รายละเอียดทัวร์

www.TripleEnjoy.com
by Double Enjoy Travel Co., Ltd.

300/50 Nawamin Road, Nawamin, Buengkum, BKK 10240
Tel: 02-379-2955  Hotline: 099-130-6886  Fax: 02-379-1163 (Auto)

 Website: www.tripleenjoy.com   E-mail: [email protected]


 

Juristic Identification No. 0125554005216                                                               TAT License No. 11/05307


ทัวร์ฝรั่งเศส

TE316 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป เยอรมัน(บาวาเรีย) ออสเตรีย(ทิโรล) ฝรั่งเศส(อัลซาส) 10 วัน 7 คืน (TG)


Thai Airways (TG)
คัดลอก URL คัดลอก URL
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
CROWNE PLAZA HOTEL HEIDELBERG
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
GRAND EUROPA HOTEL INNSBRUCK
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
HILTON STRASBOURG HOTEL
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
MARITIM HOTEL TITISEE
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
MERCURE HOTEL GARMISCH-PARTENKIRCHEN
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
OLDENER HIRSCH HOTEL ROTHENBURG
เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม เรทโรงแรม
SCALARIA HOTEL ST. WOLFGANG
TE316 : โปรแกรมทัวร์ยุโรป เยอรมัน(บาวาเรีย) ออสเตรีย(ทิโรล) ฝรั่งเศส(อัลซาส) 10 วัน 7 คืน (TG)

 
รายละเอียดการเดินทาง

วันแรกสนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
20.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
วันที่สองมิวนิค (เยอรมัน) - ฮอลสตัท - นั่งรถรางชมวิวพาโนรามา - เซนต์ วูลฟ์กัง 
00.50 น. ออกเดินทางบินตรงสู่ มิวนิค ประเทศเยอรมัน โดย สายการบินไทย แอร์เวย์  เที่ยวบินที่ TG 924
07.05 น. เดินทางถึง เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนี  จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว 

นำจากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมือง ฮอลสตัท (HALLSTATT) (ระยะทาง 200  กิโลเมตร  ใช้เวลา 2.30 ชม.) เมืองมรดกโลก ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก

จากนั้นนำท่าน เดินเท้าเลาะริมทะเลสาบ บนถนนเลียบทะเลสาบที่เรียกว่า “ซี สตราซ” (See Strasse) อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของ ถนนซีสตราซ ท่านจะได้ชมจัตุรัสประจำเมืองซึ่งเป็นลานหินขนาดย่อม ประดับด้วยน้ำพุกลางลาน และอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูปลาเทราซ์
แถมฟรี นำท่านขึ้นรถรางขึ้นสู่ภูเขาด้านบนชมวิวมุมสูง สามารถมองเห็นวิวพาโนรามา ให้ท่านได้ชมวิวเมืองฮอลสตัท และทะเลสาบจากด้านบน (รถรางเปิดให้บริการเฉพาะ ช่วงเดือนเดือน เม.ย. – พ.ย. เท่านั้น )

(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น เนื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีการปิดปรับปรุงหรือทางรถรางไม่เปิด ให้ขึ้นชม  ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้ขึ้นชม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า ) 
 
จากนั้นเดินทางสู่เมือง เซนต์วูลฟ์กัง (ST.WOLFGANG) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร / ใช้เวลา 40 นาที)  เมืองรีสอร์ทเล็กๆริมทะเลสาบเมือง รีสอร์ทเล็กๆ ในหุบเขาริมทะเลสาบวูลฟ์กัง ชม เมืองเซนต์วูลฟ์กัง เมืองท่องเที่ยวที่สวยงามโรแมนติคที่สุดเมืองหนึ่งของออสเตรียที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ทะเลสาบสวยใส และทุ่งหญ้าเขียวขจีเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พักSCALARIA HOTEL  ST. WOLFGANG หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว  

หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเซนต์วูฟกังค์ มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
วันที่สามเซนต์วูลฟ์กัง - ล่องเรือทะเลสาบโคนิงซี - หมู่บ้านรามเซา (Unseen) - อินน์สบรูค 
เช้ารับประทานแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก อาหารเช้า 
 
ท่านเดินทางสู่เมือง เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น (เยอรมัน) (ระยะทาง 80 กิโลเมตร / ใช้เวลา 1.20 ชม.) เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด 1 ใน 6 เส้นทางแสนสวยและยังเป็น เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็น ศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่

นำท่านล่องเรือสู่  ทะเลสาบกษัตริย์ (Konigsee) ที่มีน้ำใสราวกับมรกต ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่งดงาม ที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งก่อให้เกิดทะเลสาบอันงามพิสุทธิ์ และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งใน โลกฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กม. กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

นำท่าน ล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะ เรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ด จนถึงโบสถ์บาโธโล มิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่งฟยอร์ดนี้

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ ท่าเรือ (หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เนื่องสภาพอากาศมาเอื้ออำนวยต่อการล่องทะเลสาบ โดยไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทจะทำการคืนเงินให้ลูกทัวร์ท่านละ 10 ยูโร)  
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่ายจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้าน รามเซา (Ramsau) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) เราเป็นบริษัททัวร์แรกที่จัดเข้าไปเที่ยว (ทัวร์ไทยไปน้อยมาก แต่รับรองว่าสวยมาก )  หมู่บ้านเล็กๆ Unseen ของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบซ่อนตัวในเขตเทือกเขาเอลป์ โดยหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน(St.Sebatian) เป็นฉาก มีสะพานไม่เล็กทอดข้ามแม่น้ำ Arche ที่ไหลตัดผ่านหมู่บ้าน โดยมีฉากหลังของเทือกเขาเอลป์เป็นฉากหลัง

นำท่านเดิน ถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือสามารถเข้าชมด้านในโบสถ์ได้ฟรี จากนั้นอิสระเดินถายรูปตามอัธยาศัยจนได้เวลานัดหมาย  
 
จากนั้นนําท่านออกเดินทางสู่ เมืองอินน์สบรูค (Innsbruck) (ระยะทาง 150  กิโลเมตร  ใช้เวลา 2 ชม.) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําอิน “Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาเอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิ แม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวรก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมือง แห่งนี้ 

ระหว่างทางท่านจะได้พบกับวิวสองข้างทางที่สวยงาม ตามถนนเส้นทางอัลไพน์ ผ่านทั้ง เทือกเขาเอลป์ ทะเลสาบ หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า

นําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณะของเมือง

ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus)ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่ 18 ทําให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดน เนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับ อะคันตุกะจากต่างแดน มาแล้วอย่างมากมาย

นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ พระราชวัง ฮอฟบูรก“Hofburg Palace” พระราชวังที่ราช สํานักใช้แปรพระราชฐานในช่วงฤดูหนาวและบันทึกภาพสวยจากอาคาร เรอเนสซองส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน  
ที่พักGRAND EUROPA HOTEL INNSBRUCK  หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว 
วันที่สี่อินน์สบรูค - มิดเท็นวาลด์ (Unseen) - ยอดเขาซุกสปิตเซ่ - ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น
เช้ารับประทานแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก อาหารเช้า 
 
จากนั้นนำท่านเดินออกเดินทางสู่ เมืองมิดเท็นวาลด์ (Mittenwald) (ระยะทาง 35 กิโลเมตรใช้เวลา 45 น.) พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านติดอันดับความสวยของเยอรมัน   ถือเป็นสถานที่ UNSEEN ของเยอรมันด้วย  นำท่านชม เมืองสูดอากาศอันบริสุทธิ์ เดินเล่นนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์หรือเลือกสินค้าที่ระลึก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (Garmisch-Partenkirchen) เป็นหนึ่งใน เมืองที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์บาวาเรียน มีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมันนี 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE)  ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน เยอรมนีคือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางและนักสกีทั้งสิ้น นิทรรศการศิลปะบนที่สูงที่สุดและซุกสปิตซ์ปลาต ธารน้ำแข็งสายเดียวของเยอรมนีที่ยามหิมะตกหนา ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน กลายเป็นเส้นทางสกีให้เลือกเล่นหลายระดับ อิสระท่านตามอัธยาศัย 
 
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่ายจากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ด้านล่าง เดินทางสู่ เมืองเอ็ททาล (Ettal)

นำท่านเข้าชมปราสาท ลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof) 1 ใน 3 ปราสาทที่พระเจ้าลุควิคที่ 2 ได้สร้างขึ้นมานับเป็นปราสาทหลังที่ 2 ที่พระองค์ได้เสด็จไปเยือนฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1867 เพราะความประทับใจในพระราชวังแวร์ซายน์ จุดประสงค์เพื่อใช้ล่าสัตว์และถือว่าเป็นปราสาทที่เล็กที่สุดใน 3 ปราสาทที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น โดยใช้เวลาสร้างถึง 4 ปี แบบศิลปะร็อกโคโคแบบฝรั่งเศส 

นำท่านเข้า ชมห้องภายในปราสาท ซึ่งเปิดให้ท่านชมเพียง 9 ห้องเท่านั้น เช่น บัลลังก์เปลือกหอย,ห้องบรรทมห้องเสวย,ห้องแต่งตัว เป็นต้น ซึ่งถูกตกแต่งได้อย่างวิจิตรอลังการมาก ถือว่าเป็นปราสาทเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสถาปัตกรรมและความสวยงามจริงๆ จากนั้นอิสระให้ท่านถ่ายรูปพอสมควร  
 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองการ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (Garmisch-Partenkirchen) เมืองที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี ซึ่งเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์บาวาเรียน มีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมันนี และเป็นเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า เล่นสกี หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง

นำท่านเดินเล่นเก็บบรยากาศอันแสนโรแมนติคของเมือง
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน 
ที่พักMERCURE HOTEL GARMISCH-PARTENKIRCHEN หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว  

หมายเหตุ : โรงแรมเมืองการ์มิช มีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
วันที่ห้าการ์มิส - โบสถ์วีสเกอเชอ - ลินเดา  - ทิทิเซ่ 
เช้า  รับประทานแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก อาหารเช้า 
 
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชไตน์กาเดน (Steingaden) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร  ใช้เวลา 40 นาที) 

นำท่านแวะชม โบสถ์ วีสเกอเชอ(Wieskirche ) หรือเรียกว่า Pilgrimage Church of Wies เป็นชื่อของโบสถ์เล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภายในโบสถ์ตกแต่งในสไตล์ Rococo ที่สมบูรณ์แบบที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในโลก โดยโบสถ์แห่งนี้ถือกำเนิดขึ้น จากในปี ค.ศ. 1738 มีคำกล่าวอ้างว่า ประชาชนได้เห็นน้ำพระเนตรหลั่งจากพระเนตรของรูปไม้กางเขนแกะสลักไม้ของพระเยซู หรือที่เรียกกันว่าพระมหาไถ่ถูกเฆี่ยน (Scourged Saviour) เรื่องเล่าแห่งปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น เป็นเหตุให้มีนักแสวงบุญเดินทางไปจารึกบุญ เยี่ยมชม และอธิษฐานขอพรจาก รูปแกะสลักพระเยซูอย่างมากมาย ด้วยความเชื่อที่ว่ารูปแกะสลักนี้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ในปีค.ศ. 1740 ได้จัดสร้างชาเปลขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปแกะสลักนี้โดยเฉพาะ แต่เนื่องด้วยขนาดของอาคารที่เล็กเกินกว่าที่จะรองรับจำนวนของนักแสวงบุญที่เดินทางมาจารึกบุญ จึงได้มีการตัดสินใจสร้างโบสถ์วีสแห่งนี้ขึ้น โดยโบสถ์แห่งนี้สร้างแบบศิลปะโรโกโก การตกแต่งภายในออกแบบโดย โดมินิคุส ซิมเมอร์มันน์ ผู้เป็นศิลปินสำคัญของสมัยศิลปะโรโกโก และถือกันว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปีนท่านนี้ โดมินิคุส ซิมเมอร์มันน์ได้ทุ่มเทสร้างโบสถ์แห่งนี้ เป็นเวลา 11 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ 1745 จนถึงปี ค.ศ. 1754 ก่อนที่จะเสียชีวิตลง อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย

 หมายเหตุ :  การเข้าชมด้านในโบสถ์บางวันหากมีพิธีสำคัญจะไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ให้ชมได้แค่เพียงภายนอกเท่านั้น

จากนั้นนำท่านเดินสู่ เมืองลินเดา (Lindau)  (ระยะทาง 115 กิโลเมตร  ใช้เวลา 2 ชม.) เมืองตากอากาศแสนสวยริมทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance) หรืออีกชื่อคือทะเลสาบโบเดนเซ (Bodensee)

จากนั้นนำท่านเดินชม ลินเดา เมืองเล็กที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นเมืองเล็กๆอยู่ระหว่างสามประเทศ คือเยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยของเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลสาบโดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาเอลป์จนได้รับฉายาว่า แชงกรีลา แห่งเยอรมัน

นำท่านเดินเล่น ถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง ถ่ายรูปกับเสาประภาคารบาวาเรียและเสารูปสิงโตซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลินดา อิสระทุกท่านเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โรงแรมที่พัก ณ เมืองเบรเก้น (Bregenz)
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่ายจากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมือง ทิทิเซ่ (TITISEE) (ระยะทาง 145 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชม.) เขตป่าดําตอนใต้(SOUTH BLACK FOREST) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางป่าสนอันอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบสุดสวย

นําท่านชม ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ทะเลสาบทิทิเซ่ (TITISEE LAKE) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในป่าดํามีความยาว 2 กิโลเมตร และมีความกว้าง 700 เมตร ผ่านบริเวณนี้ ท่านจะได้พบกับยอดเขาที่สูงที่สุดในป่าดํานั่นคือ ยอดเขา FELDBERG ซึ่งความสูงถึง 1500 เมตร เดินทางถึง ทะเลสาบทิทิเซ่ ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยติดอันดับในทวีปยุโรปอีกด้วย

นําท่านชม ทิวทัศน์ความงดงามของป่าดํา และ ทะเลสาบ มนต์เสน่ห์ที่ท่านจะต้องหลงใหลไม่มีวันลืม  ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชม นาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พักMARITIM HOTEL TITISEE 

หมายเหตุ : โรงแรมเมืองทิทิเซ่ มีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
วันที่หกเอกิซไฮม์ (ฝรั่งเศส) (Unseen)  - กอลม่าร์ - ริคเวีย -  สตราสบูร์ก
เช้ารับประทานแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก อาหารเช้า
 
นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) Les Plus Beaux Villange de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส  และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 8  กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที ) เมืองในแคว้นอาลซัส ประเทศฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งใน (เมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10 เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก) ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอาลซัส  และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยากรรมและบรรยกาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง  ด้วยบบรรยกาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี้  จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินตามอัธยาศัย
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่ายจากนั้นได้เวลานำท่านสู่ เมืองริคเวีย (Riquewihr) (เราเป็นบริษัททัวร์แรกๆ ที่จัดเข้าไปเที่ยว) (ระยะทาง 15 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ 20นาที ) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villange de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco)

นำท่านเดินชม บ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจ 
 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม la Petite France (ปารีสน้อย)   

นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก  อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปี ตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง เมนู หอยเอสคาโก้
ที่พักHILTON STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว  
วันที่เจ็ดสตราสบูร์ก - ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Unseen) - ไฮเดิลเบิร์ก 
เช้า รับประทานแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก อาหารเช้า 

นำท่านชม เขต  la Petite France  ของเมืองสตราสบูร์ก ซึ่งมีภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งของ ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ( Hohenzollen Castle) (ระยะทาง 125 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. )รัฐ บาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก (Baden – Wurttemberg) 
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง 
บ่ายจากนั้นนำท่านเข้าชมด้านในของ ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ปราสาทแห่งนี้เป็น 1 ใน 8 ปราสาทเทพนิยายของประเทศเยอรมัน

ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ตั้งตระหง่านอยู่เหนือชนบทของ Zollemalb ที่ความสูง 855 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ปราสาทแห่งนี้เป็นบ้านของราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในศตวรรษที่ 11 ต่อมาได้ถูกทำลายลงในปี คศ.1423 และสร้างขึ้นใหม่ถึงสองครั้ง โดยรูปแบบปัจจุบันเป็นผลงานจากสมัยศตวรรษที่ 19 ตอนปลาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักประจำของราชวงศ์ปรัสเซีย และเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์น ในปัจจุบันมีการปรับใช้ปราสาทให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยเป็นทั้งโรงละครแบบเปิด สถานที่จัดคอนเสิร์ต ปัจจุบัน แต่ละปีมีมีผู้คนมาเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 300,000 คน จึงเป็นหนึงในปราสาทที่มีคนมาเยี่ยมชมอันดับต้นๆ ของประเทศเยอรมัน 

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก(Heidelberg) (ระยะทาง 180 กิโลเมตร / ใช้เวลา 2.30 ชม. ) ตั้งอยู่ในรัฐ baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พักCROWNE PLAZA HOTEL HEIDELBERG หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว  
วันที่แปดปราสาทไฮเดิลเบิร์ก - โรเธนเบิร์ก
เช้ารับประทานแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก อาหารเช้า 
 
จากนั้นเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม30ปีและมาถูกเผาทำลายถึง 2ครึ่งในปี 1689และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก

นำท่านชมวิวจาก จุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม นำท่านชมเก็บถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000ลิตร

จากนั้นนำท่านลงสู่ ตัวเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก นำท่านชม สะพานเก่าอัลเทอบรุค เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็ปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่ จตุรัสมาร์คพลัทซ์  ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถไฮลิก ไกสท์เคียร์เค่อ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นศิลปแบบโกธิค จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินชมเมืองหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกของฝากมากมายตามอัธยาศัย 
 
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่ายจากนั้นนำท่านเดินสู่ เมืองโรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburgob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก ( ระยะทาง 160 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ2 ชม. ) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน

จากนั้นนำท่านเดินชม เมืองโรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274

นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค

นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสันที่ จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า อิสระท่านเดินเล่นชมเมือง ซื้อของฝาก และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ค่ำรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
ที่พักGOLDENER  HIRSCH  HOTEL ROTHENBURG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

หมายเหตุ :  เมืองโรเธนเบิร์ก โรงแรมมีจำนวนจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
วันที่เก้าวูร์ซเบิร์ก - แฟรงค์เฟิร์ต - จตุรัสโรเมอร์ - ช้อปปิ้ง - สนามบิน
เช้า รับประทานแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก อาหารเช้า

นำท่านเดินทางสู่ เมืองวูร์ซเบิร์ก (Wuerzburg) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. )เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก

นำท่านชม ความงดงามของเมือง วูร์ซเบิร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบริ์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ คศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 - 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Wurzburg Residence สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 
 
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟรงค์เฟิร์ต เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน ( ระยะทาง 125 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. )
 
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
บ่ายนำชมย่าน โรเมอร์ จตุรัสเมืองที่เก่าแก่ของแฟรงค์เฟิร์ต ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและศิลปกรรมไว้อย่างดีให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกหรือสินค้าแบรนด์เนม เช่น นาฬิกา กระเป๋าเดินทาง Rimowa หรือสินค้าอื่นๆ ตามอัธยาศัย  
 
จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพ โดย สายการบินไทย  เที่ยวบินที่ TG 923
วันที่สิบกรุงเทพ - สุวรรณภูมิ
12.30 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ

*** ขอบพระคุณที่ใช้บริการของเรา และหวังว่าจะมีโอกาสรับใช้ท่านในครั้งต่อๆไป ***



เงื่อนไขในการจอง

อัตรานี้รวม
  • ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ  (Economy Class)  แบบหมู่คณะ / ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ 
  • ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการหรือเทียบเท่า 
  • ค่าอาหารที่ระบุตามรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งที่ระบุตามรายการ 
  • ค่าวีซ่าท่องเที่ยวยุโรปแบบ Etats Schengen
  • ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท  และค่ารักษาพยาบาล ตามเงื่อนไขแห่งกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ วงเงินไม่เกินท่านละ 200,000.- บาท
  • ทิปคนขับรถในยุโรป วันละ 2 ยูโร / ท่าน / วัน 
  • พนักงงานยกกระเป๋าโรงแรมที่พัก
  • น้ำดื่มวันละ 1 ขวด / ท่าน
อัตรานี้ไม่รวม
  • ค่าธรรมเนียมจัดทำหนังสือเดินทาง , แจ้งเข้าแจ้งออกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ในกรณีที่ต้องการใบกำกับภาษี
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ  เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ
การจองและการชำระ 
  • กรุณาชำระมัดจำท่านละ 30,000 บาท ภายใน 3 วัน  นับวันจากวันจอง
  • จากวันจองและชำระส่วนที่เหลือก่อนเดินทาง 14 วัน
  • กรุณาจัดเตรียมเอกสารและหนังสือเดินทาง ก่อนการเดินทางอย่างน้อย 25 วัน 
การยกเลิก
  • ยกเลิกการเดินทาง 31 วัน ไม่เก็บค่าใช้จ่าย (ช่วงหน้าเทศกาลวันหรือหยุดยาว เช่น  เป็น 45 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 16 – 30 วัน หักค่ามัดจำ 20,000 บาท (ช่วงหน้าเทศกาลวันหรือหยุดยาว เช่น  เป็น 26-44 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 10-15 วัน ไม่คืนมัดจำ (30,000)  (ช่วงหน้าเทศกาลวันหรือหยุดยาว เช่น  เป็น 20- 25 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง  6 -9 วัน  หักค่าใช้จ่าย 75%  ของราคาทัวร์ (ช่วงหน้าเทศกาลวันหรือหยุดยาว เช่น  เป็น 4- 19 วัน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง  5  วัน  หักค่าใช้จ่าย 100 %  ของราคาทัวร์ 
  • ผู้เดินทางไม่สามารถเข้า – ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที หักค่าใช้จ่าย 100%
  • กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว
  • ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าบริการค่ายื่นวีซ่า และค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกิดขึ้นจริงเป็นกรณีไป อาทิ กรณีออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางเมืองนอก เช่น โรงแรม, รถไฟ ฯลฯ ไปแล้ว ทางบริษัท ขอสงวนสิทธิ๋ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป
    ***** การยกเลิก ขอสงวนสิทธืในการคืนเงินมัดจำทุกๆ กรณี *****
    *****เมื่อท่านจองทัวร์และชำระมัดจำแล้ว หมายถึงท่านยอมรับในข้อความและเงื่อนไขที่บริษัทฯแจ้ง
หมายเหตุ
  • ราคานี้เป็นราคาทัวร์ตั้งแต่  15 ท่านขึ้นไป **
  • หากต่ำกว่า 15 ท่าน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดออกการเดินทาง **
    เนื่องจากกฎการเข้าพักของโรงแรมในยุโรป บังคับให้เด็กอายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไปจะต้องนอนมีเตียงเสริมบางโรงแรมเท่านั้นที่มีห้อง 3 เตียง หากเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน เรียนแนะนำว่าเปิด 2 ห้องจะสะดวกกว่า
  • ท่านใดที่จะออกตั๋วภายในประเทศ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าทัวร์ก่อน มิเช่นนั้นทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่ออกตั๋วไปแล้ว**
  • ราคาอาจมีปรับขึ้น-ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น-ลง แต่จะปรับตามความเป็นจริงที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น / ตั๋วกรุ๊ป เมื่อออกตั๋วแล้วเลื่อนไม่ได้ทุกกรณี** **
  • รายการทัวร์และราคาทัวร์ อาจมีการปรับ/เปลี่ยนแปลงหากเกิดจากเหตุสุดวิสัย  เช่น การจราจร / อุบัติเหตุ / สภาพอากาศ/ การเมือง/ ประท้วง/ ปิดถนน/ การล่าช้าของสายการบิน/ ค่าเงิน /การปรับขึ้นภาษีน้ำมัน ทางบริษัทสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะ โดยทางบริษัทจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก และหากลูกค้าท่านใดตัดโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งหรือเกิดเหตุสุดวิสัยไม่สามารถทำได้ครบตามดังกล่าว บริษัทขอสงวนสิทธิ์การคืนเงินให้ส่วนนั้นแก่ลูกค้าเพราะทางบริษัทได้จ่ายเงินให้แก่ทางแลนด์ยุโรปทั้งหมดล่วงหน้าก่อนเดินทางเรียบร้อยแล้ว
  • กรณีวีซ่ายังไม่ทราบผลก่อนเดินทาง 15 วันทำการ ทางบริษัทฯต้องขอเก็บค่าทัวร์ทั้งหมดก่อนตามกำหนดเงื่อนไขการชำระเงิน แต่หากวีซ่าของท่านไม่ผ่านการพิจารณาจากทางสถานฑูต ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทางบริษัทจะคืนเงินค่าทัวร์ให้ท่าน โดยทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าใช่จ่ายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น

    *** หากท่านจองและส่งเอกสารในการทำวีซ่าเข้าประเทศล่าช้า ไม่ทันกำหนดการออกตั๋วกับทางสารการบิน และผลของวีซ่าของท่านไม่ผ่าน บริษัทฯ จะขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่ามัดทั้งหมด
การอนุมัติวีซ่าเป็นเอกสิทธิ์ของสถานฑูต
  • ทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น ทั้งนี้บริษัทเป็นเพียงตัวกลางและคอยบริการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เดินทางเท่านั้น เงินค่าสมัครยื่นวีซ่า ทางสถานฑูตเป็นผู้เก็บ หากผลวีซ่าออกมาว่าท่าน ไม่ผ่าน ทางสถานฑูตจะไม่คืนเงินค่าวีซ่า และค่าบริการจากตัวแทนยื่นวีซ่าไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น และทางสถานฑูตมีสิทธิ์ที่จะไม่ตอบเหตุผลของการปฏิเสธวีซ่าในทุกกรณี
  • กรณีที่ท่านวีซ่าผ่าน แต่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ได้ เนื่องจากผู้เดินทางท่านอื่นในกลุ่มโดนปฎิเสธวีซ่า ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนเงินค่าวีซ่าและค่าบริการจากตัวแทนยื่นให้กับท่าน เนื่องจากเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโดยสถานฑูตเป็นผู้เรียกเก็บ และท่านสามารถนำวีซ่าไปใช้เดินทางได้ หากวีซ่ายังไม่หมดอายุ

ค้นหา
คำค้น
ช่วงเวลา
รายการทัวร์
ค้นหา


 

Add line Triple Enjoy