วันแรก | กรุงเทพ - กรุงโรม (อิตาลี) |
21.00 น. | พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 2-3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย |
วันที่สอง | โรม–สนามกีฬาโคลอสเซียม–นครรัฐวาติกัน–น้ำพุเทรวี่–บันไดสเปน–ฟลอเรนซ์ |
00.20 น. | สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 944 นำท่านเดินทางสู่กรุงโรม ประเทศอิตาลี |
06.50 น. | ถึง สนามบินลีโอนาร์โด้ดาวินชี่ กรุงโรม ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองพร้อมรับสัมภาระและด่านศุลกากร รถโค้ชรอรับคณะ พร้อมบริการน้ำดื่มและอาหารเช้าแบบกล่อง ด้วยเมนู “ข้าวเหนียวหมูทอดมหัศจรรย์” นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลาซีโอ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศอิตาลี นอกจากนี้ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคด้วย ถ่ายรูปคู่กับ สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum) สิ่งก่อสร้างที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสนามประลองยุทธของชาวโรมัน สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.79 เป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่จุคนได้กว่า 50,000 คน, ชม ประตูชัยคอนสแตนติน (Arch of Constantine) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ ชม อนุสาวรีย์พระเจ้าวิคเตอร์เอ็มมานูเอ็ล (Victor Emmanuel Monument) หรือพระบิดาของชาวอิตาเลียน ผู้สถาปนาประเทศอิตาลี พร้อมชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิ์โรมันที่ โรมันฟอรั่ม (Roman Forum) ชม น้ำพุเทรวี่ (Trevi Fountain) ผลงานมาสเตอร์พีซของ นิโคลาส ซัลวี ที่มาของเพลง “ทรีคอยน์ออฟเดอะฟาวด์เท่น” ที่โด่งดังในอดีต ซึ่งนักท่องเที่ยวมีความเชื่อว่าหากโยนเหรียญอธิฐานไว้จะได้กลับมากรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง เที่ยวชม จัตุรัสบันไดสเปน (Spanish Steps) แหล่งพบปะของหนุ่มสาวชาวอิตาเลียนยามว่างซึ่งนิยมมาพบปะกันบริเวณนี้ เป็นจตุรัสที่มีอาคารสวยงามต่างๆ มากมาย และกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งของคนเมือง |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชม นครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City) ศูนย์กลางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคที่ประทับขององค์ประมุขแห่งศาสนา “พระสันตะปาปา” ชมความอลังการของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Basilica of Saint Peter) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลักเพียต้า (Pieta) ผลงานชิ้นเอกของ ไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย แบร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ที่หาชมได้ยาก มีเวลาให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับทหารสวิสฯ ราชองครักษ์ขององค์สมเด็จพระสันตะปาปา จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าสวยงามอีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของศิลปะเรเนอซองส์อีกด้วย |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | HILTON FLORENCE METROPOLE **** หรือเทียบเท่า |
วันที่สาม | ฟลอเรนซ์–ปิซ่า–หอเอนปิซ่า–เมืองเก่าฟลอเรนซ์–จตุรัสซิญญอเรีย–เวนิส เมสเตร้ |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) บ้านเกิดของ กาลิเลโอ นักดาราศาสตร์เอกของโลก ซึ่งเป็นคนแรกที่ใช้กล้อง โทรทัศน์ส่องดูดาวเมื่อประมาณ 400 ปีก่อน และเป็นที่ตั้งของหอเอนปิซ่า ถ่ายรูปคู่กับ หอเอนปิซ่า (Leaning Tower of Pisa) สิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลก สร้างขึ้นในปีค.ศ.1174 ที่ชาวโลกรู้จักกันดีจากการทดลองเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงโดยนักวิทยาศาสตร์เอก กาลิเลโอ และอีกสิ่งหนึ่งที่กาลิเลโอท้าทายความเชื่อของคนในสมัยนั้นก็คือ เขาได้พิสูจน์ว่าของสองชิ้นซึ่งหนักไม่เท่ากัน ถ้าปล่อยลงจากที่สูงจะตกถึงพื้นพร้อมกัน |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองเก่าฟลอเรนซ์ (Florence Old Town) เมืองหลวงของแคว้นทัสคานี ต้นกำเนิดของศิลปะแบบเรอเนซองส์ อดีตศูนย์กลางด้านสถาปัตยกรรม วรรณกรรมและวัฒนธรรมอันรุ่งโรจน์ ดินแดนที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหลแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันมาเยือนมากที่สุด นำท่านเข้าสู่เขตเมืองเก่าที่ได้รับการคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ.1982 ชมความยิ่งใหญ่ของสัญลักษณ์ประจำเมือง วิหารซานตามาเรียเดลฟิโอเร่ (Santa Maria Del Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์แห่งนี้ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีมาใช้ในการก่อสร้างทั้ง สีชมพู สีเขียวและสีขาว ซึ่งนำมาผสมผสานกันได้อย่างงดงาม และอีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ โดมที่ท่านสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเมือง ใกล้กันเป็น จัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของ รูปปั้นเดวิด (David) ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่ ถัดมาริมฝั่งแม่น้ำอาร์โน จะพบกับสะพานเก่าแก่ สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) ที่มีความแปลกตาก็คือจะมีร้านขายทองและอัญมณีอยู่ทั้งสองข้างสะพาน จากนั้นเดินทางสู่ เมืองเวนิส (Venice Mestre) แผ่นดินใหญ่ในแคว้นเวเนโต้ เมืองที่มีเอกลักษณ์พิเศษสุดเมืองหนึ่งของโลก เปรียบเสมือนประตูสู่ตะวันออกของยุโรป ในอดีตเวนิสได้รับฉายาว่า “เมืองแห่งสายน้ำ และเมืองแห่งสะพาน” |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | CROWNE PLAZA VENICE EAST **** หรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ | เกาะเวนิส–จัตุรัสซานมาร์โค–สะพานเรียลอัลโต้–ลูเซิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านลงเรือข้ามสู่ เกาะเวนิส (Venice Island) ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริค ที่นี่เป็นแผ่นดินที่ไม่มีถนนสำหรับรถ มีแต่คูคลองใช้เรือสัญจรกันเป็นหลัก มีถนนก็เฉพาะสำหรับคนเดินเท่านั้น เกาะเวนิส ประกอบไปด้วย เกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง มีศูนย์กลางอยู่ที่ จตุรัสซานมาร์โค (Piazza San Marco) อันเป็นที่ตั้งของ พระราชวังเดิม หรือ Doge Palace นครเวนิสในอดีตมีความความเจริญรุ่งเรืองเมื่อครั้งทำการค้ากับตะวันออกไกล ชมสถาปัตยกรรมอันงดงามแบบไบแซนไทน์ ณ มหาวิหารเซนต์มาร์ค, หอระฆัง, เสาแห่งนักบุญ, อาคารรายระเบียงที่แม้แต่ นโปเลียนยังหลงใหล อิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวชมเกาะอันแสนโรแมนติก หรือช้อปปิ้งสินค้าของเมือง อาทิ ผ้าลูกไม้, เครื่องแก้วมูราโน่, หรือจิบกาแฟในร้าน Cafe Florian ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1720 ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนโรแมนติก ชมคลองที่กว้างที่สุดของเกาะ ชมงานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรมที่ สะพานเรียลอัลโต้ (Rialto Bridge) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของเกาะเวนิส |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (Luzern) เมืองที่ตั้งอยู่ทางเหนือตอนกลางของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองเล็กๆ อันแสนน่ารัก ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่น่าจับตามองในด้านของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่นับวันยิ่งเจริญรุ่งเรือง จนแทบฉุดไว้ไม่อยู่ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | RADISSON BLU HOTEL, LUZERN **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ห้า | แองเกิลเบิร์ก–ยอดเขาทิตลิส–ลูเซิร์น–สะพานไม้ชาเปล–อนุสาวรีย์สิงโต–ช้อปปิ้ง |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (Engelberg) ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าโรแตร์ (Rotair) ชมทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ บนกระเช้าที่หมุนได้ 360 องศา สู่ ยอดเขาทิตลิส (Mount Titlis) ที่มีความสูง 3,028 เมตร ปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี เป็นยอดเขาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกีเป็นจำนวนมาก นำชม ถ้ำน้ำแข็ง (Glacier Grotto) ที่มีความยาวถึง 130 เมตร และมีความลึกที่สุดถึง 15 เมตร มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี จากนั้นขึ้นสู่ ลานสกี อิสระให้ท่านได้สัมผัสหิมะบนยอดเขา สมควรแก่เวลานำท่านลงจากยอดเขา |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา |
บ่าย | จากนั้นนำท่านชม สะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ โดยสะพานแห่งนี้ถือว่าเป็นสะพานไม้ที่มีความเก่าแก่ที่สุดของยุโรป โดยตลอดแนวสะพานนั้นถูกประดับด้วยภาพเขียนที่บอกเล่าถึงประวัติของประเทศแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญต่อประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นด้วย จากนั้นมุ่งเข้าสู่ใจกลางเมืองเพื่อไปชม ประติมากรรม อนุสาวรีย์รูปสิงโตหินแกะสลัก (Lion Monument) อนุสาวรีย์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และเสียสละ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารสวิสที่เสียชีวิตจากการปกป้องพระราชวังตุยเลอลีสในฝรั่งเศส อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินสนุกสนานกับการช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงต่างๆ มากมายของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | RADISSON BLU HOTEL, LUZERN ****หรือเทียบเท่า |
วันที่หก | ลูเซิร์น–เบิร์น–หอนาฬิกา ZEITGLOCKENTUM–ดิจอง (ฝรั่งเศส) |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) นครหลวงแห่งประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมืองที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ และมีอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม ตกแต่งด้วย ดอกไม้ ต้นไม้ ฯลฯ อีกทั้งยังเป็นบ้านที่ทำงานของนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ชม สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ความงามของมรดกโลกที่คนสวิสยังรักษาไว้ก็คือ เมืองเก่าที่น่ารัก โบสถ์ที่มีประวัติอันยาวนาน บ้านทุกหลังที่ล้วนมีหลังคาสีแดง ถนนที่ปูด้วยอิฐ และมีรูปปั้นตัวเล็กๆ ตลอดเส้นทางเดิน เมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่าน สะพานที่เก่าแก่ ในย่านเมืองเก่าได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโก้ ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ใครมาที่นี่จะต้องมาชมสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองกรุงเบิร์นนั่นคือ หอนาฬิกา Zeitglockenturm ชื่อเมือง Berne แปลว่า หมี ดังนั้นธงประจำเมืองนี้เลยมีสัญลักษณ์เป็นรูปหมี |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิจอง (Dijon) ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงของแคว้นเบอร์กันดี แคว้นที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส เมืองดิจองเป็นเมืองหลวงที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ของแคว้นเบอร์กันดีและประเทศฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ในเรื่องของการผลิตไวน์ นอกจากวัฒนธรรมเกี่ยวกับไวน์และการปลูกองุ่นแล้ว เมืองดิจองยังเป็นอีกเมืองที่มีความเกี่ยวพันกับคริสต์ศาสนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากการมีโบสถ์คริสตจักรจำนวนมากตั้งอยู่ภายในเมือง อีกยังมีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของอาคารเก่าแก่ก็มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | HOTEL NOVOTEL DIJON SUD**** หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด | ดิจอง–รถไฟด่วน TGV–ปารีส–ขึ้นหอไอเฟล–ประตูชัยนาโปเลียน–ถนนซองเอลิเซ่ย์–ช้อปปิ้ง |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านออกเดินทางสู่กรุงปารีส โดยรถไฟ TGV (Train a Grande Vitesse, High-Speed Train) รถไฟด่วน ความเร็วสูงใช้เวลาเดินทางประมาณ 150 นาที เมืองศูนย์กลางการออกแบบและแฟชั่นของโลก มหานครทันสมัยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง |
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชม มหานครปารีส เมืองหลวงแห่งแฟชั่นและการช้อปปิ้ง ถ่ายรูปคู่กับหอไอเฟล (Eiffel Tower) หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของประเทศฝรั่งเศส โดยหอนี้จัดว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งอนุสาวรีย์ที่สูงที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านชม วิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของมหานครปารีส แบบพาโนรามารอบทิศทาง โดยนำท่านขึ้นชั้น 2 ของหอไอเฟล (Eiffel Tower) ชม ประตูชัยนาโปเลียน (Arc de Triomphe) ผ่านถนนชองเอลิเซ่ย์ (Champs Elysees) ที่มากด้วยร้านรวงต่างๆ อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้า อาทิ น้ำหอม, เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, เครื่องสำอาง และอื่นๆ ณ ร้าน Duty Free Shop ที่มีส่วนลดพิเศษให้เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น ก่อนที่จะมีเวลาให้ท่านได้ช้อปปิ้งเป็นการส่งท้ายใน Galeries Lafayette Department Store ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของกรุงปารีส |
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือล่องแม่น้ำแซนน์ “แม่น้ำแซนน์ เป็นแม่น้ำสายสำคัญของฝรั่งเศสโดยเฉพาะกับกรุงปารีส ซึ่งใช้เป็นทั้งในการเดินทางค้าขายและท่องเที่ยว แม่น้ำแซนน์มีถิ่นกำเนิดมาจากทางแคว้น Dijon ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ที่เรียกว่า “Langre Plateau” มีความยาวทั้งสิ้น 776 กิโลเมตร ไหลผ่านแคว้นและเมืองต่างๆ ไปออกทะเลที่ช่องแคบ Le Havre ในอังกฤษ” |
ที่พัก | HOTEL PULLMAN PARIS LA DEFENSE **** หรือเทียบเท่า |
วันที่แปด | พระราชวังแวร์ซายส์–LA VALLEE VILLAGES CHIC OUTLET SHOPPING |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านสู่ เมืองแวร์ซายส์ (Versailles) เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ชานเมืองปารีส เป็นเมืองที่โด่งดังในฐานะที่เป็นที่ตั้งของพระราชวังแวร์ซายส์ (Château de Versailles) เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส พระราชวังแวร์ซาย เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก และนับเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันด้วย นำท่านเข้าชม ห้องกระจก (Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors) เป็นห้องที่มีชื่อ เสียงมากที่สุดซึ่งเคยใช้เป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และใช้เป็นที่ลงนามกรณีเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ห้องนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงทำการก่อสร้างเอง ภายในห้องประกอบด้วยกระจกยักษ์ 17 บาน เปิดออกแล้วจะเห็นสวนแวร์ซายอันสวยงาม
|
เที่ยง | บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ La Vallee Outlet Shopping Village Paris แหล่งช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าแบรนด์เนมดังมากมายกว่า 70 ร้าน สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ครบครันด้วยสินค้าชั้นนำต่างๆ มากมาย เช่น CELINE, KENZO, LONGCHAMP, POLO, BLANC BLEU, FRANCOIS GIRBAUD, PAUL SMITH, BURBERRY, VALENTINO, VERSACE, KEVIN KLEIN, DIESEL, SAMSONITE, ARMANI, CERRUTI, CELINE, DOLCE & GABBANA, GIVENCHY ฯลฯ
|
ค่ำ | บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | HOTEL NOVOTEL PARIS MONTPANASE **** หรือเทียบเท่า |
วันที่เก้า | ปารีส–เดินทางกลับกรุงเทพฯ |
เช้า | บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ สนามบินชาร์ลเดอโกล กรุงปารีส เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ มีเวลาให้ท่านได้ทำ Tax Refund |
13.40 น. | สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 931 นำท่านเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย |
วันที่สิบ | กรุงเทพฯ |
05.55 น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ **หมายเหตุ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อความเหมาะสมโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า โดยจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่นักท่องเที่ยวได้รับเป็นหลักฯ** |