วันที่ 1 | กรุงเทพฯ – ดูไบ (สหรัฐอาหรับ เอมิเรสต์) |
23.00 น. | พร้อมคณะที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ T สายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน |
วันที่ 2 | ดูไบ - กรุงโรม - น้ำพุทิโวลี - นาโปลี |
02.50 น. | ออกเดินทางโดยสายการบิน Emirates Airline เที่ยวบินที่ EK 377 |
06.00 น. | ถึงท่าอากาศยานดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
09.10 น. | ออกเดินทางโดยสายการบิน Emirates Airline เที่ยวบินที่ EK 097 |
13.25 น. | ถึงสนามบินนานาชาติลีโอนาโด ดาวินชี กรุงโรม ผ่านการตรวจลงตราวีซ่า รถโค้ชรอรับแล้วออกเดินทาง |
14.00 น. | เดินทางต่อสู่ เมืองทิโวลี เมืองแห่งน้ำพุแสนสวยนำท่านเข้าชม The Villa d'Este ทั้งวังและสวนออกแบบโดยสถาปนิกชาว อิตาเลียน ตกแต่งอย่างหรูหรา สมกับวลีเด็ดที่ว่า “หากท่านไม่ให้ข้าสร้างวังในกรุงโรม ข้าก็จะสร้างกรุงโรมในวังของข้า” สวนที่งดงามที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน จนได้รับคำกล่าวถึง “น้ำพุร้อยสาย” เสียงน้ำพุที่พุ่งออกมาอย่างสม่ำเสมอ ให้เสียงคล้ายเสียงดนตรี นำท่านเดินทางสู่เมืองเนเปิ้ล หรือ นาโปลี ซึ่งเป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญทางตอนใต้ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าของเรือสำราญท่องเที่ยวในเขตเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญ |
16.00 น. | เดินทางสู่จังหวัดปาดัว หรือ ปาโดวา แคว้นเวเนโต เป็นแคว้นที่มีความมั่งคั่ง และเป็นแหล่งอุตสาหกรรมมากที่สุดในประเทศอิตาลี และยังเป็นแคว้นหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดแห่งหนึ่งอีกด้วย มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ต่ำกว่า 60 ล้านคนในทุกๆ ปี |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Holiday Inn Nola Naples **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | นาโปลี - หมู่บ้านกระโจม Alberobello – มาเตร่า |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | นำท่านสู่ หมู่บ้านกระโจม Alberobello หมู่บ้านเก่าแก่ รูปทรงแปลกตามีวิวัฒนาการ การตั้งถิ่นฐานของคนแถบ Greece, Egypt, Sardinia and Sicily รอบๆทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Alberobello มีมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 14-15 วัสดุที่ใช้สร้างบ้านล้วนมาจากธรรมชาติในท้องถิ่นและการก่อสร้าง ก็ง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน ท่าน Count of Conversano ออกกฎให้การก่อสร้างในยุคนั้น ใช้หินเรียงซ้อนกัน โดยไม่ใช้ปูนก่อเพื่อให้ง่ายต่อการรื้อถอน และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่เมืองมาเตรา (Matera) เมืองมรดกโลก ที่ปรากฏในหนังเจมส์ บอนด์ “No Time to Die” เป็นฉากแรกของการเริ่มต้นเรื่อง เมืองมรดกโลกทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ปรากฏหลักฐานของการมีคนอยู่อาศัยมากกว่า 9,000 ปี แม้ในยุคหนึ่งเมืองเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ความอัปยศของอิตาลี’ แต่ทว่าในวันนี้เมืองกลับมาโด่งดังเป็นที่จับตาในฐานะเมืองท่องเที่ยวสุดร้อนแรง |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Nazionale Matera **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | มาเตร่า - พิพิธภัณฑ์ปอมเปอี - นาโปลี |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | นำคณะเดินทางสู่เมืองปอมเปอี |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
14.00 น. | นำท่านเข้าชมเขตเมืองเก่าที่ได้รับการจัดตั้งเป็น พิพิธภัณฑ์เมืองปอมเปอี (POMPEI) เมืองที่ถูกทับถมจมอยู่ใต้ดินกว่า 1,500 ปี เนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟวิชูเวียสชมสภาพของเมืองที่ขุดค้นขึ้นมา ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก |
16.30 น. | คณะเดินทางถึงเมืองนาโปลี หรือ เมืองเนเปิ้ล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่และเป็นเมืองท่าเรือที่สำคัญทางตอนใต้ อีกทั้งยังเป็นเมืองท่าของเรือสำราญท่องเที่ยวในเขตเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญ ลงเรือ High Speed Jet สู่เกาะคาปรี เกาะเล็กๆที่มีธรรมชาติที่สวยงามเป็นสถานที่ตากอากาศ ของบุคคลสำคัญๆมาช้านานซึ่งรายได้หลักของเกาะนี้มาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นำท่านเที่ยวชมชุมชนคาปรีอันเก่าแก่ตั้งรกรากมาแต่บรรพบุรุษจนกลายเป็นศูนย์กลางของเกาะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการท่องเที่ยวและตากอากาศร้านรวงเปิดให้บริการนักช้อปปิ้งได้เลือกสรร |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Regina Cristina **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่่ 5 | เกาะคาปรี - ถ้ำบลูกร็อตโต้ - ซอเรนโต้ |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.30 น. | นำคณะเปลี่ยนลงเรือเล็กไปชมถ้ำบลูกร็อตโต้ ที่มีความงดงามอย่างมากและมีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก ถ้ำน้ำลอดที่มีการกระทบของแสงกับน้ำทะเลสีคราม ทำให้ภายในบริเวณถ้ำประกายไปด้วยแสงสีน้ำเงินจึงเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว (ทั้งนี้การเข้าชมภายในถ้ำขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละวัน) |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
13.00 น. | ได้เวลานำคณะลงเรือ Jet นำท่านกลับสู่ฝั่งที่เมืองซอเรนโต้ (Sorrento) เมืองชายทะเลที่มีตัวเมืองเรียงรายตามแนวของผาหินสูง ทิวทัศน์สวยงามเหล่านี้ได้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว จนเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียง |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Towers Hotel Stabiae Sorrento Coast **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | ซอเรนโต้ - โพสิตาโน่ - เที่ยวชมเมืองอะมัลฟี่ และชายฝั่งอะมัลฟี่โคสต์ |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | นำคณะเดินทางเลาะเลียบชายฝั่งทะเลไทเลเนียน เข้าสู่อดีตเขตสาธารณรัฐอะมัลฟี่ ซึ่งเป็นสาธารณรัฐทางทะเลที่เคยยิ่งใหญ่ ไม่แพ้ เวนิส ปิซ่า และ เจนัว เข้าสู่เมืองท่า โพสิตาโน่ นำท่านเปลี่ยนเป็นรถเล็ก เพื่อลงไปชมตัวเมืองเก่า อย่างที่ได้รับการขนานนามว่า บ้านเรือนในแนวตั้ง เนื่องจากเมืองโพสิตาโน่นี้เป็นเมืองแสนสวยที่สร้างบ้านเรียงรายจากหน้าผาที่สูงชัน ชมศูนย์กลางของเมือง เดินลงไปชมโบสถ์และช้อปปิ้ง ผ้าลินินและงานฝีมืออันเป็นของฝากที่ขี้นชื่อของเมืองนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอะมัลฟี ซึ่งเส้นทางริมทะเลสวยนี้ได้รับการกล่าวขานและยกย่องว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อะมัลฟี่โคสท์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ เมื่อปี ค.ศ.1997 โดยชายฝั่งนี้โด่งดังจากฉากในนวนิยายที่นักเขียนอเมริกา จอห์น สไตน์แบ็ค เส้นทางจะลดเลี้ยว ไปตามหน้าผาสูงบ้าง ต่ำบ้าง ผ่านไร่มะนาว ไร่มะกอก และไร่ส้ม จนเข้าสู่เมืองอะมัลฟี่ |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมความงามของ เมืองอะมัลฟี เข้าชมโบสถ์ประจำเมือง (The Cathedral of Amalfi) ที่สร้างเพื่อระลึกเซนต์แอนด์ดรู การเข้าชมด้านในมีทั้งหมดสี่ส่วนด้วยกัน คือ The Cloister of Paradise, The Basilica of The Crucifix, The Crypt, The Cathedral ชื่นชมศิลปะผสมแบบมัวส์และโรมันเนสก์ด้านนอก ส่วนภายในมีการตกแต่งแบบบาร็อค ชมภาพพระแม่มารีและพระบุตรที่สะกดทุกสายตา ชมสุสานใต้ดินที่สวยงามและแสดงถึงความยิ่งใหญ่สมเป็นโบสถ์ประจำเมือง อิสระให้เดินเล่น เพื่อชมบ้านเมืองและวิถีชีวิตจนได้เวลาอันสมควร นำคณะออกเดินทางสู่ เมืองกาเซอต้า เมืองหลวงของ แคว้นคัมปาเนีย ศูนย์กลางการเกษตร และอุตสาหกรรมของแคว้น |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Towers Hotel Stabiae Sorrento Coast **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 7 | ซอเรนโต้ – กรุงโรม – วาติกัน - น้ำพุนาโวนา - วิหารแพนธีออน |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงโรม เมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปที่มีอายุกว่า 2,000 ปี อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิ์โรมันอันศักดิ์สิทธิ์ |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
13.00 น. | นำคณะเดินทางสู่ นครวาติกัน ซึ่งเป็นรัฐอิสระ และศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมัน คาทอลิก ชมความอลังการของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ได้รับการตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลักเฟียต้า ผลงานชิ้นเอกของไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย แบร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ที่หาชมได้ยาก ซึ่งปัจจุบันล้วนแต่เป็นสิ่งที่สำคัญล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี ไปชมจตุรัสนาโวนา (Piazza Navona) จตุรัสที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรม เดิมเคยเป็นสนามกีฬาที่ไว้ใช้แข่งม้า กลางจตุรัสเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิสก์จากอียิปต์ ตั้งอยู่หน้าโบสถ์เซนต์แอกเนสอินอะโกนี และน้ำพุจตุมหานที (Fountain of the Four Rivers) ซึ่งแต่ละมุมจะมีรูปปั้นเป็นตัวแทนแม่น้ำสำคัญ 4 สาย จาก 4 ทวีป ได้แก่ แม่น้ำคงคา แม่น้ำดานูบ แม่น้ำไนล์ และแม่น้ำ พลาต้า ซึ่งจานโลเรนโซ แบร์นินี ศิลปินฝีมือเยี่ยมของอิตาลีเป็นผู้ออกแบบ และถ่ายรูปกับ วิหารแพนธีออน อายุ 2,000 กว่าปี ยังเป็นอาคาร ในยุคโรมันที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่ง |
19.00 น. | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | The Caesar Roma Hotel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | โคลอสเซียม - อนุสาวรีย์ วิกเตอร์ เอ็มมานูเอล - น้ำพุเทรวี – บันไดสเปน - เดินทางกลับประเทศไทย |
08.00 น. | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
09.00 น. | นำท่าน เข้าชมสนามกีฬาโคลอสเซียม สิ่งก่อสร้างที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสนามกีฬายักษ์ที่จุคนได้กว่า 50,000 คน ชมร่องรอยของ ศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันที่ โรมันฟอรั่ม แล้วพาท่านไปบันทึกภาพกับ ประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ผ่านชมอนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล หรือพระบิดาของชาวอิตาเลียน |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่าน เข้าชมสนามกีฬาโคลอสเซียม สิ่งก่อสร้างที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ซึ่งเป็นสนามกีฬายักษ์ที่จุคนได้กว่า 50,000 คน ชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันที่ โรมันฟอรั่ม แล้วพาท่านไปบันทึกภาพกับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 ผ่านชมอนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์ เอ็มมานูเอ็ล หรือพระบิดาของชาวอิตาเลียน นำคณะไปชมน้ำพุเทรวี่ ผลงานมาสเตอร์พีซของนิโคลาส ซัลวี ที่มาของเพลง “ทรีคอยน์ออฟเดอะฟาวด์เท่น” ที่โด่งดังในอดีต ซึ่งนักท่องเที่ยวมีความเชื่อว่าหากโยนเหรียญอธิฐานไว้จะได้กลับมากรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง เข้าสู่จตุรัสบันไดสเปน แหล่งพบปะของหนุ่มสาวชาวอิตาเลียนยามว่าง จนกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังเรียงรายไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมของอิตาลี |
18.00 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินลีโอนาร์โด ดาวินชี เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ มีเวลาให้ท่านได้ทำ TAX REFUND คืนภาษีก่อนการเช็คอิน |
22.10 น. | ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานดูไบ โดยสายการบิน Emirates Airline โดยเที่ยวบินที่ EK 096 |
วันที่ 9 | เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ |
05.50 น. | ถึงท่าอากาศยานดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
09.00 น. | ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK 370 |
18.25 น. | สายการบิน Emirates Airline นำท่านเดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
หมายเหตุ | 1 โปรแกรมดังกล่าวข้างต้นเป็นการนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยว ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการจัดโปรแกรมของแต่ละวันเดินทางจะไม่เหมือนกัน โปรแกรมท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ครบถ้วนจะส่งให้ท่าน 7 วันก่อนการเดินทางเท่านั้น) 2. ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 45 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่างๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่นๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้ |