วันที่ 1 | กรุงเทพฯ – อิสตันบูล (ตุรกี) |
21.00 น. | พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ S ประตู 9 สายการบิน Turkish Airline เพื่อทำการเช็คอิน |
23.05 น. | ออกเดินทางโดยสายการบิน Turkish Airline เที่ยวบินที่ TK069 |
วันที่ 2 | อิสตันบูล – มอลตา (วัลเลตตา) – St. John Church – Old town - St. Paul Bay |
05.20 น. | ถึง สนามบินอิสตันบูล (ตุรกี) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
08.00 น. | ออกเดินทางโดยสายการบิน Turkish Airline เที่ยวบินที่ TK 1369 ถึง สนามบินนานาชาติมอลตา (วัลเลตตา) ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำคณะเที่ยวชมเมืองที่ได้รับการขนานนามว่า เป็นเกาะสวรรค์แห่งเมดิเตอเรเนียน นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่ร่ำรวยไปด้วยสถาปัตยกรรมบาโรก ที่องค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนไว้หลายแห่ง |
09.30 น. | ถึง สนามบินนานาชาติมอลตา (วัลเลตตา) ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำคณะเที่ยวชมเมือง วัลเลตตา ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะสวรรค์แห่งเมดิเตอเรเนียน นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่ร่ำรวยไปด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่องค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนไว้หลายแห่งเรือนไม้ขัดเงา ภาพปูนเปียกบนเพดานโดยจิตรกรชาวชเวเบีย โยเซฟ วันเนนมาเคอร์ อารามทั้งบริเวณได้เป็นอนุสรณ์สถานที่ได้รับความคุ้มครองโดยได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การ UNESCO เที่ยวชมเมือง วัลเลตตา เมืองหลวงที่มีป้อมปราการที่อายุน้อยที่สุด และสร้างขึ้นไม่นานหลังจากการล้อมครั้งใหญ่ในปี 1565 เพื่อต่อต้านพวกออตโตมาน เที่ยวชมสวน Upper Barraka ชื่นชมทัศนียภาพของ Grand Harbour ที่มีป้อมปราการอันงดงาม เดินเที่ยวชมเมือง ระหว่างทางผ่าน Castille Place และ Merchants Street ชื่นชมความสวยงามของสิ่งก่อสร้างในสถาปัตยกรรมบาโรกของ Auberges และ Palazzi |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านชม ภายในของมหาวิหาร St. John's เป็นหนึ่งในอาคารที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ ชมผลงานชิ้นเอกของ Carravaggio 'The Beheading of St. John' ซึ่งถือเป็นงานที่สำคัญที่สุดของเขาทางตอนใต้ของกรุงโรม เลาะเลียบไปตามถนน Republic Street ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าหลักของเมือง เรียงรายด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามยิ่งขึ้น Palace Square พระบรมมหาราชวังที่โอ่อ่าตระการตา สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | DoubleTree by Hilton Malta **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | เกาะโกโซ - Ggantija Temple – บ่อเกลือ – ป้อมปราการแห่งโกโซ - เกาะโคมิโน - บลูลากูน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเดินทางสู่ท่าเรือ Ferry เพื่อข้ามสู่เกาะโกโซ (Gozo) เรือนำท่านเดินทางถึง เกาะโกโซ นำชมสถานที่ที่โดดเด่นที่สุด 'The Citadel' เมืองที่มีป้อมปราการขนาดเล็กแห่งนี้ครองความสูงเหนือ Victoria เมืองหลวง ผู้คนอาศัยอยู่ตั้งแต่ยุคสำริด ชมเค้าโครงอันงดงามของสถาปัตยกรรมยุคกลาง แวะชมบ่อเกลือ Xwejni บ่อเกลือที่ได้ผลิตผลจากธรรมชาติ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางโดยเรือท่องเที่ยวสู่เกาะโคมิโน ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอ่าว St. Julian's Bay, อ่าว St. George's Bay, อ่าว Qawra Bay, อ่าว St. Paul's Bay และอ่าว Mellieha Bay ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นชายหาดที่สวยงาม จนเข้าสู่เขตทะเลที่ดีที่สุดในมอลต้า บลูลากูน ตื่นตาตื่นใจไปกับน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ที่ใสราวกับคริสตัล สระว่ายน้ำจากธรรมชาติ Blue Lagoon เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในประเทศมอลต้า |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Parkhotel Beatenberg **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | Blue Grotto - Hagar Qim - หมู่บ้านชาวประมง Marsaxlokk - และเมืองยุคกลาง - Mdina |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเที่ยวทางใต้ของเกาะ ถ้ำบลูกรอตโตเบลเวเดียร์ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของ 'Il-Hnejja' หมายถึง 'The Arch' ในภาษามอลตา ได้รับการตั้งชื่อโดยทหารชาวอังกฤษที่คิดว่ามันคล้ายกับ Grotta Azzurra (The Blue Grotto) ใน Capri ซุ้มโค้งประตูสูง 30 เมตรและเป็นหนึ่งในถ้ำมากมายที่เรียงรายอยู่ตามแนวชายฝั่งที่สวยงามแห่งนี้ นำชม Hagar Qim Archeological โบราณสถานที่เก่าแก่สร้างจากหินขนาดใหญ่และหนักที่สุดในหมู่เกาะมอลตา บางแผ่นมีน้ำหนักถึง 20 ตัน โบราณสถานแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ 3300 ปีก่อนคริสตกาล จากนั้นเดินทางสู่ Marsaxlokk หมู่บ้านชาวประมงที่สวยงามบนชายฝั่งทางใต้ โดดเด่นด้วยอาคารสถาปัตยกรรม และเรือประมงพื้นบ้านสีสันสดใสที่รู้จักกันในชื่อ 'ลูซซู' ตลาดท้องถิ่นเล็กๆ ตั้งเรียงรายอยู่ริมทะเล |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางต่อไปยังเมือง Mdina ในยุคกลาง Mdina สร้างขึ้นบนที่ราบสูงใจกลางเกาะ อาคารสไตล์บาโรกเก่าแก่ของเมือง โบสถ์ และกำแพงป้อมปราการอันงดงามขนานเส้นขอบฟ้า Mdina ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของมอลตาจนกระทั่งเมือง Valletta ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นในปี 1566 มีชื่อเรียกมากมายรวมถึง Melite (การยึดครองของชาวโรมัน), Medina (การยึดครองของชาวอาหรับ), Citta Notabile และ Citta Vecchia (หลังจากสร้าง Valletta) สัมผัสประสบการณ์และเพลิดเพลินไปกับเมืองนี้ได้อย่างแท้จริงคือการเดินเท้า สำรวจตรอกซอกซอยที่แปลกตา ถนนแคบ อาคารโบราณ และทัศนียภาพอันน่าทึ่ง อันไกลโพ้นจากกำแพงป้อมปราการสูง จากนั้นรถโค้ชนำคณะเดินทางสู่ท่าเรือวัลเลตต้า High Speed Catamaran (Club class) นำคณะเดินทางสู่เมือง Pozzallo ทางตอนใต้ของเกาะซิซิลี ถึงท่าเรือ Pozzallo เกาะซิซิลี รถโค้ชรอรับแล้วเดินทางสู่ โมดิกา - Modica ตั้งอยู่ในพื้นที่ วาล ดิ โนโต |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Modica Palace Hotel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | โมดิกา – ซิตี้ทัวร์ - Ragusa รากูซ่า - อะกรีเจนโต |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเที่ยวชมเมือง โมดิก้า ตัวเมืองแบ่งออกเป็นสองเมือง Modica Alta (Upper Older Modica) และ Modica Bassa (Lower Modica) โมดิก้าทั้งสองส่วนเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินบันได โมดิกาเป็นที่รู้จักในด้านสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงาม และถูกกำหนดให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโกพร้อมกับเมืองอื่น ๆ อีก 7 เมือง ขนมขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ ช็อกโกแลตของโมดิก้า เป็นช็อกโกแลตชนิดพิเศษที่ผลิตในท้องถิ่น สูตรช็อกโกแลตที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจากสูตร Aztec โบราณสำหรับ Xocolatl เดินทางต่อสู่ Ragusa |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเที่ยวชมเมือง Ragusa เมืองเก่าที่มีเสน่ห์ Ragusa Ibla เที่ยวชมเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดแห่งหนึ่งในซิซิลี รากูซา ทำให้ผู้มาเยือนต้องตื่นตะลึงกับสถาปัตยกรรมแบบบาโรก Ragusa ในวันนี้มีมาตั้งแต่ปี 1693 เพราะในปีนั้น Ragusa พร้อมด้วย Noto, Modica, Scicli และ Catania ถูกถล่มด้วยแผ่นดินไหวร้ายแรง การสร้างเมืองใหม่จึงเกิดขึ้น ปัจจุบันคือรากูซา ซูพีเรียร์ ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งของประชากรตัดสินใจที่จะสร้างใหม่บนพื้นที่เดิม บนสันเขาที่ก้นหุบเขา ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อรากูซา อิบลา Ragusa เปรียบเปรยเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารของซิซิลี เป็นเมืองมรดกโลก และอาคาร 18 แห่งได้รับการคุ้มครองโดยการอุปถัมภ์ของ UNESCO จากนั้นเดินทางสู่อากรีเจนโต เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองที่งามที่สุดของมวลมนุษย์” เคยรุ่งเรืองอย่างสูงสุดในศตวรรษที่ 5 มีการสร้างหมู่วิหารอันอลังการเป็นสง่าอยู่ในหุบเขาที่เรียกกันว่า Valley of the Temples |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Costazzurra Museum & Spa **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | อะกรีเจนโต – แวลเล่ย์ ออฟ เทมเปิล - ปาแลร์โม |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เที่ยวชมโบราณสถานอันยิ่งใหญ่ แวลเล่ย์ออฟเดอะเทมเปิล ชมเตมปิโอ เดลลากองการ์เดีย วิหารที่อนุรักษ์ไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเตมปิโอ ดิโจเว วิหารบูชาเทพเจ้าซุส สร้างด้วยศิลปะแบบดอริก และเตมปิโอ ดิจูโนเน วิหารบูชาเทพีจูโน (เฮรา) ที่ท่านจะเห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขาอันงดงาม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางต่อสู่ ปาแลร์โม เป็นทั้งเมืองเอกและเมืองท่าของเกาะซิซิลี เกาะกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่เชื่อมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน อีกทั้งเคยเป็นศูนย์กลางของโลกยุคโบราณ มีทั้งโบราณสถานแบบคลาสสิค และแบบแขกมัวร์ในยุคศตวรรษที่ 10 ปาแลร์โมได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากคอนสแตนติโนเปิล อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมอีก 200 ปี จากการเข้ายึดครองพวกนอร์มัน ทำให้เมืองนี้งามสง่าที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | NH Palermo **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 7 | ปาแลร์โม – เทาอารมิน่า - นาซอส |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเที่ยวชม ศูนย์กลางของเมืองที่ปาลาซโซ เดนอร์มันนี ปราสาทอันงดงามเป็นมรดกตกทอดจากพวกนอร์มัน ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของรัฐบาลซิซิลีมาก่อน ภายในมีห้องหับต่างๆสวยงามไปด้วยภาพโมเสก ที่มีอิทธิพลของตะวันออก เขตเมืองเก่าอยู่ที่ถนนวิตตอริโอ เอ็มมานูเอล ประดับไปด้วยน้ำพุแบบบาร็อค และอนุสาวรีย์ตั้งอยู่เป็นระยะ ชมโบสถ์มาร์ตอรานา ตกแต่งด้วยศิลปะไบแซนไทน์ และโบสถ์ซานกาตัลโด สถาปัตยกรรมของแขกมัวร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีวิลล่าจูเลีย สวนสวยที่ตกแต่งแบบอิตาลีแท้ ให้ความร่มรื่นและน่าชมเป็นอย่างยิ่ง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางต่อสู่เมืองเทารมิน่า เมืองตากอากาศชายฝั่งทะเลไอโอเนียน มีภูเขาไฟเอ็ตน่า ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง ภูเขาไฟแห่งนี้มีความสูงถึง 3,323 เมตร บนยอดปกคลุมไปด้วยหิมะและเป็นหนึ่งในภูเขาไฟเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ยังคุกกรุ่น |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | UNAHOTELS Naxos Beach Sicily **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | นั่งเคเบิ้ลคาร์ สู่ภูเขาไฟเอ็ตนา - เที่ยวเมืองสวย เทาอารมิน่า – กาตาเนีย - บินสู่บารี |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม คณะเดินทางสู่สถานี Funivia dell'Etna บนความสูง 1,923 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล Cable Car อันทันสมัย นำคณะไปยังที่สถานีบนภูเขาที่ความสูง 2,500 เมตร ในเวลาไม่กี่นาที ชมทิวทัศน์ของความงามที่หาที่เปรียบมิได้จากระเบียงแบบพาโนรามาของ ชมหลุมอุกกาบาตและร่องรอยการปะทุของภูเขาไฟ กลิ่นเถ้าลาวา กับฉากหลังของทะเลคาตาเนียสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเที่ยวชมเมือง เทาอารมิน่า (Taormina) ไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อันเป็นจิตวิญญาณที่แท้จริงของซิซิลี เกอเธ่ เคยกล่าวยกย่องว่า “เป็นผลงานอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและศิลปะ” เทาโอร์มินาตั้งอยู่บนแหลมหินสูงเหนือทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในซิซิลีมากว่าสองร้อยปี อาคารยุคกลางที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม ทิวทัศน์อันตระการตา นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมชมโรงละครกรีก-โรมัน เดินเตร่ไปตามถนน Corso Umberto I สัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี Palazzo Corvaja สถาปัตยกรรมของที่นี่เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างอาหรับ นอร์มัน และโกธิก รวมถึงเชิงเทิน หน้าต่างที่ปูด้วยกระเบื้อง และสนามหญ้าที่ร่มรื่น ชื่นชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งของ Mount Etna และดื่มด่ำกับบรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียนตามแบบฉบับ ถนนที่คดเคี้ยวซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า บาร์ และร้านอาหาร ทำให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ แล้วออกเดินทางสู่สนามบินกาตาเนีย |
19.45 น. | ออกเดินทางสู่เมืองบารี โดยสายการบินไรอันแอร์ เที่ยวบินที่ FR 6190 ถึงสนามบินบารี เมืองหลวงของแคว้นปูเกลียและเป็นหนึ่งในเมืองที่โดดเด่นที่สุดในอิตาลีตอนใต้ ผสมผสานความงดงามริมทะเลกับเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ เมืองมหาวิทยาลัยแห่งนี้ซึ่งเป็นท่าเรือสำราญที่สำคัญในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนยังมีชื่อเรื่องเมืองเก่าแก่ที่มีโบสถ์ ลานโล่งที่สวยงามน้อยคนจะรู้จัก |
ค่ำ | นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม |
ที่พัก | Mercure Villa Romanazzi Carducci Bari **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกันที่พัก |
วันที่ 9 | หมู่บ้านกระโจม Alberobello – Lunch @ The Grotta Palazzese restaurant - มาเตร่า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารโรงแรม นำท่านสู่ หมู่บ้านกระโจม Alberobello หมู่บ้านเก่าแก่ รูปทรงแปลกตามีวิวัฒนาการ การตั้งถิ่นฐานของคนแถบ Greece, Egypt, Sardinia and Sicily รอบๆทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Alberobello มีมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 14-15 วัสดุที่ใช้สร้างบ้านล้วนมาจากธรรมชาติในท้องถิ่นและการก่อสร้าง ก็ง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน ท่าน Count of Conversano ออกกฎให้การก่อสร้างในยุคนั้น ใช้หินเรียงซ้อนกัน โดยไม่ใช้ปูนก่อเพื่อให้ง่ายต่อการรื้อถอน และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี |
กลางวัน | รับประทานอาหารมื้อกลางวัน ณ The Grotta Palazzese restaurant ร้านอาหารสไตล์ Cave อันโดดเด่นและหรูหรา กับเมนูมื้อพิเศษ |
บ่าย | เดินทางสู่เมืองมาเตรา (Matera) เมืองมรดกโลก ที่ปรากฏในหนังเจมส์ บอนด์ “No Time to Die” เป็นฉากแรกของการเริ่มต้นเรื่อง เมืองมรดกโลกทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ปรากฏหลักฐานของการมีคนอยู่อาศัยมากกว่า 9,000 ปี แม้ในยุคหนึ่งเมืองเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ความอัปยศของอิตาลี’ แต่ทว่าในวันนี้เมืองกลับมาโด่งดังเป็นที่จับตาในฐานะเมืองท่องเที่ยวสุดร้อนแรง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | La Suite Matera Hotel & Spa **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 10 | มาเตร่า - ซอเรนโต้ – นาโปลี - เดินทางกลับ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเดินทางสู่ เมืองซอเรนโต้ (Sorrento) เมืองชายทะเลที่มีตัวเมืองเรียงรายตามแนวของผาหินสูง ทิวทัศน์สวยงามเหล่านี้ได้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว จนเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมเมือง ซอเรนโต้ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและตากอากาศ ร้านรวงเปิดให้บริการนักช้อปปิ้งได้เลือกสรร |
16.00 น. | รถส่งคณะที่ สนามบินนาโปลี เพื่อทำการเช็คอิน |
20.00 น. | ออกเดินทางโดยสายการบิน Turkish Airline โดยเที่ยวบินที่ TK 1880 |
23.25 น. | ถึง สนามบินอิสตันบูล รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
วันที่ 11 | เดินทางกลับถึงประเทศไทย |
01.35 น. | ออกเดินทางโดยสายการบิน Turkish Airline โดยเที่ยวบินที่ TK 068 |
15.25 น. | คณะเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ |