วันที่ 1 | กรุงเทพ – เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) - อิวาโล |
05.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และหัวหน้าทัวร์ เคาน์เตอร์เช็คอิน เคาน์เตอร์ S สายการบินฟินแอร์ อาคารผู้โดยสารขาออก ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สัมภาระน้ำหนัก 23 กก. สำหรับโหลด (ท่านละ 1 ใบ) และ ถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กก. |
08.00 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยสายการบิน ฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 142 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.30 ชม.) สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และอาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่เฮลซิงกิ |
15.30 น. | เดินทางถึง สนามบินเฮลซิงกิ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
20.50 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินอิวาโล โดยเที่ยวบิน AY609 |
22.30 น. | เดินทางถึงสนามบินอิวาโล นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้ในบริเวณโรงแรมที่พัก (Aurora Hunting Inside Hotel) |
ที่พัก | Holiday Club Saariselka **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | เคิร์กเคเนส – กิจกรรมตกปูยักษ์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเคิร์กเคเนส (Kirkenes) ระยะทาง 268 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 – 4 ชั่วโมง เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ในเขตแลปแลนด์ เมืองนี้ตั้งอยู่บนแหลม Bokfjorden ซึ่งนับได้ว่ามีดินแดนที่มีทัศนียภาพฟยอร์ดและแลนด์สเคปที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งและเป็นอีกเมืองที่มีกิจกรรมน่าสนใจคือการจับปูยักษ์ (King Crab Safari) ไม่ว่าจะเป็นการล่องทะเลออกจับปูยักษ์ หรือ การนั่งสโนว์โมบิลออกจับปูยักษ์หากกรณีน้ำทะเลเป็นน้ำแข็ง ซึ่งกิจกรรมการตกปูยักษ์นี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมโดดเด่นของเมืองนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย |
บ่าย | นำท่าน สัมผัสประสบการณ์จับปูยักษ์ (King Crab Safari) โดยนั่งเรือ หรือ รถสโนว์โมบิล (ขึ้นกับสภาพอากาศ หากน้ำแข็งมีการจับตัวมากในช่วงหน้าหนาว ทางเรือจะจัดเป็นนั่งสโนว์โมบิลแทน) ตื่นตาตื่นใจกับการจับปูยักษ์ตัวเป็นๆให้ท่านได้ลองจับและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก กับกิจกรรมจับปูยักษ์ในเขตแลปแลนด์ นับเป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งของชาวนอร์ดิชในเขตแลปแลนด์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมเมนู ปูยักษ์ หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้ในบริเวณโรงแรมที่พัก (Aurora Hunting Hotel) |
ที่พัก | Scandic Kirkenes Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | นั่งสุนัขลากเลื่อน - นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ – อิวาโล – พัก Glass igloo |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองซาลิสเซกา(Saariselka) เมืองท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์ มีชื่อเสียงอย่างมาก ทางด้านที่พักและรีสอร์ท (ระยะทาง 260 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) และเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของแลปแลนด์ที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากที่สุด |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านมุ่งสู่ ฮัสกี้ซาฟารีฟาร์ม (Husky Safari) ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาวนานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของหรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ นำท่านสัมผัสความน่ารักและแสนรู้ของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ซึ่งเป็นสุนัขที่แข็งแรง คล่องแคล่ว เต็มไปด้วยพลัง เป็นคุณสมบัติที่สืบทอดจากบรรพบุรุษที่มาจากสิ่งแวดล้อมที่หนาวเย็นอย่างรุนแรงของไซบีเรีย ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การนั่งรถลากเลื่อนโดยสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ นำท่านสัมผัสประสบการณ์ นั่งรถลากเลื่อนกวางเรนเดียร์ (การนั่งรถลากเลื่อนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ บริษัทมีเตรียมชุด Thermal Suite สำหรับลูกค้าทุกท่านระหว่างการทำกิจกรรม) ให้ท่านได้สัมผัสกับความน่ารักของกวางเรนเดียร์ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ โดยตัวผู้มีขนาดใหญ่ขนาดโตเต็มที่มีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม และสูงประมาณ 214 เซนติเมตร ขนตามลำตัวยามปกติจะมีสีน้ำตาล แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวขนจะเปลี่ยนไปเป็นสีอ่อนขึ้น หรือสีขาว ชาวแลปแลนด์นิยมเลี้ยงไว้เพื่อใช้งานสำหรับลากเลื่อน ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับกวางเรนเดียร์ได้แบบเต็มอิ่ม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้ในบริเวณโรงแรม (Aurora Hunting at Hotel) |
ที่พัก | Aurora Cabin at Nothern Lights Village Saariselka **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | ขี่สโนว์โมบิล – เลวี |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่และสนุกเพลินเพลินกับการขับสโนว์โมบิล (Snowmobile) บนทุ่งน้ำแข็ง ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 2 ชั่วโมง ให้ท่านได้ขับสโนว์โมบิลไปในดินแดนแลปแลนด์ และ สัมผัสประสบการณ์การตกปลาจากหลุมน้ำแข็ง Ice Fishing |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองเลวี (Levi) เมืองเล็กๆ ทางตอนเหนือของเขตแลปแลนด์ มีชื่อเสียงโด่งดังด้วยเป็นเมืองแห่งสกีรีสอร์ต มีเครื่องเล่นและกิจกรรมหน้าหนาวสนุกๆ มากมายไว้รองรับ ในหน้าหนาวจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่พากันมาเล่นสกีบนภูเขาสูง อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของหน้าหนาวที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และที่นี่ยังเป็นเมืองที่สามารถชมแสงเหนือได้ง่ายอีกแห่งหนึ่งของฟินแลนด์อีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถแสงเหนือได้ในบริเวณโรงแรมที่พัก (Aurora Hunting Inside Hotel) |
ที่พัก | Break Sokos Hotel Levi ****หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | เลวี - โรวาเนียมิ – หมู่บ้านซานตาครอส - พิพิธภัณฑ์อารค์ติกคุม |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองโรวาเนียมิ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพทุ่งหิมะแห่งแลปแลนด์ และหากโชคดีท่านอาจได้พบเห็นฝูงกวางเรนเดียร์ที่ออกหากินในเวลากลางวัน ตลอดเส้นทางท่านจะได้เห็นภูมิประเทศอันแปลกตา หิมะ สลับกับทิวสน และผืนน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง นับเป็นทัศนียภาพอันแปลกตาและสวยงามมาก ซึ่งสามารถเห็นได้เพียง ช่วงฤดูหนาวแห่งแลปแลนด์นี้เท่านั้น |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านซานตาคลอส (Santa Claus Village) หนึ่งในความฝันของทั้งเด็กทุกชนชาติ ใครๆก็อยากเจอและอยากได้ของขวัญจากซานตาคลอสกัน ดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำท่านถ่ายรูปกับ เส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เส้นแบ่งเขตแดนตามเส้นรุ้งและเส้นแวงเพื่อกำหนดขอบเขตของบริเวณซีกโลกเหนือ โดยเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลจะอยู่ที่ 66 องศา 33 ลิปดา 44 ฟิลิปดาเหนือ เป็นตัวบ่งบอกจุดเหนือสุดที่ในเวลา 1 ปี คนที่อยู่แถบนี้ มีโอกาสไม่พบกับพระอาทิตย์ขึ้นเลยอย่างน้อย 24 ชั่วโมง หรือพระอาทิตย์ไม่ตกเลยเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง จากนั้นนำท่านแวะชมซานตาคลอสออฟฟิศ (Santa Claus Office) หรือ ที่ทำการของซานตาคลอส ภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใสมากมาย พร้อมทั้งให้ท่านได้พบกับลุงซานตาคลอส ในชุดคริสต์มาสสีแดงที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่านด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับซานตาครอส (ไม่รวมไฟล์และค่าปริ้นท์รูปถ่าย) จากนั้นนำท่านแวะชมที่ทำการไปรษณีย์ซานตาคลอส (Santa Claus Main post office) ท่านสามารถเลือกซื้อไปรษณียบัตรหลากหลายสีสันเพื่อเขียนอวยพรครอบครัวและมิตรสหาย พร้อมทั้งฝากซานตาคลอสส่งกลับมายังประเทศไทยได้ อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปในบริเวณหมู่บ้านซานตาคลอสที่ประดับประดาด้วยธีม คริสต์มาสอันสวยงามตามอัธยาศัย หรือจะเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก ที่มีจำหน่ายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกสรร นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อาร์กติกุม (Arktikum) แหล่งรวมความรู้ ความเป็นมาและวัฒนธรรมการตั้งถิ่นฐานของชาวฟินแลนด์รวมถึงประเทศใกล้เคียงในแถบอาร์กติก พิพิธภัณฑ์แห่งแลปแลนด์ที่ยิ่งใหญ่และได้รับความนิยมมาก ทำให้ท่านได้รู้จักฟินแลนด์มากขึ้น ได้รู้จักต้นกำเนิดของเผ่าพันธุ์และดำรงชีวิตอยู่ในพื้นที่ที่มีความหนาวเย็นแสนสาหัสได้อย่างไรและประวัติของแลปแลนด์ ชื่นชมกับชิ้นงานศิลปะจำพวกงานหัตถกรรมและเครื่องประดับเพื่อสื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติที่อยู่ร่วมกัน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้ในบริเวณโรงแรม (Aurora Hunting at Hotel) |
ที่พัก | Original Sokos Hotel Rovaneimi**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เคมิ – Snow Experience 365/ Snow Hotel – ล่องเรือตัดน้ำแข็ง |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเคมิ (Kemi) (ระยะทาง 204 กม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) เมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมอ่าวน้ำลึกบอธเนีย (Gulf of Bothnia) บริเวณทางตอนเหนือของทะเลบอลติก (Baltic Sea) มีประชากรอาศัยอยู่เพียง 22,000 คน แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่มีความสำคัญของแลปแลนด์ เนื่องจากเป็นที่ประจำการของเรือตัดน้ำแข็งและมีการจัดเทศกาลปราสาทในทุกๆปี นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของเหมืองแร่โครเมียมแห่งเดียวในทวีปยุโรปอีกด้วย นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์แห่งเคมิ (Kemi Church) โบสถ์ในศาสนาคริสต์นิกายลูเธอรันที่ออกแบบสร้างอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและตั้งอยู่กลางเมืองเคมิ สถาปนิกชื่อดังผู้ออกแบบและควบคุมการสร้างโบสถ์หลังนี้เป็นชาวฟินแลนด์ชื่อว่า โจเซฟ สเตนแบค (Josef Stenback) สร้างเสร็จและเปิดให้ชาวคริสต์เข้าทำพิธีได้ตั้งแต่ปี 1902 ภายในสามารถจุได้ประมาณ 1,000 คน ในปี 2003 มีการบูรณะครั้งใหญ่จนทำให้โบสถ์ยิ่งสวยงามและดูใหม่สดใส เป็นโบสถ์ประจำเมือง โบสถ์แห่งเคมินี้เป็นศาสนาสถานที่ได้รับความเคารพนับถือจากชาวเมืองเป็นอย่างมาก นำท่านเดินทางสู่ Snow Experience 365 ซึ่งเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี ภายในจะมีกำแพงที่มีหิมะปกคลุม ทางเดินที่ทำจากน้ำแข็งเหมือนฉากในเทพนิยาย เพลิดเพลินไปกับศิลปะแกะสลักน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจและทดลองกับกิจกรรม Ice Slide หรือจะเลือกถ่ายรูปกับประติมากรรมน้ำแข็ง นำท่านเที่ยวชม Snow Hotelโลกมหัศจรรย์ของน้ำแข็งและหิมะเหนืออาร์กติกเซอร์เคิล เป็นโลกที่มีเอกลักษณ์ และมีมนต์ขลังที่สร้างจากน้ำแข็ง และหิมะ ในแต่ละปีจะมีการใช้หิมะประมาณ 20 ล้านกิโลกรัมและน้ำแข็งใสจากธรรมชาติ 350,000 กิโลกรัมเพื่อสร้าง Snow Village ของ Lapland Hotels ที่งดงามซึ่งจะเปลี่ยนรูปร่างขนาดและการออกแบบเพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับผู้มาเยือนทุกปี Snow Village ประกอบด้วยประติมากรรมน้ำแข็ง ร้านอาหารน้ำแข็ง และบาร์น้ำแข็ง สนุกสนาน และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ งานประติมากรรมจากธรรมชาติ ที่มนุษย์ปั้นแต่งได้อย่างงดงาม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านล่องเรือตัดน้ำแข็ง ไอซ์เบรกเกอร์ (Arktis Blue Moment Ice Breaker) ล่องบนน้ำทะเลซึ่งเย็นยะเยือกจนกลายเป็นน้ำแข็ง สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าตื่นตาตื่นใจกับการลอยตัวในทะเลน้ำแข็งในทะเลบอลติก ด้วยชุดความร้อนพิเศษ (Warm Impermeable Survival Suits) ซึ่งปกป้องร่างกายท่านจากความเย็นอันหนาวยะเยือกที่ระดับต่ำกว่าลบยี่สิบองศาเซลเซียส พร้อมรับประกาศนียบัตรการมาเยือนทะเลน้ำแข็งกับทางเรือ ได้เวลานำท่านสู่โรงแรมที่พัก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Park Hotel Tornio**** หรือ เทียบเท่า |
วันที่ 7 | ทอร์นิโอ - อูลู - เฮลซิงกิ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองทอร์นิโอ (Tornio) ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนระหว่างฟินแลนด์ และ สวีเดน เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของฟินแลนด์ นำท่านเที่ยวชมจัตุรัสวิคตอเรีย (Victoria Square) จากนั้นนนำท่านแวะถ่ายรูปและสัมผัสประสบการณ์การข้ามชายแดนระหว่างเมืองทอร์นิโอ และ เมือง ฮาปาร์รันดา (Haparanda) ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของประเทศสวีเดน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองอูลู (ระยะทาง 105 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพทุ่งหิมะแห่งแลปแลนด์ และหากโชคดีท่านอาจได้พบเห็นฝูงกวางเรนเดียร์ที่ออกหากินในเวลากลางวัน ตลอดเส้นทางท่านจะได้เห็นภูมิประเทศอันแปลกตา หิมะ สลับกับทิวสน และผืนน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง นับเป็นทัศนียภาพอันแปลกตาและสวยงามมาก ซึ่งสามารถเห็นได้เพียง ช่วงฤดูหนาวแห่งแลปแลนด์ |
15.00 น. | นำท่านเช็คอิน ณ สนามบินอูลู |
17.35 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินเฮลซิงกิ โดยเที่ยวบิน AY442 |
18.35 น. | เดินทางถึง สนามบินเฮลซิงกิ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Scandic Grand Marina Hotel **** |
วันที่ 8 | เฮลซิงกิ - กรุงเทพฯ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชม เมืองเฮลซิงกิ (Helsinki) เมืองหลวงของฟินแลนด์ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารอุสเปนสกี้ (Uspenski Church) เป็นมหาวิหารของศาสนาคริสต์นิกายออร์ธอดอกซ์ รัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1862 – ค.ศ. 1868 นำท่านเข้าชมโบสถ์เทมเปลิโอคิโอ" (Temppeliaukio Church) หรือที่รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "โบสถ์แห่งความรัก" ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511 แล้วเสร็จวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป นำท่านชม อนุสาวรีย์ซิเบลิอุส (Sibelius Monument) อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์เพลงคลาสสิกชื่อดังของโลกชาวฟินแลนด์นามว่า Jean Sibelius (1865-1957) ผู้แต่งเพลงฟินแลนเดีย เพลงปลุกใจชาวฟินน์ให้ลุกขึ้นมาเรียกร้องเอกราชจากรัสเซีย เป็นอนุสาวรีย์ที่ นำท่านถ่ายรูป มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral) ซึ่งในอดีตเรียกว่าโบสถ์นิโคลัส เป็นมหาวิหารสีขาวบริสุทธิ์สวยงาม ตั้งเด่นตระหง่านอยู่จนเรียกว่าเป็นจุดแลนด์มาร์กของเฮลซิงกิก็ว่าได้ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันอย่างเป็นจำนวนมาก นำท่านเที่ยวชม เซเนท สแควร์ (Senate Square) เป็นจตุรัสกลางเมืองที่ใช้จัดกิจกรรมใหญ่ๆ และเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเฮลซิงกิ โดยใจกลางจตุรัสมี อนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ที่ 2 ประดิษฐานอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเข้าชม โบสถ์เทมเปลิโอคิโอ" (Temppeliaukio Church) หรือที่รู้จักกันในนาม "โบสถ์หิน" (Rock Church) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ "โบสถ์แห่งความรัก" ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2511 แล้วเสร็จวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของปีถัดไป จากนั้นนำท่านสู่ย่านถนนช้อปปิ้ง Shopping street อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งก่อนเดินทางกลับ |
17.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ สนามบินเฮลซิงกิ |
20.50 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน AY 143 |
วันที่ 9 | กรุงเทพฯ |
13.15 น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ |