วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
20.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอินสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 สนามบินสุวรรณภูมิ |
23.40 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดย สายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ส โดยเที่ยวบิน OS 26 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.30 ชั่วโมง) โดยสายการบินฯ มีบริการอาหาร 2 รอบ คือ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า |
วันที่ 2 | เวียนนา – เยอร์ - บูดาเปสต์ (ฮังการี) – เข้าชมอาคารรัฐสภา – บูดา คาสเซิล ฮิลล์ |
05.35 น. | เดินทางถึงสนามบินเวียนนา ประเทศออสเตรีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่เมืองเยอร์ (Gyor) (ระยะทาง 106 ก.ม. ใช้เวลา 1.15 ช.ม.) เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของฮังการี ซึ่ง เป็นเมืองหลวงของเทศมณฑลเยอร์-โมซง-โซพรอน และภูมิภาคทรานส์ดานูเบียตะวันตก ตั้งอยู่บนถนนสายสำคัญสายหนึ่งของยุโรปกลาง กึ่งกลางระหว่างบูดาเปสต์และเวียนนา เยอร์เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ Széchenyi István และคณะบัลเล่ต์แห่งเยอร์ที่ได้รับการยกย่องในระดับสากล ซึ่งจัดแสดงในโรงละครแห่งชาติฮังการี นำท่านถ่ายรูปศาลาว่าการเมืองเยอร์ สถานที่สำคัญของเมืองแห่งนี้เป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิก เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1898 มีหอคอยสูง 59 เมตรและหลังคาสีเขียวที่โดดเด่น ที่ด้านนอกศาลากลาง มีสัญลักษณ์ตราแผ่นดินของเยอร์ขนาดใหญ่ที่เห็นได้อย่างชัดเจน จากนั้นนำท่านชมเมืองเก่าเยอร์ และชมจัตุรัสเซแชนยิ (Széchenyi Sqaure) จตุรัสกลางเมืองเยอร์ เป็นจัตุรัสสไตล์บาโรกที่ล้อมรอบไปด้วยอาคารเก่าแก่ โรงแรม ร้านอาหารที่มีที่นั่งหน้าร้าน และร้านค้าที่น่าสนใจ อิสระให้ท่านเดินเล่นรอบๆ จัตุรัส ได้เวลานำท่านเดินสู่นครบูดาเปสต์ (Budapest) (ระยะทาง 120 ก.ม. ใช้เวลา 1.30 ช.ม.) นครหลวงของประเทศฮังการี ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของสหภาพยุโรป เป็นเมืองที่ตั้งอยู่สองฝั่งโดยมีแม่น้ำดานูบ (Danube River) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของทวีปยุโรป คั่นกลางแยกเป็นเมืองเก่า และเมืองใหม่ อันได้แก่เมือง “บูดา” และ “เปสต์” อันเป็นที่มาของคำว่า “บูดาเปสต์” |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเข้าชมอาคารรัฐสภาฮังการี เป็นอาคารรัฐสภาที่ชาวฮังกาเรียนภูมิใจว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอกอทิคที่ดูคลาสสิกด้วยหลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ โดยรูปแบบอาคารได้รับอิทธิพลมาจากอาคารรัฐสภาแห่งลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ แมทธิอัส (Matthias Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ได้รับผลกระทบจากการปกครองในแต่ละยุคแต่ละสมัย อาทิ ถูกดัดแปลงให้เป็นมัสยิดเมื่อครั้งถูกยึดครองด้วยชาวเติร์ก ซึ่งมีหลังคาสลับสีอันสวยงามของ สถาปัตยกรรมแบบนีโอ โบสถ์นี้เคยใช้จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทธิอัส ซึ่งพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก ในสมัยของพระองค์ถือว่าเป็นสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาอย่างแท้จริง สิ่งก่อสร้างที่งดงามเกิดขึ้นมากในเมืองหลวงและเมืองอื่นๆ ซึ่งโบสถ์นี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกเรียบร้อยแล้ว นำท่านถ่ายรูปกับ จัตุรัสวีรบุรุษ (Hero’s Square) มีอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญของประเทศฮังการีเป็นจำนวนมาก ความยิ่งใหญ่และสง่างามของมันคือตัวชี้วัดความภาคภูมิใจของชาวฮังการีทุกคนที่มีต่อประเทศ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านขึ้นรถรางไฟฟ้าสู่ เนินบูดา คาสเซิล (Buda Castle Hill) สำหรับปราสาทบูดานั้น ตั้งอยู่ในฝั่งบูดา ของกรุงบูดาเปสต์ และเป็นที่ตั้งของแกเลอรี่และพิพิธภัณฑ์ที่สวยงาม จากเนินบูดาฮิลล์แห่งนี้ท่านสามารถมองเห็นความสวยงามของอาคารบ้านเรือนฝั่งเปสต์ได้อีกด้วย อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมและเก็บภาพตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Expo Hotel Budapest **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | บูดาเปสต์ – ฮอลโลโก – เอ็กเกอร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองฮอลโลโก (Holloko) (ระยะทาง 97 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 1987 ครอบคลุมหมู่บ้านเก่าแก่, ปราสาทโบราณและบริเวณใกล้เคียง นำท่านเข้าชมปราสาทฮอลโลโก (Holloko Castle) ปราสาทหินโบราณที่สร้างบนเนินหินใหญ่ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากหมู่บ้าน ปราสาทแห่งนี้สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณช่วงศตวรรษที่ 11 และถูกทำลายเสียหายอย่างหนักจากสงครามฮังกาเรียน-เติร์กในปี 1711 และได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่และเปิดให้เข้าชมได้ในปี 1996 โดยใช้เวลาบูรณะกว่า 30 ปี นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทโบราณมรดกโลกแห่งเมืองฮอลโลโก สมควรแก่เวลานำท่านชมหมู่บ้านโบราณ (Old Village Museum) ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ยังคงดำเนินชีวิตและแต่งกายแบบชาวฮังกาเรียนโบราณ ยังคงรักษาศิลปวัฒนธรรมและประเพณีโบราณอันดีงามของชาวฮังกาเรียน โดยหมู่บ้านนี้เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ได้รับการยกย่องให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองเอ็กเกอร์ (Eger) (ระยะทาง 87 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมปราสาทเอ็กเกอร์ (Eger Castle) ปราสาทโบราณเดิมสร้างขึ้นในปี 1241 เพื่อต่อต้านการรุกรานของชาวมองโกล และได้ถูกทำลายลง หลังจากนั้นบิชอปแห่งเอ็กเกอร์ ได้ทำการสร้างปราสาทขึ้นใหม่บนเนินเข้าสูง ปราสาทแห่งนี้ได้รับการบูรณะในศิลปะแบบกอทิคเมื่อปี 1470 และยังใช้เป็นป้อมปราการในการต่อต้านการรุกรานของชาวเติร์กในปี 1552 อีกด้วย นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของปราสาทโบราณแห่งเมืองเอ็กเกอร์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสโดโบ (Dobo square) จัตุรัสใจกลางเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเอ็กเกอร์ในอดีต อาคารบ้านเรือนโบราณที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นำท่านเที่ยวชมและเก็บภาพความสวยงามของเมืองเอ็กเกอร์ ได้เวลานำท่านเข้าชมมหาวิหารเซ็นต์จอห์น (Basilica of St. John the Apostle) ซึ่งเป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับสามของฮังการี สร้างในศิลปะแบบนีโอคลาสสิกในปี 1830 ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองมิสโคล์ก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Calimbra Wellness Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | โบลดอคโก – โคเซตซ์ (สโลวาเกีย) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองโบลดอคโค (Boldogko) (ระยะทาง 127 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมปราสาทโบลดอคโค (Boldogko Castle) เป็นป้อมปราสาทโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่13 ป้องกันการรุกรานจากชนเผ่ามองโกล เป็นป้อมปราการที่ใช้ป้องกันเมืองและเส้นทางการเดินทางสู่เมืองโคเซตซ์ (Kosice) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศสโลวาเกีย ป้อมแห่งนี้ได้รับการบูรณะในปี 2002 ภายในจัดแสดงประวัติศาสตร์ทางการทหาร, เครื่องทรมานและคุมขังนักโทษ ตลอดจนธงและ สัญลักษณ์ตราต่างๆ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองโคเซตซ์ (Kosice) เมืองชายแดนของประเทศสโลวาเกีย (ระยะทาง 50 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที)
|
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเข้าชมโบสถ์เซ็นต์อลิซาเบธ (St. Elisabeth’s Cathedral) เป็นโบสถ์แบบกอทิคสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 ในเมืองโคเซตซ์ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในสโลวาเกียและเป็นหนึ่งในวิหารแบบกอทิคทางตะวันออกสุดของทวีปยุโรป ได้เวลานำท่านชมส่วนศูนย์ประวัติศาสตร์แห่งเมืองโคเซตซ์ (Kosice Historical Center) อันประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมและพระราชวังเดิม เรียกได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับพระราชวังจาคาโบฟ (Jakabov Palace) และพระราชวังอองดราซซี่ (Andrassy Palace) ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นศูนย์ราชการของเมืองโคเซตซ์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอคอยประจำเมือง (St. Urbans Tower) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hotel Yasmin Kosice **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | โคเซตซ์ – ปราสาทสปิส – ถ้ำโดฟซินสกา ไอซ์ เคฟ – บันสกาบิสตริกา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ปราสาทสปิส (Spis Castle) สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 12 และเป็นหนึ่ง ในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในสโลวาเกียและแม้แต่ในยุโรป ในปี 1993 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เนื่องจากมีพระราชวังโรมัน เหลือเพียงพระราชวังไม่กี่แห่งที่สร้างขึ้นในลักษณะนี้ในยุโรป ปราสาทเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมป้อมปราการยุคกลาง และด้วยเหตุนี้ ปราสาทแห่งนี้จึงยังคงไม่มีใครพิชิตได้ แม้ว่าจะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากผู้รุกรานชาวตาตาร์ในปี 1241 นำท่านชมความสวยงามของป้อมปราสาทนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ถ้ำซิลิกา ไอซ์ เคฟ (Dobsinska Ice Cave) (ระยะทาง 61 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมถ้ำน้ำแข็งซึ่งเป็นหนึ่งในหมู่ถ้ำที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลกของประเทศสโลวาเกีย ถ้ำแห่งนี้เดิมเป็นบริเวณกลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งที่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าน้ำแข็งซึ่งเหมือนหินงอกหินย้อยมีอายุกว่า 2,000 ปี ตั้งแต่สมัยยุคสำริด (Bronze Age) ตัวถ้ำมีความยาวประมาณ 1,100 เมตรลึกประมาณ 110 เมตร (หมายเหตุ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการเดิน หรือปัญหาหัวเข่า ไม่แนะนำให้ลงเดินภายในถ้ำ และท่านควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย) นำท่านเดินทางสู่เมืองบันสกาบิสตริกา (Banska Bystrica) (ระยะทาง 100 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง) นำท่านชมทาวน์ คาสเซิล คอมเพล็กซ์ (Town Castle Complex) ซึ่งเป็นศูนย์รวมความเจริญรุ่งเรืองในอดีตและหมู่อาคารบ้านเรือน โบสถ์โบราณที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอนาฬิกาประจำเมือง (Clock Tower), โบสถ์ประจำเมือง (Old Church) และจัตุรัสอิสรภาพ (Slovak Uprising Square)
|
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Wellness and Spa Hotel Kaskady **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | บิสตริกา –บันสกา สติอาฟนิชา – ปราสาทเทพนิยายโบจ์ไนซ์ – หมู่บ้านโบราณชิมานี |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองบันสกา สติอาฟนิชา (Banská Štiavnica) (ระยะทาง 43 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที) ซึ่งตั้งอยู่กลางเทือกเขา Štiavnica ทางตอนกลางของสโลวาเกีย และได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลก มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ในศตวรรษที่ 18 และ 19 เมืองนี้เป็นศูนย์กลางที่ร่ำรวยที่สุดและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในรัชสมัยราชวงศ์ฮับส์บูร์กปกครอง เนื่องจากกลายเป็นศูนย์กลางด้านการขุด ทองคำและเงิน นำท่านเข้าชมปราสาทเก่า (Old Castle) หรือ Stary Zamok ซึ่งเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์หลักของเมือง เดิมเป็นโบสถ์ประจำเมืองซึ่งสร้างในสมัยศตวรรษที่ 13 และได้บูรณะเป็นป้อมปราการในช่วงศตวรรษที่ 16 จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับปราสาทใหม่ (New Castle) ซึ่งได้รับการบูรณะเป็นป้อมปราการในช่วงศตวรรษที่ 16 เช่นเดียวกับปราสาทใหม่ โดยทำหน้าที่เป็น watch tower ในช่วงการรุกรานของชาวเติร์ก สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองโบจ์ไนซ์ (Bojnice) (ระยะทาง 70 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ช.ม.) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมปราสาทโบจ์ไนซ์ (Bojnice Castle) เป็นปราสาทจากยุคกลางสุดโรแมนติก แรกเริ่มสร้างด้วยไม้และค่อยเปลี่ยนเป็นหิน แล้วภายหลังมีการสร้างและปรับปรุงอีกหลายครั้ง จึงมีบางส่วนที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคและเรอเนซองส์แบบดั้งเดิมจากศตวรรษที่ 12 รอบๆปราสาทล้อมรอบด้วยสวนที่มีพืชพันธุ์หลายชนิด รวมทั้งสวนสัตว์โบจ์ไนซ์ก็อยู่ที่สวนนี้ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในสโลวาเกีย และยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปราสาทที่สวยที่สุดในสโลวาเกีย” อีกด้วย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านโบราณชิมานี (Cicmany) (ระยะทาง 40 ก.ม. ใช้เวลา 45 นาที) หมู่บ้านโบราณเล็กๆที่มีบ้านไม้ลวดลายสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวสโลวาเกียเมื่อ 150 ปีที่แล้ว นำท่านชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหมู่บ้านชิมานี หมู่บ้านเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาวสโลวาเกีย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเตรนซีน (Trencin) (ระยะทาง 56 ก.ม. ใช้เวลา 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองทางทิศตะวันตกของสโลวาเกีย บนฝั่งแม่น้ำวาก ใกล้กับชายแดนสาธารณรัฐเช็ก เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 9 ของประเทศ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Hotel Spirito by Spiwalk **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ปราสาทเตรนซีน – ออลอโมตซ์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชมเมืองเตรนซีน (Trencin) ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญอีกเมืองของสโลวเกีย และยังคงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 นำท่านเข้าชมปราสาทเตรนซีน (Trencin Castle) ปราสาทแห่งนี้ได้ปกป้องเส้นทางการค้าที่เชื่อมต่อภูมิภาคอูเกรียตอนเหนือและเมืองเหมืองแร่ในสโลวาเกียตอนกลางกับโบฮีเมีย โมราเวีย ซิลีเซีย และโปแลนด์ ประวัติความเป็นมาของปราสาทมีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 11 โดยประกอบด้วยหอคอยที่อยู่อาศัยและหอกลม ซึ่งยังคงพบเห็นได้ในลานด้านบน และเป็นจุดชมวิวเมืองเตรนซีนได้ดีอีกแห่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่เมืองออลอโมตซ์ (Olomouc) (ระยะทาง 147 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ช.ม.) เป็นเมืองทางตะวันออกของเช็ก บนฝั่งแม่น้ำโมราวา เป็นเมืองหลวงของเขตออลอโมตซ์ ถือเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 ของประเทศ คาดการว่าเมืองนี้ถือกำเนิดมาจากป้อมของชาวโรมัน ตกเป็นของฮังการีใน ค.ศ. 1478 และเป็นเมืองหลวงของแคว้นมอเรเวียจนถึง ค.ศ. 1640 สวีเดนเข้าทำลายใน ค.ศ. 1642 ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นที่มั่นของออสเตรีย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองเตลช์ (Telc) (ระยะทาง 158 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเช็ก สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยพื้นที่ของเมืองเตลช์จะล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้ง 3 ด้าน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่มรดกโลกจากยูเนสโก UNESCO World Heritage บ้านในนี้มีเพียง 71 หลัง ก่อสร้างด้วยอิฐปูน แต่งเติมสีสันสดใส ซึ่งแต่เดิมสร้างด้วยไม้แต่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อสร้างใหม่จึงก่อด้วยหิน-ปูนแทน ในสไตล์เรอเนซองส์ นำท่านเข้าชม ปราสาทเตลช์ (Telc Chateau) สร้างขึ้นประมาณศตวรรษที่ 15 เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์ ซึ่งเดิมที่ถูกสร้างขึ้นมาในสถาปัตยกรรมแบบกอทิก แต่ต่อมาถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์โดยขุนนาง Oldrich III แห่งครอบครัว Zacharis of Hradec ซึ่งเป็นครอบครัวที่ปกครองเมืองนี้ต่อจาก King John of Luxembourg ได้เวลานำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่า (Old town) ซึ่งมีหมู่อาคารโบราณสีพาสเทล ที่สวยงามและควรค่าแก่การไปเยือน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | NH Collection Olomouc Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | ออลอโมตซ์ – ลิโทมิช – เตลช์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองลิโทมิช (Litomysl) (ระยะทาง 100 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) นำท่านเข้าชมปราสาทลิโทมิช (Litomysl Castle) เป็นปราสาทยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสาธารณรัฐเช็ก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองและได้รับการยกย่องจากองค์การUNESCO ในปี 1999 เป็นปราสาทสร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 ในศิลปะแบบเรอเนซองส์ และได้รับการต่อเติมในศิลปะแบบบาโรคในสมัยศตวรรษที่ 18 นำท่านเข้าชมความสวยงามที่สะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีต จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองเก่าลิโทมิช (Old Town) นำท่านเยือนจัตุรัสประจำเมือง และโบสถ์แห่งซาร์ส (Tvar Church) อิสระให้ท่านเที่ยวชมและถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองเตลช์ (Telc) (ระยะทาง 158 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐเช็ก สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 โดยพื้นที่ของเมืองเตลช์จะล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้ง 3 ด้าน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่มรดกโลกจากยูเนสโก UNESCO World Heritage บ้านในนี้มีเพียง 71 หลัง ก่อสร้างด้วยอิฐปูน แต่งเติมสีสันสดใส ซึ่งแต่เดิมสร้างด้วยไม้แต่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อสร้างใหม่จึงก่อด้วยหิน-ปูนแทน ในสไตล์เรอเนซองส์ นำท่านเข้าชม ปราสาทเตลช์ (Telc Chateau) สร้างขึ้นประมาณศตวรรษที่ 15 เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์ ซึ่งเดิมที่ถูกสร้างขึ้นมาในสถาปัตยกรรมแบบกอทิก แต่ต่อมาถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรอเนซองส์โดยขุนนาง Oldrich III แห่งครอบครัว Zacharis of Hradec ซึ่งเป็นครอบครัวที่ปกครองเมืองนี้ต่อจาก King John of Luxembourg ได้เวลานำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่า (Old town) ซึ่งมีหมู่อาคารโบราณสีพาสเทล ที่สวยงามและควรค่าแก่การไปเยือน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hotel Artaban/ Hotel Telc**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | เตลช์ – เวียนนา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่กรุงเวียนนา (Vienna) (ระยะทาง 153 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) นครหลวงแห่งดนตรีที่แฝงไว้ด้วยความโรแมนติคอันเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นนครที่มีความทันสมัยแต่แฝงเร้นอยู่ภายใต้สถาปัตยกรรมคลาสสิกอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่ทางตอนกลางของสหภาพยุโรป เชื่อมต่ออารยธรรมระหว่างยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตก นำท่านชมความงามของวิหารเซนต์ สตีเฟน (St. Stephen’s Cathedral) วิหารศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเวียนนา สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ตั้งอยู่ใจกลาง เมืองเก่า จัดเป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งบนถนนคาร์ทเนอร์ (Kartnerstrasse) ย่านถนนการค้าที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆ มากมาย ชม วิหารเซนต์สตีฟาน ซึ่งตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า เป็นสัญลักษณ์ของกรุง เวียนนา มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ อาทิเช่น เครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน และของที่ระลึกต่างๆ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ ปาร์นดอร์ฟ (Outlet Parndorf) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ตั้งอยู่ระหว่างเมืองหลวงของสองประเทศออสเตรียและสโลวาเกีย เป็น outlet แห่งแรกที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ของ ประเทศออสเตรีย ที่มีร้านค้า มากกว่า 120 ร้านสินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆจากทุกมุมโลก ให้เลือกมากมายอย่างจุใจ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย |
19.30 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินเวียนนา |
23.25 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน OS 25 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.15 ช.ม.) |
วันที่ 10 | กรุงเทพมหานคร |
14.40 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |