วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - แมดริด |
16.30 น. | คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Iberojet Airlines พบเจ้าหน้าที่บริษัทคอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอินของท่าน |
19.15 น. | ออกเดินทางสู่ นครแมดริด ราชอาณาจักรสเปน โดยเที่ยวบิน E9 846 |
วันที่ 2 | แมดริด – เกวนก้า - บาเลนเซีย |
03.15 น. | ถึงสนามบินอาดอลโฟ ซัวเรซ มาดริด-บาราคัส (Adolfo Suárez Madrid Barajas Airport ) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
05.00 น. | รถโค้ชนำท่านเดินทางสู่ เมืองเกวนก้า เมืองเล็กๆน่ารัก อีกทั้งยังเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 1996 |
07.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำเที่ยว เมืองเกวนก้า Cuenca สเปน เมืองเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์คือ Hanging Houses ลักษณะของตัวบ้านคล้ายกับแขวนอยู่บนหน้าผาสูง จนปัจจุบันกลายเเป็นเอกลักษณ์ของเมือง และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกปี 1996 ข้ามสะพาน St. Paul Bridge สูง 40 เมตร เพื่อชมบ้านแขวน ในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเมือง และที่พบปะของผู้ครองเมือง ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เข้าสู่ใจกลางเมืองที่ตั้งของ Plaza Mayor จตุรัสหลัก Catedral de Cuenca มหาวิหารประจำเมือง Cuenca สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 เป็นศิลปะแบบโกธิค สร้างแล้วอาคารถล่มลงมา สร้างอีกก็ถล่มอีก ทำให้ยังคงสร้างไม่เสร็จจนถึงทุกวันนี้ ได้ เวลาเดินทางสู่เมืองบาเลนเซีย (Valencia) เมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำตูเรีย (Turia River) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม, วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของสเปนภูมิภาคตอนกลาง-ตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นที่ตั้งของสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงคือ สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย (Valencia Club de Futbol) รู้จักกันในชื่อ บาเลนเซีย หรือ ไอ้ค้างคาว เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของประเทศสเปนที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ชมย่านใจกลางจัตุรัสเมืองเก่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลากลาง, ที่ทำการไปรษณีย์, ร้านค้า, สนามสู้วัวกระทิง นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารวาเลนเซีย หรือ มหาวิหารซานตามาเรียแห่งวาเลนเซีย (Cathedral de Santa Maria de Valencia) มหาวิหารที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเก่า สร้างขึ้นในสไตล์ผสมผสานอาทิ กอธิค , นีโอคลาสสิก , บาร็อค และอื่นๆ ด้านข้างจะเป็น เอล มิกูเลต (El Miguelete) เป็นหอระฆังที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1381 และสิ้นสุดในปี 1429 และติดกันเป็นโบสถ์แม่พระ นักบุญอุปถัมถ์ประจำเมือง ตลอดสองข้างทางมีภัตตาคาร, บาร์, ร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกมากมาย จากนั้นนำชมเขตเมืองใหม่ที่ตั้งของท่าเรือเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมือง ประกอบไปด้วย โรงภาพยนตร์,โรงศิลปะการแสดง, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และอุทยานสมุทรภูมิศาสตร์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Sercotel Sorolla Palace **** หรือเทียบเท่าในระดับราคาเดียวกัน |
วันที่ 3 | บาเลนเซีย - กอสตา เดล อะซาร์ - บาร์เซโลน่า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางเลาะเลียบชายฝั่งทะเล กอสตา เดล อะซาร์ (Costa del Azahar) หรือ ชายฝั่งดอกส้มบาน ตั้งชื่อตามสวนส้มที่ปลูกทั่วที่ราบชายฝั่งและส่งกลิ่นหอม หวานในฤดูใบไม้ผลิ ผ่านเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงแถบเมดิเตอร์เรเนียน จนเข้าสู่เมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona) นครใหญ่แห่งคาตาลันยา และเมืองสำคัญอันดับ 2 ของสเปน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านสำรวจย่านเก่าแก่ที่เรียกว่า Gothic Quarter เป็นเมืองเก่าคลาสสิคอายุกว่า 1,000 ปี มีการผสมผสานศิลปะ สถาปัตยกรรมอย่างลงตัว รวมไปถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ความเป็นอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การชมความงามของศิลปะสถาปัตยกรรมในย่านนี้ที่งาม มหัศจรรย์ รวมถึงมีความอลังการน่าทึ่งไปในตัว เยี่ยมชมแหล่งชุมชนชาวยิว กลิ่นอายของชาวท้องถิ่นดั้งเดิม มหาวิหารบาร์เซโลน่า Barcelona Cathedral มหาวิหารที่สร้างในสไตล์โกธิค ความวิจิตรของที่นี่ ทำให้มีความโดดเด่นสะดุดตา ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา ถนน Avinyó เป็นถนนสายสำคัญ อาคารหัวมุมที่เด่นสะดุดตา เป็นศูนย์โทรศัพท์เก่า ชั้นล่างเป็น Café Bar AVINO สถาปัตยกรรมแนวโรมัน Plaça Reial ลานอเนกประสงค์ ผู้คนนั่งชมไฟและความงามของอาคารที่ล้อมรอบ ตรงกลางมีเกาะกลางวงกลม น้ำพุ และที่นั่งสำหรับผู้คน บริเวณนี้มีต้นปาล์มเป็นระยะ ที่นี่ถูกกล่าวถึงคือ ผลงานการออกแบบสร้างโคมไฟถนนที่เป็นผลงานชิ้นแรกหลังจบการศึกษาใหม่ของอันโตนิโอ เกาดี (Antonio Gaudi) ย่าน Plaça de Sant Felip Neri โบสถ์บาร็อค อนุสรณ์สถานของสงครามกลางเมืองในสเปน มุมมหาชนคือกำแพงที่เห็นความเป็นสถาปัตยกรรมโบราณ ถนน Bisbe Irurita เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอิน ภาพถ่ายของที่นี่ที่นิยมก็คือ จุดที่สองฟากฝั่งถนนไม่ได้ใหญ่มาก เป็นผนังของอาคารที่แสดงให้เห็นการสร้างผนังด้วยอิฐก้อน มีอาคารเชื่อมตึกสองฝั่ง เป็นสะพานข้ามที่มีหลังคา ถนนสายนี้เชื่อมระหว่างวิหารบาร์เซโลน่าจนถึงจัตุรัส Sant Jaume ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เป็นที่ตั้งของรัฐสภาและศาลากลาง โบสถ์ซานตามาเรียเดลปิ ด้วยหอคอยสูง 54 เมตร (ซึ่งสามารถมองเห็นได้จาก La Rambla) เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่น่าทึ่งที่สุดของละแวกใกล้เคียงนอกจากนี้ยังมี Pablo Picasso Museum เป็นหอศิลป์ที่กว้างขวางที่สุดแห่งหนึ่งของศิลปินชาวสเปน Pablo Picasso ในศตวรรษที่ 20 ด้วยผลงาน 4,251 ชิ้น ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ย่าน Gothic Quarter คือศูนย์รวมศิลปะโกธิค ที่มีวิวัฒนาการผสมผสานของใหม่ที่เข้ามาในยุคหลัง มีเรื่องราวให้ศึกษาและดื่มด่ำ ความสวยงาม คลาสสิค มีเรื่องราวชวนติดตาม นำท่านขึ้นสู่เนินเขา Montjuïc จุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของบาร์เซโลน่าบนความสูง 184 เมตร อาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนญา Catalunya โดดเด่นเป็นสง่าบนเนินเขา ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแบบพาโนรามา จรดท่าเรือ และหน้าผาสูงชันทำให้มองเห็นอ่าวที่งดงามดั่งภาพวาด แล้วเข้าสู่ถนนคนเดิน ถนนคนเดิน รัมบลาส (Ramblas) เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในบาร์เซโลน่า มีความยาวถึง 1.30 ก.ม. จากอนุสาวรีย์โคลัมบัส จนถึงจตุรัส Placa Catalunya ถนนเส้นนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยนักกวีชาวสเปน Federico Garcia Lorca ได้บรรยายถึงถนนเส้นนี้เอาไว้ว่า "It is only street in the world, which I wish would never end" ถนนนั้นเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆอีกมากมาย และตลาดสดบุคเคอเรีย (Boqueria Market) ที่เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงของบาร์เซโลน่า เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว ที่นี่มีขายตั้งแต่ผลไม้สด น้ำผลไม้ ไปจนถึงเนื้อ Jamon ในราคาที่ถูก นอกจากนั้นแล้วยังมีร้านอาหารทะเลที่คุณสามารถไปนั่งรับประทานอาหารทะเลสดๆได้ในตลาดแห่งนี้ หรือ จะเดินชมสินค้าในห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ของบาร์เซโลน่าอย่าง El Corte Ingles ที่มีสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำให้ท่านสนุกสนานไปกับการช้อปปิ้ง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Catalonia La Maquinista ****หรือเทียบเท่าในระดับราคาเดียวกัน |
วันที่ 4 | บาร์เซโลน่า - มหาวิหารซากราด้า แฟมิเลีย – สวนสาธารณกูเอล – ซาราโกซ่า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านชมผลงานของศิลปินอันยิ่งใหญ่ของเกาดี้ สวนสาธารณะ ปาร์คกูเอล ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี 1985 เดิมทีนั้นตระกูล Guell ตั้งใจสร้างให้เป็นสวนของบ้านประจำตระกูล โดยมี Gaudi เป็น สถาปนิคผู้ดูแลการสร้าง ต่อมาได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของบาร์เซโลน่า แล้วนำท่านเข้าชม โบสถ์ซากราดา แฟมิเลีย "Sagrada Familia" ในภาษาสเปนนั้น แปลว่า "Holy Family Cathedral" มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิคชื่อดัง Antoni Gaudi แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เกาดี้ก็ได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุ จึงมีการสานต่องานของ Gaudi ต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ การออกแบบด้านนอกของตัววิหารนั้น ต้องตกตะลึงในรายละเอียดและความสวยงามของตัวมหาวิหาร สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของยอดเขาและความสูงของมองต์เซร์ราต สมแล้วกับที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่เมือง ซาราโกซ่า (Zaragoza) เมืองหลวงแห่งแคว้นอารากอนในประเทศสเปน ดินแดนแห่งสถาปัตยกรรมโรมัน ย่านเมืองเก่า Plaza del Pilar เป็นจัตุรัสคนเดินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสเปน รายล้อมไปด้วยคาเฟ่น่ารักๆ และอาคารประวัติศาสตร์มากมาย มหาวิหารของพระเยซูคริสต์ (La Seo de Zaragoza) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกทรงคุณค่า พระราชวังอัลฆาเฟเรีย เป็นที่ประทับของกษัตริย์ชาวคริสต์แห่งอรากอนและกษัตริย์คาทอลิกแห่งสเปน มหาวิหาร Our Lady of the Pillar มหาวิหารศิลปะบาโรกที่มียอดโดม 8 เหลี่ยม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Ebro |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Diagonal Plaza Zaragoza **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | ซาราโกซ่า - เซอโกเบีย - Roman Aqueduct - แมดริด |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเซโกเบีย (Segovia) เป็นเมืองหลักของจังหวัดเซโกเบีย ในแคว้นคาสตีลและเลออนของประเทศสเปน ตั้งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำเอเรสมา (Eresma) กับแม่น้ำกลาโมเรส (Clamores) ณ เชิงเขากวาดาร์รามา โดยขณะที่อยู่ภายใต้การปกครองของชาวโรมันและชาวมัวร์ เมืองนี้จึงมีชื่อเรียกว่า เซโกเบีย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองเซโกเบีย (Segovia Cathedral) และสะพานส่งน้ำโรมันที่มีชื่อเสียง (Roman Aqueduct) นำชมเขตเมืองเก่าซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงที่สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 8 และได้รับการบูรณะในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 จากนั้น ชมปราสาทแห่งเซโกเบีย (จากด้านนอก) หรือ ปราสาทอัลกาซาร์ หลายคนเรียกปราสาทแห่งนี้ว่าปราสาทแห่งเทพนิยาย เพราะความสวยสง่างามที่มองเห็นได้จากภายนอก ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูงที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 แล้วได้รับการต่อเติมในศตวรรษที่ 15 - 16 มีลักษณะเหมาะแก่การตั้งรับข้าศึกในอดีต เพราะมีทั้งช่องเชิงเทินขนาดใหญ่ ใช้สำหรับติดตั้งอาวุธ และมีช่องสำหรับเทน้ำเดือดและกรวดร้อน เพื่อทำลายกองทัพข้าศึกที่เข้าประชิดกำแพงเมือง ในปี ค.ศ. 1975 ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองเซโกเบียเป็นเมืองมรดกโลกทางศิลปะวัฒนธรรม จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่กรุงมาดริด (Madrid) เมืองหลวงของประเทศสเปน ตั้งอยู่ใจกลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาที่นี่ และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ ยกเว้นในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1601-1607 เมืองมาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และสูงสุดแห่งหนึ่งในยุโรป |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Praga Madrid **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | แมดริด – โตเลโด้ - LA ROZAS VILLAGE OUTLET |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองโทเลโด (Toledo) เมืองหลวงเก่าของสเปน เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางภาคกลางของประเทศสเปน องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นแหล่งมรดกโลกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีทัศนีภาพที่สวยงาม โดยมีแม่น้ำเทกัส ไหลผ่านเมือง ลักษณะผังเมืองโทเลโดเป็นเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมที่สุดของการจัดสร้างเมืองโบราณอันสมบูรณ์แบบตัวเมืองรายล้อมด้วยเนินเขาประดุจกำแพงธรรมชาติด้วยหุบผา 3 แห่ง ชมมหาวิหารแห่งโทเลโด (จากด้านนอก) เป็นวิหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสเปน รองจากวิหารเมืองเซบีญ่า ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ความงดงามอลังการสไตล์โกธิก นำท่านเดินชมเมืองที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสเปน และมีเวลา ให้ท่านหาซื้อของที่ระลึกในย่านกลางเมืองเป็นงานฝีมือที่รู้จักกันดี คือ ดาบและมีดเหล็กกล้า นอกจากนี้ยังมีงานเซรามิคทุกประเภทให้ท่านได้สะสมเป็นของประดับบ้านอีกด้วย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่ LA ROZAS VILLAGE เอ๊าท์เล็ทชั้นนำ ที่นักท่องเที่ยวสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการช้อปปิ้ง กว่า 100 boutiques ร้านค้า อาทิ Armani , BURBERRY, DIESEL, FURLA, DOLCE & GABANA, Coach , Columbia , Gucci , LOEWE , Longchamp , Michael kors , The North Face , Versace |
ค่ำ | **เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาอันมีค่าของท่าน จึงไม่มีบริการอาหารค่ำ** |
ที่พัก | Hotel Praga Madrid **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 7 | แมดริด – พระราชวังหลวง - เที่ยวชมเมือง - เดินทางกลับประเทศไทย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเข้าชมพระราชวังหลวง (Palacio Real) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส สวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาโรค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นคลังเก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆอาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ จากนั้นชมปลาซาเดเอสปาญา (Plaza de espana) เพื่อแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ (Donquixote) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เที่ยวชมนครแมดริด ผ่านชมอนุสาวรีย์น้ำพุไซเบเลส (The Cibeles Fountain) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสซิเบเลส (Plaza de Cibeles) ซึ่งเป็นวงเวียนสำคัญและสวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงมาดริด โดยบริเวณนี้ มีอาคารสวยงามและสำคัญ ประจำอยู่ทั้ง 4 มุมได้แก่ ธนาคารแห่งชาติสเปน,กองบัญชาการทหารบก,ที่ทำการใหญ่ไปรษณีย์ ประตูชัยอาคาล่า และศูนย์วัฒนธรรมทวีปอเมริกาโดยประตูชัยอาคาล่า มาดริด (Splendid puerta de alcala) สร้างขึ้นในปี 1599 ประตูชัยแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตั้งตระหง่านทางตะวันออกของใจกลางเมือง พลาซ่า มายอร์ (Plaza Mayor of Madrid) ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือ ประตูพระอาทิตย์ ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมือง นับเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของสเปน (กิโลเมตรที่ศูนย์) และยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้าและห้างสรรพสินค้าใหญ่มากมาย แวะถ่ายรูปกับรูปปั้นหมีเกาะต้นเชอรี่ (The bear and the cherry tree in Madrid) อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญอีกแห่งของกรุงแมดริด จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเที่ยวย่าน Walking Street ตามอัธยาศัย |
17.00 น. | ออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศไทย |
21.45 น. | ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยสายการบิน Iberojet Airlines เที่ยวบินที่ E9 845 |
วันที่ 8 | เดินทางกลับถึงประเทศไทย |
15.15 น. | คณะเดินทางกลับถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ด้วยความประทับใจ |