วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - เตหะราน |
19.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน S โดย สายการบินมาฮาร์น แอร์ Mahan Air ณ สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุณาเตรียมเอกสารการฉีดวัคซีน Covid 19 เพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่ระหว่างเชคอิน) |
22.00 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของประเทศอิหร่าน โดย สายการบินมาฮาร์น แอร์ Mahan Air เที่ยวบินที่ W5 050 (ใช้เวลาเดินทาง 7.20 ชั่วโมง) |
วันที่ 2 | เตหะราน – พระราชวังโกเลสตาน – พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ – พิพิธภัณฑ์เพชร- สะพานทาเบียต |
02.15 น. | เดินทางถึงสนามบิน Imam Khomeini International Airport กรุงเตหะราน (Tehran) ประเทศอิหร่าน นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Parsian Azadi Hotel / Espinas Palace Hotel***** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเที่ยวชมความสวยงามของ กรุงเตหะราน (Tehran) เมืองหลวงของประเทศ ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของเทือกเขาอัลโบร์ช ผ่านจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปยังตะวันออก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตร เมืองนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในราวปีค.ศ.900 จากหมู่บ้านเล็กๆได้ถูกพัฒนาให้มีความเจริญรุ่งเรือง สืบสานจนเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมเปอร์เซียอันเลื่องชื่อ นำท่านเข้าชมพระราชวังโกเลสตาน (Golestan Palace) หรือพระราชวังแห่งดอกไม้ (Palace of Flowers) เป็นผลงานสถาปัตยกรรมที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในช่วงยุคราชวงศ์กาจาร์ สวยงามด้วยรูปทรงของอาคารที่เป็นแบบศิลปะตะวันออกกลาง และการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์และงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ภายในห้องโถงกลางมีโคมไฟห้อยระย้าสวยงามสะดุดตา ในบางจุดตกแต่งด้วยกระจกหลากสีสัน ด้านนอกอาคารยังตกแต่งผนังอย่างงดงามด้วยกระเบื้องสีสันต่าง ๆ สร้างความน่าหลงใหลได้ในทุกมุมมอง พระราชวังโกเลสตานได้ถูกจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ปี 2013 นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอิหร่าน (National Museum of Iran) ซึ่งเปิดขึ้นเมื่อปีพ. ศ. 2480 และพิพิธภัณฑ์ยุคอิสลาม ซึ่งเปิดขึ้นในปี พ.ศ. 2515 เป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่ย้อนกลับไปถึงโบราณวัตถุของอิหร่านที่เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ภายในจัดแสดงภาชนะเครื่องปั้นดินเผา วัตถุโลหะ สิ่งทอต่างๆ และมีหนังสือหายาก, เหรียญเก่า |
กลางวัน | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เพชร (Jewelry Museum) อันเลื่องชื่อของประเทศอิหร่าน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดเก็บและแสดงสิ่งของล้ำค่าของราชวงศ์ต่างๆในสมัยก่อน สวยงามตระการตาเป็นอย่างยิ่งและนับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ควรมาเยือน สมควรแก่เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับ หอคอยมิลาด ทาว์เวอร์ (Milad Tower) ซึ่งเป็นหอคอย แห่งความภาคภูมิใจของคนอิหร่านทั้งมวล เนื่องจากหอคอยแห่งนี้ออกแบบก่อสร้างโดยสถาปนิกชาวอิหร่านเองทั้งหมด เป็นหอคอยที่สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ด้วยระดับความสูงถึงยอดเสาส่งสัญญาณโทรคมนาคมถึง 435 เมตร จากนั้ นำท่านถ่ายรูปสะพานทาเบียต (Tablet Bridge) หรือ สะพานแห่งธรรมชาติ เป็นสะพานลอยข้ามถนนที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน สะพานสูง 270 เมตร (890 ฟุต) เชื่อมต่อสวนสาธารณะ 2 แห่ง ได้แก่ สวนสาธารณะตาเลกานีและสวนอาโบ-อาทาช |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Parsian Azadi Hotel / Espinas Palace Hotel***** (คืนที่ 2) |
วันที่ 3 | เตหะราน – บินภายในสู่ชิราซ – สุเหร่าสีชมพู – สวนนาเรนเจสตาน – สุสานฮาเฟซ – ป้อมคาริม ข่าน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบิน |
09.30 น. | ออกเดินทางจากสนามบินเตหะราน สู่ สนามบินชิราซ โดยเที่ยวบิน..... |
10.50 น. | เดินทางถึงสนามบินชิราซ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเข้าชมความสวยงามของสุเหร่าสีชมพู หรือ The Nasir al-Mulk Mosque (สุภาพสตรี กรุณาเตรียมผ้าคลุมผม และแต่งกายสุภาพ ด้วยทุกครั้งที่เข้ามัสยิด) เป็นมัสยิดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของอิหร่าน ตั้งอยู่ที่เมืองชิราซสร้างขึ้นมาในช่วงยุคของราชวงศ์กาจาร์ ความโดดเด่นของมัสยิดแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่สถาปัตยกรรมอันสวยงามเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการตกแต่งอย่างสวยงามหรูหราทั้งภายในและภายนอกอีกด้วย ซึ่งผู้ออกแบบอย่าง Muhammad Hasan-e-Memar และ Muhammad Reza Kashi Paz-e-Shirazi ก็ได้เลือกใช้กระจกสีสันสดใสมาตกแต่งบานหน้าต่าง ซึ่งแตกต่างจากมัสยิดของชาวมุสลิมทั่วไป ยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องมายังบานกระจก กระจกเหล่านี้ก็จะส่องสะท้อนสีต่าง ๆ ออกมาอย่างงดงามมาก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามภายในสุเหร่าแห่งนี้อ ได้เวลานำท่านชม สวนนาเรนเจสตาน (Narenjestan Garden) ซึ่งเป็นสวนที่สวยอีกแห่งของชิราซ เคยเป็นที่พำนักของเจ้าเมืองในอดีต ส่วนอีกด้านหนึ่งมีการตกแต่งภายใน และมีพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งของบุคคลที่สำคัญในอดีตของเปอร์เซีย จากนั้นนำท่านชม สุสานฮาเฟซ (Mausoleum of Hafez) ซึ่งมีชื่อเต็มว่า ซัมซุดดิน มูฮัมหมัด ฮาเฟซ เป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียง เกิดที่เมืองชิราซเมื่อปี ค.ศ.1324 และเสียชีวิตเมื่อปีค.ศ. 1391 ฮาเฟซมีความสามารถในการแต่งบทกวีที่ได้ความไพเราะ เข้าใจวิถีชีวิตของผู้คน และแต่งกวีที่ใช้คำง่ายๆขึ้นมาให้เป็นคติสอนคนให้เป็นคนดี อนุสรณ์สถานที่ฝังศพถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ.1936-1938 ได้เวลานำท่านถ่ายรูปกับป้อมคาริม ข่าน (Karim Khan Fort) ที่คาริม ข่านได้สั่งให้สร้างที่พักอาศัย และเป็นศูนย์กลางการบริหารงานขึ้น ณ ใจกลางเมือง ที่พักอาศัยนี้ถูกออกแบบลักษณะเหมือนป้อม มีพื้นที่ประมาณ 12,800 ตรม. มีกำแพงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน นำท่านแวะถ่ายภาพยามค่ำที่ สุเหร่า Emamzadeh Ali Ebne Hamze Shrine สุเหร่าและสถานที่ฝังศพของสองพี่น้องอาหมัดและมูฮัมหมัด ลูกชายของอิหม่ามคนที่ 7 ของศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ ภายในโดมสุเหร่ามีการตกแต่งด้วยกระจกทั้งหลังอย่างสวยงาม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Elysee Hotel Shiraz**** |
วันที่ 4 | ชิราซ – เปอร์เซโพลิส – พาร์ซากาด – สุสานกษัตริย์ไซรัสมหาราช – ยาซ์ด |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาร์พดาสท์ (Marvdasht) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองชิราซไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของเมืองโบราณเปอร์เซโพลิส (Persepolis) นำท่านเข้าชมเปอร์เซโพลิส เป็นเมืองโบราณของชาวเปอร์เซีย ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Kuh-e Rahmat สร้างขึ้นโดย King Darius the Great (ช่วงก่อนคริสต์ศักราช 522-486 ปี) ซึ่งสิ่งก่อสร้างต่างๆ สร้างขึ้นมาจากหินและดิน ในแบบเมโสโปเตเมีย ปัจจุบันยังคงเหลือซากปรักหักพังแนวที่ตั้งของเมืองเก่า มีเสาอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ตั้งตระหง่านท้าลมท้าฝนมาหลายพันปีแล้ว พร้อมทั้งยังมีภาพแกะสลักหินอันงดงามอยู่รอบๆ อีกหลายจุดอีกด้วย ที่นี่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1979 เมืองนี้อดีตเป็นเมืองหลวง และศูนย์กลางอันยิ่งใหญ่ของอารยธรรมเปอร์เซีย นำท่านชม โบราณสถานที่สร้างโดยกษัตริย์ดาริอุสมหาราชก่อนคริสตกาลประมาณ 520 ปี จนถึงรัชสมัยของดาริอุสที่ 3 ซึ่งได้ถูกก่อสร้างปรับปรุงต่อเติมมาตลอดระยะเวลา 200 ปี นครแห่งนี้เป็นป้อมปราการและนครศูนย์กลางที่ประกอบด้วยราชวังต่างๆ ห้องโถงใหญ่ ที่เก็บทรัพย์สมบัติ ที่เก็บสิ่งของมีค่าต่างๆ ที่มีความสำคัญที่สุด แต่ในปี ค.ศ. 330 ก่อนคริสตกาล ได้ถูกกองทัพ ของอเล็กซานเดอร์มหาราช บุกเข้าทำลายเผาผลาญจนพินาศไป เหลือแต่ซากปรักหักพังไว้ให้ชม นำท่านชมเนโครโพลิส (Necropolis) ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพของกษัตริย์ 4 องค์ ชมสถาปัตยกรรมที่เด่นในการแกะสลักบนผาหินและที่สำคัญเป็นสุสานของษัตริย์ ดาริอุสที่ 1 และกษัตริย์องค์ต่อๆมาอีก 3 พระองค์ ซึ่งเคยปกครองเปอร์เซโพลิส นำท่านเดินทางสู่เมืองพาร์ซากาด (Pasargadae) (ระยะทาง 79 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวง สร้างโดยกษัตริย์ไซรัสมหาราชของอาณาจักรเปอร์เซีย นำท่านชมสุสานของกษัตริย์ไซรัสมหาราช ผู้ก่อตั้งราชวงศ์อาคาเมเนียน บริเวณนี้ได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage ในปี 2004 |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองอะบาร์คูซ (Abarkuh) (ระยะทาง 163 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) นำท่านแวะชมต้นไม้ไซเพรส (Cypress Tree) ที่มีอายุมากที่สุดประมาณ 4,000 ปี และตามสถานที่ต่างๆก็ได้ทำเป็นรูปสัญลักษณ์ของต้นไม้นี้ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองยาซ์ด (Yazd) (ระยะทาง 158 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดยาซ์ด ที่ตั้งอยู่ทางใต้ในเขตทะเลทรายคาวีร์และได้ชื่อว่าเป็น ไข่มุกแห่งทะเลทราย (The Pearl of Desert) เหมือนว่าเวลาย้อนกลับไปกว่า 3,000 ปีที่แล้ว จนกระทั่งในสมัยของอะคาเมนิดส์ มีการส่งกองกำลังเข้ายึดและทำลายบ้านเมืองให้เสียหาย แต่เนื่องจากเมืองยาซ์ดได้ตั้งอยู่ไกลและมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ จึงทำให้รอดพ้นจากความเสียหาย และไม่มีอันตรายจากการโจมตีของข้าศึก ทำให้เมืองยาซ์ดยังคงไว้ซึ่งสิ่งที่เป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมมาจนถึงทุกวันนี้ นำท่านถ่ายรูปมัสยิดจาเม (Jame’s Mosque) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดย กษัตริย์ของราชวงศ์ อัล อี บูเยห์ ได้ถูกขยายได้ใหญ่ขึ้นในปี ค.ศ.1324-1365 และยังมีเสามินาเรท์คู่ของสุเหร่าที่สูงที่สุด ภายในยังถูกตกแต่งให้สวยงามในสถาปัตยกรรมของเปอร์เซีย และสถานที่แห่งนี้ยังคงถูกใช้ประกอบพิธีมาจนทุกวันนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | DAD Hotel Yazd **** |
วันที่ 5 | ยาซ์ด – เมย์บอด – อิสฟาฮาน (พักค้าง 2 คืน) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชมหอคอยแห่งความเงียบ (Silent Tower) ที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลทราย และภูเขาทางด้านใต้ของเมืองยาซ์ด เป็นสถานที่ที่พวกเปอร์เซียโบราณนับถือพระเจ้าอะฮูรา มาสดาในศาสนาโซโรแอสเตียน นำท่านเข้าชมวิหารของลัทธิบูชาไฟ (Fire Temple) ของศาสนาโซโรแอสเตอร์ ในวิหารจะมีกระถางไฟที่ติดลุกโชนอยู่ตลอดเวลา โดยจะมีพระคอยดูแลฯ และทุกๆปีจะมีการเฉลิมฉลองกันที่ในวิหารแห่งนี้ จากนั้นนำท่านชมอนุสรณ์สถาน อาเมียร์ เช็คห์แมก (Amir Chakhmaq Monument) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่เป็นจัตุรัสอยู่กลางเมือง สถานที่แห่งนี้มีรูปแบบและการออกแบบที่เข้ากับความสวยงามซึ่งมีน้ำพุอยู่ตรงกลาง และยังมีมัสยิดที่มีชื่อเดียวกันถูกสร้างอย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังมีที่พักของคนเดินทางคาราวานซาราย ได้เวลานำท่านชมสวนดาวลัทอาบัด (Dowlat Abad Garden) สวนโบราณอายุกว่า 260 ปี อยู่ในรายชื่อรอประกาศเป็นมรดกโลกแห่งใหม่ของอิหร่าน |
กลางวัน | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมือง (Maybod) (ระยะทาง 52 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองโบราณที่นับย้อนหลังไปในระยะเวลาก่อนอิสลามและเป็นตั้งของสิ่งก่อสร้างที่สวยงามและน่าสนใจหลายแห่ง ที่กำลังถูกยื่นเพื่อการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลก จากนั้นนำท่านเข้าชมปราสาทนารินจ์ (Narinj Castle) ซึ่งถูกสร้างด้วยก้อนหินที่ทำจากดินเหนียวให้เป็นปราสาท ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นคาดว่าประมาณ 2,000 ปี ตัวปราสาทสูงขึ้นจากพื้นดินประมาณ 40 เมตร ด้านบนตามมุมมีหอคอยทั้งสี่ด้าน ตามริมกำแพงถูกสร้างให้เป็นทางเดินโดยมีขั้นบันไดสำหรับขึ้นลง ไปยังด้านล่างที่ทำเป็นห้องมีลักษณะคล้ายกับที่คุมขังนักโทษ ได้เวลานำท่านเดินทางผ่านทะเลทรายวาร์ซาเนห์ (Varzaneh Desert) มุ่งหน้าสู่เมืองอิสฟาฮาน (Isfahan) (ระยะทาง 326 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรมาสองครั้ง คือ เมืองหลวงของอาณาจักรอับบาสิด และเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเปอร์เซียในอีกสมัย จึงเจริญเฟื่องฟูและรุ่งเรืองสุดๆ ถึงกับมีคำกล่าวเปรียบเปรยว่า ถ้าได้มาเยือน อิสฟาฮาน ก็เท่ากับได้เดินทางมาครึ่งโลกแล้ว นำท่านแวะถ่ายรูปกับสะพานคาจู (Khaju Bridge) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1650 โดยกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 2 ที่มีความกว้าง 12 เมตร และยาวถึง 132 เมตร สำหรับข้ามแม่น้ำซายันเดห์ ในขณะเดียวกันก็ใช้เป็นเขื่อนด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Piroozy Hotel / Abbasi Hotel**** |
วันที่ 6 | อิสฟาฮาน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเข้าชมวิหารแวงค์ (Vank Church) ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวอาร์เมเนียนที่นับถือศาสนาคริสต์ ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1655 ในรูปแบบผสมผสานศิลปะของยุโรปและของเปอร์เซีย พร้อมกับชม พิพิธภัณฑ์ของโบสถ์ ซึ่งจะแสดงเกี่ยวกับหนังสือฯ เครื่องแต่งกาย ประวัติศาสตร์ความเป็นมา และที่สำคัญที่สุดคือ การแกะสลักตัวอักษรบนเส้นผม จากนั้นนำท่านเข้าชมพระราชวังเชเฮล โชตุน (Chehel Sotun Palace) หรือ วัง 40 เสา ซึ่งความจริงแล้วมีเสาเพียง 20 ต้นเท่านั้น แต่เมื่อมองผ่านเข้ามาทางสระน้ำหน้าวังจะเป็นเงาในน้ำอีก 20 ต้น ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1614 โดยสถาปนิก ชื่อ ชีคห์ บาไฮ พื้นที่ของพระราชวังประมาณ 67,000 ตรม. ด้านหน้ามีสระน้ำ และตัวพระราชวัง 2 ชั้น มีการแกะสลักลวดลายประตูหน้าต่างที่สวยงาม และล้อมรอบไปด้วยสวนดอกไม้ที่เขียวชอุ่มเพื่อให้เป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์และนางสนมต่อมาใช้เป็นที่ต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ซึ่งต่อมาก็ได้ถูกต่อเติมโดยกษัตริย์ชาห์ อับบาส ที่ 2 และเสร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1647 ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับสะพานซีโอ เซโปล (Sio Sepol) เป็นสะพานที่ถูกสร้างในสมัยกษัตริย์ชาห์ อับบาสที่ 1 ในปี ค.ศ.1599 และเสร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1602 ซึ่งถูกสร้างให้เป็นสะพานที่มีความสวยงามสำหรับข้ามแม่น้ำซายันเดห์ มีความกว้าง 14 เมตร และมีความยาวถึง 360 เมตร ตลอดสองข้างทางของสะพานจะมีการตกแต่งเป็นทางเดินที่สวยงามและฐานด้านล่างถูกสร้างเป็นส่วนโค้ง 33 โค้ง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชมจัตุรัสอิหม่าม (Imam square) มีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณแปดหมื่นกว่าตารางเมตร ซึ่งมีสถาปนิก อาลี อัคบาร์ เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างจัตุรัสแห่งนี้ เพื่อให้เป็นสถานที่สำคัญในด้านกิจการทหารและเล่นกีฬาโปโล นอกจากนั้นบริเวณรอบๆยังมีการตกแต่งเป็นรูปโดมที่สวยงาม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.197 นำท่านเข้าชมพระราชวังอาลี คาปู (Ali Qapu Palace) ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ ชาห์ อับบาสที่ 1 โดยมีการสร้างเพิ่มเติมจนมีทั้งหมด 6 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นได้ถูกตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมหลากหลายโดยฝีมือจิตรกรชั้นครูในสมัยนั้น พระราชวังฯแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับและรับรองฯ พร้อมกันนี้ชั้นบนสุดยังได้ตกแต่งเป็นห้องสำหรับฟังเพลงและเล่นดนตรี สมควรแก่เวลานำท่านชม มัสยิดชีคห์ ลอทฟอลลาห์ (Sheikh Lotfollah Mosque) ซึ่งสร้างโดยชาห์ อับบาสที่ 1 เช่นเดียวกันซึ่งจะใช้เป็นมัสยิดส่วนพระองค์และราชวงศ์เท่านั้น โดยเฉพาะตัวโดมซึ่งถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศ จากนั้นนำท่านชม มัสยิดอิหม่าม (Imam Mosque) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1612 และสำเร็จเรียบร้อยในปี ค.ศ.1638 โดยมียอดโดมสูงประมาณ 30 เมตร และมีเสามินาเรท์ที่มีความสูงประมาณ 40 เมตร ให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย เลือกซื้อของฝากต่างๆที่บริเวณจตุรัสแห่งนี้ อิสระให้ท่านได้ช๊อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ตลาดบาร์ซาร์ บริเวณอิหม่ามสแควร์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Piroozy Hotel / Abbasi Hotel**** |
วันที่ 7 | อิสฟาฮาน – แอบยาเนห์ – คาชาน – เตหะราน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านแอบยาเนห์ (Abyaneh Village) (ระยะทาง 177 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) หมู่บ้านที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,400 เมตร ถูกสร้างอยู่บนเนินเขาคาร์คาส ชมความเป็นอยู่ของชุมชนหมู่บ้านเก่าแก่ที่ใช้อิฐดินดิบเป็นวัสดุในการสร้างบ้าน และยังคงสภาพเดิมที่เคยเป็นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16-18 สมัยก่อนนี้ ชาวเมืองนับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ ซึ่งต่อมาได้รับเอาศาสนาอิสลามเข้ามา และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ.2007 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคาชาน (Kashan) (ระยะทาง 88 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำท่านชมสวนฟิน (Fin Garden) ซึ่งเป็นสวนที่อยู่ติดกับที่ราบเชิงเขาซาโกรซ ถูกสร้างขึ้นในราชวงศ์ซาฟาวิด โดย ชาห์ อับบาสที่ 1 ออกแบบให้เป็นสวนแบบเปอร์เซีย ภายในสวนได้ถูกตกแต่งด้วยน้ำพุ ที่เกิดจากแหล่งน้ำธรรมชาติซึ่งมีความดันจากน้ำใต้ดิน และยังมีวังอันสวยงามที่ถูกสร้างเป็น 2 ชั้นสำหรับเป็นที่ประทับ พร้อมกันนั้นก็มีห้องอาบน้ำและอบไอน้ำ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมโบรูเจอร์ดี เฮาส์ (Borujerdi Historical House) บ้านหรือคฤหาสน์หลังนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพ่อค้าที่มีชื่อเสียงของเมืองคาชาน ชื่อว่า ฮัจ เซเยส จาฟาร์ นาทานซี เพราะว่าได้ทำการส่งสินค้าออกไปยังเมืองบรูเจอร์ดี บ้านหลังนี้สร้างเมื่อปี ค.ศ.1875 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 18 ปี ภายในประกอบไปด้วยสนามหญ้า และตัวบ้านมีลักษณะเป็นช่องลมเพื่อให้อากาศถ่ายเท อีกทั้งยังทำการตกแต่งลวดลายฝาผนังด้วยการแกะสลักปูนปั้นและทาสีให้มีความสวยงามตามแบบลักษณะของอิหร่านอีกด้วย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินเตหะราน (ระยะทาง 208 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เพื่อเชคอิน |
ค่ำ | อิสระอาหารค่ำในสนามบินตามอัธยาศัย |
21.40 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน W5 051 (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ช.ม.) |
วันที่ 8 | กรุงเทพ |
08.20 น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |