วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร |
20.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
23.05 น. | ออกเดินทางสู่สนามอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.10 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบิน มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน |
วันที่ 2 | อิสตันบูล – วิลนิอุส – ซูปิส – หอคอยเกดิมินัส - มหาวิหารวิลนีอุส |
05.15 น. | เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล (IST) แวะเปลี่ยนเครื่อง |
07.50 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินวิลนิอุส (VNO) ประเทศลิทัวเนีย โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK1407 สายการบินมีบริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 2.50 ช.ม.) |
10.40 น. | เดินทางถึงสนามบินวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางชมเมืองวิลนิอุส (Vilnius) เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย เมืองใหญ่และสวยงามที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ บริเวณจุดบรรจบของแม่น้ำวิลเนีย และแม่น้ำเนริ โดยวิลนิอุสมีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ มีโบสถ์และวิหารมากมาย จึงได้รับสมญานามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรปในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกใน ค.ศ. 1994 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง นำท่านเดินทางชมประตูเมืองในวิลนีอุส (Gate of Down) เป็นประตูเมืองในวิลนีอุส หลวงของลิทัวเนีย และเป็นหนึ่งในอนุสรณ์ทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุด เป็นสถานที่แสวงบุญคาทอลิกที่สำคัญในลิทัวเนีย จากนั้นนำท่านเดินทางชมเมืองซูปิส (Uzupis Town) ย่าน Užupis ที่มีบรรยากาศแบบโบฮีเมียนนั้นมีศิลปะบนกำแพงและประติมากรรมต่างๆ เช่น นางฟ้าที่ทำจากทองเหลือง ประติมากรรมนางเงือกที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และรัฐธรรมนูญที่ติดอยู่บนกำแพง โดยเป็นฉบับล้อเลียนของ “Republic of Užupis” ที่ตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอของศิลปินและร้านเสื้อผ้าของดีไซเนอร์ คาเฟ่สุดฮิป รวมถึงร้านอาหารนานาชาติที่ตั้งอยู่เรียงรายตามตรอกซอกซอยแคบๆ และสุสาน Bernardine Cemetery อันร่มรื่นที่สร้างขึ้นตังแต่ปี 1810 และมีหลุมศพของคนท้องถิ่นผู้มีชื่อเสียงมากมาย นำท่านเดินทางเข้าชมหอคอยเกดิมินัส (Gediminas' Tower) เป็นส่วนที่เหลืออยู่ของปราสาทตอนบนบนยอดเขาเกดิมินาส ในเมืองวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย เดิมป้อมปราการไม้แห่งแรกสร้างโดย Gediminas แกรนด์ดุ๊กแห่งลิทัวเนีย (ประมาณ ค.ศ. 1275–1341) ปราสาทอิฐหลังแรกสร้างเสร็จในปี 1409 โดย Grand Duke Vytautas หอคอยสามชั้นแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1933 โดยสถาปนิกชาวโปแลนด์ Jan Borowski ซากปราสาทเก่าบางส่วนได้รับการบูรณะใหม่โดยได้รับคำแนะนำจากการวิจัยทางโบราณคดี นำท่านเดินทางเข้าชมมหาวิหารวิลนีอุส (Vilnius Cathedral) เป็นอาสนวิหารคาทอลิกหลักในลิทัวเนีย ตั้งอยู่ในเมืองเก่าวิลนีอุส ไม่ไกลจาก Cathedral Square โบสถ์แห่งนี้อุทิศให้กับนักบุญคริสเตียน Stanislaus และ Ladislaus และเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตฝ่ายวิญญาณคาทอลิกในลิทัวเนีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม |
ที่พัก | Radisson Blu Hotel Lietuva **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 3 | วิลนิอุส - ทราไก – ปราสาททราไก – พิพิธภัณฑ์อาชีพและการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ - เนินเขาสามไม้กางเขน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองทราไก (Trakai) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) นำท่านเข้าชม ปราสาททราไก (Trakai Castle) ปราสาทสวยบนเกาะในทะเลสาบเกรฟ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นปราสาทที่ท่านแกรนด์ดุ๊ก วีเทาทัส ประสงค์ใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลาย ก่อนที่จะกลายเป็นคุกในช่วงศตวรรษที่ 17 อีกด้านหนึ่งเป็นโบสถ์และสำนักสงฆ์ในนิกายเบเนดิกทีน ถึงแม้ว่าตัวปราสาทจะตั้งอยู่บนเกาะ แต่การเดินทางมายังตัวปราสาทนั้นค่อนข้างง่าย เนื่องจากมีสะพานเชื่อมติดต่อกันระหว่างชายฝั่งกับปราสาท นอกจากท่านจะได้ชมความงดงามของตัวปราสาทแล้วท่านยังจะได้ชมความงดงามของทะเลสาบเกรฟที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดเช่นกัน อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงาม หรือจะเลือกจิบชา กาแฟริมทะเลสาบตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองวิลนีอุส (ระยะทาง 33 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์อาชีพและการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ (Museum of Occupations and Freedom Fights) ตั้งอยู่ในเมืองวิลนีอุส พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1992 อุทิศให้กับการแสดงสิ่งประดิษฐ์และบันทึกจากช่วง 50 ปีของการยึดครองลิทัวเนียของสหภาพโซเวียต นำท่านเดินทางชมเนินเขาสามไม้กางเขน (Hill of Three Crosses) ประกอบด้วยไม้กางเขนคอนกรีตเสริมเหล็กสีขาว 3 อันที่มองเห็นได้จากระยะไกล ขึ้นไปบนเนินเขาแล้ว ท่านจะได้เห็นภาพพาโนรามาอันกว้างใหญ่ของเมืองเก่าวิลนีอุส อนุสาวรีย์สูง 12 เมตรแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์ประจำชาติ แต่ตัวไม้กางเขนมักจะถูกส่องสว่างเป็นสีต่างๆ เพื่อรำลึกถึงกิจกรรมพิเศษสำหรับลิทัวเนีย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ห้างสรรพสินค้าแอคโครโปลิส (Akropolis Shopping Center) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ประจำเมืองวิลนิอุส อิสระให้ท่านช้อปปิ้งซื้อของฝากหรือสินค้าแบรนด์เนม อาทิเช่น GEOX, GUESS, H&M, MANGO, PULLS&BEAR, ZARA และแบรนด์ท้องถิ่น อื่นๆมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Radisson Blu Hotel Lietuva **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 4 | วิลนิอุส - โชว์เล่ย์ (ลิทัวเนีย) - เนินไม้กางเขน – บอสก้า (ลัตเวีย) – พระราชวังรุนดาเล่ – ริก้า (ลัตเวีย) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองโชว์เล่ย์ (Siauliai) (ระยะทาง 218 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชม.) เมืองที่เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมที่สำคัญ รวมทั้งยังเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของลิทัวเนีย โดยเมืองชัวเลย์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1236 ซึ่งในอดีตตัวเมืองถูกเผาทำลายมากถึง 7 ครั้ง แต่ในปัจจุบันได้รับการฟื้นฟูดูแลจนกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง และยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย นำท่านเดินทางชมเนินไม้กางเขน (Hill of Crosses) สถานที่สำคัญทางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิค ที่คริสต์ศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือ โดยสุสานแห่งนี้กำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ซึ่งในอดีตไม้กางเขนจะถูกนำมาวางที่สุสานแห่งนี้ เวลาที่มีการต่อสู้กับผู้บุกรุก หรือเวลาที่มีการเรียกร้องอิสรภาพให้กับชาวลิทัวเนีย ซึ่งในปัจจุบันภายในสุสานแห่งนี้มีไม้กางเกงเขนจำนวนมากกว่าหนึ่งแสนอัน ซึ่งมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกันออกไป ทำให้สุสานไม้กางเขนแห่งนี้มีลักษณะเหมือนกับเนินเขาไม้กางเขน หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบอสก้า (Bauska) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ทางตอนใต้ของลัตเวีย เมืองนี้มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่บนชายฝั่งของแม่น้ำสองสาย ส่วนหนึ่งของเมืองอยู่บนหุบเขา ส่วนหนึ่งอยู่บนเนินเขา Bauska มีเขตประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างใหญ่ เช่นเดียวกับอุทยานธรรมชาติที่สวยงามรอบๆ ปราสาท Bauska และป้อมเนินเขา ซึ่งมีแม่น้ำทั้งสองสายไหลเข้าหากัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมพระราชวังรุนดาเล่ (Rundale Palace) หนึ่งในงานสถาปัตยกรรมสไตล์บาร๊อค ออกแบบโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นสถานที่ประทับในช่วงฤดูร้อนของท่านดยุค Ernst Johann Biron และ Russian Empress Anna Ioannovna ปัจจุบันได้เปิดให้บริการเป็นพิพิธภัณฑ์ ซึ่งภายในยังคงการตกแต่งแบบโบราณ รวมถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์และเครื่องตกแต่งคฤหาสถ์ไว้อย่างวิจิตรและประณีต นอกจากนี้ท่านจะยังได้ชม สวนสไตล์ฝรั่งเศส ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามอันเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ (ช่วงเวลาที่ดอกไม้บาน ขึ้นกับฤดูกาลในช่วงของเวลาเดินทาง) ได้เวลานำท่านเดินทางสู่กรุงริก้า (Riga) (ระยะทาง 86 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย ตั้งอยู่บนอ่าวริกาตรงปากแม่น้ำ Daugava ซึ่งบรรจบกับทะเลบอลติก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Radisson Blu Daugava Hotel, Riga **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 5 | ริก้า – ซิกุลด้า – ปราสาทซิกุลด้า – ปราสาททูไรด้า – อนุสาวรีย์อิสรภาพ – โดมสแควร์ - โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองซิกุลด้า (Sigulda) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองเล็กๆซึ่งมีประชากรไม่ถึงสองหมื่นคนและไม่ห่างไกลจากนครริก้า มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องความสดใสงดงามของต้นเชอรี่ยามผลิใบในฤดูใบไม้ผลิช่วงเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโปรดปรานของชาวลัตเวียในยามฤดูหิมะ นำท่านเข้าชมปราสาทซิกุลด้า (Sigulda Castle) คฤหาสน์สไตล์โกธิค สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1878 เพื่อใช้เป็นบ้านพักอาศัยของตระกูล Kropotkin และถูกผลัดเปลี่ยนเจ้าของมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งถูกใช้เป็นสถานที่ทำการของสภาปกครองแคว้นซิกุลด้าในปี ค.ศ.1993 ได้เวลานำท่านเข้าชมปราสาททูไรด้า (Turaida Castle) สร้างขึ้นในปีค.ศ.1214 โดยอาร์คบิช็อปแห่งริก้า เป็นปราสาทก่ออิฐแบบโกธิค ซึ่งถูกสร้างต่อเติมและบูรณะมาหลายสมัยจนเป็นลักษณะของป้อมปราสาทที่สวยงาม แต่ในปี ค.ศ.1776 ปราสาทได้เสียหายอย่างหนักจากเหตุการณ์ไฟไหม้ และไม่ได้รับการบูรณะจนกระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1970 ได้รับการซ่อมแซมและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองริก้า (Riga) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) นําท่านเดินทางชมย่านเมืองเก่าแห่งเมืองริก้า (Riga) นำท่านเดินทางชมอนุสาวรีย์อิสรภาพ (Freedom Monument) ตั้งอยู่ย่านใจกลางเมืองริก้า สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1935 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกถึงเหล่าทหารกล้าผู้เสียสละชีพในสงครามเรียกร้องอิสรภาพของลัตเวียระหว่างปี ค.ศ. 1918 – 1940 โดยอนุสาวรีย์แห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการประกาศอิสรภาพ และเสรีภาพของลัตเวีย มีความสูงถึง 42 เมตรด้านบนประดับด้วยรูปปั้นของหญิงสาวถือดาว 3 ดวงเชื่อมติดกัน ซึ่งสื่อความหมายถึงการรวมกันของภูมิภาคทั้ง 3 ของประเทศลัตเวีย นำท่านชมเขตเมืองเก่าของเมืองริก้า นำท่านเดินทางชมโดมสแควร์ (Dome Square) มีโบสถ์ประจำเมืองริก้า อยู่ริมจัตุรัส สร้างเมื่อปี 1211 ข้างในมี ออร์แกนขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โบสถ์แห่งนี้มาซ่อมแซมอีกครั้ง แล้วเสร็จตอนปี 1999 เพื่อให้ทันฉลองพร้อมกับรัสเซียที่ครบรอบก่อตั้งกรุงมอสโกมา 850 ปี นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter Church) ที่มีลิฟท์บริการให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมวิวเมืองริก้าแบบพาโนรามา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Radisson Blu Daugava Hotel, Riga **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 6 | พาร์นู (เอสโตเนีย) – ศาลาว่าการเมืองพาร์นู - ทานลินน์ – พระราชวังแคทเดอริค - พิพิธภัณฑ์ศิลปะแคทเดอริค |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองพาร์นู (Parnu) (ระยะทาง 183 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของเอสโตเนีย มีรีสอร์ต โรงแรม ร้านอาหาร และชายหาดหลายแห่ง ตั้งเป็นเมืองราวปี 1251 และได้ถูกโปแลนด์เข้ายึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1561 ต่อจากนั้นสวีเดนได้ยึดครองตั้งแต่ ค.ศ. 1629 และรัสเซียเข้ายึดครองระหว่าง ค.ศ. 1710-1918 เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองรีสอร์ทตากอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงเมืองหนึ่งของเอสโตเนีย ในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน เมืองพาร์นูจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว นำท่านเดินทางชมบ้านไม้ (Wooden House) สไตล์อาร์ตนูโว และแบบแอสโทเนียนดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนกลายเป็นต้นแบบบ้านเรือนที่นำไปสร้างในสไตน์บอลติค นำท่านแวะถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองพาร์นู (Parnu City Hall) จากนั้นนำท่านเดินเล่นภายในตัวเมืองพาร์นู บริเวณพาร์นูเมนสตรีท (Parnu Main Street) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองทาลลินน์ (Tallinn) (ระยะทาง 130 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.) เมืองหลวงและเมืองท่าหลักของประเทศเอสโตเนีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลบอลติกทางด้านเหนือของประเทศ ถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามในช่วงยุคกลางรวมทั้งบริเวณเชิงเขาในเมืองยังคงมีกำแพงเมืองโบราณหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเมืองยังเต็มไปด้วยสวนสาธารณะที่มีหญ้าเขียวขจี มีดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับเมืองเล็กๆแห่งนี้ให้ดูสดใส นำท่านเดินทางเข้าชมพระราชวังแคทเดอริค (Kadriorg Palace) พระราชวังที่สร้างขึ้นโดยซาร์ปีเตอร์ที่ 1 แห่งรัสเซียในศตวรรษที่ 18 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของจักรพรรดิแคทเธอรีน ออกแบบโดยสถาปนิกอิตาเลียนชื่อ NICCOLO MICHETTI จากกรุงโรม ในปี 1930 พระราชวังแห่งนี้ได้กลางเป็นสำนักงานใหญ่แห่งรัฐของประเทศเอสโตเนีย เป็นพระราชวังที่ออกแบบในสไตล์แบบบาร็อค ล้อมรอบด้วยสวนอันงดงาม ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแคทเดอริค (Kadriorg Art Museum) ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอสโตเนีย ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะต่างประเทศตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ถึง 20[1] อาคารของพิพิธภัณฑ์สาขา Kumu ซึ่งจัดแสดงศิลปะเอสโตเนียตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นไป ตั้งอยู่ใกล้ๆ ในสวนสาธารณะ Kadriorg |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Park Inn by Radisson Meriton Conference & Spa Hotel Tallinn **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | จัตุรัสศาลากลางของทาลลินน์ - จุดชมวิวโคห์ตุตซา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางชมจัตุรัสศาลากลางของทาลลินน์ (Tallinn Town Hall Square) ย่านศูนย์กลางของเมืองที่ได้รับการรับรอง จากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1997 เป็นตลาดยุคกลางและสถานที่พบปะอันทันสมัย และเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตในเมืองมาแปดศตวรรษ ด้วยศาลาว่าการที่อยู่ด้านหลัง และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ห้ามพลาดสำหรับผู้ที่เดินทางผ่านชายฝั่งทะเลบอลติก นำท่านเดินทางสู่จุดชมวิวโคห์ตุตซา (Kohtuotsa Viewing Platform) ถือเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของทาลลินน์ ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของเนิน Toompea ให้ทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมเหนือหลังคาสีแดงและยอดแหลมสูงตระหง่านของเมืองเก่า รวมถึงอาคารสูงระยิบระยับในส่วนใหม่ของเมือง เบื้องหลังคืออ่าวฟินแลนด์ ท่าเรือ และเขตพิริตา รับประกันทิวทัศน์อันน่าจดจำตลอดทั้งปี ในทุกสภาพอากาศ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย |
บ่าย | นำท่านสู่ย่านช้อปปิ้ง อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองหรือสินค้าแบรนด์เนมต่างๆที่ ย่านถนนวิรู (Viru Street) ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับ |
16.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินทาลลินน์ (TLL) |
19.30 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK1424 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.40 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลาย กับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบิน มีบริการ อาหารค่ำและอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน |
23.10 น. | เดินทางถึงสนามบินสนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน |
วันที่ 8 | กรุงเทพมหานคร |
01.35 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK68 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.50 ชม.) |
15.25 น. | เดินทางถึงกรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ |