รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์ภูฏาน

TE356 : โปรแกรมทัวร์ภูฏาน 5 วัน 4 คืน (KB)


คัดลอก URL คัดลอก URL
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Osel Hotel, Thimphu
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
Raven Nest Resort, Paro
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
RKPO Green Resort , Punakha
TE356 : โปรแกรมทัวร์ภูฏาน 5 วัน 4 คืน (KB)

ภูฏาน ดินแดนแห่งมังกรสายฟ้า
ครั้งหนึ่งในชีวิตควรไปเยือนภูฏาน ... เล็กแต่สุขที่สุดในโลก
พิชิตวัดทักซัง ได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกประจำปี 2023 
เที่ยวครบเมืองสำคัญ พาโร ทิมพู ปูนาคา 
เยือนปูนาคาซอง ป้อมปราการที่สวยที่สุดในภูฏาน
ชมวิวเทือกเขาหิมาลัยแบบพาโนรามา สวยสะกดทุกสายตา
สูดอากาศบริสุทธิ์ที่คาร์บอนไดออกไซด์ติดลบ ประเทศแรกในโลก


 
รายละเอียดการเดินทาง

วันที่ 1กรุงเทพฯ - พาโร - ทิมพู
02.00 น.เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ U  สายการบินดรุ๊กแอร์ (Drukair) เพื่อทำการเช็คอินก่อนขึ้นเครื่อง
05.00 น.เหินฟ้าสู่ เมืองพาโร ประเทศภูฏาน โดยเที่ยวบินที่ KB153 (0500 – 0715)  (ใช้เวลาบินประมาณ 3.15 ชม.) ก่อนเครื่องลงจอดที่สนามบินพาโร ท่านสามารถมองเห็นความเขียวชอุ่มของภูเขา และบ้านเรือนของชาวภูฏานที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน 
07.15 น.เดินทางถึงสนามบินพาโร เมืองพาโร หลังจากผ่านพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองแล้ว รับและตรวจกระเป๋าสัมภาระของท่านที่สายพานลำเลียงให้เรียบร้อย  และเตรียมแลกเงินให้เป็นเงินสกุลนูทรัมให้เพียงพอกับความต้องการที่เคาน์เตอร์ธนาคารในอาคารสนามบิน 

นำท่านเดินทางสู่เมือง ทิมพู โดยทางรถยนต์ ( ระยะทางประมาณ 54 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง ) ระหว่างทางท่านสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของภูฏานและท่านจะตื่นตาตื่นใจสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของภูฏานที่จะได้พบเห็นตลอดสองข้างทาง ระหว่างทางแวะถ่ายรูป วัดตัมโช (Tamchoe Monastery) ซึ่งมีสะพานเหล็กทอดไปอีกฝั่ง เป็นวัดที่สร้างโดยพระลามะทิเบตที่ต้องการมาหาแร่เหล็ก และท่านก็เป็นผู้คิดค้นการทำโซ่เหล็กเป็นครั้งแรก ซึ่งท่านสามารถเห็นในพิพิธภัณฑ์พาโรด้วย  

จากนั้นแวะที่ ด่านชูซอม บริเวณจุดที่แม่น้ำสองสายไหลมาบรรจบกัน ชมสถูป 3 รูปแบบที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เป็นสถูปที่นิยมสร้างในดินแดนเทือกเขาหิมาลัย  (ในบริเวณเดียวกัน ยังมีเส้นทางที่ตัดไปยังประเทศอินเดียที่ด่านพุนโชลิง ซึ่งในสมัยภูฏานเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาทางบกก็ได้ใช้เส้นทางนี้) ก่อนถึงเมืองทิมพู ท่านจะเห็นได้ถึงความแตกต่างมากขึ้นในการก่อสร้างบ้านเรือนที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลพวงจากการพัฒนาประเทศ ซึ่งเมืองหลวงแห่งนี้มีความเจริญมากที่สุด   

เดินทางถึง เมืองทิมพู  เมืองหลวงของประเทศภูฏาน นำท่านไปกราบนมัสการพระศรีศากยมุนีปางนั่งขัดสมาธิที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประดิษฐานกลางแจ้ง (Buddha Dorderma) บริเวณยอดเขาในเมืองทิมพูเพื่อความเป็นสิริมงคล  ที่นี่ยังถือว่าเป็นจุดชมวิวของเมืองทิมพูอีกแห่งหนึ่ง


นำชม Memorial Chorten  หรือมหาสถูปที่พระเจ้าจิกมี ดอร์จี วังชุก พระองค์เป็นมหากษัตริย์องค์ที่ 3 ที่ปกครองภูฏานในช่วงปี ค.ศ. 1952-1972 และทรงได้รับพระฉายาว่า “พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” (King of Modernization) มีพระราชประสงค์จะสร้างเพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา แทนสัญลักษณ์ กาย วาจา และใจแห่งพุทธศาสนา  แต่ท่านได้เสียชีวิตลงเสียก่อน ต่อมาสมเด็จพระราชินีจึงได้ดำเนินการสร้างต่อจนแล้วเสร็จ   

นำชม วัดชันกังคา  (Changangkha Temple) วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่ซึ่งถูกสร้างใน ค.ศ.ที่ 14 หรือกว่า 600 ปีที่แล้ว วัดนี้ชาวภูฏานมักจะนำเด็กเล็กๆมากราบไหว้ขอพรและตั้งชื่อให้กับเด็ก เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและไม่ฝันร้ายในยามนอนหลับ ภายในอาคารวิหารมีจิตรกรรมสีฝาผนังที่เก่าแก่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ในพุทธศาสนานิกายวัชรยาน
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน
บ่ายจากนั้นพาท่านชม เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ตาคิน (Takin Zoo) เป็นสถานที่อนุรักษ์สัตว์ประจำชาติของภูฏานซึ่งเรียกว่า ตาคิน (Takin) เป็นสัตว์ที่หายากสามารถพบได้เฉพาะที่ภูฏานในระดับความสูง 3,000 เมตรขึ้นไป ลองไปรับฟังเรื่องราวที่มาของสัตว์ตัวนี้ดูได้จากไกด์ท้องถิ่น 

แล้วพาชม วัดแม่ชีซิลูคา (Zilukha Nunnary) ซึ่งเป็นวัดแห่งเดียวในทิมพูที่มีแม่ชีจำวัดและศึกษาเล่าเรียนพระธรรมอยู่ 
เย็นนำท่านชม ตาชิโชซอง (Tashicho Dzong) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองทิมพู ซองแห่งนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากและใหญ่โต ปัจจุบันถูกใช้แยกเป็นส่วนต่างๆ เช่น สถานที่ทำงานของพระมหากษัตริย์  สถานที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชในช่วงฤดูร้อน  ตลอดจนสถานที่ทำการของรัฐบาลและรัฐสภา เป็นต้น  

นำท่าน เดินเล่นในตัวเมืองทิมพู  ท่านจะรู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการแต่งกาย ตลอดจนมิตรไมตรีจิตของผู้คน โดยชาวภูฏานจะแต่งกายด้วยชุดประจำชาติ ซึ่งผู้ชายแต่งชุดที่เรียกว่า โค (Kho) ส่วนผู้หญิงแต่งชุดที่เรียกว่า คีรา (Kira) ท่านสามารถจับจ่ายซื้อของที่ระลึกพื้นเมืองต่างๆ อาทิเช่น  ผ้าทอภูฏาน  ภาพพระบฏ (Thangka) เครื่องประดับเงิน หนังสือหรือแสตมป์ที่ระลึกในรูปแบบต่างๆ  ภูฏานจัดเป็นประเทศ “เจ้าแห่งแสตมป์” แห่งหนึ่งของโลก แสตมป์ของภูฏานจะมีให้เลือกในรูปแบบและราคาที่หลากหลาย ทั้งรูปวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ รูปวัดอารามและพระราชวัง(ซอง) รูปสัตว์ รูปดอกไม้ต่างๆ รวมทั้งยังมีแสตมป์แบบ 3 มิติ อีกด้วย
*หมายเหตุ : ก่อนอื่นคงต้องขอพูดถึงเรื่องของซอง  (Dzong)  เสียก่อน  มาภูฏานสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นและได้ยินบ่อยๆ  คือ  ซอง  เพราะ “ซอง”  ไม่ใช่เป็นเพียงสถาปัตยกรรมที่มีความสำคัญกับด้านการบริหารการปกครองบ้านเมืองเท่านั้น หากแต่เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนภูฏาน  เนื่องจากเป็นที่ตั้งของวัดหลักประจำท้องถิ่นนั้นๆ  หากแปลความหมายของซอง ซึ่งเป็นภาษาซองคา  ก็คือ  ป้อมปราการ  ที่ในอดีตใช้เป็นที่ใช้ป้องกันอริศัตรูที่มารุกรานแผ่นดินแห่งนี้นั่นเอง
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ
ที่พักOsel Hotel, Thimphu 4*  หรือเทียบเท่า
วันที่ 2ทิมพู - ปูนาคา 
เช้ารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
 
นำท่านออกเดินทางไปทางทิศตะวันออกของเมืองทิมพู สู่ เมืองปูนาคา ( ระยะทางประมาณ  77  กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมง ) ระหว่างทาง แวะถ่ายภาพ ซิมโตคาซอง วิทยาลัยแห่งแรกในภูฏาน  บนเส้นทางสู่เมืองปูนาคา ท่านสามารถชมทิวทัศน์ของภูเขาสูงสลับกับแม่น้ำลำธารน้อยใหญ่ที่ใสสะอาด ตามข้างทางจะเห็นดอกกุหลาบพันปี  (Rhododendron) ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม การทำสวนแอปเปิ้ล และกงล้อมนตราที่หมุนโดยใช้พลังน้ำ ระหว่างกลางทาง เราจะแวะพักจุดที่สูงที่สุดบนเส้นทางนี้ที่ ดอร์ชูลา ( Dorchula Pass ) ในระดับความสูง 3,150 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นช่องเขาที่สามารถมองเห็นแนวเทือกเขาหิมาลัยได้ ในบางวันอาจเห็นทะเลหมอกปกคลุมอยู่ทั่วไป และยังเป็นที่ตั้งของมหาสถูป 108 องค์อีกด้วย 

เดินทางต่อไปยังเมืองปูนาคา ปูนาคา อดีตราชธานีของภูฏาน ตั้งแต่ปีค.ศ.1639-1955  ซึ่งสร้างและปกครองโดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล  (Shabdrung Ngawang Namgyal)  เป็นพระลามะจากทิเบตที่ธุดงค์มาถึงภูฏาน
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน
บ่ายหลังอาหาร นำท่านเดินเท้าไปชม วัดชิมิลาคัง (Chimi Lhakhang) วัดนี้ได้ถูกค้นพบในปีค.ศ.1499 โดยพระงาวัง ชอคเยล ชาวภูฏานนิยมมาไหว้ขอพรในเรื่องลูกและครอบครัว อาทิ ขอพรให้ประสบความสำเร็จในด้านความรัก ขอให้มีลูกสืบสกุล 

จากนั้นนำท่านชม จุดชมวิวแม่น้ำโพและแม่น้ำโม  ณ บริเวณด้านหน้าของปูนาคาซอง ที่เป็นจุดที่แม่น้ำโพ (Po Chu) และแม่น้ำโม (Mo Chu) ซึ่งหมายถึง แม่น้ำพ่อและแม่น้ำแม่ ทั้งสองสายไหลมาบรรจบกันพอดี เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากๆ 

นำชม ปูนาคาซอง (Punakha Dzong) ซองแห่งนี้ได้ชื่อว่า เป็นซองที่สวยที่สุดในประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นที่ประทับของพระสังฆราชในฤดูหนาวเนื่องจากปูนาคามีอากาศไม่หนาวเย็นจนเกินไป ด้วยเหตุที่เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในระดับความสูงเพียง 1,350 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลเท่านั้น  เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่นี่จึงมีอากาศอบอุ่นกว่าในช่วงฤดูหนาว
เย็นรับประทานอาหารเย็น
ที่พัก RKPO Green Resort , Punakha 4*  หรือเทียบเท่า
วันที่ 3ปูนาคา - ทิมพู - พาโร
เช้ารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

ออกเดินทางกลับสู่เมือง พาโร  ( ระยะทางประมาณ 131 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 4 ชั่วโมง ) ระหว่างทางขากลับแวะเที่ยวที่เมืองทิมพู ก่อนอำลาสู่เมืองหน้าด่านอย่างพาโร

นำท่านเยี่ยมชม โรงเรียนสอนงานศิลปะ ( The Traditional Art  and Craft School )  ซึ่งท่านสามารถเห็นเด็กนักเรียนที่มีใจรักงานด้านศิลป์กำลังประดิษฐ์งานศิลปะแขนงต่างๆ เช่น การแกะสลักไม้ การปั้นพระพุทธรูปปูนปั้น  การวาดภาพพระบฏหรือภาพทังก้า (Thangka) อีกด้วย 

ต่อด้วยการเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์พื้นบ้าน ( The Folk Heritage Museum )

ปิดท้ายด้วยการชม ที่ทำการไปรษณีย์ภูฏาน ( Post Office ) ซึ่งท่านสามารถเลือกซื้อดวงตราไปรษณียากรที่งดงามของภูฎาน มีให้เลือกหลายรูปแบบและราคา ทั้งรูปวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ รูปวัดและป้อมปราการที่เรียกว่า ซอง (Dzong) รูปสัตว์ รูปดอกไม้ต่างๆ รวมทั้งยังมีสแตมป์สามมิติ เป็นต้น ที่นี่ท่านสามารถถ่ายรูปตัวเองเป็นตราไปรษณีย์ส่งกลับมาประเทศไทยได้อีกด้วย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน
บ่ายหลังอาหารกลางวัน เดินทางต่อสู่เมืองพาโร 

นำท่านชม พาโรซอง ( Rinchen Pung Dzong ) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1645 ถูกสร้างบนพื้นที่ที่เด่นตระหง่านอยู่ในหุบเขาพาโร ทางเข้าตัวซองจะมีสะพานไม้ที่สวยงามพาดผ่านแม่น้ำเพื่อเข้าสู่ตัวซอง ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Little Buddha อีกด้วย ปัจจุบันพาโรซองเป็นทั้งสถานที่สำหรับส่วนบริหารเมืองพาโรและส่วนที่เป็นวัด ซึ่งมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ประมาณ 200 รูป 
เย็นนำท่าน เดินเล่นในตัวเมืองพาโร ในยามเย็นก่อนพระอาทิตย์อัสดง

รับประทานอาหารเย็น 
ที่พักRaven Nest Resort, Paro 4*  หรือเทียบเท่า
วันที่ 4พาโร - วัดทักซัง - วัดคิชู - ตาซอง
เช้ารับประทานอาหารที่โรงแรม

นำท่านเดินทางไปยังเชิงเขาเพื่อเตรียมตัวเดินขึ้นเขาไปสักการะวัดอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศภูฏาน ที่ถือว่าเป็นสถานที่ในการจาริกแสวงบุญของชาวพุทธวัชรยาน นั่นคือ วัดถ้ำเสื้อ หรือที่เรียกว่า วัดทักซัง (Taktsang Monastery) เรียกตามภาษาท้องถิ่น ชื่อทักซังนี้มีความหมายว่า เป็นที่อยู่รังของเสือ (Tiger’s Nest) ซึ่งตั้งตามตำนานความเชื่อเก่าของวัดแห่งนี้กล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งที่ท่านคุรุรินโปเช เข้ามาเผยแผ่ธรรมะในดินแดนแห่งนี้ ท่านได้แปลงร่างเป็นพญาครุฑขี่หลังเสือ ซึ่งเสือตัวนั้นก็คือร่างที่แปลงมาจากภรรยาของท่าน เหาะเหินขึ้นมาจำศีลภาวนา ณ ถ้ำเล็กๆบนหน้าผาแห่งนี้เป็นเวลากว่า 3 เดือน ต่อมาให้มีการสร้างวัดเพื่อให้พระที่มาปฏิบัติธรรมอยู่อาศัยและสร้างต่อๆ มาถึง 13 อาคาร  อาคารเหล่านี้เคยถูกไฟไหม้หลายหนแต่ก็บูรณะขึ้นมาใหม่ ขอเชิญท่านพิสูจน์แรงศรัทธา แรงกายและแรงใจ ในการเดินขึ้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ( ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของแต่ละท่าน ) เพราะเมื่อท่านขึ้นมาถึงบริเวณก่อนถึงทางเข้าวัดแล้ว ท่านจะรู้สึกว่าคุ้มค่าแก่การเดินขึ้นมาอย่างยิ่ง สำหรับท่านที่ไม่สามารถเดินถึงอาคารวัดถ้ำเสือ ท่านอาจเดินขึ้นไปถึงบริเวณร้านอาหาร ( Cafeteria ) หรือจะนั่งม้าแคระแทนการเดินก็ได้ ( กรุณาแจ้งความประสงค์ล่วงหน้า ) ใช้เวลาขึ้นลงรวมทั้งสิ้นประมาณ 5-6 ชั่วโมง
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน
บ่ายนำท่านเข้าชม วัดคิชู ( Kyichu Lhakhang ) ประกอบด้วยโบสถ์ 2 หลัง หลังเก่าได้สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าซองเซินกัมโป กษัตริย์แห่งอาณาจักรทิเบต  ตามความเชื่อเรื่องการสยบยักษีตนหนึ่งที่เอนกายนอนขัดขวางการเผยแผ่ศาสนาพุทธในดินแดนแถบเทือกเขาหิมาลัย  จึงโปรดให้สร้างวัดทั้งสิ้น 108 วัดภายในหนึ่งวัน เปรียบเสมือนการตอกหมุดลงบนร่างของนางยักษีตนนี้ โดยตำแหน่งของวัดสำคัญสองวัดที่สร้างอยู่ในภูฏาน คือ วัดจัมเบ ที่บุมทัง (Jambey Lhakhang) และ วัดคิชู (Kyichu Lhakhang) จะอยู่บนเข่าซ้ายและเท้าซ้ายตามลำดับ วัดแห่งนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ส่วนโบสถ์หลังใหม่เป็นของสมเด็จย่าในกษัตริย์องค์ปัจจุบัน และในโบสถ์หลังเก่าพื้นปูด้วยไม้แผ่นใหญ่ มีพระประธานองค์ใหญ่ เบื้องหน้ามีรอยบุ๋มเนื่องจากมาจากการยืนและกราบพระในจุดเดียวกันเป็นเวลายาวนานตามอายุวัด   ซึ่งศาสนิกชนลัทธิลามะจะกราบแบบนอนราบพื้นอันเป็นการแสดงคารวะสูงสุด เรียกว่า กราบแบบ “อัษฎางคประดิษฐ์”  

จากนั้นพาท่านไปที่จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศภูฏาน จูโมฮารี ( Jumohari Peak ) ที่มีความสูง 7,314 เมตร ยอดเขาปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี (หากท้องฟ้าเป็นใจ)

นำชม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในเมืองพาโร ซึ่งในอดีตเคยเป็นป้อมปราการหรือ ตาซอง (Ta Dzong) แต่ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ.1968 มีทั้งหมด 6 ชั้น  พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวบรวมเครื่องแต่งกาย  อาวุธ  เหรียญกษาปณ์  เครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอย  สัตว์ป่าในแถบเทือกเขาหิมาลัยตลอดจนดวงตราไปรษณีย์ที่สวยงามมากมายหลายรูปแบบ
เย็นรับประทานอาหารเย็น
ที่พักRaven Nest Resort, Paro 4*  หรือเทียบเท่า
วันที่ 5พาโร - กรุงเทพฯ
เช้ารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม เดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังสนามบินพาโร เพื่อเตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ 
08.00 น.เหินฟ้ากลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินดรุ๊กแอร์ (Drukair) เที่ยวบินที่ KB150 (0800 – 1210) (ใช้เวลาบินประมาณ 3.10 ชม.) 
12.10 น.ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจและความทรงจำที่ดี



เงื่อนไขในการจอง

อัตราค่าบริการดังกล่าวรวม
  • ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน โดยใช้โรงแรมที่ผ่านการรับรองจากรัฐบาลภูฏาน 
    (Standard Room) ตามระบุไว้ในโปรแกรม
  • ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศชั้นประหยัด เส้นทาง กรุงเทพ-พาโร-กรุงเทพ โดยสายการบินดรุกแอร์
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามที่กำหนดในโปรแกรม 
  • ค่ายานพาหนะ และค่าเข้าชมสถานที่ตามที่ระบุไว้ในโปรแกรม
  • ค่าวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ 40 USD ( Single Entry ) 
  • ค่าภาษีอากรขาออกสนามบิน กรุงเทพฯ  และ พาโร
  • ค่ามัคคุเทศก์ท้องถิ่น (พูดภาษาอังกฤษ) คอยอำนวยความสะดวกตลอดโปรแกรม
  • ค่าหัวหน้าทัวร์ไทย คอยอำนวยความสะดวกตลอดโปรแกรม
  • ค่าประกันอุบัติเหตุการเดินทางในวงเงิน 1 ล้านบาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น / คนขับรถ 
อัตราค่าบริการดังกล่าวไม่รวม 
  • ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 30 กิโลกรัมต่อท่าน
  • ค่าธรรมเนียมในการทำหนังสือเดินทาง หรือค่าแจ้งเข้าออก กรณีคนต่างด้าว
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น เครื่องดื่มและอาหารนอกรายการ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ฯลฯ
  • ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% 
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย เพื่อเป็นสินน้ำใจตอบแทนการให้บริการ
เอกสารการขอวีซ่าภูฏาน
ใช้สแกนหน้าพาสปอร์ต (เฉพาะหน้าแรกที่มีรายละเอียดของผู้เดินทาง) ต้องเป็นการสแกนสีเท่านั้น เนื่องจากต้องส่งไปให้ Tour Agent ที่ประเทศภูฏานดำเนินการเรื่องการขอวีซ่า 
**พาสปอร์ตต้องมีอายุเหลือมากกว่า 180 วัน นับจากวันที่จะเดินทางกลับจากภูฏาน และต้องมีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 2 หน้าติดกัน
เงื่อนไขต่างๆ
  • บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงโปรแกรม ราคา และเงื่อนไขทั้งหมดโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
  • รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เนื่องจากความล่าช้าของสายการบิน, โรงแรมที่พักในต่างประเทศ เหตุการณ์ทางการเมือง และภัยธรรมชาติ ฯลฯ ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ  ทั้งนี้ บริษัทฯ จะคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
  • บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมือง ห้ามผู้เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของห้ามนำเข้าประเทศ เอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย หรือด้วยเหตุผลใดๆก็ตามที่กองตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้ว ทางบริษัทฯ ไม่อาจคืนเงินให้ท่านได้ ไม่ว่าจำนวนทั้งหมดหรือบางส่วน
  • บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย งดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติ หรือคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
  • การไม่รับประทานอาหารบางมื้อ การไม่เที่ยวตามรายการ ไม่สามารถขอหักค่าบริการคืนได้ เพราะการชำระค่าทัวร์เป็นไปในลักษะเหมาจ่าย

ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy