) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนี หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการ คือ นครอิสระและฮันเซียติกแห่งฮัมบูร์ก เป็นที่ตั้งของท่าเรือฮัมบูร์ก (Port of Hamburg) ท่าเรือสำคัญและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของสหภาพยุโรป |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | NH Hamburg Altona Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ฮัมบูร์ก – ชเวริน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michaelis Church) เป็นหนึ่งในโบสถ์นิกายโปรแตสแตนท์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนี โดยสิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดของโบสถ์คือ หอคอยทรงบาร็อคที่มีความสูงประมาณ 132 เมตร และยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเส้นขอบฟ้าเมืองฮัมบูร์ก โบสถ์เซนต์ไมเคิล ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปีค.ศ. 1647-1669 ปัจจุบันเป็นโบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองฮัมบูร์ก แวะถ่ายรูปกับอาคารศาลากลางฮัมบูร์ก (Hamburg Rathaus) อีกหนึ่งอาคารที่มีชื่อเสียงและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองใกล้ๆกับทะเลสาบ Binnenalster โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1886-1897 ในสไตล์นีโอ-เรอเนสซอง (Neo-Renaissance Style) เป็นหนึ่งในอาคารที่เก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์มากที่สุดของเมืองฮัมบูร์ก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองชเวริน (Schwerin) (ระยะทาง 111 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบที่งดงามมาก โดยทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดคือ ชเวรินเนอร์ ซี หรือ ทะเลสาบชเวริน (Schweriner See) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร นำท่านเข้าชมความงดงามของปราสาทชเวริน (Schwerin Castle) หรือ ปราสาทร้อยยอด เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภา (State parliament) โดยปราสาทนั้นตั้งอยู่บนเกาะในทะเลสาบชเวริน ซึ่งในศตวรรษที่ 19 ปราสาทได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นแวะถ่ายรูปกับวิหารชเวริน (Schwerin Cathedral) วิหารเก่าแก่ที่มีความเกี่ยวข้องกับสงครามครูเสด ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1260- 1416 ในสไตล์บริค - โกธิค (Brick Gothic style) ปัจจุบันเป็นหนึ่งวิหารที่มีผู้จาริกแสวงบุญมาเยือนเป็นจำนวนมาก สิ่งที่โดดเด่นที่สุด คือ หอคอยสูง 117.5 เมตร ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1889-1893 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Courtyard by Marriott Schwerin Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | ชเวริน – เบอร์ลิน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบอร์ลิน (Berlin) (ระยะทาง 212 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) ซึ่งตั้งอยู่บนแม่น้ำสปรี (Spree River) และแม่น้ำฮาเฟล (Havel River) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมนี ห้อมล้อมด้วยรัฐบรานเดนบวร์ก ในสมัยก่อน เบอร์ลิน เคยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบรานเดนบวร์กก่อนจะแยกการปกครองออกเป็นนครรัฐต่างหากรัฐหนึ่ง นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ประตูบรานเดนบวร์ก (Brandenburger Tor) อดีตประตูเมืองและเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ประตูตั้งอยู่ระหว่าง Pariser Platz และ จตุรัส 18 มีนาคม (Platz des 18. Marz) และเป็นประตูที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวจากทั้งหมดหลายแห่งที่เข้าเบอร์ลิน ห่างประตูออกไปทางเหนือหนึ่งบล็อก เป็นที่ตั้งของตึก Reichtag ประตูบรานเดนบวร์ก เป็นประตูเมืองเก่าแก่ ได้รับการก่อสร้างระหว่าง ค.ศ.1788 ถึง ค.ศ. 1791 ตามศิลปะแบบโรมัน โดยฝีมือของ C.G.Langhans เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของประเทศเยอรมนี ถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาเยอรมัน (Bundestag) เป็นอีกหนึ่งอาคารที่มีความโดดเด่นมาก โดยเฉพาะโดมแก้วขนาดใหญ่ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของอาคารรัฐสภาแห่งนี้ ออกแบบก่อสร้างโดย Wallot ระหว่างปี ค.ศ. 1884 - 1894 ใช้เป็นที่ประชุมรัฐสภาของประเทศเยอรมนี เรียกว่า Sitz des Deutschen Bundestages ถือเป็นอาคารที่สำคัญที่สุดของประเทศเยอรมัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย |
บ่าย | นำท่านถ่ายรูปกับ กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) หรือ Berliner Mauer ถูกสร้างขึ้นเพื่อแบ่งแยกเบอร์ลินตะวันออกและเบอร์ลินตะวันตก กั้นแบ่งเขตแดนตั้งอยู่ในกลางเมืองเป็นแนวยาวกว่า 160 กิโลเมตรไปตามเขตพรหมแดนตะวันตก จากการที่เยอรมนีพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ให้กับ ฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐ และสหภาพโซเวียต กำแพงจึงถูกสร้างขึ้นใน วันที่ 13 สิงหาคม ค.ศ. 1961 จนถึง 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 กำแพงเบอร์ลินถูกมองว่าเป็น “สัญลักษณ์ของสงครามเย็น” ได้เวลานำท่านเข้าชม มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral) หรือ เบอร์ลินโดม มหาวิหารนิกายโปรเตสแตนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลิน โดยมหาวิหารถูกสร้างในระหว่างปี 1894-1905 ในรูปแบบสไตล์อิตาเลียนเรอเนสซองส์ มหาวิหารเป็นที่ทำพิธีการเจิมน้ำมนต์ เข้าพิธีอภิเษกสมรส และใช้เป็นสถานที่ฝังศพของสมาชิกในราชวงศ์ ซึ่งบริเวณชั้นใต้ดินของมหาวิหารแห่งนี้ มีหลุมฝังศพของราชวงศ์โฮเฮ่นซอลเลิร์นอีกด้วย ได้เวลานำท่านสู่อเล็กซานเดอร์พลาทซ์ (Alexander Platz) จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับแม่น้ำสปรีและวิหารเบอร์ลิน นอกจากงนั้นที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางขนส่งมวลชนในเบอร์ลิน รวมไปถึงยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และเป็นจุดชมเมืองที่สวยงามอีกแห่งของเบอร์ลิน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Mercure Hotel MOA Berlin **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เบอร์ลิน – ไลฟ์ซิก – ไบรอยท์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองไลพ์ซิก (ระยะทาง 189 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เมืองซึ่งได้รับสมญานามว่า ปารีสน้อย (Little Paris) ดินแดนที่นโปเลียนพ่ายแพ้ครั้งสำคัญจนต้องถอยร่นกลับฝรั่งเศส และในที่สุดต้องถูกเนรเทศไปอยู่เกาะเอลบา สมรภูมินี้เกิดขึ้นในวันที่ 16 - 19 ตุลาคม ค.ศ. 1813 นโปเลียนรบกับพันธมิตรที่ร่วมมือกันระหว่าง ปรัสเซีย ออสเตรีย อังกฤษ รัสเซีย สวีเดน สเปน และ โปรตุเกส การรบครั้งนี้เป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่ใหญ่ที่สุดก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และเป็นจุดเปลี่ยนของขั้วอำนาจทางการทหารในยุโรป หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไลพ์ซิกถูกแบ่งเข้ามาอยู่ทางเยอรมันตะวันออก ทำให้อาคารบ้านเรือนเก่าแก่โบราณไม่ถูกเปลี่ยนแปลงสภาพไปมากนัก นำท่านถ่ายรูปศาลาว่าการเมืองเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1556 สไตล์เรเนสซองส์ ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัสประจำเมือง และจัดได้ว่าเป็นอาคารยุคเรเนสซองส์หลังใหญ่ที่สุดในเยอรมนีที่ยังคงเหลือไว้ให้คนรุ่นนี้เห็น มีความยาวเกือบ 100 เมตร เป็นอาคารสองหลังที่ถูกสร้างให้เชื่อมกัน และมีหอคอยสูง ในอาณาบริเวณเมืองเก่าของไลพ์ซิก มีพิพิธภัณฑ์ โบสถ์ สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ไม่แพ้หัวเมืองอื่นในเยอรมนี อิสระให้ท่านได้เดินเล่น และ ถ่ายรูปตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองไบรอยท์ Bayreuth (ระยะทาง 195 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) นำท่านเข้าชมพระราชวังฤดูร้อน Hermitage (Hermitage Bayreuth) (หมายเหตุ หากพระราชวังปิดปรับปรุงจะนำท่านเข้าชมภายในพระราชวังใหม่ New Palace ทดแทน) พระราชวังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซึ่งสร้างขึ้นโดยประสงค์ของขุนนางยศมากราฟ นาม จอร์จ วิลเฮม เมื่อปี ค.ศ.1715 ซึ่งเดิมที พระราชวังแห่งนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่านี้ แต่ถูกแต่งเติมภายหลังเมื่อยุคผลัดเปลี่ยนรัฐบาลมาบริหารโดยมากราฟ ฟริดริช แทน ซึ่งภายนอกล้อมรอบด้วยสวนสวยงามสไตล์บาโรกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนที่มีรูปแบบเฉพาะแห่งเดียวในประเทศเยอรมนี |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Arvena Kongress Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ไบรอยท์ – บัมแบร์ก – นูแรมเบิร์ก |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองบัมแบร์ก (Bamberg) (ระยะทาง 72 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของรัฐ บาวาเรีย (Bavaria) หรือ ไบเอิร์น (Bayern) 1 ใน 16 รัฐ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และยังเป็นรัฐที่มีอาณาเขตใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี องค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองบัมแบร์กเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1993 เมืองนี้ถือว่าเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศเยอรมนี เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองนั้นถือว่าเป็นศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี นำท่านชม อดีตศาลากลางเก่า (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำเร็กนิทซ์ (Regnitz River) โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 นำท่านเข้าชม มหาวิหารบัมแบร์ก หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่ามหาวิหารบัมแบร์กเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ (Bamberger Dom St. Peter und St. Georg) มีความสำคัญเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลของอัครบาทหลวงแห่งบัมแบร์ก โดยมหาวิหารถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1004 โดยจักรพรรดิเฮนรีที่ 2 (Henry II) ซึ่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1012 |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremburg) นำท่านเข้าชมปราสาทนูเรมเบิร์ก (Nuremberg Castle) หนึ่งในป้อมปราการยุคกลางที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ขึ้นชื่อด้านความแข็งแกร่งและการวางผังกำแพงสร้างล้อมรอบตัวปราสาทในสมัยยุคการปกครองโดยจักรวรรดิโรมัน จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremburg) เมืองใหญ่ลำดับที่สองแห่งแคว้นบาวาเรีย ซึ่งยังคงเสน่ห์ของเขตเมืองเก่าไว้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากบ้านไม้โบราณตั้งแต่สมัยยุคกลางที่ยังคงสภาพและทาสีสันงดงามไว้สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นอย่างดี นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนต์ลอเรนซ์ (St.Lorenz Church) โบสถ์เก่าแก่ประจำเมืองสไตล์โกธิค ซึ่งถูกทำลายอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนที่ชาวเมืองจะร่วมในกันบูรณะขึ้นมาใหม่ ให้สมบูรณ์ดังเดิม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Leonardo Royal Hotel Nuremberg **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | นูแรมเบิร์ก – โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ – ดินเกลบูค – ช้อปปิ้ง Ingolstadt Outlet |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg Ob Der Tauber) (ระยะทาง 78 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองเล็กๆในแคว้นบาวาเรีย ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือน ด้วยชื่อเสียงในความคลาสสิคของตัวเมืองยุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากอาคารบ้านเรือนมุงด้วยหลังคาสีแดงยังคงสภาพความเป็นเมืองเก่าหรือ Old Town ไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย นอกจากนี้ยังถูกขนาดนามว่าเป็นหนึ่งในสามเมืองของเส้นทางโรแมนติกในแคว้นบาวาเรียเหนือ นำท่านชม จัตุรัสเล็ก หรือ (Little Square : Plönlein) ด้วยรูปแบบการวางถนนและตัวอาคารก่อสร้างอย่างลงตัว ทำให้จตุรัสนี้เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด นำท่านเดินทางสู่เมืองดินเกลบูค (Dinkelsbuhl) (ระยะทาง 50 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ในรัฐบาวาเรียทางตอนใต้ของประเทศ ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งสีสันบนถนน Romantic Road ภายในเมืองรายล้อมไปด้วยบ้านเมืองหลากสีสัน และป้อมปราการที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่อง Weinmarkt หรือ Wine Market ตลาดค้าขายไวน์ที่อยู่ใจกลางเมือง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ Outlet Ingolstadt Village (ระยะทาง 178 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.15 ชั่วโมง) ช้อปปิ้งเอาท์เลตขนาดใหญ่ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้านค้ามากมาย อาทิ VALENTINO, VERSACE, SWAROVSKI, LACOSTE, JIMMY CHOO, GUESS, CALVIN KLEIN, ASICS, BALLY และอื่นๆ อีกมากมาย นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิก (Munich) เมืองทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) มิวนิกเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนีและเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป และยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมากที่สุด นับเป็นเมืองแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรก สัมผัสกลิ่นอายขนบธรรมเนียมประเพณีแบบบาวาเรียแท้ๆ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Leonardo Hotel and Residenz Muenchen **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ื 9 | มิวนิก |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์พระแม่มารี (Frauenkirche) ยอดโบสถ์เป็นทรงหัวหอมคู่ เป็นศิลปะแบบโกธิค ทำจากอิฐแดง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิวนิกที่เรารู้จักกันดีตามหนังสือท่องเที่ยวต่างๆ มีความสูงประมาณ 99 เมตร ตัวโบสถ์สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1468 แต่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้รับการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ. 1953 นำท่านชมจตุรัสมาเรียนพลัส (Marianplatz Square) ชมศาลาว่าการเมือง ซึ่งทุกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ของทุกๆวันจะมีเสียงนาฬิกาตีบอกจังหวะและตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ เป็นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ชมย่านการค้าโดยรอบจตุรัสมาเรียนพลัส ทั้งร้านค้าพื้นเมืองและตลาดสินค้าการเกษตร นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของยุโรปทั้งหลายตั้งเรียงรายกันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระในช่วงบ่ายให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกนั่งจิบกาแฟ, ทานไอศครีม, หรือดื่มเบียร์เยอรมันที่ขึ้นชื่อได้ตามร้านค้าบริเวณรอบๆ จัตุรัสแห่งนี้ |
11.00 น. | นำท่านสู่ สนามบินมิวนิก เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund |
14.25 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ TG925 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.20 ชั่วโมง) |
วันที่ 10 | กรุงเทพฯ |
06.05 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |