วันที่ 1 | กรุงเทพมานคร - บังกลาเทศ |
07.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน สายการบินไทย อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
10.35 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินฮาซรัท ชาห์จาลาล (DAC) ประเทศบังกลาเทศ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG321 (ใช้เวลาบินประมาณ 2.35 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และ สายการบินมีบริการ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน |
12.10 น. | เดินทางถึงสนามบินฮาซรัท ชาห์จาลาล (เวลาบังกลาเทศช้ากว่าไทยประมาณชั่วโมง) นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองธากา (Dhaka) เป็นเมืองหลวงของประเทศบังกลาเทศ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Buriganga ซึ่งเป็นร่องน้ำที่แยกจากแม่น้ำธเลศวรีในใจกลางพื้นที่ปลูกปอกระเจาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรม การค้า และการปกครองของบังกลาเทศ เป็นเมืองค้าปอกระเจา ข้าวสาร เมล็ดพืชให้น้ำมัน น้ำตาล และชา อุตสาหกรรมในเมืองรวมถึงสิ่งทอ และผลิตภัณฑ์จากปอกระเจา นอกจากนี้ ธากายังขึ้นชื่อเรื่องงานหัตถกรรมด้วย นำท่านเดินทางเข้าชม พิพิธภัณฑ์อาห์ซัน มานซิล (Ahsan Manzil Musuem) (ระยะทาง 14 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) สร้างขึ้นในปี 1859 โดย Nawab Abdul Gani ซึ่งเป็นพ่อค้าผู้มั่งคั่งและผู้ใจบุญ พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นริมฝั่งแม่น้ำ Buriganga และเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของมหาเศรษฐีแห่งธากา พระราชวังแห่งนี้ตั้งชื่อว่า Ahsan Manzil ตามชื่อ Ahsanullah ลูกชายของ Nawab Abdul Gani ตัวอาคารโดดเด่นด้วยโดมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมห้องแปดเหลี่ยม และบันไดกว้างที่ทอดไปสู่ประตูโค้ง ริมส่วนหน้าของอาคารมีเฉลียงที่มองเห็นวิวแม่น้ำ Buriganga อันกว้างไกล สถาปัตยกรรมตะวันตกอันโอ่อ่าของตัวอาคารผสมผสานองค์ประกอบของการออกแบบสไตล์โมกุล ซึ่งเป็นเทรนด์ยอดนิยมในหมู่ชนชั้นสูงและมั่งคั่งของธากาในศตวรรษที่ 18 และ 19 Ahsan Manzil ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของมรดกทางวัฒนธรรมอันมั่งคั่งของบังกลาเทศอีกด้วย มีบทบาทสำคัญในการกำหนดประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Crowne Plaza Dhaka Gulshan **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | อนุสรณ์สถานผู้พลีชีพแห่งชาติ - อาคารรัฐสภาแห่งชาติ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชมอนุสรณ์สถานผู้พลีชีพแห่งชาติ (National Martyrs’ Memorial) (ระยะทาง 36 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชั่วโมง) เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติของบังกลาเทศ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและรำลึกถึงผู้เสียชีวิตระหว่างสงครามปลดปล่อยและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในปี พ.ศ. 2514 ซึ่งส่งผลให้บังกลาเทศได้รับเอกราชและอธิปไตย อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองซาวาร์ ห่างจากเมืองหลวงธากาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 35 กม. ออกแบบโดยไซเอ็ด ไมนูล ฮอสเซน (Syed Mainul Hossain) และสร้างโดย Concord Group สถาปัตยกรรมของอนุสาวรีย์ประกอบด้วยผนังหรือปริซึมรูปสามเหลี่ยมจำนวน 7 คู่ โดยคู่ที่อยู่นอกสุดมีความสูงที่สั้นที่สุดแต่กว้างที่สุด คู่ที่อยู่ด้านในจะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามอัตราส่วน และคู่ที่อยู่ด้านในสุดจึงกลายเป็นจุดสูงสุดของสถาปัตยกรรม กำแพงทั้งเจ็ดคู่เหล่านี้แสดงถึงความสำคัญในประวัติศาสตร์ของบังคลาเทศ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่อาคารรัฐสภาแห่งชาติ (National Parliament Building) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชม.) เป็นหน่วยงานนิติบัญญัติสูงสุดของบังกลาเทศ อาคารแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยหลุยส์ อิซาดอร์ คาห์น สถาปนิกชาวอเมริกัน ออกแบบให้อาคารสะท้อนมรดก และวัฒนธรรมของบังคลาเทศ ในขณะเดียวกันก็ใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า อาคารหลักซึ่งอยู่ใจกลางของหมู่อาคารทั้งหมดแบ่งออกเป็นสามส่วน คือ ลานกลาง ลานทิศใต้ และลานประธานาธิบดี สระน้ำที่ล้อมรอบสามด้านของอาคารหลักเป็นภาพแทนถึงสายน้ำที่งดงามของเบงกอล อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1961 แล้วเสร็จในปี 1982 เพื่อเป็นที่ประชุมสมัชชาสำหรับรัฐบาลปากีสถานตะวันอออก ตามนโยบายของรัฐบาลปากีสถานในสมัยที่ประเทศยังแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันตก และตะวันออกขนาบซ้ายและขวาหลังจากการแยกตัวเป็นเอกราชจากอินเดีย ซึ่งปากีสถานตะวันออกก็คือบังคลาเทศในปัจจุบัน และเป็นหนึ่งในศูนย์นิติบัญญัติที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ 200 เอเคอร์ (800,000 ตร.ม.) เป็นหนึ่งในอาคารที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Crowne Plaza Dhaka Gulshan **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | ป้อมลาลบัก - มัสยิดไบตุล มุคาร์ราม - ทัชมาฮาลบังกลาเทศ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชม ป้อมลาลบัก (Lalbagh Fort) เป็นหมู่ป้อมปราการในจักรวรรดิโมกุลที่ก่อสร้างไม่เสร็จ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบุรีคงคาในธากาตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศบังกลาเทศ โดยเริ่มก่อสร้างในปี 1678 ภายใต้ดำริของสุบาหดาร์โมกุล มุฮัมมัด อะซัม ชาห์ (Mughal Subahdar Muhammad Azam Shah) บุตรของจักรรพรรดิเอารังเซบ ผู้ซึ่งต่อมาก็ขึ้นครองราชย์ แต่บุตรของพระองค์ ชาอีสตา ขาน ไม่ได้สานต่อการก่อสร้างป้อมจึงไม่เสร็จสมบูรณ์ตามที่ออกแบบไว้ นำท่านเดินทางเข้าชม มัสยิดไบตุล มุคาร์ราม (Baitul Mukarram Mosque) เป็นมัสยิดแห่งชาติของบังกลาเทศ มัสยิดแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงธากา ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ เริ่มสร้างในช่วงต้นของปี 1960 และเสร็จในปี ค.ศ. 1968 ออกแบบโดยสถาปนิกนามว่า อับดุลฮุสเซน (T Abdul Hussain Thariani) ซึ่งได้ทำการจำลองแบบมาจากมัสยิดล้อมอัลละฮอมแห่งเมืองมักกะห์ มัสยิดสามารถรองรับผู้มาสักการะได้มากกว่า 42,000 คน เพราะมีความเก่าเเก่เเละมีขนาดที่ใหญ่เป็นอย่างมาก เป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมทัชมาฮาลบังกลาเทศ (Taj Mahal Bangladesh) (ระยะทาง 19 กม. ใช้เวลาประมาณ 47 นาที) เป็นการเลียนแบบสถาปัตยกรรมของทัชมาฮาล สุสานโมกุลในเมืองอัครา ประเทศอินเดีย ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปีโดยนักสร้างภาพยนตร์ชาวบังกลาเทศผู้ร่ำรวย อาห์ซาน อุลลอห โมนี (Ahsan Ullah Moni) โดยสร้างทัชมาแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้เพื่อนบ้านผู้ยากไร้ในบังกลาเทศที่ไม่สามารถมีโอกาสเดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อชมความงามของทัชมาฮาลหลังจริงได้ มีโอกาสได้ชื่นชมความงามตระการตาอันโด่งดังของอินเดียชิ้นนี้ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก (ระยะทาง 24 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.10 ชม.) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Crowne Plaza Dhaka Gulshan **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | บังคลาเทศ - ศรีลังกา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบิน สนามบินฮาซรัท ชาห์จาลาล |
12.55 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินสนามบินโคลอมโบ (CMB) โดย สายการบินศรีลังกา เที่ยวบินที่ UL190 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.15 ชั่วโมง) และ สายการบินมีบริการ อาหาร ระหว่างเที่ยวบิน |
15.40 น. | เดินทางถึงสนามบินสนามบินโคลอมโบ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร หลังจากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Hilton Colombo Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | วัดถ้ำดัมบุลลา – เมืองสิกิริยา - Lion Rock |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าชมวัดถ้ำดัมบุลลา (Dambulla Cave Temple) (ระยะทาง 161 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.20 ชม.) ตั้งอยู่ในเมืองดัมบุลลา ในภาคกลางของประเทศศรีลังกาห่างไป 148 กิโลเมตร ทางตะวันออกของโคลอมโบ เป็นวัดที่อยู่ภายในถ้ำที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Golden Temple of Dambulla เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเชิงภูเขาหินสูงประมาณ 500 ฟุต วัดแห่งนี้มีทั้งหมดห้าถ้ำหลักๆ แต่ละถ้ำมีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีอายุมานานกว่า 800 ปี ผนังและเพดานเป็นจิตรกรรมวาดขึ้นในราวศตวรรษที่ 15-18 ถ่ายทอดเรื่องราวล้วนเกี่ยวกับพุทธศาสนาทั้งสิ้น มีปฏิมากรรมปูนปั้น พระพุทธรูปปางต่างๆ หลายขนาดกว่า 150 องค์ ห้องใหญ่สุดมีพุทธไสยาสน์ยาว 47 ฟุต และยังมี พระศิวะและพระวิษณุประทับยืน ทำให้พุทธศาสนิกชนและชาวฮินดูเข้ามาสักการะ องค์การยูเนสโกจึงได้ประกาศได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1991 |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองสิกิริยา (Sigiriya) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเขตมาตาเล ใกล้เมืองดัมบุลลา ในจังหวัดภาคกลาง ประเทศศรีลังกา ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี เป็นป้อมปราการและปราสาทหินโบราณ รายล้อมด้วยสวนหย่อมและระบบชลประทาน โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังภาพเฟรสโก้ (Fresco) เป็นภาพเขียนสีที่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี เล่ากันว่าในอดีตหินก้อนนี้เป็นรูปสิงโต ปัจจุบันเหลือเพียงแค่เท้าสิงโต 2 ข้าง นักท่องเที่ยวรู้จักกันในชื่อ Lion Rock ได้รับเลือกจากกษัตริย์กัสยปะ (ค.ศ. 477–495) ให้เป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์ พระองค์ทรงสร้างวังของตนบนหินก้อนนี้ และประดับด้านข้างด้วยจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส บนที่ราบสูงเล็กๆ ประมาณครึ่งทางของหินนี้ เขาได้สร้างประตูเป็นรูปสิงโตขนาดมหึมา ชื่อของสถานที่แห่งนี้ได้มาจากโครงสร้างนี้ สิหคีรี ศิลาสิงโต ปัจจุบันสิกิริยาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก อิสระให้ท่านได้เก็บภาพวิวอันสวยงามจากด้านบนสุดของหินผา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Amaya Signature Kandalama Dambulla **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เมืองแคนดี้ - วัดพระเขี้ยวแก้ว |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองแคนดี้ (Kandy) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เป็นเมืองใหญ่ในศรีลังกา ตั้งอยู่ในจังหวัดภาคกลาง เป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายของสมัยกษัตริย์โบราณแห่งศรีลังกา เมืองนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินเขาในที่ราบสูงแคนดี้ ซึ่งตัดผ่านพื้นที่สวนเขตร้อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชา แคนดี้เป็นทั้งเมืองด้านการปกครองและศาสนาและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดภาคกลาง นำท่านเดินทางเข้าชมวัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ วัดศรีทัลฒามัลลิกาววิหาร (Sri Dalada Maligawa) เป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท (สยามวงศ์) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบกัณฏิ เมืองกัณฏิ หรือ แคนดี ประเทศศรีลังกา เป็นวัดที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำขวาของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้รับขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ในปี 1988 วัดพระเขี้ยวแก้ว สร้างโดยพระเจ้าวิมลธรรมสุริยะที่ 1 พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์สุดท้ายของประเทศศรีลังกา ในปี พ.ศ. 2138 โดยตัววัดตั้งอยู่ในพื้นที่ ๆ เคยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังโบราณ เนื่องจากความเชื่อของชาวสิงหลที่เชื่อว่าผู้ที่รักษาพระเขี้ยวแก้วไว้ย่อมถือว่ามีสิทธิชอบธรรมในการเป็นปกครองอาณาจักรมาแต่โบราณ ปัจจุบันวัดพระเขี้ยวแก้ว เป็นวัดที่อยู่ในความดูแลของพระมหาสังฆนายก สยามวงศ์ ซึ่งมีอยู่สองฝ่าย คือ ฝ่ายมัลลวัตตะ (คามวาสี) และอัสคิริยะ (อรัญวาสี) ซึ่งจะแบ่งกันปกครองรักษาพระเขี้ยวแก้วสลับกันทุกปี โดยพระเขี้ยวแก้วประดิษฐานในพระสถูปประดับอัญมณีขนาดใหญ่ซ้อนกันหลายชั้น |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | เมืองชายทะเลที่สวยและ มีเสน่ห์ที่สุดของประเทศศรีลังกา เมืองที่มีความหลากหลายทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม นำท่านเดินทางชมป้อมปราการกอลล์ (Galle Fort) (ระยะทาง 241 กม. ใช้เวลาประมาณ 4.30 ชม.) ตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันตกของเกาะ เป็นท่าเรือสำคัญที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ที่นี่สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1588 โดยชาวโปรตุเกส ก่อนที่ชาวดัตช์จะมาปรับปรุงให้แข็งแรงขึ้นเมื่อช่วงกลางศตวรรษที่ 17 ป้อมปราการแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เพราะเป็นสถานที่ที่นำเอาสถาปัตยกรรมแบบยุโรปมาผสานกับประเพณีของเอเชียใต้อย่างกลมกลืน Galle Fort ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่โดยกรมโบราณคดีแห่งศรีลังกา โดยที่ยังคงความสวยงามตามแบบฉบับเดิมอยู่ และเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนศรีลังกา ด้วยเมืองที่ตั้งอยู่หลังป้อมปราการแห่งนี้ยังมีคนอาศัยอยู่ และภายนอกป้อมบริเวณรอบๆ ภายในกำแพง จะมีวัดของชาวพุทธ, โบสถ์ของชาวคริสต์ และมัสยิดของชาวมุสลิม อีกทั้งยังมีสนามกีฬา รวมทั้งสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ที่สวยงามสไตล์ยุโรป มีความหลากหลายทั้งด้านศาสนาและเชื้อชาติ ป้อมกอลล์หรือที่รู้จักกันในชื่อป้อมดัตช์หรือ "เชิงเทินแห่งกอลล์" ท่านสามารถเดินเที่ยวและชมบ้านเมือง ร้านค้าแบบโบราณที่มีสถาปัตยกรรมแบบดัตช์โคโลเนียล |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Radisson Blu Resort, Galle **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | เมืองโคลอมโบ – วัดกัลณียาราชมหาวิหาร - วัดคงคาราม |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองโคลอมโบ (Colombo) (ระยะทาง 124 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศศรีลังกา ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะศรีลังกา โคลอมโบเป็นเมืองหลวงทางการค้าของประเทศศรีลังกา และยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของของประเทศอีกด้วย นำท่านเดินทางเข้าชมวัดกัลณียาราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Vihara) เป็นวัดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง กรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา ถือเป็นวัดประจำเมืองที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพอย่างสูงสุด เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 1,900 กว่าปี โดยชาวศรีลังกาเชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่เป็นสาวกอีก 500 รูป ได้เคยเสด็จมายังวัดแห่งนี้ในวันวิสาขบูชา ในบริเวณวัดมีพระเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระแท่นบัลลังก์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวมาโปรดพญานาคมณีอัคขิกะและบริวาร จุดเด่นที่สำคัญของวัดคือพระวิหาร ซึ่งประกอบด้วยพระนอน ห้องประดิษ ฐานพระสารีริกธาตุ และภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ศิลปินชื่อดังของศรีลังกาได้อุทิศเวลากว่า 20 ปีในการสรรค์สร้างภาพจิตรกรรมที่งดงาม |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมวัดคงคาราม (Gangaramaya Temple) วัดไทยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในศรีลังกา เป็นวัดไทยนิกายสยามวงศ์ และเป็นที่ตั้งโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา เป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดในโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งสมัยใหม่และวัฒนธรรมดั้งเดิม วัดแห่งนั้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบรา และสร้างขึ้นในราวปลายศตวรรษที่ 19 สถาปัตยกรรมในวัดผสมผสานทั้งศรีลังกา, ไทย, อินเดีย และจีน มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีเหลืองสดใสที่ประดิษฐานอยู่ด้านในพระอุโบสถพร้อมกับจิตกรรมฝาผนังที่ดูสวยงามอลังการเป็นอย่างมาก วัดนี้มีอาคารต่าง ๆ คือวิหาร, เจดีย์, ต้นพระศรีมหาโพธิ, วิหารมันทิรัย (Vihara Mandiraya), สีมมามาลัก (Seema Malaka; โถงรวมของสงฆ์) และห้องประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ นอกจากส่วนทางศาสนาแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์, ห้องสมุด, กุฏิพระ, ปิริเวนา (โรงเรียนสอนเณร) สูงสามชั้น และห้องอื่น ๆ สำหรับทำกิจกรรม นอกจากนี้ยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ที่ได้หน่อต้นมาจากต้นศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาอินเดียด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โคลอมโบซิตี้เซ็นเตอร์ (Colombo City Center) เป็นส่วนเสริมใหม่ของห้างสรรพสินค้าในโคลัมโบ ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกในใจกลางเมืองหลวงของศรีลังกา เป็นโครงการพัฒนาแบบผสมผสานสูง 47 ชั้น โดยที่ 5 ชั้นจัดสรรพื้นที่ช้อปปิ้งขนาด 3,700 ตร.ม. คอมเพล็กซ์แห่งนี้ประกอบด้วยอพาร์ทเมนท์หรูหรา 192 ห้อง โรงแรมหรู 164 ห้อง แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของศรีลังกาซึ่งครอบคลุมแบรนด์ท้องถิ่นและต่างประเทศที่มีชื่อเสียง พร้อมด้วยร้านอาหารและความบันเทิง - รวม 93,000 ตร.ม. อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งและเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
21.30 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินโคลอมโบ |
วันที่ 8 | โคลอมโบ - กรุงเทพมหานคร |
01.05 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG308 (ใช้เวลาบินประมาณ 4.40 ชั่วโมง) และสายการบินมีบริการ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน |
07.15 น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |