วันที่ 1 | กรุงเทพฯ – ไทเป - จอร์จบุชอินเตอร์คอนติเนนตัล |
09.30 น. | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เช็คอินสายการอีวีเอแอร์ |
12.20 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินไต้หวันเถาหยวน (TPE) โดยเที่ยวบิน BR212 (บินประมาณ 3.50 ชม.) สายการบินมี บริการอาหารเช้า บนเครื่องบิน |
17.10 น. | เดินทางถึงสนามบินไต้หวันเถาหยวน (TPE) แวะเปลี่ยนเครื่อง |
22.00 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินจอร์จบุชอินเตอร์คอนติเนนตัล (IAH) โดยเที่ยวบิน BR52 (ใช้บินประมาณ 13.40 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้า บนเครื่องบิน ******** บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล ******** |
22.40 น. | เดินทางถึงสนามบินจอร์จบุชอินเตอร์คอนติเนนตัล (IAH) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Hilton Houston Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 2 | ฮิวสตัน –พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติฮิวสตัน - ศูนย์อวกาศฮิวสตัน – Tanger Outlets Houstan |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองฮิวสตัน ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของสหรัฐ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของรัฐเท็กซัส และมากเป็นอันดับที่ 4 ของสหรัฐ และเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 6 ของทวีปอเมริกาเหนือ นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติฮิวสตัน (The Houston Museum of Natural Science) เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ตั้งอยู่ที่ชายแดนด้านเหนือของสวนสาธารณะเฮอร์มันน์ ในเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 โดยพิพิธภัณฑ์และสมาคมวิทยาศาสตร์ฮูสตัน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายในการจัดเตรียมสถาบันฟรีสำหรับชาวฮูสตัน โดยเน้นด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ อาคารพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่มีห้องโถงและนิทรรศการวิทยาศาสตร์ธรรมชาติสี่ชั้น ท้องฟ้าจำลอง Burke Baker ศูนย์ผีเสื้อ Cockrell และโรงละคร Wortham Giant Screen (เดิมชื่อโรงละคร Wortham IMAX) ในปี 2022 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับผู้เข้าชม 1,520,000 คน ทำให้เป็นอันดับที่ 7 ในรายชื่อพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับสามของสหรัฐอเมริกา |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมศูนย์อวกาศฮิวสตัน (Space Center Houston) (ระยะทาง 43 กม. ใช้เวลาประมาณ 35 นาที) เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์นักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของศูนย์อวกาศนาซาจอห์นสันในฮูสตัน ได้รับการกำหนดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในเครือสมิธโซเนียนในปี 2014 องค์กรนี้เป็นเจ้าของโดย NASA และดำเนินการภายใต้สัญญาโดยมูลนิธิ Manned Spaceflight Education Foundation ที่ไม่แสวงหากำไร ซึ่งเป็นองค์กร 501 ศูนย์อวกาศจอห์นสันเป็นที่ตั้งของศูนย์ควบคุมภารกิจและการฝึกนักบินอวกาศ ศูนย์นี้เปิดในปี 1992 แทนที่ศูนย์นักท่องเที่ยวเดิมในอาคารศูนย์อวกาศจอห์นสัน อาคาร 2 พิพิธภัณฑ์นี้มีพื้นที่ 250,000 ตารางฟุต และจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ในอวกาศมากกว่า 400 ชิ้น รวมถึงแคปซูลอวกาศ Mercury 9, Gemini 5 และ Apollo 17 ในส่วนที่เข้าชมได้นั้นจะได้ชมชิ้นส่วนหลายอย่างจากจรวดและยานอวกาศต่างๆ นอกจากนี้ยังมีรถรางพาชมศูนย์ควบคุมภารกิจ มีโรงภาพยนตร์ฉายหนังเกี่ยวกับอวกาศและมีการแสดงการใช้ชีวิตในอวกาศให้ชมอีกด้วย นำท่านเข้าชมส่วนพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงส่วนต่างๆของจรวดและกระสวยอวกาศ ตลอดจนชุดนักบินอวกาศ และ หินดวงจันทร์ ที่ท่านสามารถสัมผัสได้ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและชมความมหัศจรรย์และความก้าวหน้าทางด้านอวกาศขององค์การนาซ่าในแต่ละยุคสมัย นำท่านเดินทางสู่ Tanger Outlets Houstan (ระยะทาง 19 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ซึ่งเป็น เอาท์เลตขนาดใหญ่มีร้านค้า กว่า 100 ร้านค้า อาทิ เช่น COACH, GUESS, POLO, SAMSONITE, NIKE, CK, GAP, POLO, TIMBERLAND, TOMMY HILFIGER, และอื่นๆอีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เดินเล่น ช้อปปิ้งและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตาคารจีน |
ที่พัก | Hilton Houston Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 3 | ฮิวสตัน – เท็กซัส – ดิ แอละโม - แม่น้ำแซนแอนโทนิโอ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองแซนแอนโทนิโอ (San Antonio) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) คือเมืองหนึ่งในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐและมีเปอเซ็นต์การเจริญเติบโตเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ เปรียบเสมือนประตูสู่ภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ชื่อเมืองมาจากชื่อของเซนต์แอนโทนีแห่งปาดัว ชาวโปรตุเกส |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชมคณะเผยแพร่ศาสนาแอละโมในซานอันโตนิโอ(Alamo Mission in San Antonio) The Alamo เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลกคณะเผยแพร่ศาสนาแซนแอนโทนีโอในซานอันโตนิโอรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ก่อตั้งในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นคณะเผยแพร่ศาสนาโรมันคาทอลิกและป้อมปราการ (fortress compound) เป็นสมรภูมิของยุทธการที่ดิแอละโมใน ค.ศ. 1836 วันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2015 ดิแอละโมร่วมกับคณะเผยแพร่ศาสนาอีกสี่คณะในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติคณะเผยแพร่ศาสนาซานอันโตนิโอที่นี่ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกอีกด้วย ปัจจุบันแอละโมเป็นพิพิธภัณฑ์ในเขตประวัติศาสตร์จัตุรัสแอละโม จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ริมแม่น้ำแซนแอนโทนิโอ(The San Antonio River Walk) เป็นสวนสาธารณะในเมืองและถนนคนเดินกรณีพิเศษในแซนแอนโทนิโอรัฐเท็กซัส ซึ่งอยู่ต่ำกว่าถนนรถยนต์หนึ่งระดับ River Walk คดเคี้ยวและวนอยู่ใต้สะพานเป็นทางเท้าคู่ขนานสองทางที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านค้า ซึ่งเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ร้านค้าที่ Rivercenter, โรงละคร Arneson River, เกาะ Marriage, La Villita, สวนสาธารณะ HemisFair, อาคาร Tower Life, พิพิธภัณฑ์ศิลปะแซนแอนโทนิโอไข่มุก และภารกิจอาณานิคมสเปนทั้งห้าของเมืองซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นมรดกโลกซึ่งรวมถึงอลาโมด้วย ในช่วงเทศกาล Fiesta San Antonio ประจำปีในฤดูใบไม้ผลิ ขบวนพาเหรดแม่น้ำจะมีขบวนแห่ดอกไม้ที่ลอยไปตามแม่น้ำ พื้นที่ภายในเส้นรอบวงของ River Walk เป็นหัวใจของด่านหน้า Villa de Bejar ดั้งเดิมในช่วงทศวรรษ 1700 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นเมืองซานอันโตนิโอในที่สุด อิสระให้ท่านเดินเล่น และเก็บภาพความประทับใจริมสองฝั่งแม่น้ำ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hilton Palacio del Rio **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | แซนแอนโทนิโอ– ออสติน - ศาลาว่าการรัฐเท็กซัส - สะพานคองเกรสอเวนิวแอน ดับเบิลยู ริชาร์ดส์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชมศาลาว่าการรัฐเท็กซัส (Texas State Capitol) (ระยะทาง 128 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.) เป็นศาลากลางและที่นั่งของรัฐบาลของรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา โครงสร้างนี้ตั้งอยู่ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นที่ตั้งของสำนักงานและห้องประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งรัฐเท็กซัสและผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ออกแบบในปี 1881 โดยสถาปนิก Elijah E. Myers สร้างขึ้นระหว่างปี 1882 ถึง 1888 ภายใต้การดูแลของวิศวกรโยธา Reuben Lindsay Walker ส่วนต่อขยายใต้ดินมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2536 อาคารหลังนี้ได้รับการเพิ่มเข้าในทะเบียนสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี พ.ศ. 2513 และได้รับการยอมรับให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี พ.ศ. 2529 |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่สะพานคองเกรสอเวนิวแอน ดับเบิลยู. ริชาร์ดส์ (Ann W. Richards Congress Avenue) เป็นสะพานใจกลางออสตินที่ใช้ข้ามแม่น้ำโคโลราโด สะพานนี้เป็นที่รู้จักในนามสะพานคองเกรสอเวนิว และได้เปลี่ยนชื่อสะพานปัจจุบันเพื่อเป็นเกียรติแก่ แอน ดับเบิลยู. ริชาร์ดส์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสคนที่ 45 เป็นสะพานโค้งคอนกรีต มีช่องทางเดินรถและทางเท้าสำหรับเดินรถไปทางใต้ 3 ช่อง และทางเท้าสำหรับเดินรถไปทางเหนือ 3 ช่อง ทั้งสองด้านของสะพาน ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นที่อยู่อาศัยของอาณานิคมค้างคาวในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วงต้นเดือนตุลาคมประมาณพระอาทิตย์เริ่มตกดิน สะพานคองเกรสแห่งนี้จะมีค้างคาวจำนวนมากบินออกมาให้เราได้ชม ซึ่งค้างคาวเหล่านี้ทำรังอยู่ใต้สะพาน ซึ่งเราสามารถยืนบนสะพานเพื่อชมฝูงค้างคาวเหล่านี้ ถือเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยากจากใจกลางเมือง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hilton Austin ***** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูลล็อคเท็กซัส - นิวออร์ลีนส์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์บูลล็อคเท็กซัส (Bullock Texas State History Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ในออสติน รัฐเท็กซัส พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งชื่อตามรองผู้ว่าการรัฐเท็กซัสคนที่ 38 Bob Bullock ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการอนุรักษ์และนิทรรศการประวัติศาสตร์เท็กซัส และตั้งอยู่ห่างจากศาลาว่าการรัฐเท็กซัสไปทางเหนือเพียงไม่กี่ช่วงตึก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตีความ เรื่องราวของเท็กซัส ที่เปิดเผยอย่างต่อเนื่องแก่ผู้ชมในวงกว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ผ่านประสบการณ์การศึกษาที่มีความหมาย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
13.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินออสติน-เบิร์กสตรอม (AUS) |
15.26 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินหลุยส์ อาร์มสตรอง นิวออร์ลีนส์ (MSY) โดยสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ AA3690 (ใช้เวลาประมาณ 1.24 ชม.) |
16.50 น. | เดินทางถึงสนามบินหลุยส์ อาร์มสตรอง นิวออร์ลีนส์ (MSY) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | New Orleans Marriott ***** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | อาสนวิหารเซนต์หลุยส์ – จตุรัสแจ็คสัน– พิพิธภัณฑ์เครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมมาร์ดิกราส์ - ล่องเรือกลไฟนัตเชซ์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่นิวออร์ลีนส์ เป็นนครและแพริชที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิสซิสซิปปีในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐลุยเซียนา มีประชากรราว 390,144 คนจากการประมาณในปี 2019 ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐลุยเซียนา และเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญด้วยท่าเรือสำคัญในภูมิภาคริมอ่าวของสหรัฐอเมริกา นำท่านเดินทางเข้าชมอาสนวิหารเซนต์หลุยส์ (St. Louis Cathedral) เป็นที่ตั้งของอัครมุขมณฑลนิวออร์ลีนส์และเป็นอาสนวิหารที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐที่ยังใช้งานต่อเนื่องถึงปัจจุบัน อาสนวิหารนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักบุญหลุยส์ (หรือพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส) โบสถ์หลังแรกสร้างขึ้นในปี 1718 และหลังที่สามสร้างขึ้นในสมัยภายใต้การปกครองของสเปนในปี 1789 และได้ยกสถานะขึ้นเป็นอาสนวิหารในปี 1793 อาสนวิหารหลังเดิมถูกเพลิงไหม้เสียหายในเพลิงไหม้ใหญ่เมื่อปี 1788 จากนั้นได้มีการขยาย ต่อเติม และปรับปรุงจนเสร็จสมบูรณ์ในทศวรรษ 1850 และยังคงมีโครงสร้างบางส่วนจากปี 1789 หลงเหลืออยู่ อาสนวิหารนักบุญหลุยส์ตั้งอยู่ในเฟรนช์ควอร์เตอร์ นิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา และตั้งอยู่ติดกับจัตุรัสแจ็คสัน หันหน้าเข้าสู่แม่น้ำมิสซิสซิปปีในย่านใจกลางประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนส์ จากนั้นนำท่านเดินทางชมจตุรัสแจ็คสัน (Jackson Square) เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ในย่านเฟรนช์ควอร์เทอร์ เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการประกาศเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในปี 1960 ในฐานะสถานที่สำคัญใจกลางเมืองมาตลอดประวัติศาสตร์ของนิวออร์ลีนส์ และในฐานะสถานที่ที่ซึ่งในปี 1803 ลุยเซียนาได้ถูกซื้อโดยสหรัฐเข้าเป็นดินแดนของสหรัฐอเมริกา รูปปั้นตรงกลางจัตุรัสคือรูปปั้นของแอนดรูว์ แจ็คสันบนหลังม้า ผลงานออกแบบโดยคลาร์ก มิลส์ นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์เครื่องแต่งกายและวัฒนธรรมมาร์ดิกราส์ (Mardi Gras Museum of Costumes & Culture) จัดแสดงคอลเลกชั่นส่วนตัวของ Carl Mack นักแสดงชื่อดังที่รู้จักกันในชื่อ The Xylophone Man ผู้ให้ความบันเทิง ลูกค้า และเจ้าของ Carl Mack Presents สถานที่แห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวของมาร์ดิกราส์และคาร์นิวัลผ่านการจัดแสดงเครื่องแต่งกายอันวิจิตรงดงาม พิพิธภัณฑ์มาร์ดิกราส์เป็นการเฉลิมฉลองร่วมสมัยโดยจับชีพจรของประเพณีระดับรากหญ้าที่หลากหลายของผู้ชื่นชอบมาร์ดิกราส์ ชมรมคนเดิน ชาวอินเดียนแดงมาร์ดิกราส์ เคจันมาร์ดิกราส์ นักแสดงบัสเกอร์และนักแสดงข้างถนน ราชาและราชินี และงานเต้นรำสวมหน้ากาก รวมถึงความคิดสร้างสรรค์และงานฝีมือที่นำไปสู่การสร้างสรรค์เครื่องแต่งกายที่ยอดเยี่ยม ท่านสามารถถ่ายเซลฟี่ได้ไม่จำกัดในตู้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย พร้อมเครื่องแต่งกายของแท้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
14.00 น. | นำท่านเดินทาง ล่องเรือกลไฟนัตเชซ์ (The Steamboat Natchez) สัมผัสบรรยากาศการล่องเรือในแม่น้ำมิสซิสซิปปี้สองชั่วโมงจากใจกลางเมือง French Quarter ซึ่งจะแสดงให้ท่านเห็นว่าเหตุใดเมืองนี้จึงก่อตั้งขึ้นบนเสี้ยวที่สวยงามของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ตอนล่าง ท่านจะได้เห็นว่านิวออร์ลีนส์เป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดในโลกจากมุมมองที่ดีที่สุดในเมืองบนเรือกลไฟ Natchez |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | New Orleans Marriott **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 – อุโมงค์ต้นโอ๊ค |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (The National WWII Museum) เดิมชื่อพิพิธภัณฑ์ดีเดย์แห่งชาติ เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การทหารที่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์ กลางธุรกิจของเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา บนถนน Andrew Higgins Drive ระหว่าง Camp Street และ Magazine Street พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของสหรัฐอเมริกาต่อชัยชนะของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2543 และต่อมารัฐสภาคองเกรสแห่ง สหรัฐอเมริกา กำหนดให้เป็นพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่สองอย่างเป็นทางการของอเมริกาในปี พ.ศ. 2547 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ในเครือสถาบันสมิธโซเนียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของสถาบันสมิธโซเนียน พันธกิจของพิพิธภัณฑ์เน้นย้ำถึงประสบการณ์ของชาวอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สอง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชมอุโมงค์ต้นโอ๊ค (Oak Alley Plantation) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เป็นสวนต้นโอ๊ค ตั้งอยู่ที่ชุมชน Vacherie รัฐลุยเซียนา บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้ ได้รับการตั้งชื่อตามรูปลักษณ์ที่โดดเด่น หรือทางเดินที่มีหลังคาไม้ สร้างขึ้นโดยต้นโอ๊คทางใต้ที่มีชีวิตอยู่สองแถวยาวประมาณ 240 เมตร ซึ่งปลูกในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 นานก่อนที่จะสร้างบ้านในปัจจุบัน ถนน allée หรือต้นไม้ทอดยาวระหว่างบ้านกับแม่น้ำ สถานที่แห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติในด้านสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ และสำหรับนวัตกรรมทางการเกษตรโดยการต่อกิ่งพีแคน ซึ่งดำเนินการที่นั่นในปี พ.ศ. 2389–47 โดยคนสวน อุโมงค์ต้นโอ๊คแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งในฉากที่เรียกได้ว่างดงามที่สุดฉากหนึ่งในหนังดังที่เป็นอมตะอย่างเรื่อง Forrest Gump และยังได้รับการคุ้มครองให้เป็น National Historic Landmark ของประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | New Orleans Marriott **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | นิวออร์ลีนส์ - แอตแลนตา - สวนโอลิมปิกร้อยปี |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินหลุยส์ อาร์มสตรอง นิวออร์ลีนส์ (MSY) |
11.35 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินฮาร์ทสฟิลด์–แจ็คสัน แอตแลนตา (ATL) โดยสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ DL2400 |
เที่ยง | อิสระให้ท่านรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย |
14.05 น. | เดินทางถึงสนามบินฮาร์ทสฟิลด์–แจ็คสัน แอตแลนตา (ATL) นำท่านเดินทางสู่แอตแลนตา (Atlanta) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาแอปพาเลเชียนที่ระดับความสูงเพียง 300 ม. เหนือระดับน้ำทะเล แอตแลนตามีภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งรวมถึงเนินเขาสลับเขียวขจี และต้นไม้ในเมืองที่ปกคลุมหนาแน่นที่สุดของเมืองใหญ่ ๆ ในสหรัฐอเมริกา นำท่านเดินทางชมสวนโอลิมปิกร้อยปี (Centennial Olympic Park) เป็นตัวแทนที่สวยงามของมรดกโอลิมปิกของแอตแลนตาและย่านความบันเทิงชั้นนำ สวนสาธารณะแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 1996 ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ ทำงาน และเล่นที่มีชีวิตชีวา รายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจอร์เจีย โลกของโคคา-โคลา และสนาม กีฬาเมอร์เซเดส เบนซ์ มีกิจกรรมให้ทำมากมายทั้งในและรอบๆ สวนสาธารณะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัวร์เดินชมด้วยเสียงฟรีที่เน้นการเติบโตของแอตแลนตาก่อนและหลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เทศกาลอัน เป็นเอกลักษณ์ เช่น Sweetwater 420 และ Shaky Knees ดึงดูดศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติทุกปี สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ชิงช้าสวรรค์ SkyView, CNN Studio Tours และ Fountain of Rings Splashpad จะทำให้ทุกคนไม่ว่าง Centennial Olympic Park เป็นสถานที่พบปะอันคึกคักของเมือง โดยนำชุมชนท้องถิ่นและผู้มาเยือนมารวมตัวกันภายใต้เงาเส้นขอบฟ้าของตัวเมือง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hilton Atlanta ***** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | ตลาดเกษตรกรเดคาลบ์ - ห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์จิมมี คาร์เตอร์ – สวนพฤกษศาสตร์แอตแลนตา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าชมตลาดเกษตรกรเดคาลบ์ (Your Dekalb Farmers Market) (ระยะทาง 14 กม. ใช้เวลาประมาณ 25 นาที) เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมี Robert Blazer เป็นผู้ก่อตั้ง เริ่มต้นในปี 1977 เนื่องจากมีผลผลิตเล็กๆ น้อยๆ ในดีเคเตอร์ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวนับพันคนต่อปี เป็นแหล่งรวบรวมสินค้าอุปโภคบริโภคที่สดใหม่และหายากในพื้นที่แอตแลนตาที่ดีที่สุด เปิดตลอดทั้งปีทุกวัน ยกเว้นวันขอบคุณพระเจ้าและคริสต์มาส ตลาดเกษตรกร Dekalb เป็นแหล่งรวมผักผลไม้สดใหม่ พาสต้าทำสดใหม่ ขนมปัง เนื้อสัตว์ อาหารทะเล และสิ่งอื่นๆ ที่คุณต้องการสำหรับห้องครัวของคุณ อย่าแปลกใจหากคุณบังเอิญเจอเชฟจากร้านอาหารชั้นนำของแอตแลนตาที่ไปจับจ่ายในตลาดเพื่อเลือกวัตถุดิบระดับไฮเอนด์ ตลาดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่กว้างขวาง เต็มไปด้วยผลิตผลสดหลายไมล์ในราคาที่ต่อรองได้ เดินเข้าและออกจากแผงขายของแห้งเพื่อเลือกซอสที่น่าสนใจ และอย่าพลาดส่วนเครื่องเทศที่คุณจะพบเครื่องปรุงรสทุกชนิดในถังขนาดใหญ่ในราคาที่ถูกสุดๆ อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อช้อปปิ้งของฝากตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางเข้าชมห้องสมุดและพิพิธภัณฑ์จิมมี คาร์เตอร์ (Jimmy Carter Library and Museum) เป็นที่เก็บรักษาเอกสารของประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของคาร์เตอร์และชีวิตครอบครัวคาร์เตอร์ ห้องสมุดยังจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ เช่น รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพของคาร์เตอร์ และห้องทำงานรูปไข่จำลองขนาดเต็มเหมือนที่เคยเป็นในสมัยการปกครองของคาร์เตอร์ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชมสวนพฤกษศาสตร์แอตแลนตา (Atlanta Botanical Garden) เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาด 30 เอเคอร์ ตั้งอยู่ติดกับสวนสาธารณะพีดมอนต์ในมิดทาวน์แอตแลนตา พันธกิจของสวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1976 คือการ พัฒนาและบำรุงรักษาพันธุ์พืชเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดแสดง การศึกษา การอนุรักษ์ การวิจัย และความเพลิดเพลิน นอกจากนี้สวนพฤกษศาสตร์แอตแลนตา ยังเป็นที่ตั้งของเคนเดดะ วอล์ค (Kendeda Canopy Walk) ซึ่งเป็นทางเดินลอยฟ้ายาว 600 ฟุต (180 ม.) ที่ให้ผู้มาเยือนได้เที่ยวชมป่าในเมืองแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในเมืองจากความสูงประมาณ 40 ฟุตในอากาศผ่านยอดไม้ของ Storza ป่า. ทางเดินลอยฟ้าทอดยาวจากหน้าผาในสวนไปสู่กิ่งก้านของต้นโอ๊ก พันธุ์ไม้ และป็อปลาร์โครงสร้างนี้ยังให้มุมมองทางอากาศของสวนป่าด้านล่างอีกด้วย ความเป็นเอกลักษณ์ของ Canopy Walk ผู้นำเมืองจึงเชื่อว่า นี่จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของแอตแลนตา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hilton Atlanta **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 10 | แอตแลนตา – ชิคาโก – มิลเลนเนียมพาร์ค – น้ำพุหน้าคน – คลาวด์เกต – น้ำพุบักกิงแฮม - ฟิลด์ มิวเซียม |
| รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินฮาร์ทสฟิลด์–แจ็คสัน แอตแลนตา (ATL) |
11.03 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินชิคาโกโอแฮร์ (ORD) โดยสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ UA626 |
12.13 น. | เดินทางถึงสนามบินชิคาโกโอแฮร์ (ORD) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่มิลเลนเนียมพาร์ค (Millennium Park) สวนสาธารณะที่เป็นแหล่งรวบรวมงานศิลปะ ให้ผู้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเยี่ยมชมงานศิลปะของศิลปินระดับโลก ได้รวบรวมอยู่ทสวนแห่งนี้ และ หนึ่งงานประติมากรรมซึ่งเป็นที่น่าสนใจให้แก่ผู้พบเห็นคือ น้ำพุหน้าคน (Crown Fountain) ประติมากรรมลานน้ำพุศิลปะแบบผสมผสานและทันสมัย ได้รับการออกแบบโดย Jaume Plensa ,Krueck และ Sexton Architects แล้วเสร็จในปี 2004 น้ำพุแห่งนี้ใส่ความรู้สึกโต้ตอบระหว่างศิลปะแก่ผู้คน และแสดงถึงความหลากหลายของประชากรในชิคาโก โดยน้ำพุมีลักษณะเป็นแท่นอิฐสี่เหลี่ยมสูงยาวกว่า 50 ฟุต ฝั่งหนึ่งเป็นหน้าจอ LED ที่จะสะท้อนภาพใบหน้าผู้คนหลากหลายอิริยาบถกว่า 1,000 ใบหน้า ซึ่งทั้งหมดก็เป็นใบหน้าของประชากรชิคาโกนั้นเอง โดยยังมีลูกเล่นเก๋ๆในการทำให้น้ำพุพ่นออกมาจากใบหน้าบริเวณปาก เสมือนคนกำลังพ่นน้ำออกมา สร้างความหรรษาให้กับผู้คนที่ไปพักผ่อนและเล่นน้ำพุได้เป็นอย่างมาก นำท่านถ่ายรูปกับคลาวด์เกต (Cloud Gate or The Bean) ประติมากรรม “ถั่วสแตนเลส” อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งเมืองชิคาโก จากนั้นนำท่านชมและถ่ายรูปกับน้ำพุบักกิงแฮม (Buckingham Fountain) น้ำพุขนาดใหญ่ อลังการตั้งอยู่ในใจกลางแกรนท์ปาร์ก เป็นแลนด์มาร์คสำคัญในชิคาโก มีความโดดเด่นตั้งแต่ไกลด้วยชั้นน้ำพุขนาดใหญ่และอ่างน้ำกว้างขวาง โดยน้ำพุแห่งนี้เป็นศิลปะสไตล์โบซาร์หรือ ศิลปะวิจิตรศิลป์ มีลักษณะโครงสร้างรูปแบบโรโคโคเค้กแต่งงานขนาด 3 ชั้น ได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก “น้ำพุลาโตนา” แห่งพระราชวังแวร์ซาย ซึ่งน้ำพุแห่งนี้ได้รับทุนในการสร้างจาก Kate Sturges Buckingham ตระกูลร่ำรวยผู้อุปถัมภ์ศิลปะสู่เมืองชิคาโก นำท่านเข้าชมฟิลด์ มิวเซียม (Field Museum) ในสวนของ Jurassic World นอกเหนือจากจะได้ เห็นฟอสซิลของไดโนเสาร์ ท่านจะได้สัมผัสกับแบบจำลองไดโนเสาร์ที่ทำให้ท่านได้รู้สึกเสมือนเดินเล่นในจูราสสิค ปาร์ค |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Hilton Chicago **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 11 | มิลวอกี - พิพิธภัณฑ์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน - เรือนกระจกพืชสวน Mitchell Park |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองมิลวอกี (Milwaukee) (ระยะทาง 148 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน รัฐวิสคอนซิน ตั้งอยู่ริมทะเลสาบมิชิแกนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เมืองนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของรถมอเตอร์ไซด์ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน (Harley Davidson Museum) ซึ่งได้จัดแสดงต้นกำเนิดรถ ตลอดจนจัดแสดงรถมอเตอร์ไซด์กวา 450 คน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพ ความสวยงามของรถมอเตอร์ไซด์ รุ่นต่อรุ่น และมนต์ขลังแห่งรถมอเตอร์ไซด์ไซส์ยักษ์ ที่มาพร้อมเสียงคำราม น่าเกรงขาม |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมและแวะถ่ายภาพกับสถานที่สำคัญแห่งเมืองมิลวอกี อาทิเช่น ศาลาว่าการเมือง City hall นำท่านเข้าชมโบสถ์ St. Josaphat Cathedral และ St. John of Arc Chapel นำท่านถ่ายรูปกับเรือนกระจกพืชสวน Mitchell Park (Mitchell Park Horticultural Conservatory หรือ Mitchell Park Domes ) ลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่ 3 โดม ที่ภายในมีการปรับอากาศให้ปลูกต้นไม้ในเขตร้อนได้ แม้สภาพภายนอก หิมะจะปกคลุมหลายเดือนในหนึ่งปีก็ตาม อิสระให้ท่านเก็บภาพความน่ารักและความสวยงามของเมืองมิลวอกี |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hilton Chicago **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 12 | ชิคาโก - ลินคอล์น ปาร์ค - ตึกจอห์น แฮนค็อก – ผลงานของปิกัสโซ – ตึกวิลลิสทาวเวอร์ (Sky Deck) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชม ลินคอล์น ปาร์ค (Lincoln park) สวนแห่งนี้ตั้งชื่อตามอับราฮัม ลินคอล์น ดั้งเดิมที่นี่เคยเป็นที่ฝังศพ และปัจจุบันยังคงมีป้ายหน้าหลุมศพและสุสานขนาดใหญ่ให้เห็นอยู่ ท่านจะพบเห็นรูปปั้นทางประวัติศาสตร์อยู่รอบๆสวน รวมถึงรูปปั้นลินคอล์นอันโด่งดัง ซึ่งเป็นผลงานของประติมากร Augustus SaintGaudens อิสระให้ท่านได้เก็บภาพ และเดินเล่นพักผ่อนตสมอัธยาศัย นำท่านเดินทางขึ้นตึกจอห์น แฮนค็อก (John Hancock Center) เพื่อชมวิวแบบ 360 องศา บนหอสังเกตการณ์ตึกจอห์น แฮนค็อก เป็นตึกระฟ้าในอเมริกา สูงเป็นอันดับที่ 24 ของโลก โดยมีความสูง 344 เมตร และมีทั้งหมด 100 ชั้น มีพื้นที่กว่า 2 แสน 6 หมื่นตารางเมตร ซึ่งใช้เป็นที่พักอาศัย ภัตตาคารและสำนักงาน โดยจุดชมวิวนี้จะตั้งอยู่บนชั้นที่ 95 ของตึกนี้ จุดเด่นของการมาชมวิวที่ตึกนี้ คือการค่อยๆ เอนตัวลงไปชมวิวเมืองชิคาโกในเบื้องล่าง อยากชมวิวสวยๆ ของเมืองชิคาโกอิสระให้ท่านได้เก็บภาพวิวเมืองชิคาโกแบบ 360 องศา |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านแวะถ่ายรูปกับผลงานของปิกัสโซ (The Chicago Picasso) ซึ่งปิกัสโซเป็นศิลปินเอกของโลกได้รังสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นและได้มอบให้กับตึกดาเลย์ พลาซ่า เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 1967 ซึ่งประติมากรรมชิ้นนี้มีความสูงประมาณ 15.2 เมตร และมีน้ำหนักประมาณ 147 ตัน นำท่านเดินทางขึ้นตึกวิลลิสทาวเวอร์ (Willis Tower) เดิมชื่อ เซียส์ทาวเวอร์ (Sears Tower) เป็นตึกระฟ้า 110 ชั้น สูง 442.3 ม. ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอย ออกแบบโดยสถาปนิกบรูซ เกรแฮม (Bruce Graham) และวิศวกรฟาซลูร์ เราะห์มาน ข่าน (Fazlur Rahman Khan) จากสกิดมอร์, โอวิงส์ และเมอร์ริล (Skidmore, Owings & Merrill) วิลลิสทาวเวอร์เปิดใช้งานในปี พ.ศ. 2516 ทำให้กลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกแทนที่ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (World Trade Center) เป็นระยะเวลา 25 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2517–2541 ก่อนที่จะถูกโค่นสถิติโดยเปโตรนาสทาวเวอร์ (Petronas Tower) ของประเทศมาเลเซีย วิลลิสทาวเวอร์เป็นตึกที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ในสหรัฐอเมริกา และสูงเป็นอันดับที่ 24 ของโลก ในแต่ละปี ผู้คนมากกว่า 1.7 ล้านคนมาเยี่ยมชมหอสังเกตการณ์สกายเด็ค (Skydeck) ซึ่งสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของชิคาโก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Hilton Chicago **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 13 | สถาบันศิลปะแห่งชิคาโก – ท่าเรือกองทัพเรือ –ชิคาโกพรีเมี่ยมเอาท์เลท |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าชมสถาบันศิลปะแห่งชิคาโก (The Art Institute of Chicago) เป็นพิพิธภัณฑ์มีชื่อเสียงเกี่ยวกับงานสะสมที่ดีที่สุดในโลก เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่ตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ นอกจากนั้นยังมีงานชิ้นสำคัญๆของศิลปินชั้นครูในประวัติศาสตร์ศิลปะเป็นจำนวนมาก, ศิลปะอเมริกัน, ศิลปะตกแต่งของ ทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา, ศิลปะเอเชีย, ศิลปะสมัยใหม่ และศิลปะร่วมสมัย สถาบันศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของ โรงเรียนสถาบันศิลปะแห่งชิคาโก ที่มีเนื้อที่หนึ่งล้านตารางฟุต และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของ สหรัฐอเมริกา รองจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันในนครนิวยอร์ก ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าเรือกองทัพเรือ (Navy Pier) ท่าเรือเก่าของกองทัพอเมริกาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตอนนี้สร้างใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ตั้งอยู่บริเวณสถานที่คล้ายๆกับท่าเรือซึ่งยื่นออกไปทางทะเลสาบมิชิแกน เป็นดั่งสวนสาธารณะครบวงจรสำหรับครอบครัว เพราะมีทั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ร้านค้า ของที่ระลึก ร้านอาหารมากมาย บาร์สำหรับดื่ม โรงภาพยนตร์สามมิติ และยังเป็นสถานที่อำนวยความสะดวกสำหรับจัดนิทรรศการอีกด้วย ท่าเรือแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1916 ซึ่งมีอายุครบ 100 ปี เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา และได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของท่าเรือเก่าตามอัธยาศัย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ชิคาโกพรีเมี่ยมเอาท์เลท (Chicago Premium Outlet) (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) ช้อปปิ้งจุใจกับร้านค้าแบรนด์เนม ชั้นนำกว่า 150 ร้านค้า นำเสนอสินค้าในราคาที่ชวนให้เลือกสรรค์มากมายหลากหลายแบรนด์ อาทิเช่น CK, DKNY, GAP, GUESS, TIMBERLAND, ADIDAS, NIKE, COACH, SAMSONITE, RAYBAN และอื่นๆอีก มากมาย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
21.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินโอแฮร์ (ORD) |
วันที่ 14 | ชิคาโก - ไต้หวัน - กรุงเทพมหานคร |
00.30 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินไต้หวันเถาหยวน (TPE) โดยเที่ยวบิน BR55 (บินประมาณ 15.30 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้า บนเครื่องบิน ******** บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล ******** |
วันที่ 15 | กรุงเทพมหานคร |
05.00 น. | เดินทางถึงสนามบินไต้หวันเถาหยวน (TPE) แวะเปลี่ยนเครื่อง |
07.40 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน BR75 (บินประมาณ 3.45 ชม.) สายการบินมีบริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน |
10.25 น. | เดินทางถึงกรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ |