วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
16.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน D (แถว D) ประตูทางเข้าที่ 1- 4 อาคารผู้โดยสาร สายการบินไทย ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
19.40 น. | ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ สู่สนามบินเมลเบิร์น (MEL)โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG465 สายการบินบริการอาหารค่ำและอาหารเช้า บนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 8.50 ชม.) |
วันที่ 2 | เมลเบิร์น |
07.30 น. | เดินทางถึงสนามบินเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
09.00 น. | นำท่านเช็คอินเคาน์เตอร์ สายการบินรีเจอนัล เอ็กซ์เพรส แอร์ไลน์ |
กลางวัน | อิสระให้ท่านรับประทานอาหารกลางวัน ภายในสนามบิน |
12.00 น. | ออกเดินทางจากสนามบินเมลเบิร์น สู่สนามบินโฮบาร์ต สายการบินรีเจอนัล เอ็กซ์เพรส แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบิน ZL961 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ชม.) |
13.20 น. | เดินทางถึงสนามบินโฮบาร์ต นำท่านเดินทางชมเมืองโฮบาร์ต (Hobart) เมืองหลวงของรัฐแทสมาเนีย ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดลำดับที่ 2 รองลงมาจากซิดนีย์ จากการก่อตั้งเมืองในออสเตรเลียเมื่อปี ค.ศ.1803 เมืองโฮบาร์ตตั้งอยู่คร่อมสองฝั่งของ ปากแม่น้ำเดอร์เวนท์ (Derwent River) โดยมี ภูเขาเวลลิงตัน (Mt. Wellington) เป็นฉากหลัง ทั้งนี้โฮบาร์ตอุดมไปด้วยมรดกจากยุคอาณานิคม ความงามของธรรมชาติ และบรรยากาศของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงของบาร์และร้านอาหารในเมืองยามค่ำคืน นำท่านเดินทางสู่ อลิซาเบธสตรีท (Elizabeth St Mall) ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ธนาคาร และที่ทำการไปรษณีย์หลักบนถนนอลิซาเบธ นำท่านเดินทางแวะชมซาลาแมนกาเพลส (Salamanca Place) ชุมชนเล็กๆของชาวแทสมาเนีย ที่เรียงรายไปด้วย ตึกเก่าและอาคารโบราณในยุคอาณานิคมอังกฤษ นำท่านเดินทางลัดเลาะเข้าสู่ย่านแบตเตอรี่พ้อยน์ท (Battery Point) ซึ่งเป็นเขตชุมชนโบราณสมัยอาณานิคมยุคต้นๆที่ได้รับการรักษาสภาพไว้เป็นอย่างดี นำท่านเดินทางผ่านชมหมู่อาคารโบราณที่สง่างาม เช่น Arthur Circus Cottages, โบสถ์เซนต์ และพิพิธภัณฑ์ Van Diemen's Land Folk Museum อาคารสมัยจอร์เจียนที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ซึ่งได้รับการจัดแต่งภูมิทัศน์ไว้อย่างงดงาม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูกุ้งมังกร) |
ที่พัก | Hotel Grand Chancellor Hobart Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 1) |
วันที่ 3 | พอร์ตอาเธอร์ - ล่องเรือสู่เกาะแทสมัน - แหล่งประวัติศาสตร์พอร์ตอาร์เธอร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ พอร์ตอาเธอร์ (Port Arthur) (ระยะทาง 92 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชม.) อดีตเมืองคุกแห่งคาบสมุทรแทสมันที่มีฉลามชุกชุม เหมาะสำหรับจองจำนักโทษในอดีตอย่างยิ่ง นำท่านขึ้นเรือและผจญภัยสู่เกาะแทสมัน (Tasman Island) เกาะที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะแทสมัน และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแทสมัน อุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยหินและหน้าผาอันสวยงาม และอยู่ห่างจากโฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐแทสมาเนียไปทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรู้จักกันดีถึงหน้าผาริมทะเลที่สูงลิบและหินที่มีรูปทรงขนาดใหญ่สวยงามแปลกตา ท่านจะได้ชมความงามของแทสมันอาร์ก (Tasman Arch) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีความโดดเด่นทางด้านลักษณะภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติแทสมัน หน้าผารูปทรงแปลกซึ่งมีลักษณะเป็นถ้ำหรืออุโมงค์ขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการกระทำของคลื่นทะเลซัดเข้ากระแทกนานนับศตวรรษ แรงดันมหาศาลของคลื่นประกอบกับบีบอัดอากาศที่เกิดจากการกระแทกหน้าผา ได้ส่งผลให้เกิดรอยแตกแยกจนกลายเป็นลักษณะภูมิประเทศที่แสนมหัศจรรย์ สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก นำท่านผ่านชม โบลว์โฮล (Blow Hole) หน้าผาชั้นหินทรายที่ถูกแรงคลื่นจากทะเลซัดจนทะลุเป็นโพรงใต้น้ำ พอคลื่นจากทะเลซัดเข้าหาโพรงจะเกิดมวลน้ำพวยพุ่งขึ้นสูงราวกับน้ำพุ และเดวิลคิทเช่น (Devil Kitchen) หน้าผารูปทรงแปลกตาจนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พบกับความน่ารักของสัตว์นานาชนิด อาทิ แมวน้ำ, ปลาโลมา และนกชนิดต่างๆ เป็นต้น ***การออกเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในกรณีที่มีพายุหรือลมแรง ไม่สามารถออกเรือได้ บริษัทฯจะคืนค่าล่องเรือให้ในราคากรุ๊ปทัวร์ที่จองเอาไว้ และสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบไม่อนุญาตให้ขึ้นเรือเพื่อความปลอดภัย*** |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมแหล่งประวัติศาสตร์พอร์ตอาร์เธอร์ (Port Arthur Historical Site) ซึ่งมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการเรียนรู้ชีวิตนักโทษในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ซึ่งเคยถูกใช้จองจำนักโทษอุกฉกรรจ์กว่า 1,000 ชีวิตช่วงกลางศตวรรษที่ 18 ผ่านชมโรงนอน ห้องพักนักโทษ ห้องสมุด โบสถ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hotel Grand Chancellor Hobart Hotel **** หรือเทียบเท่า (พักค้างคืนที่ 2) |
วันที่ 4 | สวนอนุรักษ์แทสมาเนียนเดวิล – อุทยานแห่งชาติเฟรซิเนท์ – อ่าวไวน์กลาสเบย์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าชมสวนอนุรักษ์แทสมาเนียนเดวิล (Tasmanian Devil Conservation Park) (ระยะทาง 81 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) ชมความน่ารักของสัตว์เจ้าถิ่นของเกาะแทสมาเนียอย่างใกล้ชิด แทสมาเนียนเดวิลได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1941 ถึงแม้ว่าแทสมาเนียนเดวิลจะสามารถตกลูกคราวละประมาณ 30 ตัว แต่จะมีเพียงประมาณ 4 ตัวเท่านั้นที่มีชีวิตรอด โดยแทสมาเนียนเดวิลตัวเมียสามารถมีลูกในกระเป๋าหน้าท้องได้สูงสุดถึง 6 ตัว ในระยะเวลานาน 3 เดือน นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานว่าแทสมาเนียนเดวิลได้สูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลียเมื่อประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Seafood Menu) |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเฟรซิเนท์ (Freycinet National Park) (ระยะทาง 190 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.40 ชม.) ซึ่งตั้งชื่อตามนักเดินทางชาวฝรั่งเศส ชมทิวทัศน์อันงดงาม ณ จุดชมวิวเหนือ อ่าวไวน์กลาสเบย์ (Wineglass Bay) ที่เทือกเขาสีเขียว น้ำทะเลสีฟ้าและหาดทรายสีขาวมาบรรจบกัน อิสระให้ท่านเดินเล่นพร้อมเก็บภาพความประทับใจ ระหว่างทางท่านสามารถได้พบกับนกทะเลชนิดต่างๆ ดอกไม้ป่าของแทสมาเนียนานาชนิด และน้ำใสแจ๋วในแอ่งหินอย่างใกล้ชิด |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Freycinet Lodge **** หรือเทียบเท่า ***หมายเหตุ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควร ทางหัวหน้าทัวร์จะนัดหมายเวลา ในการออกล่าหาแสงใต้ (Aurora Australias) ซึ่งแสงใต้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด และจะปรากฏให้เห็นตามธรรมชาติในเวลาพลบค่ำ*** *****ในการชมแสงใต้ ทางบริษัทไม่สามารถรับประกันได้ว่า จะเห็นหรือไม่เห็นแสงใต้ เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่ทางหัวหน้าทัวร์จะพยายามหาจุดชมแสงใต้ที่เห็นได้ชัดที่สุดให้ท่าน ช่วงเวลาที่จะเห็นได้ชัดคือ 23.00 น. – 03.00 น. ***** |
วันที่ 5 | ประภาคารเคปตูร์วิลล์ – เมืองสวอนซี – เมืองบิเชโน - ชมเพนกวินนางฟ้า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ประภาคารเคปตูร์วิลล์ (Cape Tourville Light House) ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Freycinet บนชายฝั่งตะวันออกของรัฐแทสเมเนีย มีทางเดินระยะสั้นไม่ไกล ไปยังประภาคาร Cape Tourville ด้วยทิวทัศน์ชายฝั่งอันน่าทึ่งและการได้ชมประภาคารอย่างใกล้ชิด อุทยานแห่งชาติ Freycinet ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทร Freycinet และมองเห็นทะเลแทสมัน ที่อุทยานแห่งชาติ Freycinet ท่านสามารถเห็นยอดเขาหินแกรนิตสีชมพูอันน่าทึ่ง อ่าวอันเงียบสงบ หาดทรายสีขาว และอ่าวไวน์กลาสอันเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสวอนซี (Swansea) (ระยะทาง 67 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองในใจกลางชายฝั่งตะวันออกของรัฐแทสเมเนีย บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของอ่าว Great Oyster และมองเห็นอุทยานแห่งชาติ Freycinet เป็นเขตเทศบาลแห่งแรกในออสเตรเลียที่ก่อตั้งขึ้นหลังจากโฮบาร์ตและซิดนีย์ ในการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2021 สวอนซีมีประชากร 997 คน เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1821 และเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีในปี 2021 |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองบิเชโน (Bicheno) สถานที่พักผ่อนยอดนิยมสำหรับชาวแทสเมเนีย เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ อันเงียบสงบบนชายฝั่งตะวันออกของแทสมาเนีย ขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดสีขาวละเอียดที่สวยงาม ซึ่งเรียงรายไปด้วยหินแกรนิตอันโดดเด่นที่มีไลเคนสีส้มขึ้นปกคลุม ชีวิตสัตว์ป่าที่น่าค้นหา และอาหารทะเลสดใหม่ในท้องถิ่น บิเชโนเป็นเมืองชายหาดบรรยากาศสบายที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองเหมาะเป็นที่พักตากอากาศ |
17.00 น. | ในเวลาพลบค่ำ นำท่านเดินทางไปชม เพนกวินนางฟ้า (Fairy Penguins) ที่อาศัยอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ทะเลของเมืองบิเชโน เพนกวินเหล่านี้จะขึ้นจากทะเลไปยังโพรงของพวกมัน นกเพนกวินตัวน้อยกลับมาหลังจากค่ำจากการกินอาหารในมหาสมุทร การได้เห็นเพนกวินน้อยน่ารักเหล่านี้อย่างใกล้ชิด ถือเป็นประสบการณ์พิเศษอย่างแท้จริงของผู้ได้ชม เพนกวินจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบ และรู้สึกปลอดภัย ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องไม่ใช้เสียงหรือรบกวนพวกมัน ในช่วงฤดูหนาวเพนกวินจะมุ่งเน้นไปที่การรักษาโพรงของพวกมัน สร้างรังและปรับปรุงให้ดีขึ้น และหยุดพักจากความเครียดตลอดเวลา หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก นกเพนกวินตัวน้อยกลับมาหลังจากค่ำจากการกินอาหารในมหาสมุทร |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Diamond Island Resort, Restaurant & Bar and Penguin Show **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เซนต์เฮเลนส์ - เบย์ออฟไฟร์ – หุบเขาทามาร์ –ชมไร่องุ่น - เมืองลอนเซสตัน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์เฮเลน(St.Helens) (ระยะทาง 74 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) หนึ่งในเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงทางตอนเหนือของเกาะแทสมาเนีย นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงด้านการจัดการแข่งขันตกปลาประจำเมืองอีกด้วย นำท่านเดินทางชมเบย์ออฟไฟร์ (Bay of Fire) ตั้งชื่อโดยกัปตันโทเบียส เมื่อปี ค.ศ.1773 เมื่อเขาพบเห็นการก่อกองไฟที่ชายหาดโดยชนพื้นเมืองชาวอะบอริจิน ชายหาดนี้มีชื่อเสียงขึ้นชื่อด้วยความขาวของหาดทราย น้ำทะเลสีฟ้าใส และหินแกรนิตสีน้ำตาล ซึ่งสีน้ำตาลเหล่านี้เกิดจากการเกาะตัวของไลเคน นำท่านเดินทางแวะถ่ายรูปกับอนุสรณ์ไม้แกะสลักแด่ผู้ล่วงลับ (Legerwood Carved Memorial Tree) (ระยะทาง 82 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ในชุมชนเล็กๆของเมืองเลเกอร์วู้ด (Legerwood) ซึ่งรูปแกะสลักไม้ต่างๆนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ทหารผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 1 นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านลาเวนเดอร์ไบรด์สโตว์ (Bridestowe Lavender Estate) (ระยะทาง 47 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ก่อตั้งขึ้นโดยนักปรุงน้ำหอมตระกูลเดนนี่ ชาวอังกฤษที่เข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐานเมื่อปี ค.ศ.1921 จากการบริหารงานรุ่นสู่รุ่น ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในฟาร์มผลิตลาเวนเดอร์ชื่อดัง และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ผู้คนหลั่งไหลแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมในช่วงฤดูร้อนอย่างไม่ขาดสายในแต่ละปี แต่แล้วก็ถูกขายกิจการตกทอดแก่ครอบครัวเรเวนเมื่อปี ค.ศ.2007 อิสระให้ท่านเลือกชมผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในหมู่บ้าน และถ่ายรูปกับทัศนียภาพของเมืองนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่หุบเขาทามาร์ (Tamar Valley) (ระยะทาง 59 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) Tamar Valley เป็นหุบเขาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย วิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองลอนเซสตันทางตอนเหนือไปยังชายฝั่งด้านใดด้านหนึ่งของแม่น้ำทามาร์ ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องไร่องุ่นและโรงเก็บไวน์ นำท่านเดินทางชมไร่องุ่น (Moores Hill Estate) ท่านจะได้ลองชิมไวน์ที่ไร่องุ่นแห่งนี้ ไวน์ดังกล่าวผลิตในสถานที่ที่โรงไวน์พลังงานแสงอาทิตย์ 100% แห่งแรกของรัฐแทสเมเนีย ผลิตไวน์หลากหลายชนิดจาก Sparkling, Riesling, Pinot Gris, Chardonnay, Pinot Noir, Cabernet Sauvignon และ Merlot อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อไวน์เพื่อเป็นของฝาก นำท่านเดินทางสู่ เมืองลอนเซสตัน (Launceston) เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของเกาะแทสมาเนียที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาเขียวขจี เป็นเมืองที่มีธรรมชาติสวยงามมาก มีวัฒนธรรมอันรุ่งเรือง วิถีชีวิตผู้คนสงบ เรียบ ง่าย ตั้งอยู่ต้นแม่น้ำทามาร์ แม่น้ำสายสำคัญของเมืองนี้ และยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นเยี่ยมของออสเตรเลีย นับเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองแห่งเกาะแทสมาเนีย รองจากเมืองโฮบาร์ต ถูกตั้งรกรากโดยชาวยุโรปตั้งแต่ปี ค.ศ.1806 และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในออสเตรเลีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Hotel Grand Chancellor Launceston **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | เมืองลอนเซสตัน - โบสถ์อัครสาวก – ประตูผลิตภัณฑ์นมแอชโกรฟ - อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชมเมืองลอนเซสตัน (Launceston) ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแบบโกธิก โบสถ์ประจำเมือง อาคารรัฐสภา โรงเบียร์เก่าใจกลางเมือง หรือที่ทำการไปรษณีย์เก่าแก่ที่มีหอนาฬิกาบอกเวลาอยู่บนหอคอย จากนั้นชมดอกไม้หลากสีสันใน ซิตี้ปาร์ค สวนพฤกษศาสตร์ของเมืองนี้ ซึ่งมีดอกวิสทีเลีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้เลื้อยที่สวยและหอมที่สุดในโลกในสวนแห่งนี้ นำท่านเดินทางชมโบสถ์อัครสาวก (The Church of the Apostles) เป็นโบสถ์คาทอลิกในเมืองลอนเซสตัน รัฐแทสเมเนีย สังกัดอัครสังฆมณฑลโฮบาร์ต โบสถ์สไตล์ฟื้นฟูกอทิกที่มีโดเลอไรต์แบบชนบทและแต่งด้วยฟรีสโตน มีหลังคาหินชนวนมีไม้กางเขนหินอยู่ที่ปลายจั่ว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในปี 1886 ได้รับการออกแบบโดย Alexander North นำท่านเดินทางเข้าชมประตูผลิตภัณฑ์นมแอชโกรฟ (Ashgrove Dairy Door) (ระยะทาง 64 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ในบนเส้นทางท่องเที่ยวรอยู่ห่างจาก Devonport ไปทางตะวันออก 25 นาที และอยู่ห่างจาก Launceston ไปทางตะวันตก 40 นาที มีทุกสิ่งสำหรับผู้รักชีสทุกคน เพลิดเพลินกับอาหารเช้าหรืออาหารกลางวันด้วยเมนูอาหารจากทุ่งหญ้าแสนอร่อย รวมถึงขนมปังปิ้งชีสดีลักซ์ 5 ชิ้นและเจลาโต้ที่ทำสดใหม่ ชมการทำงานของผู้ผลิตชีส และเรียนรู้เกี่ยวกับปรัชญาการทำชีสอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ashgrove ท่านสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารรสเลิศ เช่น นมที่ได้รับรางวัล ชีสชนิดพิเศษ ของขบเคี้ยวชีสแฟนซี และผลิตผลแทสเมเนียแสนอร่อย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน (Cradle Mountain) (ระยะทาง 88 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Cradle Mountain-Lake St Clair ที่ระดับความสูง 1,545 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับ 6 ในรัฐแทสเมเนีย อุทยานแห่งชาติ Cradle Mountain เป็นพื้นที่ที่มีทัศนียภาพอันโดดเด่นและมีเส้นทางเดินให้เลือกหลากหลาย เป็นพื้นที่ที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Cradle Mountain Hotel **** หรือเทียบเท่า ***อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควร ทางหัวหน้าทัวร์จะนัดหมายเวลา ในการออกล่าหาแสงใต้ (Aurora Australias) ซึ่งแสงใต้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุด และจะปรากฏให้เห็นตามธรรมชาติในเวลาพลบค่ำ*** *****ในการชมแสงใต้ ทางบริษัทไม่สามารถรับกระกันได้ว่า จะเห็นหรือไม่เห็นแสงใต้ เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่ทางหัวหน้าทัวร์จะพยายามหาจุดชมแสงใต้ที่เห็นได้ชัดที่สุดให้ท่าน ช่วงเวลาที่จะเห็นได้ชัดคือ 23.00 น. – 03.00 น. ***** |
วันที่ 8 | อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน - ทะเลสาบโดฟ - เมืองเชฟฟิลด์ - ขึ้นเรือข้ามฟากสู่เมลเบิร์น |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน(Cradle Mountain) ชมความงามของยอดเขา Cradle Mountain ที่สูงตระหง่านขณะเดินไปตามทางเดินไม้เพื่อลัดเลาะตามริมน้ำใสบริสุทธิ์ของทะเลสาบที่เกิดจากหิมะที่จับตัวกันเป็นนํ้าแข็งแห่งนี้ ท่านจะได้สัมผัมกับทะเลสาบโดฟ (Dove Lake) ล้อมรอบด้วยเส้นทางเดินและเส้นทางธรรมชาติสั้นๆ หลายจุดที่กระจายออกไปถึงจุดชมวิวต่างๆ ลองเดินขึ้นไปที่แนวชายฝั่งของทะเลสาบ Dove และชมวิวทิวทัศน์อันตระการตาที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เส้นทางเดินรอบทะเลสาบส่วนใหญ่เป็นทางเดินไม้และท่านสามารถเดินไปทางใดก็ได้ตามใจชอบ จากนั้นนำท่านชมชมโรงเรืออันเก่าแก่ที่อยู่บนชายฝั่งด้านตะวันตกเฉียงเหนือ โรงเรือแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1940 นอกป่า King Billy pine ซึ่ง ปัจจุบันไม่มีคนอยู่อาศัยและเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักถ่ายภาพ แวะถ่ายภาพโรงเรือที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวโดยมี Cradle Mountain และผืนป่าโดยรอบเป็นฉากหลัง เส้นทางเดินรอบทะเลสาบ Dove มีระยะทางยาว 5.7 กิโลเมตรต่อเที่ยวและใช้เวลาเดินทั้งสิ้นราว 2 ชั่วโมง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองเชฟฟิลด์ (Sheffield) (ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) เมืองขนาดเล็กทางตอนเหนือของแทสมาเนีย เป็นที่รู้จักในฐานะ เมืองแห่งจิตรกรรมฝาผนัง (Town of Murals) โดยท่านจะเพลิดเพลินไปกับภาพวาดที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างบรรจงบนกำแพงและอาคารต่างๆ ทั่วทั้งเมือง พร้อมฟังเล่าเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ผ่านงานศิลปะในขณะที่ท่านเดินเล่นผ่านแกลเลอรี่ศิลปะกลางแจ้ง ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ท่าเรือดาเวนพอร์ท (Devanport) เพื่อเช็คอินลงเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากสู่เมืองเมลเบิร์น |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารในเรือ Spirit of Tasmania |
ที่พัก | นอนหลับพักผ่อนบนเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก SPIRIT OF TASMANIA (เรือใช้เวลาข้ามฟากประมาณ 11 ชั่วโมง แนะนำให้ท่านเตรียมกระเป๋าใบเล็ก) |
วันที่ 9 | เมืองเมลเบิร์น – จตุรัสเฟดเดอเรชั่น สแควร์ – โบสถ์เซนต์แพทริค – ตลาดควีนวิกตอเรีย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือ เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือเมืองเมลเบิร์น (Melbourne) นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมลเบิร์น (Melbourne) เมืองที่มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนที่ใด ในบรรยากาศนครแห่งความทันสมัย แต่ยังคงสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ผสมผสานกลมกลืนทางด้านศิลปะ วัฒนธรรม มีภัตตาคารชั้นดี แหล่งช้อปปิ้งชั้นยอด และรถรางอันมีชื่อ ที่ทำให้เมืองเมลเบิร์น ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบการคมนาคมสาธารณะในเมืองที่ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้เมืองเมลเบิร์นยังได้รับผลโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกสามปีติดต่อกัน โดย EIU เมื่อ ค.ศ.2012-2014 นำท่านเดินทางผ่านชมย่านจตุรัสเฟดเดอเรชั่น สแควร์ (Federation Square) อีกหนึ่งจัตุรัสที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเมลเบิร์น และยังเป็นจุดเชื่อมศูนย์กลางเมืองกับแม่น้ำยาร์ร่า นำท่านเดินทางผ่านชมสวนฟิซรอย (Fitzroy Garden) สวนสาธารณะในกลางนครเมลเบิร์น สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1848 และครอบคลุมพื้นที่สีเขียวอาณาเขตกว่า 64 เอเคอร์ นับเป็นหนึ่งในกว่าสิบสวนสาธารณะที่ทำให้เมลเบิร์นได้รับสมญานามว่า เป็นเมืองแห่งสวนสาธารณะ นำท่านเดินทางแวะถ่ายรูปกับบ้านกัปตันคุ๊ก (Captain Cook Cottage) หรือชื่อเต็ม กัปตัน เจมส์ คุ๊ก ยอดนักเดินเรือชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเดินเรือสำรวจบนคาบสมุทรแปซิฟิกและค้นพบเกาะฮาวาย ประเทศนิวซีแลนด์ และประเทศออสเตรเลีย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย |
บ่าย | นำท่านเดินทางถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์แพทริค (St.Patrick Cathedral) โบสถ์โรมันคาทอลิกสไตล์โกธิก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1858 มียอดหอคอยสวยงามสูงกว่า 105 เมตร นอกจากนี้ พระสันตะปาปาโป๊ปจอห์นปอลที่สอง เคยเสด็จมาเยือนโบสถ์แห่งนี้เมื่อปี ค.ศ.1986 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดควีนวิกตอเรีย (Queen Victoria Market) ตลาดใจกลางเมืองบนพื้นที่กว่า 17 เอเคอร์ ซึ่งนับเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ (Southern Hemisphere) ภายในตลาดแบ่งเป็นโซนอย่างชัดเจน ทั้งตลาดผลไม้ตามฤดูกาลนานาชนิด ซึ่งมีทั้งผลไม้ท้องถิ่นและแบบนำเข้าจากต่างประเทศ ตลาดเนื้อและปลา ซึ่งพ่อค้านำมาขายแบบสดๆเกือบทุกวัน นอกจากนี้ยังมีร้านเบเกอรี่ ร้านขายสินค้าพื้นเมือง ของฝากต่างๆมากมาย อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย (***ตลาดปิดทำการในวันจันทร์และวันพุธ หากตรงกับวันดังกล่าว ทางทัวร์จะนำท่านเที่ยวชมสถานที่อื่นแทน***) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน (พร้อมเมนูกุ้งมังกรและเป๋าฮื้อ) |
19.30 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เมลเบิร์น (MEL) เพื่อเช็คอิน |
23.30 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 462 (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9.35 ชม.) สายการบิน บริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน |
วันที่ 10 | กรุงเทพมหานคร |
06.00 น. | เดินทางถึง กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ (Bon Voyage) |