วันที่ 1 | ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ - เวียนนา (ออสเตรีย) |
21.00 น. | พร้อมคณะที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ D16-19 สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 15 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้ |
วันที่ 2 | เวียนนา (ออสเตรีย) - บูดาเปสต์ (ฮังการี) - เที่ยวชมเมือง - ล่องแม่น้ำดานูบ |
01.30 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา โดย การบินไทย เที่ยวบินที่ TG936 |
07.00 น. | คณะเดินทางถึง สนามบินกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและสัมภาระแล้ว รถโค้ชรอรับคณะเพื่อออกเดินทางสู่ นครบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เที่ยวชมเขตเมืองเก่า ชมเมือง ณ จัตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี เก็บภาพประทับใจก่อนเดินทางสู่นครบูดาเปสต์ เมืองที่ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำดานูบแยกเป็นเมืองเก่าและใหม่ อันได้แก่เมืองบูดาและ เปสต์ อันเป็นที่มาของคำว่าบูดาเปสต์ นครที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมอันล้ำค่า ริมสองฝั่งแม่น้ำดานูบ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เที่ยวชม นครบูดาเปสต์ นำชม จตุรัสฮีโร่ ที่รำลึกถึงการสร้างชาติ และการรอดพ้นจากการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ เลาะเลียบผ่านสวนสัตว์ และสวนสาธารณะอันเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง ที่อาบน้ำสาธารณะแบบโรมัน ผ่านชม อาคารรัฐสภา ที่สร้างในสไตล์แบบกอธิค โดดเด่นเป็นตระหง่าน แล้วข้ามสู่ฝั่งบูดา เพื่อขึ้นชมป้อมชาวประมง และโบสถ์แมทเธียส เลาะเลียบสู่คาสเซิลฮิลล์ ชมทิวทัศน์ของเมืองที่ถูกแยกออกเป็นสองฝั่ง นำท่านสู่ ถนนช้อปปิ้ง ที่มีสินค้าพื้นเมืองนานาชนิดจำหน่ายเป็นของฝาก อาทิ ผ้าปัก เครื่องแก้วของที่ระลึกต่างๆ จากนั้น นำท่านสัมผัสกับ บรรยากาศแห่งการล่องเรือดานูบ ชมความงดงามของอาคารสถาปัตยกรรมแบบกอธิค เรียงรายสองฝั่งแม่น้ำ มนต์เสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลาย และรับการยกย่องว่าเป็นเมืองโรแมนติก บนสายน้ำแห่งหนึ่งของโลก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | RADISSON BLU BEKE BUDAPEST**** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | บูดาเปสต์ - หมู่บ้านเซนเทนเดอร์ - วิเซกราด - เอสตาร์กอม - คราคูฟ (โปแลนด์) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางสู่ ตอนเหนือเขตท่องเที่ยวที่เรียกว่า ดานูบ เบ็นด (Danube Bend) โค้งน้ำสุดสวยทางตอนเหนือที่ให้อารมณ์มากกว่าความเป็นเมืองหลวง ประกอบไปด้วย 3 เมืองท่องเที่ยวสุดสวยตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำดานูบ โดยเริ่มเที่ยวจากเมืองแรกคือ เซนเท็นเดร อดีตเมืองหน้าด่านของจักรวรรดิโรมัน ผลจากการรุกรานของพวกมองโกลและเติร์ก ทำให้เมืองถูกทำลายลงและได้มีการบูรณะและสร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 18 เป็นแบบบาร็อก สถาปัตยกรรมชิ้นเอกที่คุณจะเห็นได้ตั้งแต่จตุรัสกลางเมือง, โบสถ์, บ้านของพ่อค้า, พิพิธภัณฑ์, ร้านค้าและร้านขายของที่ระลึก เที่ยวชมเมืองที่กล่าวกันว่า โรแมนติคจนยากที่จะลืมเลือน อีกเมืองถัดไปคือ วีเซอกราด ตั้งอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำดานูบเช่นเดียวกัน เมืองนี้มีความงดงามประดุจหนึ่งภาพวาด ตั้งอยู่ในโค้งของแม่น้ำดานูบเหมาะกับการท่องเที่ยว ชม รอยัลพาเลซ ปราสาทที่สร้างขึ้นในยุคกลางอยู่บนยอดเขา Sibrik บนความสูง 300 เมตรโดดเด่นเป็นสง่า ในช่วงศตวรรษที่ 13 สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พบปะสังสรรค์ของเหล่าอัศวินที่เดินทางไปรบในสงครามครูเสค และเมืองสุดท้ายคือ เอสเตอกอม เป็นเมืองเล็กๆที่มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งประเทศมากว่า 1,000 ปี เมืองเต็มไปด้วยเรื่องราวในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันน่าสนใจ นำชม บาซิลิก้า โบสถ์อันเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในฮังการี ภายในมีภาพเขียนโดยจิตรกรเอก กรีโจเล็ตโต ได้บรรจงวาดภาพการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของมาดอนน่าไว้ เมืองนี้มีพรมแดนเพียงแม่น้ำกั้น ฝั่งตรงข้ามเป็นเมืองสตูโรโวของสาธารณรัฐสโลวัก ที่มีสะพานมาเรีย วาเลเรีย เชื่อมสองฝั่งดั่งบ้านพี่เมืองน้อง
|
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางต่อขึ้นเหนือสู่ พรมแดนของสโลวักในเขตของเทือกเขาตาตาร์ (Tatra) เป็นสถานที่สูงที่สุดและสวยงามที่สุดแห่งเทือกเขา Carpathian ยอดเขาที่สูงที่สุดของโปลิชตาตร้า คือ Rys (2,499 เมตร) ข้ามพรมแดนเข้าสู่ เมืองคราคูฟ เมืองที่มีการผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค, เรอเนซองส์, โกธิค, บาร็อกและเบลลา-อีโปค์ ไว้ด้วยกันอย่างน่ามหัศจรรย์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | MERCURE KRAKOW OLD TOWN **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | คราคูฟ - ค่ายกักกันเอ๊าท์สวิทช์ เบอร์กเนา (ค่ายกักกันและพิพิธภัณฑ์สงคราม) - เที่ยวย่านโอล์ดทาวน์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางสู่ เมืองเอาส์ชวิตซ์ - เบอร์กเนา (Auschwitz-Birkenau) ที่ตั้งค่ายกักกันและพิพิธภัณฑ์สงคราม ภาพสะท้อนให้เห็นถึงการทารุณกรรมและความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชาวนาซีนำเอานักโทษชาวยิวขึ้นรถไฟสู่ค่ายกักกันแห่งนี้และใช้เป็นที่ประหารด้วยแก๊สพิษรมควัน กว่า 1.5 ล้านคน ชมสารคดีในประวัติศาสตร์กับเรื่องราวของความเป็นจริง เข้าสู่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง อันเป็นสถานที่ต่างๆในค่ายกักกัน อาทิ ห้องขังนักโทษ, ห้องรมแก๊สพิษและเตาเผาศพ นำท่านขึ้นหอคอยเพื่อชมทัศนียภาพของค่ายกักกันที่แข็งแรงและใหญ่ที่สุดซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกทางประวัติศาสตร์ด้วย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | หลังอาหาร เดินทางกลับสู่ คราคูฟ นำท่านเที่ยวชมเมืองหลวงเก่า คราคูฟ (Krakow) ปี ค.ศ. 965 คราคูฟ หนึ่งในศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งโปแลนด์ และมีอารยธรรมรุ่งเรืองมากที่สุด อันจะเห็นได้จากอาคารบ้านเรือนที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่ โรมาเนสก์, โกธิค, เรอเนสซองส์, บาร็อก, ร็อกโคโค จนถึงนีโอคลาสสิคและอาร์ตนูโว ขึ้นชม วาเวลฮิลล์ อันเป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวง เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปแลนด์มานานหลายศตวรรษ เป็นผลงานแบบเรอเนสซองส์ที่งดงามแห่งหนึ่งของยุโรป เข้าชมในส่วนที่เป็นรอยัลอพาร์ตเมนต์ จัดแสดงภาพเขียน, ศิลปะและงานประติมากรรม พระตำหนักด้านในเก็บสิ่งล้ำค่าอันได้แก่ ผ้าปักทาเปสตรี้ 142 ผืน นำท่านชม ท้องพระคลังหลวง, ห้องอาวุธยุทธปกรณ์ในสมัยโบราณ ใกล้กันเป็นมหาวิหารวาเวล มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ ใช้เป็นที่ราชาภิเษกกษัตริย์ทุกพระองค์, ป้อมปราการ (Barbakan) อายุกว่า 600 ปีปกปักษ์รักษาเมืองที่หลงเหลืออยู่ แนวกำแพงเมืองเดิมเป็นที่ชื่นชอบของศิลปินที่จะมาแสดงผลงานและวิถีชีวิตของชาวยิปซี |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | MERCURE KRAKOW OLD TOWN **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | คราคูฟ - เหมืองเกลือวิลิซก้า - วอร์ซอ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางสู่ เหมืองเกลือวิลิชก้า เหมืองเกลือใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่ยังคงดำเนินกิจการเหมืองรวมอยู่ด้วย เส้นทางท่องเที่ยวที่วกวนใต้ดินผ่านห้องที่จัดแสดง และถ้ำขนาดใหญ่ที่แกะสลักจากหินเกลือในลักษณะพิเศษเฉพาะ โบสถ์ขนาดเล็ก เซนต์คิงก้า ที่อยู่ลึกลงไป 101 เมตร จัดเป็นห้องที่สวยงามที่สุด ประดับตกแต่งด้วยโคมไฟที่ทำมาจากหินเกลือคริสตัล และยังมีการแกะสลักหินเกลือสีเทาแบบนูนต่ำตามแบบผลงานของศิลปินดัง ลีโอนาโด ดาวินชี แล้วขึ้นลิฟท์กลับสู่ด้านบน โดยมีความลึกกว่า 135 เมตร จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองคราคูฟ พาท่านเข้าสู่ จัตุรัสกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปกลาง รายล้อมด้วยร้านกาแฟ, ผับ, ร้านอาหารต่างๆ, อาคารที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ที่ที่คุณสามารถหาซื้อทุกอย่างดังใจปรารถนาเพื่อเป็นของที่ระลึกจากประเทศโปแลนด์ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | อำลาเมืองคราคูฟ แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโปแลนด์ เดินทางสู่ เมืองวอร์ซอ เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวามากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปกลาง วอร์ซอ เป็นเมืองที่มีอายุเกือบ 700 ปีแต่ก็ยังถูกจัดว่าเป็นเหมืองใหม่สำหรับประวัติศาสตร์ของชาติโปแลนด์ เมืองวอร์ซอ ได้เกิดขึ้นมาจากเดิมที่เป็นป่ามาโซเวียน (Mazovian) เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้นในปี 1939 ชาวเมืองได้ร่วมกันปกป้องประเทศไว้อย่างกล้าหาญ จนในที่สุดก็เกิดการจลาจลและการก่อความไม่สงบขึ้นในโปแลนด์ การพยายามต่อต้านความไม่สงบ ถูกปราบปรามอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน กองกำลังทหารนาซีได้เผาทำลายล้างอาคารต่างๆ ในเมืองหลวงไปถึง 96 เปอร์เซ็นต์ หลังสงครามจบสิ้น ชาวโปลิชได้ช่วยกันบูรณะซ่อมแซมก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจกับความเสียสละของประชาชน ทำให้วอร์ซอในวันนี้กลับมาเป็นเมืองเก่าในประวัติศาสตร์ที่สวยงามดังเดิม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | MERCURE WARSAW CENTRUM **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | เที่ยวเมืองเก่าวอร์ซอ - พระราชวังเกาะกลางน้ำลาเซียนสกี้ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะเที่ยวชม เมืองวอร์ซอ ที่มีประชากรชาวยิว ถึง 1 ใน 3 อาศัยอยู่รวมกันในเขตเรียกว่า Warsaw Ghetto เข้าสู่ เขตเมืองเก่า (Stare Miasto) สร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นที่ตั้งบ้านเรือน โบสถ์และพระราชวังหลวง (Royal Castle) เข้าชมภายในที่ตกแต่งอย่างวิจิตรพิสดารด้วยศิลปวัตถุและเครื่องประดับเก่าแก่อันเป็นสมบัติล้ำค่า ภายในมีภาพเขียนที่สำคัญคือ ภาพกรุงวอร์ซอ 22 มุมมองโดยจิตรกรเอกชาวอิตาเลียน เบอร์นาโด คานาเล็ตโต ที่ชาวโปลิชใช้เป็นต้นแบบในการบูรณะซ่อมแซมกรุงวอร์ซอจนกลับมาเป็นเมืองหลวงที่สวยงาม Royal Way หรือถนนราชดำเนิน ความยาวกว่า 4 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของอาคารบ้านเรือน, โบสถ์, วิหาร, ร้านค้า วอร์ซอ มีพื้นที่สีเขียวคิดเป็นร้อยละ 21 ของตัวเมือง สถานที่สวยงามและดึงดูดใจมากคือ บริเวณสวนในอุทยานพระราชวังหลวงวาเชนกิ มีรูปปั้นของคีตกวีคนดัง “โชแปง” พระราชวังแห่งนี้ได้เคยเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ของไทยเมื่อครั้งเสด็จประพาสวอร์ซอในปี ค.ศ.1897 |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เมื่อได้เวลาอันสมควรเดินทางไปเยี่ยมชม พระราชวังเกาะกลางน้ำลาเชียนสกี้ (Lazienki Palace) สร้างเสร็จปี ค.ศ.1689 และกษัตริย์สตานิสลอว์ที่ 2 ออกุสตุส ได้ทรงซื้อที่ดินและอาคารหลังนี้ในปี ค.ศ.1766 และปรับเปลี่ยนให้เป็นพระราชวังฤดูร้อน เพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของกษัตริย์ในราชวงศ์โปแลนด์เรื่อยมา จากนั้นเดินทางต่อเพื่อเยี่ยมชมบรรยากาศของ เมืองวอร์ซอ และถ่ายภาพจุดสำคัญอย่าง “ศูนย์วัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์วอร์ซอ” อาคารในรูปแบบนีโอคลาสสิคโกธิก หรือที่ในแถบยุโรปตะวันออกเรียกว่า “รูปแบบสังคมนิยม” ที่ทั้งโอ่อ่า สูงเด่นเป็นสง่าที่สุดในเมืองวอร์ซอ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | MERCURE WARSAW CENTRUM **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 7 | วอร์ซอ - วรอตซวาฟ - กรุงปร๊าก (สาธารณรัฐเชค) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางสู่ เมืองวรอตซวาฟ (WROCLAW) เมืองที่ผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่กว่า 7 ศตวรรษและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเป็นเมืองสำคัญด้านธุรกิจอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวที่สำคัญของโปแลนด์อีกด้วย นำคณะเที่ยวชมเมืองวรอตซาฟ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่ กรุงปร๊าก เมืองแห่งปราสาทร้อยยอด ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสุดโรแมนติกอีกเมืองหนึ่งของโลก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | OCCIDENTAL PRAHA FIVE **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | ปราสาทปร๊าก - เที่ยวชมเขตเมืองเก่า - สะพานชาร์ล - นาฬิกาดาราศาสตร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเข้าชม ปราสาทแห่งกรุงปร๊าก สร้างขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ด้วยศิลปะแบบกอธิค เคยได้รับการรับรองจากกินเนสส์บุ๊ก ว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันได้เป็นที่พำนักของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเชค ชมความใหญ่โตโอ่อ่าของตัวปราสาท และโบสถ์เซนต์ไวตัส ที่เด่นเป็นสง่า แต่ละลานกว้างประดับประดาไปด้วยน้ำพุ รูปปั้นนักบุญ โบสถ์เซนต์จอร์จ และคอนแวนต์ รวมทั้งโอลด์รอยัลพาเลซ และโกลเด้นเลน ซึ่งเคยใช้เป็นที่พำนักของช่างฝีมือในยุคสมัยก่อน เพื่อเล่นแร่แปรธาตุต่างๆ ให้เป็นทองคำ ที่จะทำให้ท่านย้อนไปถึงความยิ่งใหญ่ของโบฮีเมียในอดีต
|
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินสู่ สะพานชาร์ล สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ ประดับด้วยรูปปั้นของนักบุญถึง 28 องค์ ชาวคริสต์เชื่อว่า หากเดินผ่านสะพานแห่งนี้ ต้องขอพรจากนักบุญจอหน์แห่งเนโปมุข กรุงปร๊ากในยุคกลาง เคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ริมฝั่งแม่น้ำวัลตวา ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิ โรงละครโอเปร่า, พิพิธภัณฑ์, หอคอยดินปืนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีเยี่ยม จนเข้าสู่จตุรัสใจกลางเมืองอันเป็นที่ตั้งของ วิหารตินส์ ให้ท่านได้เลือกซื้อเครื่องแก้วโบฮีเมีย “โมเซอร์” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกและ ชมนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ เมื่อตีบอกเวลาจะมีหุ่นออกมาเต้นรำให้นักท่องเที่ยวได้ชม เป็นโบราณคู่บ้านคู่เมืองของกรุงปร๊าก อิสระให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย อาทิ มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ หรือร้านค้าแบรนด์เนมอื่น ๆ ใน Palladium Shopping Mall
|
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | OCCIDENTAL PRAHA FIVE **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 9 | กรุงปร๊าก - เวียนนา (ออสเตรีย) - พระราชวังเชิงบรุนน์ - ช้อปปิ้งบนถนนคาร์ทเนอร์สตรีท |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางสู่ กรุงเวียนนา ระหว่างทางผ่านเขตหุบเขาวาเคา เสน่ห์ของเมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนในยุคเรเนซองซ์ มองดูราวกับอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำคณะเข้าชมความงามของ พระราชวังเชิงบรุนน์ พระราชวังอันยิ่งใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ เข้าชมภายในกว่า 20 ห้องที่จัดแสดงไว้อย่างน่าชม ผ่านห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องแกลลอรี่ ห้องรับรอง (Great Hall) สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่ ริงสตราเซ่ ถนนสายวงแหวนที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ โรงละครโอเปร่าที่เก่าแก่ และยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตและโอเปร่าตลอดปี พระราชวังฮอฟบูรก์อันยิ่ง ใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ทำการสำคัญของรัฐ ใกล้กันเป็นโรงเรียนสอนขี่ม้าแบบสเปน แล้วผ่านไปชมอาคารรัฐสภา ซิตี้ฮอลล์ ก่อนจะข้ามแม่น้ำดานูบสู่เขตเมืองใหม่ อันเป็นที่ตั้งขององค์การสหประชาชาติแห่งที่สองของยุโรป ให้ท่านได้ชม สายแม่น้ำดานูบใหม่และเก่า ที่มีความสำคัญต่อหลายประเทศในยุโรป อิสระสำหรับนักช้อป เวียนนาไม่ได้เป็นเพียงสวรรค์ของผู้หลงใหลธรรมชาติและวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ที่ใช่เลยสำหรับนักช้อปปิ้งอีกด้วย ถนนช้อปปิ้งสายสำคัญคือคาร์ทเนอร์ตราสเซ เพลิดเพลินไปกับสินค้าแบรนด์เนมแฟชั่นชั้นนำจากฝรั่งเศส, นาฬิกาชั้นดีจากสวิตเซอร์แลนด์, สินค้าแฟชั่นจากอิตาลี หรือของที่ระลึกที่มีชื่อเสียง ศิลปหัตถกรรมแบบออสเตรียนมีเสน่ห์เฉพาะตัว เครื่องแก้วและคริสตัลของสวาร็อฟสกี้ อันเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว ในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เมื่อซื้อสินค้าครั้งละไม่ต่ำกว่า 75 ยูโร โดย Global Refund TAX FREE SHOPPING หรือเพลิดเพลินไปกับการนั่งจิบกาแฟต้นตำรับแท้ๆ และซัคเกอร์เค้กที่มีชื่อเสียงของเวียนนา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | AUSTRIA TREND HOTEL PARK ROYAL PALACE **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 10 | กรุงเวียนนา - เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
10.00 น. | ได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางสู่ สนามบินกรุงเวียนนา เพื่อเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน |
13.30 น. | ออกเดินทางโดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG937 |
วันที่ 11 | เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ |
05.20 น. | สายการบินไทย นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (หมายเหตุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อความเหมาะสมโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่นักท่องเที่ยวได้รับเป็นหลักฯ) |