วันที่ 1 | ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – สนามบินชาร์ล เดอ โกล (ฝรั่งเศส) |
07.00 น. | พร้อมคณะที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน |
09.30 น. | ออกเดินทางโดยสายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ สู่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยเที่ยวบินที่ EK 375 |
13.00 น. | ถึงท่าอากาศยานดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
14.40 น. | ออกเดินทางสู่มหานครปารีส โดยเที่ยวบินที่ EK 075 |
20.00 น. | ถึง ท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกล ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง แล้วเดินทางเข้าสู่ตัว เมืองปารีส |
ที่พัก | Mercure Paris Centre Tour Eiffel **** |
วันที่ 2 | ปารีส - พระราชวังแวร์ซายส์ – ขึ้นชมวิวหอไอเฟล - เนินเขามงต์มาร์ต |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางสู่ พระราชวังแวร์ซายส์ พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในปฐพี ห่างจากจุดศูนย์กลางของปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ปัจจุบันบางส่วนของพระราชวังนี้ได้รับการบูรณะเรียบร้อยแล้ว นำเข้าชมความงามของพระราชวังภายในห้องต่าง ๆ อาทิ ห้องเทพอพอลโล, ห้องเทพวีนัส, ห้องเทพไดอาน่า และห้องเดอะฮอลล์ออฟมิลเลอร์ แต่ละห้องของพระราชวังล้วนมีค่าด้วยภาพ เขียนสีแบบเฟรสโก้โดยช่างฝีมือเอกชาวฝรั่งเศส ควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นพระราชวังที่งดงามล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ให้ท่านได้เปิดประสบการณ์ขึ้น ชมวิวแบบพาโนราม่าบนชั้น 1 ของหอไอเฟล แลนด์มาร์คที่โด่งดังของปารีสและนำท่านเที่ยวชมมงต์มาร์ต (Montmartre) ย่านดังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 130 เมตร ทางทิศเหนือของกรุงปารีส (Paris) เป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ชั้นยอดของกรุงปารีสที่ห้อมล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดัง จอนห์น วิค สามารถมองเห็นปารีส แบบพาโนราม่า |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Mercure Paris Centre Tour Eiffel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ - Place du Trocadero - ประตูชัย - Champs Elysee - Place de Concorde - DutyFree - ห้างสรรพสินค้า แกลลอรี ลาฟาแยตต์ - ดินเนอร์ล่องเรือ Bateaux Parisien |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำคณะ ชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (ไกด์ท้องถิ่นภาษาไทย) ที่รวมภาพคอลเลคชั่นที่มีชื่อเสียงและมีประวัติศาสตร์ สามารถเลือกเดินตามโซนที่สนใจได้ ทั้งปีก 2 ฝั่งของอาคาร มีผลงานศิลปะของคนดังอย่าง ลีโอนาโด ดาวินชี ภาพโมนาลิซ่าชื่อดัง ยังมีสวนนอกตึกที่สวยงาม ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและเหมาะสำหรับการพักผ่อน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เที่ยวชม มหานครปารีส นครหลวงแห่งแฟชั่นชั้นนำของโลก ที่ซึ่งเปรียบเสมือนสวรรค์ของนักชอปปิ้งจากทั่วทุกมุมโลก หรือ ที่ขนานนามว่าเป็นมหานครปารีสอันสุดแสนโรแมนติก จัตุรัสทรอคคาเดโร, ประตูชัย, ถนนชองป์เอลิเซ่, จัตุรัสคองคอร์ด ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ที่โด่งดังของฝรั่งเศส อาทิ สินค้าประเภท น้ำหอม, เครื่องสำ-อางค์, เครื่องประดับ, เครื่องแต่งกายในร้าน Duty Free ที่คืนภาษีให้กับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ หรือในห้างสรรพสินค้า Galeries Lafayette อันทันสมัย จุดเช็คอินแนะนำ สามารถขึ้น Rooftop ของห้าง Galeries Lafayette สถานที่ถ่ายภาพยอดฮิต ฉากถ่ายทำเรื่อง Emily in Paris ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร บนเรือ Bateaux Parisien พร้อมล่องเรือชมความสวยงามสองฝั่งแม่น้ำแซนน์ |
ที่พัก | Mercure Paris Centre Tour Eiffel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | ปารีส - เมืองรูอ็อง (Rouen) - เอเทรอตา (Etretat) - เลอ อาฟร์ (Le Havre) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางสู่ เมืองรูอ็อง (Rouen) ระยะทาง 133 ก.ม. เที่ยวชมย่านเมืองเก่า , มหาวิหารแห่งเมืองรูอ็อง , สถานที่ลงฑัณฑ์โจน ออฟ อาร์ก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ที่เมืองรูอ็อง |
บ่าย | เดินทางสู่เมือง เอเทรอตาต์ (Etretat) ระยะทาง 83 ก.ม. เป็นเมืองที่อยู่ในภาพวาดของศิลปินชื่อดังอย่าง Gustave Courbet และ Claude Monet นำชมสถานที่ๆเป็นต้นแบบ The White Chalk Cliffs หน้าผาหินโค้งสีขาวที่มีทั้งหมด 3 หน้าผา และ L'Aiguille หรือ The Needle หินสีขาวที่ชี้ขึ้นฟ้า 70 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล จุดเด่นของ3 หน้าผาหินโค้ง Porte d'Aval , Porte d'Amont และ The Manneporte เป็นงานประติมากรรมทางธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้น แล้ว เดินทางสู่เมือง เลอ อาฟร์ (Le Havre) ระยะทาง 27 ก.ม. อิสระให้ท่านเดินทางเที่ยวชมเมืองท่าเรือ และชมสถาปัตยกรรมนอร์มันดี |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารทะเล |
ที่พัก | Hilton Garden Inn Le Havre Centre **** |
วันที่ 5 | เลอ อาฟร์ - มงต์แซงต์มิเชล - เมืองตูร์ แห่งลุ่มน้ำลัวร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางสู่มงต์แซงต์มิเชล ระยะทาง 216 ก.ม. เมืองอันเป็นที่ตั้งของศาสนสถานที่สำคัญแห่งนิกายเบเนดิกต์ทีน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ต้นตำรับไข่เจียว La Mère Poulard |
บ่าย | นำคณะเข้าชม มงแซงต์มิเชล อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับ 3 ของประเทศฝรั่งเศส มองจากภายนอกคล้ายปราสาทตั้งอยู่บนเกาะ อันที่จริงแล้วคือศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป เทียบได้กับมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แห่งกรุงโรม ที่แห่งนี้ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกสร้างมาหลายยุคหลายสมัยเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดการสร้างจนปีค.ศ.966 นักบวชนิกายเบเนดิกตีนจากวิหารแซ็ง-ว็องดรีย์ ได้สร้างโบสถ์และอาคารขึ้นใหม่เป็นอารามขนาดใหญ่ เมื่อครั้งที่แคว้นนอร์มังดีเจริญรุ่งเรือง จนมีความงดงามดังปัจจุบัน เดินทางสู่ เมืองตูร์ Tours ระยะทาง 279 ก.ม. ในเขตแม่น้ำลัวร์ทางตอนเหนือ และแม่น้ำแชร์ทางตอนใต้ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานจัตุรัสเมืองเก่า เรียงรายไปด้วยบ้านกึ่งไม้ซุงที่สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง เป็นเมืองคลาสสิคที่น่าชมอีกเมืองหนึ่ง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Château Belmont Tours by The Crest Collection **** |
วันที่ 6 | เที่ยวชมปราสาทแห่งลุ่มน้ำลัวร์ - ปราสาทชองบอร์ด - ปราสาทชาโตเชอนองโช - บอร์โด |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านชม ชาโตชองบอร์ด 77 กม. มหาปราสาทแห่งลุ่มน้ำลัวร์ แม่น้ำสายยาวที่สุดของฝรั่งเศส 1,013 กิโลเมตร สองฟากฝั่งมีปราสาทหรือชาโต Chateau ของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์มากมาย 1 ในจำนวนทั้งหมด ชาโตชองบอร์ด นับเป็นความปรารถนาสูงสุดของนักท่องเที่ยวกษัตริย์ฟรองซัวส์ที่ 1 ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1519 ไว้เป็นที่ประทับเมื่อมาล่าสัตว์ ลีโอนาร์โด ดาวินชี เป็นผู้ร่างโครงสร้าง ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนป่า |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | แล้วนำท่านชมปราสาทสวยอีกแห่ง ชาโตเชอนองโซ 58 กม. นับได้ว่าเป็นปราสาทที่สวยงามที่สุดในลุ่มแม่น้ำลัวร์ เรื่องราวของความรักของกษัตริย์ฟรองซัวส์ที่ 1 ทรงมอบปราสาทนี้ให้กับพระสนมคนโปรดของพระองค์ คือ ดียาน เดอ ปัวติแยร์ (Diane de Poitiers) พำนักอยู่ที่ปราสาทแห่งนี้จนหลงรักปราสาทแห่งนี้มาก สถาปัตยกรรมของเชอนงโซเป็นแบบผสมระหว่างโกธิคและเรอเนซองส์ตอนต้น เดินทางสู่เมืองบอร์โด Bordeaux 373 กม. เป็นเมืองท่าใกล้ชาย ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 บอร์โด มีชื่อเสียงและเป็นแหล่งผลิตไวน์คุณภาพที่จัดอยู่ในกลุ่ม AOC (Appellation d'Origine Contrôlée) ซึ่งไวน์ดี ๆ ของฝรั่งเศส มักจะอยู่ในกลุ่มนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | InterContinental Bordeaux Le Grand Hotel, an IHG Hotel ***** |
วันที่ 7 | บอร์โด - ไวน์เทสติ้ง POMEROL - SAINT EMILION – บอร์โด |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม นำท่านเดินทางเข้าสู่เขตพื้นที่การผลิตไวน์ Pomerol มีไวน์ที่โด่งดังคือ Pétrus ชมเขตการทำไร่องุ่นที่เล็กที่สุดในเมืองบอร์โด ด้วยเนื้อที่การทำไร่องุ่นเพียง 5,000 ไร่ ถึงแม้ว่าจะมีการผลิตได้เป็นจำนวนน้อยแต่คุณภาพที่ได้นั้นกลับตรงกันข้าม ให้ท่านสัมผัสเทสติ้งไวน์ที่ Chateau Taillefer หลังจากนั้นนำท่านเข้าสู่เขต แซ็ง-เตมีลียง (6 ก.ม.) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารในเมือง แซ็งเตมีลียง |
บ่าย | นำท่านสัมผัสประสบการณ์การชิมไวน์ที่ Chateau St. Emilion หลังจากนั้นนำท่าน เดินทางกลับสู่เมือง บอร์โดซ์ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO โดยได้รับการขนานนามว่า "An outstanding urban and architectural ensemble" หรือ "เมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและโดดเด่น" La Cite Du Vin พิพิธภัณฑ์ไวน์ที่เป็นที่ 1 ในโลกให้สมกับที่เมืองบอร์โดนั้นมีชื่อเสียงกึกก้องโลกเกี่ยวกับไวน์ นำท่านชมสถาปัตยกรรมจากด้านนอกของ Grand Theatre (Bordeaux Opera House) สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ในสไตล์นีโอคลาสสิค , La Bourse หรือ Miroir d'Eau เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของเมืองบอร์โด น้ำพุกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตรงด้านหน้าของจัตุรัส Bourse หรือ Place de la Bourse ที่สวยงามที่สุดของเมืองบอร์โด ที่จัตุรัสแห่งนี้เต็มไปด้วยตึกและอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 สถานแห่งนี้ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นให้มาเดินเล่น นั่งเล่นพร้อมกับชมวิวเมืองที่สวยงามรอบๆ Saint Michel Cathedral Bell Tower จุดชมวิวที่ดีที่สุดของเมือง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | InterContinental Bordeaux Le Grand Hotel, an IHG Hotel ***** |
วันที่ 8 | บอร์โด - การ์กัสซอน - มองต์เปลิเย่ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางสู่เมืองการ์กาซอน 323 กม. ในแคว้นล็องก์ดอค-รูซียง Languedoc-Roussillon มีที่ราบสูง Massif Central และเทือกเขาปีเรเน่เป็นฉากหลัง ถัดไปจากเทือกเขานี้ก็จะเข้าสู่พรมแดนสเปน มีแสงแดดอันอบอุ่นเกือบตลอดปีเดินเที่ยวชมเมืองเก่าการ์กาซอน เส้นทางสายวัฒนธรรมที่สืบสานมาตั้งแต่ครั้งก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคโรมัน ที่จะเห็นได้จากร่องรอยของกำแพงเมืองและป้อมปราการอันแข็งแกร่งในยุคกลาง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินเที่ยวชมเมืองเก่าที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงเมืองโบราณ เดินทางสู่เมืองมองต์เปลิเย่ 152 ก.ม. นำท่านเยี่ยมชมเมืองยามเย็น ปลาส เดอลา คอมเมดี (Place de la Comedie) จัตุรัสใจกลางเมืองมงต์เปลลิเย่ร์ รอบๆจัตุรัสประกอบไปด้วยเหล่าอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย น้ำพุขนาดใหญ่เรียกกันว่า Three Graces น้ำพุแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1790 โดยปฏิมากร Etienne d Antoine ประตูชัยฝรั่งเศส (Porte du Peyrou) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Crowne Plaza Montpellier - Corum, an IHG Hotel **** |
วันที่ 9 | มงเปอลิแอร์ - เลโบเดอโพรวองซ์ – มาร์เซย์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เดินทางสู่หมู่บ้านเลโบ เดอ โพรวองซ์ Les Baux de Provence 99 กม. ถึงหมู่บ้านแล้วนำเที่ยวชมหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านเรือน ชุมชน ตลอดจนศิลปะและวัฒนธรรมโบราณเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่ มาร์เซย ระยะทาง 85 ก.ม. เมืองท่าแห่งประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส บุกเบิกโดยชาวกรีกมาตั้งแต่ 600 ปีก่อนคริสตกาล เข้าสู่ย่านท่าเรือเก่า หรือ Vieux Port แหล่งทำมาหากินของชาวประมง กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของนักเดินทาง มหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด (Notre-Dame de la Garde) ซึ่งอยู่บนยอดเขาจุดสูงสุดของเมือง และเป็นจุดชมวิว 360 องศาที่สวยงามที่สุดด้วย Château d’If บรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ถูกใข้ในการเขียนเรื่อง The Three Masketeers (สามทหารเสือ) หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์เรื่อง The Man in the Iron Mask ที่หนุ่ม ลิโอนาโด ดิคาปริโอ รับบทเด่นในเรื่องนี้เมื่อปี ค.ศ. 1998 ก็เป็น Side Story ของนวนิยายเรื่องสามทหารเสือ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Radisson Blu Hotel, Marseille Vieux Port **** |
วันที่ 10 | แซ็ง-ทรอเป - เมืองคานส์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางสู่ แซ็ง-ทรอเป เมืองตากอากาศชายฝั่งทะเลชื่อดังของฝรั่งเศส ระยะทาง 144 ก.ม. |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเดินทางต่อไปที่เมืองคานส์ 87 กม. เมืองแห่งเทศกาลหนังนานาชาติ พลาดไม่ได้กับการวัดรอยมือดาราคนโปรดที่หน้า ปาเล่ เด เฟสติวาล (Palais des Festivals) ที่เหล่าดาราชื่อดังทั้งหลายได้ประทับรอยมือไว้ให้เป็นที่ระลึก เมืองคานส์เป็นเมืองคู่แฝดของนีซ เต็มไปด้วยโรงแรมหรูหราริมชายหาด และถนนที่ทอดยาวริมชายหาดที่เรียกว่า ลาโพรมานาด เดอ ลา ครัวเซท (La Promenade de la Croisette) นอกจากนี้ยังมีท่าจอดเรือยอร์ชลำงาม ๆ ของบรรดามหาเศรษฐีทั้งหลายด้วย อิสระให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้ง ร้านค้าชื่อดังบนพรอมินาด เป็นสวรรค์ของนักช้อปปิ้งและเขตย่านเมืองเก่า Street Brand ที่น่าสนใจอย่างมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hôtel Barrière Le Gray d'Albion Cannes **** |
วันที่ 11 | แซงต์ปอล เดอ วองซ์ - หมู่บ้าน EZE - เมืองนีซ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางสู่ แซงต์ปอล เดอ วองซ์ ระยะทาง 28 ก.ม. พาท่านเที่ยวเมืองยุคกลางที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศสที่ชื่อว่า "แซงต์ ปอล เดอ วองซ์ (Saint Paul de Vence)" เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเหนือชายหาดริเวียร่า จุดหมายปลายทางของบรรดาเหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบศิลปะโบราณ โลกยุคกลางอันมากเสน่ห์ที่ชวนให้หลงใหล ถนนก้อนกรวดที่เชื่อมโยงกันด้วยขั้นบันไดจำนวนมาก อาคารบ้านเรือนที่สร้างขึ้นด้วยหิน ประดับประดาไปด้วยต้นไม้หลากสีสัน ตามแบบฉบับของเมืองยุคกลาง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่ หมู่บ้านเอซ EZE ระยะทาง 38 ก.ม. นำท่านเข้า ชมโรงงานน้ำหอม พาท่านเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกเอซ กลางหุบเขาทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 429 เมตรจากระดับน้ำทะเล ,ทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สามารถเห็นวิว 360 องศาแบบพาโนรามา ที่นี่มีสวนพฤษศาสตร์ มีการอนุรักษ์บ้านเรือน มีงานฝีมือ งานช่าง งานศิลปะพื้นเมืองให้ชมมากมาย เดินทางต่อสู่ เมืองนีซ เมืองตากอากาศชายฝั่งทะเเมดิเตอร์เรเนียนที่หรูหรา เดินเล่นไปบนถนนเลียบชายหาด หรือ ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังของฝรั่งเศส ในอดีตเป็นแหล่งพบปะกันของชนชั้นสูงจากอังกฤษ แนวชายหาดที่ทอดตัวคู่ขนานไปกับถนนเลียบชายหาด ลา-พรอมมินาด-เด-ซองเกส (La Promenade des Anglais) จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนในช่วงฤดูร้อน เมืองนีซเหมาะกับการปล่อยเวลาไปกับสิ่งบันเทิง ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง , ถ่ายรูปกับชายหาดแสนงดงาม หรือ เสี่ยงโชคในสถานคาสิโน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารทะเล |
ที่พัก | Hôtel Nice Beau Rivage **** |
วันที่ 12 | นีซ - โมนาโก – มอนติกาโล เมืองคาสิโนหรู |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม เที่ยวตลาดสดยามเช้า อิสระเดินเล่นใน Cours Saleya ตลาดสดในเมืองนีซ มีทั้งอาหารสดมากมายดอกไม้ ของที่ระลึกซึ่งเป็นสีสันของถนนเส้นนี้ แล้วเดินทางสู่เดินทางสู่ รัฐโมนาโก หรือไมอามี่แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระยะทาง 21 ก.ม.เที่ยวชม Saint Nicholas Cathedral มหาวิหารที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซเคลลีแห่งโมนาโค สตรีผู้สูงศักดิ์ ที่ชีวิตเปรียบเสมือนเทพนิยาย จากหญิงสาวธรรมดาที่โชคชะตาพลิกผันให้เป็นเจ้าหญิงในราชวัง, Prince's Palace of Monaco ถ่ายรูปกับปาเล เดอ แปรงซ์ Palais De Princes ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ สร้างขึ้นบนส่วนที่เป็นเดอะร็อกท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เดินทางสู่ มองติกาโล Monte-Carlo กลายเป็นเมืองหลวงแห่งการพนันของยุโรปซึ่งเศรษฐีนิยมมาเที่ยวกัน นำท่านเข้าสัมผัสกับความหรูหราภายในบ่อนคาสิโนมองติกาโล ชมเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลสวย, หมู่ตึกระฟ้าและทิวเขาอันงดงาม นอกจากนี้โมนาโก ยังได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เกิดจากแนวคิดของนักเดินทางชาวเลบานอนและราชรัฐโมนาโกในปี 1980 โดยมีสถาปนิกชั้นนำของโลกบางคนเข้าร่วมงาน หนึ่งในนั้นคือ Metropole Shopping Monte-Carlo เปิดอย่างเป็นทางการในปี 1988 โดยมีชื่อเสียงจากบรรยากาศที่หรูหราและน่าดึงดูดใจ ในสภาพแวดล้อมที่ทำจากวัสดุล้ำค่า หินอ่อนที่สกัดจากเหมืองคาร์ราราอันทรงเกียรติในอิตาลี ช่วยให้ภายในมีความรู้สึกแบบเมดิเตอร์เรเนียนสมัยใหม่ที่เฉียบขาด โคมไฟระย้าคริสตัลโบฮีเมียอันงดงามสองอันสร้างโดย Faustig แขวนอยู่เหนือจัตุรัสกลาง ทำให้เกิดบรรยากาศอันงดงาม ร้านค้า 80 แห่งและร้านอาหาร 6 แห่งมีทางเลือกให้เลือกมากมาย ตั้งแต่แฟชั่นและเครื่องประดับ ไปจนถึงอาหารกูร์เมต์ เครื่องประดับ นาฬิกาสุดหรู ทรีทเมนท์ความงาม รวมถึงของใช้ในบ้าน เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และโบราณวัตถุ เป็นตัวอย่างเพียงแค่ 1 แห่งเท่านั้นในโมนาโก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Fairmont Monte Carlo ***** |
วันที่ 13 | นีซ - ดูไบ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม อิสระตามอัธยาศัย ให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าของทะเลเมดิเตอเรเนียน |
10.30 น. | เช็คเอ๊าท์ แล้วเดินทางสู่สนามบินนีซ |
11.30 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
15.55 น. | ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK 078 |
วันที่ 14 | นีซ - ดูไบ - กรุงเทพ |
00.10 น. | ถึงท่าอากาศยานดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
03.45 น. | ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK 376 |
13.00 น. | คณะเดินทางกลับถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ |
หมายเหตุ | ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 45 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่น ๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้ |