วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
20.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินไทย อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
วันที่ 2 | กรุงเทพฯ - ปารีส (ฝรั่งเศส) – หอไอเฟล – จัตุรัสคองคอร์ท - มหาวิหาร ซาเคร-เกอร์ - ถนนชองป์ส เอลิเซ่ส์ |
00.05 น. | ออกเดินทาง สู่ สนามบินชาร์สเดอโกลล์ (CDG) โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 930 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.05 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบิน มีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส |
07.10 น. | เดินทางถึงสนามบินชาร์สเดอโกลล์ (CDG) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ บริเวณจตุรัสทรอคาเดโร ซึ่งเป็นจุดชมหอไอเฟลที่สวยที่สุด สัญลักษณ์ของนครหลวงปารีส หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย นำท่านถ่ายรูปหอไอเฟล หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้น อิสระให้ท่านได้เก็บภาพหอไอเฟลแบบจัดเต็ม นำท่านผ่านชม สะพานแห่งประวัติศาสตร์สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (Pont Alexandre-III) สะพานที่ชาวฝรั่งเศสยกย่องว่างดงามที่สุดในปารีส เป็นสถาปัตยกรรมสะพานขนาดใหญ่ ที่ตั้งพาดผ่านแม่น้ำแซน (Seine) และเชื่อมต่อทั้งสองฝั่งแม่น้ำทั้งด้านฝั่งหอไอเฟล (Eiffel) กับฝั่งฌ็องเซลีเซ่ (Champs-Élysées) สะพานสำคัญของเมืองที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ และอยู่คู่เมืองปารีส มาตั้งแต่สมัย ค.ศ.1896 เป็นสะพานที่สวยงามและมีการประดับตกแต่งมากที่สุดแห่งหนึ่งในปารีส ด้วยความโดดเด่นของรูปแบบสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโว (Art nouveau) สะท้อนผ่านหัวมุมสะพานทั้งสี่ที่สร้างเป็นแท่นเสาสูงขึ้นไป บนราวสะพานทั้งสองฝั่งประดับโคมไฟ อีกทั้งยังมีประติมากรรมรูปปั้นม้าเพกาซัสที่ทำจากทองสำริด ทูตสวรรค์ และเทพธิดา นำท่านชม จัตุรัสคองคอร์ท (Place de la Concord) เป็นจัตุรัสที่กว้างใหญ่ที่สุดในกรุงปารีส สร้างในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 นอกจากโอเบลิสก์สูง 23 เมตร อายุกว่า 3,000 ปี และจตุรัสคองคอร์ด ยังสถานที่เป็นลานประหารชีวิตพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และ พระนางมารีอังตัวเนตด้วยเครื่องกิโยติน ลักษณะของลานนี้เป็นรูปแปดเหลี่ยม จุดเด่นคือเสาหินสูงตรงกลางที่ถูกขนาบข้างทั้งสองฝั่งด้วยน้ำพุ เสาหินนี้เป็นแบบเดียวกับที่หน้าวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน กลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี เรียกเสานี้ว่า เสาโอเบลิสก์(L’Obelisque) เสานี้ทำด้วยหินแกรนิตสีชมพู มีอักษรภาษาอียิปต์โบราณที่เรียกว่าอิเอโรกลิฟ เล่าเรื่องราว สมัยรามเสสที่2 และเรื่องราว สมัยรามเสสที่3 มีอายุประมาณ 3,300 ปี เสาต้นนี้เดิมตั้งอยู่ที่ทางเข้าวิหารอามอน เมืองลุกซอร์ ประเทศอียิปต์ ฝรั่งเศสได้มาจากอุปราชของอียิปต์ ชื่อ เมเฮเหม็ด อาลี ได้มอบเป็นของขวัญ ในสมัยพระเจ้าชารล์ที่10 ในปี 1829 พระเจ้าหลุยส์ฟิลิปจึงให้สถาปนิก ชัก อิตตอรฟ์ สร้างน้ำพุ 2 อัน บริเวณกลางลาน แล้วจึงนำเสาโอเบลิสก์ มายังบริเวณ ตรงกลางระหว่างน้ำพุอีกที เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 1836 โดยวิศวะกรที่ชื่อ อาโปลิแนร์ เลอบา เสานี้มีน้ำหนัก 227 ตัน เมื่อติดตั้งแล้วมีความสูง 22.83เมตร บริเวณโคนเสามีลายเส้นเขียนภาพฉาบด้วยสีทอง แสดงการขนย้าย ชักรอกลงเรือมายังประเทศฝรั่งเศส และความจริงที่บริเวณยอดของเสาหินนั้น มีหัวเสาครอบอยู่ด้วย แต่โดนโจรกรรมไปเมื่อราว 600 ปีก่อนคริสตกาล ทำให้เสาดูไม่งาม รัฐบาลฝรั่งเศสจึงนำแผ่นทองมาปิดไว้ ให้สวยงามขึ้น |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เนินเขามงมารตร์ เพื่อเข้าชมมหาวิหาร ซาเคร-เกอร์ บาซิลิก้า (The Basilica of the Sacred Heart of Paris) หรือ บาซิลิก้า สถานที่ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “หัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของปารีส” จุดท่องเที่ยวยอดฮิต ทางตอนเหนือ ตั้งอยู่บนยอดเนินเขามงมารตร์ (La butte Montmartre) สูงจากระดับน้ำทะเล 129 เมตร เขาแห่งเดียวในกรุงปารีส จุดชมวิวแสนวิเศษที่สามารถเห็นวิวมุมสูงที่สุดอันดับสองรองจากหอไอเฟล แต่มีความโดดเด่นสำคัญคือ สามารถเห็นหอไอเฟลตั้งอยู่กลางเมืองถ้ามองจากจุดนี้ เป็นวิวแสนโรแมนติกจับใจ ทั้งกลางวันและกลางคืน สำหรับ มหาวิหาร Sacré-Coeur หรือ มหาวิหารพระหฤทัยแห่ง Montmartre เป็นวิหารในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ถูกออกแบบโดย โปล อาบาดี (Paul Abadie) สถาปนิกที่ถูกคัดเลือกจากสถาปนิกทั้งหมด 77 รายเริ่มก่อสร้างปี ค.ศ. 1875 และเสร็จสิ้นลงในปี ค.ศ.1914 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างเกือบ 40 ปี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องรวมถึง Emily in Paris อีกด้วย นำท่านถ่ายรูปประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe หรือเรียกเต็มๆว่า Arc de triomphe de l’Etoile อ่านว่า อาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล) เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่ออกแบบโดย ฌ็อง ชาลแกร็ง มีอายุกว่า 200 ปี สร้างขึ้นปี พ.ศ. 2349 หลังจากที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้รับชัยชนะจากยุทธการเอาสเตอร์ลิทซ์ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่าสามสิบปีเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์ พ.ศ. 2376-2379 นำท่านสู่ย่านถนนแฟชั่นชั้นนำของปารีส ถนนชองป์ส เอลิเซ่ส์ (Champs Elysee) ย่านการค้าที่ประกอบด้วยโรงละคร คาเฟ่ และร้านค้าหรูหรา สองข้างทางมีต้นเชสต์นัตที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม และปลูกเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมา ถนนสายนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก (The most beautiful avenue in the world) ท่านสามารถเดินตามเส้นทางถนนสายนี้ไปสู่ประตูชัยนโปเลียน (Arch de Triumph) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญในกรุงปารีส อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของกรุงปารีสตลอดริมแม่น้ำแซนต์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (ลิ้มลองเมนูหอย Escagot) |
ที่พัก | Hotel Mercure La Defense **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ปารีส – แร็งส์ – มหาวิหารแร็งส์ – แม็ส - มหาวิหารแซงต์เอเตียนน์แห่งแม็ส |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองแร็งส์ (Reims) (ระยะทาง 163 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นช็องปาญ-อาร์แดน แคว้นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นถิ่นกำเนิดของแชมเปญ นำท่านเข้าชม มหาวิหารแร็งส์ (Reims Cathedral) มหาวิหารนอร์ทเทอดามที่ถูกใช้เพื่อเป็นสถานที่สำหรับการทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์ฝรั่งเศส โดยมหาวิหารถูกตกแต่งด้วยประติมากรรมแบบโกธิค และได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1991 ภายในมีหน้าต่างประดับกระจกสีที่สร้างระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึง 20 ประดับหน้าต่างกุหลาบที่ได้รับการประดับด้วยกระจกสี มหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นมหาวิหารที่ประกอบพิธีราชาภิเษกสวมมงกุฎการขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสตั้งแต่สมัยของพระเจ้า โคลวิสในปี ค.ศ. 496 และเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นที่นี่ก็คือการที่โจนออฟอาร์คนำกำลังของฝรั่งเศส บุกเข้ายึดมหาวิหารคืนจากอังกฤษในช่วงสงครามร้อยปีเพื่อประกอบพิธีราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 ในปี ค.ศ. 1429 นำท่านถ่ายรูปกับประตูชัยประจำเมืองแร็งส์ สิ่งก่อสร้างที่ถือได้ว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองแร็งส์ คนทั่วไปมักนิยมเรียกประตูแห่งนี้ว่า ประตูดาวอังคาร (Mars Gate) จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองแร็งส์ (City Hall) ที่มีความสวยงามยิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่คงความสวยงามในเมืองนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองแม็ส (Metz) (ระยะทาง 191 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชม.) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เป็นเมืองหลวงของจังหวัด โมแซล (Moselle) แห่งแคว้นลอแรน (Lorraine) เมืองแม็ส ตั้งอยู่บริเวณที่แม่น้ำโมแซล (Moselle River) มาบรรจบกับแม่น้ำแซย์ (Seille River) และในอดีตเมืองแห่งนี้เคยเป็นนครหลวงโบราณของอาณาจักร ออสเตรเซียของราชวงศ์กาโรแล็งเชียง โดยมีมรดกทางวัฒนธรรมเป็นโบราณสถานซึ่งเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของเมืองย้อนไปกว่า 3,000 ปี นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทสะพาน (Bridge Castle) ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างครอบสะพานข้ามแม่น้ำแซย์ และเป็นปราสาทสะพานแห่งสุดท้ายที่ค้นพบในฝรั่งเศส ให้ท่านได้เก็บภาพปราสาทหินโบราณที่สร้างเป็นสะพานทอดข้ามแม่น้ำ จากนั้นนำท่านเข้าชมมหาวิหารแซงต์เอเตียนน์แห่งแม็ส (Cathedral Saint-Etienne) มหาวิหารเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 ในสไตล์โกธิค เป็นมหาวิหารที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในมหาวิหารที่สูงที่สุดในฝรั่งเศส โดยตัวอาคารมีความสูงประมาณ 41.41 เมตร มหาวิหารมีความโดดเด่นในเรื่องหน้าต่างกระจกสีที่สวยงามและใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก นำท่านเดินทางสู่ เพลซ ดาร์ แม็ส (Place d' Armes) อันเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์และสถานที่สำคัญที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1754-1788 เป็นที่ตั้งของเหล่าอาคารสำคัญๆของเมือง อาทิเช่น ศาลาว่าการสไตล์นีโอคลาสสิค โรงแรม ตึกรัฐสภา และอื่นๆ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ อาร์เซนอล เดอ แม็ส (Arsenal de Metz) อดีตอาคารทางการทหารที่ปัจจุบันถูกใช้เป็นฮอลล์ คอนเสิร์ต (Concert halls) สร้างขึ้นในปี 1859 แล้วเสร็จในปี 1864 และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1989 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในฮอลล์ คอนเสิร์ตที่สวยที่สุดในยุโรป |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Novotel Metz Hauconcourt **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ลักเซมเบิร์ก – โรมอนด์ (เนเธอร์แลนด์) - Designer Outlet Roermond |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองลักเซมเบิร์ก (Luxembourg) (ระยะทาง 96 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชม.) ราชรัฐลักเซมเบิร์ก เป็นประเทศเล็กๆ ในทวีปยุโรป ที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังมากว่า 1,000 ปี นำท่านถ่ายรูปกับอารามนิวมุนสเตอร์ (Neumuster Abbey) ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนจากสะพานของ Upper Town เป็นอารามใหม่ที่สร้างครอบอารามเดิมหลังการบูรณะในปี ค.ศ.1606 อารามแห่งนี้เคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษในสมัยสงครามกองทัพของ นโปเลียน และในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพนาซี ได้ใช้อารามแห่งนี้เป็นที่คุมขังนักโทษทางการเมืองแห่งลักเซมเบิร์กอีกด้วย ปัจจุบันอารามแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมแห่งเมืองลักเซมเบิร์ก เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพอารามนิวมุนสเตอร์ที่ออกแบบสร้างกำแพงเมืองโบราณล้อมรอบ นำท่านชม เพลส เดอ อาร์ม (Place D’ Arms) หรือ จัตุรัสใจกลางเมืองจัดเป็นย่านเมืองเก่าแห่งลักเซมเบิร์ก หรือ ที่หลายคนเรียกว่า "เมืองแห่งแกรนด์ดยุค" ในขณะที่ย่านเก่าแก่ที่สุดที่เรียกว่า “Wenzel Walk” ซึ่งมีหมู่อาคารหลายแห่งในเขตเมืองเก่า ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีเยี่ยม มีทั้งปราสาทและป้อมปืนสำคัญ มหาวิหารที่สร้างในศตวรรษที่ 17 และบ้านเรือนต่างๆ รวมถึงสถานที่สำคัญทางราชการ นำท่านถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมืองลักเซมเบิร์ก (City Hall) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของลักเซมเบิร์ก อยู่ใกล้ๆ พระราชวัง Guillaume II และจัตุรัสกลางเมือง เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างแบบสไตล์นีโอคลาสิค ถือเป็นศูนย์รวมของรัฐบาล รวมทั้งใช้เป็นสำนักงานส่วนตัวของนายกเทศมนตรีเมืองลักเซมเบิร์ก และใช้รับรองแขกต่างชาติด้วย จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ อาคารรัฐสภาแห่งลักเซมเบิร์ก (Parliament House) ตั้งอยู่ย่าน Kirchberge เป็นสถานที่สำคัญของลักเซมเบิร์ก ใช้ประชุมสภา ซึ่งลักเซมเบิร์กนั้นปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่นี่มีสำนักงานเลขาธิการของรัฐสภายุโรป |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองโรมอนด์ Roermond (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) เมืองทางตอนใต้ของเนเธอร์แลนด์ นำท่านสู่ Designer Outlet Roermond เอาท์เล็ตขนาดใหญ่ ขายของลดราคาตั้งแต่ 30% ไปถึง 70% มีสินค้า Brand Name หลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ ทั้ง นาฬิกา กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า อิสระให้ทุกท่านช้อปปิ้งจุใจกับสินค้าแบรนด์เนมตามอัธยาศัย อาทิเช่น Armani, Bally, Burberry, Gucci, Hugo Boss, Lacoste, Prada, Samsonite, และแบรนด์ชั้นนำอื่นๆอีกมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Crown Hotel Eindhoven **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | กีธูร์น - อัมสเตอร์ดัม |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองกีธูร์น (Giethoorn) (ระยะทาง 184 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังแบบก้าวกระโดดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวจีนตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 2017 เป็นต้นมา โดยสถิติที่ถูกบันทึกไว้คือมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนหมุนเวียนราว 2 แสนคนต่อปี ได้เวลานำท่านล่องเรือชมความสวยงามของหมู่บ้านกีธูร์น ชมภูมิทัศน์อันสวยงามและความเงียบสงบของหมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยลำคลอง เมืองกีธูร์นเป็นเมืองไร้มลภาวะ เนื่องจากเป็นเมืองคาร์ฟรี ซึ่งชาวเมืองสัญจรด้วยเรือเท่านั้น จนได้รับขนานนามว่าเป็นนครเวนิสแห่งแดนเหนือ หรือนครเวนิสแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ มีประชากรอาศัยเพียงราว 2600 คน (***การให้บริการล่องเรือชมหมู่บ้านมีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน หากบริษัทเรือไม่สามารถให้บริการกับคณะได้ จะทำการคืนค่าล่องเรือให้กับทุกท่านและนำท่านเดินชมหมู่บ้านแทน) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 127 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเทล (Amstel) ซึ่งได้ชื่อว่ามีลำคลองลดเลี้ยวไปรอบเมืองถึง 165 คลองด้วยกัน เมืองนี้เริ่มก่อตั้งประมาณคริสตศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (Rijksmuseum) หรือพิพิธภัณฑ์ริกจ์ สถานที่ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของดินแดนกังหันลมได้เป็นอย่างดีโดยพิพิธภัณฑ์ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200 ปีแห่งนี้คือพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่รวบรวมวัตถุโบราณ งานศิลปะเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไว้มากมายกว่า 8,000 ชิ้น จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของ จัตุรัสแดม (Dam Square) เขตย่านใจกลางเมือง เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ที่มีสถานที่สำคัญๆ ตั้งอยู่มากมาย อย่างมุมหนึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ใหม่ ที่สร้างขึ้นในตอนปลายศตวรรษที่ 14 และผ่านการบูรณะซ่อมแซม ปรับปรุงจนถึงสร้างใหม่หลายต่อหลายจนมีความสวยงามน่าชมเป็นอย่างยิ่ง นำท่านถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์แห่งเสรีภาพ เป็นรูปทรงกรวยสีขาวสูงประมาณ 70 ฟุต สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1956 เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ผู้ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝั่งตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ยังมีอาคารเก่าแก่ที่สวยงามและสำคัญคือ พระราชวังหลวง (Koninklijk Plaeis) หรือ วังหลวง ที่ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1655 มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นที่ว่าการอำเภอ สร้างโดยสถาปนิกที่ชื่อ ยาคอบ ฟาน กัมเปน ตรงหน้าจั่วของตึกแห่งนี้มีรูปปูนปั้นที่สวยงาม เป็นรูปเทพีแห่งทะเล และสัตว์ในเทพนิยายกรีก ต่อมาในปี ค.ศ. 1801 หลังจากที่เนเธอร์แลนด์ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส พระราชวังแห่งนี้กลายเป็นที่ประทับของพระเจ้าหลุยส์ โบนาปาร์ต น้องชายนโปเลียน โบนาปาร์ต จนถึงปี ค.ศ. 1810 เมื่อฝรั่งเศสหมดอำนาจลงก็ยังคงใช้เป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์เนเธอร์แลนด์ และในปี ค.ศ.1967 สมเด็จพระราชินีนาถจุเลียนาได้ทรงย้ายไปประทับอยู่ที่เมืองเฮก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Mercure Hotel Amsterdam City ****หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | อัมสเตอร์ดัม – สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ – รอตเทอร์ดาม – แอนต์เวิร์ป (เบลเยียม) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ (Keukenhof) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ที่ชานเมืองลิซเซ่ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทิวลิปที่ใหญ่และสำคัญยิ่งของฮอลแลนด์ เดิมเป็นสวนสาธารณะมาก่อน ต่อมาสมาคมผู้ส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประเภทไม้หัวแห่งเมืองลิซเซ่ ได้ใช้สวนแห่งนี้ส่งเสริมการปลูกไม้หัวพันธุ์ใหม่ๆ โดยแบ่งที่ให้กับบริษัทผู้ผลิตไม้หัวเป็นผู้ปลูกและเข้าบำรุงรักษา ซึ่งก็ทำให้เกิดพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นทุกปี ผู้ซื้อทิวลิปจากทั่วโลกจะมาชมและคัดเลือกทิวลิปที่ต้องการจากแปลงสาธิต ในสวนเคอเคนฮอฟแห่งนี้ นับเป็นสวนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยทิวลิปที่มีมากกว่า 7 ล้านต้นในแต่ละปี รวมทั้งไม้หัวอื่นๆ เช่น ลิลลี่ แดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ ออกดอกบานสะพรั่งอยู่ดูละลานตา สวนได้ถูกออกแบบไว้อย่างสวยงาม ประกอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีทางเดินร่มรื่น บางตอนก็มีงานประติมากรรมประดับสวนอยู่เป็นระยะ มีสระน้ำและน้ำพุ มีศาลาจัดแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับดอกไม้มากมาย มีการจัดสวนตัวอย่าง การวางแผนจัดปลูกไม้ดอกไม้ใบ รวมทั้งคอฟฟี่ช็อปและร้านขายอาหาร เปิดให้เข้าชมประมาณกลางเดือนมีนาคม ไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี อิสระให้ท่านเดินชมสวนดอกไม้ตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองรอตเทอร์ดาม (Rotterdam) (ระยะทาง 89 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมาส นับเป็นเมืองท่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีความยาวของพื้นที่เทียบท่าเรือยาวถึง 40 กิโลเมตร รอตเทอร์ดามมีลักษณะต่างจากเมืองอื่นๆในเนเธอร์แลนด์คือเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ และในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น เมืองแห่งสถาปัตยกรรม นำท่านเที่ยวชม Markthal แลนด์มาร์คของเมือง ตลาดและออฟฟิศสำนักงานทันสมัยนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 2009 ที่ลานกว้างใจกลางเมือง ปัจจุบันเป็นแหล่งรวมร้านอาหารคาเฟ่ของ Rotterdam ภายใต้สถาปัตยกรรมหลังคาโค้งสูง 40 เมตรรูปตัวยูคว่ำ สร้างด้วยหินธรรมชาติสีเทาเข้ม ด้านหน้าและหลังติดกระจกดูคล้ายบานหน้าต่างให้คนข้างนอกมองทะลุเข้าไปข้างในและยังช่วยปล่อยแสงธรรมชาติให้ส่องผ่านเข้ามา แวะถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการประจำเมืองรอตเทอร์ดาม (City Hall of Rotterdam) อาคารซึ่งรอดพ้นจากการโดนถล่มเมืองโดยกองทัพของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นำท่านถ่ายรูปบ้านลูกเต๋าไคก์คูมูส (Kijk Kubus The Cubic Houses) กลุ่มอาคารเหลืองขาวทรงลูกเต๋า 39 หลัง ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบสาขาประหยัดพลังงานโดยสถาปนิกนาม Piet Bloem นำท่านเดินทางสู่ เมือง แอนต์เวิร์ป Antwerp (ระยะทาง 102 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | NH Collection Antwerp Centre/ Mercure Antwerp City Center **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | แอนต์เวิร์ป – บรูจส์ - เกนท์ – บรัสเซลส์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชม เมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) แวะถ่ายรูปกับ โบสถ์พระแม่ (Cathedral of Our Lady) เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นในแบบโกธิค ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1352-1521 เนื้อที่กว่า 8,000 ตารางเมตร ที่ถือได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปยุคสมัยนั้น นอกจากนี้ หอระฆังของโบสถ์พระแม่แห่งแอนต์เวิร์ป ยังถูกบรรจุเป็น 1 ใน 56 หอระฆังที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO WORLD HERITAGE) โดยหอระฆังของโบสถ์ในประเทศเบลเยียมติดโผในลิสกว่า 33 แห่งเลยทีเดียว จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรูจส์ (Bruges) (ระยะทาง 106 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ช.ม.) นำท่านชม เมืองบรูจส์ (Bruges) เมืองที่ได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2000 เมืองบรูจจ์เป็นเมืองริมชายฝั่งทะเลที่โด่งดังเมืองหนึ่งของประเทศเบลเยี่ยม เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยคูเมืองถึงสองชั้น ซึ่งเป็นการป้องกันข้าศึกศัตรูในสมัยก่อน ปัจจุบันบ้านเรือน, อาคาร, และโบสถ์ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดิมคือสถาปัตยกรรมเฟลมมิชและเรเนซองส์ที่ดูวิจิตรสวยงามดุจดั่งมนต์ขลังตึกรามบ้านช่องดูเป็นระเบียบ ถนนหนทางก็ดูสะอาดตา นำท่านเดินชม จัตุรัสใจกลางเมือง (Burg Square) หอระฆังเก่าแก่ ที่มีประวัติอันยาวนาน และมีประติมากรรมที่งดงาม อิสระให้ท่านเก็บภาพเมืองที่มีสีสันและความสวยงามตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเข้าชม The Basilica of the Holy Blood ซึ่งเป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 12 โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบรูจส์ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
13.30 น. | นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนท์ (Ghent) (ระยะทาง 56 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม.) นำท่านชม เมืองเกนท์ (Ghent) เมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดในฟลานเดอร์สตะวันออก ในบริเวณเฟล็มมิชในเบลเยียม เดิมตัวเมืองเริ่มจากการตั้งถิ่นฐานที่ปากแม่น้ำเชลดท์และแม่น้ำลิส ในยุคกลาง เกนท์ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและมั่งคั่งที่สุดในตอนเหนือของยุโรป นำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารบ้านเรือนสีสันหลากหลายที่รายล้อมรอบจัตุรัสใจกลางเมือง นำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง และกลุ่มอาคารบ้านเรือนที่สร้างเรียบริมคลอง บ่งบอกถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองเกนท์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์ บราโว (St. Bravo Cathedral) สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชาร์ลส ที่ 5 เป็นศิลปะแบบโกธิค ภายในมหาวิหารประดับประดาด้วยกระจกสีและแท่นบูชารวมไปถึงงานจิตรกรรมและประติมากรรมที่มีค่าหลายชิ้น ทั้งผลงานประติมากรรมหินอ่อนแบบบาโรค และธรรมาสน์หรือแท่นสำหรับเทศนาสั่งสอนของนักบวช ศิลปะแบบร็อกโคโค่ งดงามมาก นำท่านถ่ายรูปกับ สะพานเซนต์ไมเคิล (St Michael's Bridge) สถานที่แห่งความโรแมนติกในเมืองเกนต์ ใช้ข้ามแม่น้ำเลอิและเชื่อมต่อย่านเซนต์ไมเคิล และ "Patershol" แน่นอนว่าจุดดึงดูดใจของสะพานแห่งนี้คือทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองแบบรอบด้าน ด้านหน้าสามารถมองเห็นถนนนนยอดนิยมกราสไลและโคเรนไลโดยมีฉากหลังเป็นปราสาสาทแห่งเคานต์จากระยะไกล สะพานนี้มีความเก่าแก่ย้อนไปจนถึงศตวรรษที่ 13 เมื่อครั้งยังเป็นสะพานไม้ แต่ถูกทำลายบ่อยครั้งเนื่องจากน้ำท่วมหรือสงคราม ทำให้สะพานหินถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 จนถึงปัจจุบันตัวสะพานไม่เพียงแต่มีส่วนโค้งตรงกลางที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังขนาบข้างด้วยส่วนโค้งขนาดเล็กอีกสองส่วนเพื่อเปิดเป็นทางเดินลอดใต้สะพาน ที่ด้านบนสุดของซุ้มประตูกลางบนสะพานยังมีการประดับด้วยรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของนักบุญเชนต์ไมเคิล โดยมีมังกรดิ้นอยู่ที่เท้า ซึ่งมาจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ทางศาสนา ได้เวลานำท่านกลับสู่ เมืองบรัสเซลส์ (ระยะทาง 56 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ช.ม.) เมืองหลวงของเบลเยียม และยังเป็นศูนย์กลางด้านการเมืองนานาชาติแห่งสหภาพยุโรป อีกทั้งยังเป็นศูนย์บัญชาการกลางขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO อีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Thon Hotel Brussel City Center **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | บรัสเซลส์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชม เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) เมืองหลวงของเบลเยียม และยังเป็นศูนย์กลางด้านการเมืองนานาชาติแห่งสหภาพยุโรป อีกทั้งยังเป็นศูนย์บัญชาการกลางขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO อีกด้วย นำท่านเข้าสู่ จตุรัสกรองด์ปลาซ (Grand Place of Brussels) ถือเป็นหัวใจสำคัญของเมืองบรัสเซลส์ (Brussels) ซึ่งชาวเบลเยียมยกย่องให้ว่าเป็น จัตุรัสที่งดงามที่สุดในโลก เป็นกลุ่มอาคารที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมทั้งบาโรก โกธิค นีโอ-โกธิค และเป็นสถานที่ซึ่งองค์กรยูเนสโกยกย่องให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 นำท่านแวะถ่ายรูปกับ แมนเนคิน พิส (Manneken Pis) หรือหนูน้อยยืนฉี่ คือ น้ำพุเล็กๆที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมตึกร้านขายช็อกโกแลต มีรูปปั้นทองแดงของเด็กผู้ชายกำลังยืนฉี่ พ่นเป็นสายน้ำพุออกมา หน้าตาสบายอกสบายใจ ตำนานมีอยู่ว่า เมื่อครั้งที่กรุงบรัสเซลส์ยังตกอยู่ในการทำสงคราม และถูกฝ่ายตรงข้ามแอบนำระเบิดมาวางไว้ที่กำแพงเมือง เพื่อการโจมตี แต่มีเด็กน้อยนามว่า จูเลียนสกี (Julianske) ไปพบสายชนวนระเบิดที่กำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดทำให้สามารถป้องกันเมืองบรัสเซลส์ทั้งเมืองไว้ได้ ชาวเมืองจึงแกะสลักรูปปั้นไว้เพื่อเป็นตัวแทนในการยกย่องและระลึกถึงความกล้าหาญ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย |
10.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน บรัสเซลส์ เพื่อให้ท่านมีเวลาดำเนินการเรื่องทำคืนภาษี (TAX Refund) |
13.30 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 935 (ใช้เวลาในการเดินทาง 11.05 ชม.) |
วันที่ 9 | กรุงเทพมหานคร |
05.35 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |