วันที่ 1 | ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ – อิสตันบูล |
21.00 น. | คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้านหน้าเตาน์เตอร์เช็คอินแถว U สายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) ใกล้ประตูทางเข้า 9 บนชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก |
23.05 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล ของประเทศตุรกีโดยเที่ยวบินที่ TK 069 |
วันที่ 2 | อิสตันบูล - กรุงโซเฟีย (บัลแกเรีย) - ทะเลสาปทั้ง 7 แห่งเทือกเขา Rila |
05.20 น. | เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอะตาเติร์กของประเทศตุรกี |
07.15 น. | ออกเดินทางต่อสู่กรุงโซเฟีย เมืองหลวงของประเทศบัลกาเรียโดยเที่ยวบินที่ TK1027 โดย ใช้เวลาบินประมาณ 1.55 ชั่วโมง |
08.30 น. | เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโซเฟีย ประเทศบัลกาเรีย เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองศุลากรเรียบร้อยแล้วเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศ |
10.00 น. | นำท่านเดินทางสู่ ทะลสาปทั้ง 7 แห่งเทือกเขาลิรา เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่สุดบนคาบสมุทรบอลข่าน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในฝันที่ไม่ควรพลาด ทำท่านนั่งกระเช้าลอยฟ้าสามารถเห็นความงามสุดอลังการของเมือกเขาริลา มีทะเลสาปทั้งหมด 7 แห่ง ได้แก่ Salzata, Ribnoto, Okoto, Dolnoto, Babreka, Trilistnika, Bliznaka สาเหตุที่เรียกยอดเขา Rila แท้จริงแล้วมีหลายยอดเขา แต่มีเพียงยอดเข้า Rila เท่านั้นที่สูงที่สุดจึงเรียกว่า ทะเลสาปทั้ง 7 แห่งเทือกเขาลิรา หลังจากนั้น นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงโซเฟีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotl Anel***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | โซเฟีย - โคปริฟชทิทซา - สตาโรเซล - ฮิซาริญ่า |
เช้า | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารโรงแรม นำท่านท่องเที่ยวอาสนวิหารอเล็กซานเดอร์ เนฟสกี เป็นวิหารในนิกายออโธร์ด็อกซ์ ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1912 ในศิลปะแบบนีโอ-ไบเซนไทน์ (Neo‐Byzantine) โดยสถาปนิก Alexander Pomerantsev มีโดมประธานสูง 45 เมตร และหอระฆังสูงถึง 53 เมตร จึงดูสวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้, โบสถ์เซนต์โซเฟีย เป็นโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโซเฟีย ท่องเที่ยวอาคารรัฐสภาเก่าที่ยังเปิดทำการอยู่ และอาคารรัฐสภาใหม่ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน นำคณะเดินทางสู่เมืองโคบริฟชทิทซา(107กม.) เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองแห่งบัลแกเรียที่สำคัญในการฟื้นฟูเผ่าพันธุ์บัลแกเรียในปฏิวัติยุคที่ 19 เมืองแห่งนี้ยังคงรวบรวมสมบัติทางชาติพันธุ์วิทยา ได้แก่ อาวุธเก่า งานศิลปะการฟื้นฟูระดับชาติ งานฉลุวิจิตร ผ้าทอและการเย็บปักถักร้อยในครัวเรือน เครื่องแต่งกายประจำชาติ และเครื่องประดับบัลแกเรียทั่วไปก็ได้รับการเก็บรักษาไว้เช่นกัน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเดินทางสู่ หมู่บ้านในสตาโรเซล (45.5 กม.) ที่สร้างขึ้นท่ามกลางไร่องุ่นที่สวยงาม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่ดีที่สุดในบัลแกเรีย เพลิดเพลินไปกับการชิมไวน์และดื่มด่ำกับบรรยากาศของห้องโถงไต้ดินอันตระการตาที่สร้างให้คล้ายกับวิหารธราเซียน นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮิซาริญ่า (21 กม.) มีชื่อเสียงในด้านน้ำแร่เพื่อการบำบัด ได้แก่ บ่อน้ำแร่ธรรมชาติ 16 แห่ง และบ่อน้ำแร่ที่เจาะแล้ว 6 แห่ง เมืองนี้เป็นหนึ่งในศูนย์บำบัดบัลนีโอโลจีและสปาที่เก่าแก่และเป็นที่นิยมมากที่สุดในบัลแกเรีย มี สุสาน Hisarya เป็นสุสานของครอบครัวโรมันตอนปลายที่สร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 4 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hissar Spa Hotel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | ฮิซาริญ่า - สตารอ เจเลซาเร - คาร์โลโว่ - พลอฟดิฟ |
เช้า | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารโรงแรม นำคณะเดินทางสู่ สตารอ เจเลซาเร (13 กม.) มีแกลลาลี่พิพิธภัณฑ์รูปภาพกลางแจ้งศิลปะบนผนังอันสวยงาม สื่อถึงชีวิตและเหตุการ์จริง ซึ่งเป็นจินตาการที่ไม่มีวันสมิ้นสุด เป็นผลงานของ Ventsislav Piryankov เรื่องที่น่าแปลกคือมีภาพวาดหอระฆังอยู่บนกำแพงซึ่งปรััจุบันคือหอนาฬิกาบิ๊กเบนที่อยู่ในเมืองลอนดอน หมู่บ้านแห่งนี้ผู้คนจะพูดภาษาบัลแกเรียดั้งเดิม นำคณะเดินทางสู่ คาร์โลโว่ (40 กม.) เมืองเล็กๆที่มีเหน่ห์แห่งเมืองหนึ่ง เมืองนี้มีร้านเหล้าเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา ทางคณะจะไดรับการต้อนรับด้วยอาหารพิเศษในท้องถิ่น "บานิสา" และกาแฟที่ปรุงด้วยทรายร้อน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเดินทางสู่เมืองประวัติศาสต์โบราณ เมืองพลอฟดิ๊ฟ (61 กม.) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศบัลกาเรียและเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร Remilia ในอดีตซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศบัลกาเรียปัจจุบันเมืองนี้จึงเก่าแก่มีอายุถึง 2,600 ปีทีเดียว และมีชื่อเรียกในอดีตว่าเมือง Philippolis เมื่อครั้ง ที่ยังอยู่ใต้อำนาจของกรีกและโรมัน จึงมีโบราณสถานทั้ง แบบกรีกและโรมันอยู่หลายแห่ง ปัจจุบันเมืองนี้มีประชากรประมาณ 350,000 คน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Imperial Hotel **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | พลอฟดิฟ - คาซานลัค - โบเยนไซ - เวลีคอ เทอร์โนโว |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม นำท่านแวะเยือนสถานที่ของเมืองพล้อฟดิ๊ฟสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ มีโรงละครโบราณ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ การท่องเที่ยวในพลอฟดิฟจะแสดงให้เห็นถึง เหตุผลที่เมืองนี้เคยถูกเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปในปี 2019 นำคณะเดินทางสู่ เมือง คาซานลัก (140 กม.) อยู่ใจกลางหุบเขาแห่งดอกกุหลาบ เยี่ยมชม แบบจำลองสุสานธราเซียนอายุก่อนคริสตศักราช ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแห่งยูเนสโก ท่านยังจะได้เยี่ยมชมโรงกลั่นน้ำมันดอกกุหลาบเก่าที่ยังคงเปิดดำเนินการอยู่จนทุกวันนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมชมและชมการผลิตดอกกุหลาบและลาเวนเดอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ท่านสามารถสัมผัสวิธีการกลั่นแบบดั้งเดิมเมื่อหลายร้อยปีก่อน วิธีการผลิต และยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึกแบบดั้งเดิมของแท้ได้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางสู่หมู่บ้านโบเยนไซ(Bojentsi) (61.1 กม.) หมู่บ้านสวยในพื้นที่ Gabrovo เป็นหนึ่งในเขตอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่สวยที่สุดในบัลแกเรีย ประทับใจกับบ้านเรือนและอาคารสาธารณะที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยการฟื้นฟูบัลแกเรีย อำลาเมือง โบเยนไซ สู่เมืองทางตอนเหนือของบัลแกเรีย เมืองที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของบัลแกเรีย เวลีคอ เทอร์โนโว (Veliko Tarenovo) (46 กม.) |
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Park Hotel Asenevci **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | เวลีคอ เทอร์โนโว - บูคาเรสต์ (โรมาเนีย) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม นำท่านเที่ยวชมเมือง เวลีคอ เทอร์โนโว อดีตเมืองหลวงของบัลกาเรียและเป็นเมืองเก่าแก่ในยุคแรกๆซึ่งมีอายุป้อมปราการซาเรเวทส์ ลักษณะเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้น บนเทือกเขา Veliko Tarnovo เมื่อปี ค.ศ.1185 ในสมัยที่เมืองนี้ทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักรบัลกาเรีย ยุคที่ 2 ระหว่างปี 1185-1393 เป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งแน่นหนาที่สุดในอาณาจักร แต่สุดท้ายก็ถูกยึดครองโดยพวกออตโตมันในปี 1393 และถูกเผาทำลายจนย่อยยับ และนั่นคืออวสานของอาณาจักรบัลกาเรียยุคที่ 2 ป้อมแห่งนี้ได้รับการบูรณะครั้งล่าสุดเมื่อปี 1878 เมื่อชมป้อมซาร์เรวิทเรียบร้อยแล้วนำท่านเดินชมและดื่มด่ำกับบรรยากาศของเมืองเก่าแห่งนี้ที่ถนนซาโมวอดสก้า (Samovodska) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ออกเดินทางจากสู่เมืองบูคาเรสต์ (180 กม.) เป็นเมืองที่สวยเมืองหนึ่งของยุโรปจนได้ฉายาว่า “Little Paris” โดยเริ่มสร้างบ้านแปงเมืองมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และได้เป็นเมืองหลวงมาตั้งแต่ปี 1862 และกลายเป็นเมืองศูนย์กลางในทุกๆด้านของโรมาเนีย ท่องเที่ยวพระราชวังหลวง, ห้องสมุด, มหาวิทยาลัยบูคาเรส, ศาลาว่าการของเมือง |
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Continental*** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 7 | บูคาเรสต์ - ซีบิว |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม นำคณะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รัฐสภา (The Paliament Museum) นี่คือตึกรัฐสภาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ได้ Guinness World Records ด้วยพื้นที่ใช้สอยมากถึง 356,000 ตารางเมตร มีความสูง 84 เมตร (ตึก 12 ชั้น) ใช้งบประมาณในการก่อสร้างมากถึง 3,000 ล้านยูโร ระดมมันสมองของสถาปนิกมากถึง 700 คนภายใต้การควบคุมของสถาปนิกใหญ่ Anca Petrescu และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1997 จึงเป็นตึกที่มีทัง้ ความสำคัญระดับชาติ มีความยิ่งใหญ่ในรูปแบบสถาปัตยกรรม และสวยงามในศิลปะการตกแต่ง จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ผ่านชมหุบเขาคาร์เพเทียน (Carpathian Mountains) ผ่านหุบเขาโอลตุลุย Oltului เป็นหุบเขาริมแม่น้ำที่งดงามที่สุดในโรมาเนีย แวะชมอารามโคเซีย (Cozia Monastry) ที่อยู่ใกล้กับเมืองเล็กๆ ชื่อคาลิมาเนสติ (Calimanesti ) ที่สร้างขึ้นโดย มีร์ชา เดอะ เอลเดอร์ ที่จัดการกับทาสที่มอบบ้านชาวยิปซี 300 หลังและให้อารามโคเชีย ในปี 1388 และที่นี่ยังเป็นที่ฝังศพของเขา ถือว่าเป็นสถานที่ที่ทรงคุณค่าที่สุดแห่งหนึ่งและมีสถาปัตยกรรมยุคกลางระดับชาติแห่งโรมาเนีย นำท่านเดินทางสู่เมืองซีบิว(Cibiu)เมืองหลวงแห่งอารยธรรมยุโรปในปี 2007 และ Gastronomy ปี 2019 เพื่อสำรวจคความลับของความงดงามแห่งยุคกลางในเมืองนี้ อาทิ โบสถ์เซนต์แมรี่ (St.Mary Evangelical Church) โบสถ์โรมันสไตล์โกธิคเก่าที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 12, The Liar’s Bridge สะพานโกหก , จตุรัสเล็กๆในเมือง ที่เรียกว่า “ดวงตาแห่งเมือง” และจตุรัสใหญ่ |
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Continental Frum Sibiu**** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | ซีบิว - เบียร์ตัน - เซียไวรา - บราซอฟ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม เยี่ยมชมโบสถ์ที่มีป้อมปราการเบียร์ตัน (Bierton Fortified Church) ซึ่งเป็นที่ตั้งของผู้เผยแพร่ศาสนานิกายลูเธอรันบิชอปในทรานซิลเวเนียระหว่างปี 1572 ถึง 1867 และมีประชากรชาวแซ็กซอนมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค หลังจากนั้นนำคณะเดินทางสู่ ซิกิโซอารา (Sighisoara) ท่องเที่ยวชมเมืองยุคกลางที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโรมาเนียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยองค์การยูเนสโกพร้อมป้อมปราการสิ่งปลูกสร้างชาวแซ็กซอนจากศตวรรษที่ 12 อนุสาวรีย์ที่ได้ขึ้นทะเบียนของยูเนสโก เที่ยวชมหอนาฬิกา, บันไดมีหลังคา, บ้านเกิดของแดร็กคูล่า, โบสถ์บนเนินเขา |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเดินทางสู่เมืองบราซอฟ เมืองมรดกโลกยุคกลางแห่งศตวรรษที่ 12 ศาลาว่าการเมืองเก่า, โบสถ์ดำ Black Church หรือโบสถ์เซนต์แมรี่ ซึ่งเป็นโบสถ์นิกายคาธอร์ลิค (St.Mary’s Cathorlic Church) และกลายมาเป็นโบสถ์ในนิกายลูเธอร์ลันด์ในภายหลัง และผู้คนทั่วไปกลับเรียกโบสถ์แห่งนีว่า Black Church นั่นก็เพราะว่าเกิดเหตุไฟไหม้ในปี ค.ศ.1689 จนทรากโบสถ์ที่เหลืออยู่กลายเป็นสีดำ แม้จะมีการซ่อมแซมบูรณะขึ้นใหม่จากรูปแบบเดิมที่เป็นศิลปะกอร์ธิคกลายมาเป็นศิลปะแบบบาร็อคแล้วแต่ผู้คนที่นี่ก็ยังนิยมเรียกโบสถ์ดำมาจนกระทั่งปัจจุบันนี่คือโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Aro Palace**** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 9 | บราซอฟ - บราน - ซินาญา – บูคาเรส – เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ - อิสตันบลู |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารของโรงแรม นำคณะท่องเที่ยว หมู่บ้าน Bran มีหนึ่งสถานที่ที่รู้จักกันทั่วโลก นั่นก็คือ ปราสาทบราน (Bran Castle) หรือรู้จักกันในชื่อ “ปราสาทแดร๊กคูร่า” ก่อตั้งขึ้นปี 1377 ในยุคจักรวรรดิฮังกาเรียน เป็นชื่อตามนวนิยายขายดีเรื่องแดรกคูลา ของนักเขียนชาวไอริช คือ “Bram Stoker” ที่พิมพ์จำหน่ายในปี 1897 ก็ทำให้ปราสาทแห่งนี้มีชื่อเสียงตามไปด้วยในฐานะปราสาทของท่านเคาท์แดรกคูลา ซึ่งเค้าเรื่องดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงในยุควิคตอเรียนซึ่งมีคนตายเป็นจำนวนมาก แต่สาเหตุจริงๆ นั้นตายเพราะโรคระบาดไม่ใช่ตายเพราะถูกผีดิบดูดเลือดเหมือนเนื้อเรื่องในนวนิยายเรื่องนี้ ที่นี่มีการซ่อมแซมขยายเพิ่มหลายครั้งจนกลายเป็นที่อยู่ของราชวงค์ควีนแมรี่ แห่ง โรมาเนีย ซึ่ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากแห่งโรมาเนีย |
เที่ยง | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะสู่เมือง ซินาญา (Sinaia) ประตูสู่ธรรมชาติมีรีสอร์ทบนภูเขา ว่ากันว่า เป็นไข่มุกแห่งคาร์พาเทียน เข้าชมปราสาทเปเลส (Peles Castle) เป็นพระราชวังฤดูร้อน ซึ่งเป็นปราสาทในยุคนีโอ-เรอเนสซองซ์ ที่สร้างระหว่างปี ค.ศ.1873-1914 ในรัชกาลของกษัตริย์คาร์โรลที่ 1 (King Carol I) โดยสถาปนิกถึง 3 คน ได้แก่ Johannes Schultz, Carol Benesch และ KavelLiman งบประมาณในการก่อสร้างมากถึง 120 ล้านเหรียญสหรัฐและนี่คือปราสาทที่มีไฟฟ้าใช้เป็นแห่งแรกในภูมิภาคยุโรป รถโค้ชนำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเฮนรี่ (OTP) (20 กม.) |
21.40 น. | ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเฮนรี่ (OTP) เที่ยวบินที่ TK 1046 |
23.10 น. | ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล (IST) ใช้เวลาต่อเครื่อง 2.25 ชั่วโมง |
วันที่ 10 | อิสตันบลู – กรุงเทพฯ |
01.35 น. | ออกเดินทางจากถึงท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล (IST) เที่ยวบินที่ TK068 |
15.25 น. | ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |
15.25 น. | ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |