วันที่ 1 | กรุงเทพมหานครฯ – อิสตันบูล |
20.00 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เชคอิน U ประตูทางเข้าที่ 9 หรือ 10 อาคารผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (TK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
23.05 น. | ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 65 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.55 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารเช้าและอาหารกลางวัน ระหว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี |
วันที่ 2 | อิสตันบูล – คีชีเนา (ประเทศมอลโดวา) - ออร์เฮ |
05.20 น. | เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี แวะเปลี่ยนเที่ยวบินสู่เมืองคีชีเนา ประเทศมอลโดวา อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ภายในสนามบินอิสตันบูล ตามอัธยาศัย |
07.40 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินคีชีเนา ประเทศมอลโดวา โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK269 มีบริการอาหารว่างบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชม.) |
09.10 น. | เดินทางถึงสนามบินคีชีเนา ประเทศมอลโดวา นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ เมืองออร์เฮ (Orhei) (ระยะทาง 60 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชม.) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองคีชีเนา ประมาณ 40 กม. โดยมีแม่น้ำราอุทไหลผ่าน (Raut River) เมืองโบราณแห่งนี้เรียกได้ว่า เป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของมอลโดวา สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของชนเผ่าทริปพิเลียน (Trypillian) นำท่านเที่ยวชม เขตประวัติศาสตร์ออร์เฮ ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีที่ผสมผสานทิวทัศน์ธรรมชาติของอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ บริเวณนี้ประกอบด้วยซาก ถ้ำ อาราม ห้องอาบน้ำสาธารณะ และป้อมปราการ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งขนาดใหญ่ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ภายในเชิงเขาหินปูน ซึ่งมีทัศนียภาพที่งดงามมาก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองคีชีเนา (Chisinau) (ระยะทาง 54 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมอลโดวา (Modova National Museum) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงคีชีเนา เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของประเทศ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดาและความสวยงามทางสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการเก็บรักษาสิ่งของทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ กว่า 3,500,000 ชิ้น นำท่านย้อนรอยชมประวัติศาสตร์ของประเทศมอลโดวาที่แสดงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาของมอลโดวา (Parliament) จากนั้นนำท่านเดินทางชมสวนสาธารณะสเตฟาน เซล แมร์ (Stefan Cel Mare Park) ซึ่งเคยมีชื่อว่าสวนสาธารณะพุชกิน (Pushkin Park) เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศ โดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 เฮกเตอร์ สถานที่น่าสนใจในสวนสาธารณะแห่งนี้ มีทั้งน้ำพุที่สวยงามและรูปปั้นกวีเพลงคลาสสิกชาวโรมาเนียและชาวมอลโดวาผู้มีชื่อเสียง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ถนนสเตฟานเซลแมร์ (Stefan Cel Mare Boulevard) อันเป็นถนนที่ตั้งของหมู่อาคารสวยงาม และหน่วยงานสำคัญต่างๆของมอลโดวา ได้เวลานำท่านเดินทางเข้าชมมหาวิหารแห่งการประสูติ (Nativity Cathedral) เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุดในศาสนจักรออร์ทอดอกซ์มอลโดวา (Moldovan Orthodox Church) โดยสร้างขึ้นในปี 1836 ตั้งอยู่ใจกลางกรุงคีชีเนา เป็นมหาวิหารในสไตล์นีโอคลาสสิก หนึ่งในลักษณะเด่นที่สุดของมหาวิหารแห่งนี้คือแท่นบูชาสามแท่นที่สวยงาม และหอ ระฆังด้านหน้าของอาสนวิหาร จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับประตูชัย (Trimphal Arch) หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองหลวงตั้งอยู่ถัดจากมหาวิหารแห่งการประสูติ (Nativity Cathedral) โดยสร้างขึ้นในกลางศตวรรษที่ 19 เป็นอนุสรณ์ถึงชัยชนะของรัสเซียเหนือจักรวรรดิออตโตมัน หนึ่งในจุดเด่นของประตูชัยนี้คือระฆังขนาดยักษ์ซึ่งอยู่ภายในประตูชัยแห่งนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Hotel Jolly Alon Chisinau **** หรือเทียบเท่า (พักคืนที่ 1) |
วันที่ 3 | คีชีเนา – เบนเดอร์ – ทีรัสปอล |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองเบนเดอร์ (Bender) (ระยะทาง 65 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำดิเนสเตอร์ (Dniester) ในแหล่งประวัติศาสตร์ของมอลโดวา นำท่านเดินทางเข้าชมป้อมปราการเบนเดอร์ (Bender Fortress) เป็นป้อมปราการสร้างแบบออตโตมัน ประมาณศตวรรษที่ 16 เพื่อป้องกันการรุกรานจากกองทัพรัสเซียและตุรกี นำท่านชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการโบราณแห่งนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางเข้าชม อาราม นูออล นีมท์ (Noul Neamt Monastery) เป็นอารามมอลโดวาออร์ทอดอกซ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองชิตคาเนีย ใกล้กับเมืองเบนเดอร์ และทีรัสปอล และยังตั้งอยู่ในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของบาสซาราเบีย อารามแห่งนี้ถูกค้นพบในปี 1861 และได้ถูกปิดและเปลี่ยนเป็นสถานพยาบาลในปี 1962 ในครั้งที่มอลโดวายังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต และได้ทำการเปิดอีกครั้งในปี 1962 นำท่านชมความสวยงามของอารามนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองทีรัสปอล (Tiraspol) (ระยะทาง 25 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศมอลโดวา และเป็นเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของทรานส์นีสเตรีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำนีสเตอร์ และเป็นเมืองศูนย์กลางภูมิภาคในการผลิตอุตสาหกรรมเบา เช่น เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า และผลิตเหล้าองุ่น เมืองนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1792 ถึงแม้ว่าจะมีหลายชนชาติอาศัยอยู่นานกว่าพันปี และเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐโซเวียตมอลโดวาในสหภาพโซเวียต จนถึง ค.ศ. 1940 เมืองนี้ได้ถูกทำลายอย่างหนักระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมืองทีรัสปอล นำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์เลนิน (Vladimir Lenin Monument) รูปปั้นหินแกรนิตของ Vladimir Lenin อยู่ด้านหน้า อาคารรัฐสภา Transnistria ใน Tiraspol จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์รถถัง (Tank Monument) รถถังคันนี้เป็นรถถัง T-34 ที่ปลดประจำการแล้ว ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานแห่งความรุ่งโรจน์ และอนุสาวรีย์เครื่องบิน (Monument of Aviators) เสาโอเบลิสก์ (สร้างขึ้นในปี 1975) สำหรับนักบินของกองทัพอากาศที่ 17 ซึ่งได้ปลดปล่อยเมือง Tiraspol ในปี 1944 โดยเป็นส่วนหนึ่งของแนวรบยูเครนที่ 3 เครื่องบินรบ MiG-19 ติดตั้งอยู่บนแท่นอนุสรณ์ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองคีชีเนา |
ค่ำ | รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Hotel Jolly Alon Chisinau**** หรือเทียบเท่า (พักคืนที่ 2) |
วันที่ 4 | ฮูซี – อารามมานัสตีเรอา ชิมบาเรอา ลา ฟาตา – บาเคา - โบสถ์พรีไซส์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ฮูซี (Husi) (ระยะทาง 120 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เป็นเมืองในเทศมณฑลวาสลุย ประเทศโรมาเนีย ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของเทศมณฑลฟัลซิวที่ถูกยุบในประวัติศาสตร์ ภูมิภาคมอลดาเวียตะวันตก และยังเป็นที่ตั้งของไร่องุ่นที่ดีที่สุดบางแห่งของโรมาเนีย เมืองนี้ตั้งอยู่บนสาขาของทางรถไฟยาช-กาลาตี ห่างจากแม่น้ำปรุตไปทางตะวันตก 14 กม. และอยู่ติดกับสาธารณรัฐมอลโดวา ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยอาณานิคมของ Hussites ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนี้ สิ่งนี้ได้รับการโต้แย้งโดยนักวิชาการเช่น Nicolae Iorga และบาทหลวง Melchisedec ştefănescu ซึ่งแย้งว่าชื่อของเมืองนั้นเก่ากว่าโดยมีต้นกำเนิดมาจาก โบยาร์ฮุส (ซึ่งชื่อนี้แปลว่า Husul หรือ Husea ด้วย) ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินในพื้นที่ นำท่านเดินทางชม อารามมานัสตีเรอา ชิมบาเรอา ลา ฟาตา (Manastirea Schimbarea la Fata) ตั้งอยู่บนถนนที่ขึ้นไปจาก Crasna และ Bârlad ภาพเงาของโบสถ์ไม้เป็นภาพแรกที่นักเดินทางพบก่อนเข้าเมืองแห่ง "โบสถ์และโรงเรียน" สร้างขึ้นในปี 1996 อารามแห่งนี้สร้างขึ้นเหนือ Husi ริมป่า Dobrina ผู้คนหลายร้อยคนมาเฉลิมฉลองครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งสถานที่นี้มีความเงียบสงบเป็นอย่างมาก |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเที่ยวชมเมืองบราซอฟ สวิตเซอร์แลนด์น้อยแห่งโรมาเนีย เพชรน้ำงามแห่งยุโรปตะวันออก นำท่านเที่ยวชมย่านใจกลางเมือง และจัตุรัสกลางเมืองที่มีหอนาฬิกาสูงโดดเด่นแสดงเวลาให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา นำท่านเดินทางชมตลาดใหญ่ใจกลางเมืองบราซอฟ Walking street ตลาดนี้เป็นถนนระหว่างตึกขนาดใหญ่ยาวติดต่อกัน ข้าวของที่ขายมีมากมายหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าหนัง เครื่องสำอาง ของที่ระลึก ฯลฯ นำท่านเดินทางเข้าชมโบสถ์ดำ หรือที่รู้จักในนาม Black Church ที่มีชื่อเสียง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1383 ใช้เวลาสร้างกว่าร้อยกว่าปี จัดเป็นโบสถ์แบบศิลปะโกธิคที่ใหญ่ที่สุด ใน South East Europe (**หากโบสถ์ปิดให้เข้าชมเนื่องด้วยการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา บริษัทจะนำท่านถ่ายรูปภายนอกแทน) จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าชมโรงเรียนแห่งแรกของประเทศโรมาเนีย Romania First School นำท่านชมย่านใจกลางเมืองและจัตุรัสกลางเมืองซึ่งมีหอนาฬิกาสูงโดดเด่นแสดงเวลาให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Dumbrava Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | บราซอฟ – โบสถ์ดำ – โรงเรียนแห่งแรกของประเทศโรมาเนีย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองบราซอฟ (Brasov) (ระยะทาง 180 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) ระหว่างทางท่านจะได้ชมและสัมผัสกับวิถีการดำเนินชีวิตของชาวพื้นเมืองโรมาเนีย และความเขียวขจีของภูเขาที่อุดมสมบูรณ์แห่งประเทศโรมาเนีย ภูมิทัศน์และวิวทิวเขาสลับสวยงามยิ่ง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเข้าชมป้อมปราสาท Tsarevets (Tsarevets Fortress) อดีตที่ประทับของกษัตริย์แห่งบัลแกเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการรายอยู่รายล้อมซึ่งปัจจุบันคงเหลือเพียงกลิ่นอายของความรุ่งเรืองในอดีต ซากปราสาทปรักหักพังอันโดดเด่นของ ซึ่งเป็นป้อมปราการในยุคกลางที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำยานตา ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์และมีโบสถ์ที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ในปัจจุบันได้มีการตกแต่งด้วยศิลปะร่วมสมัยที่สวยงามและแปลกตา ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ป้อมปราการแหล่งนี้อยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ นำท่านเดินทางสู่ เมืองชิพก้า (Shipka) (ระยะทาง 78 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) นำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ประจำเมืองแห่งเมืองชิพก้า (Shipka Memorial Church) โบสถ์คริสต์นิกายบัลแกเรี่ยนออโธดอกซ์ สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1885-1902 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานอุทิศให้แก่ทหารรัสเซีย ยูเครน และบัลแกเรีย ที่เสียชีวิตในสงครามรุสโซ่-เตอร์กิช หรือสงครามระหว่างอาณาจักรอ็อตโตมันและอาณาจักรรัสเซียเมือปี ค.ศ.1877 นำท่านเดินทางสู่ เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) เมืองทันสมัยที่มีต้นตอมาแต่โบราณ (ระยะทาง 102 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศบัลแกเรียรองจากเมืองโซเฟีย ตั้งอยู่บนฝั่้งแม่น้ำมาริทซา ล้อมรอบด้วยภูเขาเจ็ดลูก จึงถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งขุนเขาทั้งเจ็ด” นอกจากนี้หลักฐานทางโบราณคดียังพบว่าเมืองนี้ถูกตั้งรกรากมากว่า 6,000 ปี ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Hotel Ambient Brasov**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | บราน – ปราสาทแดร๊กคูล่า – ปราสาทเปเลส - ซินายา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองบราน (Bran) นำท่านเดินทางเข้าชมปราสาทบราน (Bran Castle) แห่งโรมาเนีย หรือที่รู้จักกันในนาม ปราสาทแดร๊กคูล่า ความจริงแล้วปราสาทบรานที่ผู้คนขนานนามว่า ปราสาทแดรกคูล่า ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผีดิบดูดเลือดเลย แต่วรรณกรรมอมตะเมื่อศตวรรษก่อนก็ได้เชื่อมจินตนาการจากตัวอักษรมาสู่ปราสาทแห่งนี้ จนสามารถสร้างแรงดึงดูดมหาศาล และอาจกล่าวได้ว่า ปราสาทบรานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศโรมาเนียไปแล้ว ปราสาทสร้างเมื่อ ปี ค.ศ.1377 ในยุคจักรวรรดิฮังกาเรียน เพื่อเป็นป้อมดูแลเรื่องการค้าและภาษีระหว่างแคว้น Transylvania กับ Wallachia ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นปราการสำคัญป้องกันการรุกรานของอาณาจักรออตโตมาน ในยุคที่แคว้นทรานซิลวาเนียยังสู้รบกับจักรวรรดิออตโตมาน เจ้าชาย ‘วลาด’ ผู้ครองปราสาท เป็นนักรบผู้แกร่งกล้า โหดเหี้ยมไร้ความปราณีต่อศัตรู กลายเป็นที่เลื่องลือ บ้างเล่าต่อๆกันไปว่า เจ้าชายดื่มเลือดจากศัตรูด้วย ปราสาทนี้ ตั้งอยู่บนเชิงเขาเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูระหว่างชายแดนแคว้นวอลลัคเทียและทรานซิลเวเนีย ภายในปราสาทมีห้องต่างๆมากมาย ซึ่งจัดแสดงวิถีความเป็นอยู่ ห้องแสดงอาวุธโบราณ ตู้โบราณอายุหลายร้อยปีที่แกะสลักลวดลายงดงาม นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเลือกซื้อของที่ระลึกที่มีวางจำหน่ายบริเวณปราสาทแห่งนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมปราสาทเปเลส (Peles Castle) (ระยะทาง 51 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.10 ชม.) ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาบูเซกิ ปราสาทแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในโลก เนื่องจากตั้งอยู่กลางป่าสนบนเทือกเขาคาร์เปเทียน ปราสาทนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชายคาลอสที่ 1 กษัตริย์แห่งโรมาเนียในสมัยศตวรรษที่ 19 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในฤดูร้อน ตัวอาคารจะมีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ แต่ดูเหมือนปราสาทแห่งนี้จะได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์ของประเทศเยอรมนีมากที่สุด ความงดงามของปราสาทแห่งนี้ มิใช่อยู่ที่ความยิ่งใหญ่ของตัวปราสาทแต่อยู่ที่การตกแต่งภายในอย่างหรูหรางดงาม ปัจจุบันเป็นสถานที่สาธารณะและพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสมบัติล้ำค่าอีกแห่งหนึ่งของโรมาเนีย ***หากปราสาทเปเลส ไม่เปิดให้บริการด้วยเหตุสุดวิสัยใดๆก็ตาม ทางบริษัทจะนำท่านถ่ายรูปภายนอกแทน*** จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซินายา (Sinaia) เมืองตากอากาศที่สำคัญแห่งหนึ่งของโรมาเนีย ชื่อของเมืองตั้งตามอารามซีนายาซึ่งสร้างขึ้นในปี 1695 ชื่อของอารามซีนายามาจากชื่อของเขาซีไนในพระคัมภีร์ไบเบิล นอกจากนี้ยังเป็นเมืองอันเป็นที่ตั้งของปราสาทเปเลส หนึ่งในปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศโรมาเนีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Hotel Sinaia **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ตีร์โกวิชเต - บูคาเรสต์ - อาคารรัฐสภา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองตีร์โกวิชเต (Tirgoviste) (ระยะทาง 68 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) นำท่านเที่ยวชมเมืองเมืองตีร์โกวิชเต (Tirgoviste) เป็นเทศบาลนครและศูนย์กลางของเทศมณฑลดึมบอวิตซา ประเทศโรมาเนีย ตั้งอยู่ห่างจากบูคาเรสต์ไปทางเหนือประมาณ 80 กม. เมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยาลอมิตซา เป็นเมืองท่องเที่ยวในโรมาเนีย และเป็นที่ประทับของราชวงศ์และเมืองหลวงระหว่างปี 1396 ถึง 1714 ทาร์โกวิชเต ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร และศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของประเทศโรมาเนียมานานกว่าสามศตวรรษ นำท่านเดินทางสู่ กรุงบูคาเรสต์ (Bucharest) (ระยะทาง 83 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) เป็นเมืองเก่าแก่ ปารีสดินแดนตะวันออก โรมาเนีย เมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศโรมาเนีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบวอลลาเซีย ติดเทือกเขาคาร์เปเชียน และแม่น้ำดานูป บูคาเรสต์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามล้อมรอบด้วยเทือกเขา และทะเลสาบจนได้สมญานามเป็นที่รู้จักกันทั่วยุโรปว่า “ปารีสน้อย” จากนั้นนำท่านเที่ยวชมเมืองและแวะถ่ายรูป (**หากรถสามารถจอดได้) ชมจัตุรัสแห่งการปฎิวัติ (Revolution Square) โอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House) คลับทหารแห่งชาติ (National Military Academy) ผ่านชม "ประตูชัย" ซึ่งตั้งอยู่บนถนน KISSELEFF ซึ่งสร้างเลียนแบบประตูชัย ในกรุงปารีส ในสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนีย (Romanian Athenaeum) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมอาคารรัฐสภา (Parliament Palace) หรือทำเนียบประธานาธิบดีของโรมาเนีย ทำเนียบประธานาธิบดีที่ใหญ่โตโอฬารของประธานาธิบดีเชาเชสคู และ นางเอลินา ภรรยาผู้ซึ่งอยากมีชีวิตหรูหราประหนึ่งเอวิต้า เปรอง อาคารรัฐสภานี้ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา และมีจำนวนห้องมากถึง 6,000 ห้อง สร้างแบบสถาปัตยกรรมโรมาเนีย ทั้งโครงสร้างและการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคาร แต่ละห้องตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา โดยเฉพาะห้องแกรนด์บอลรูม ที่ได้มีการตกแต่งโคมไฟประดับโบฮีเมียน้ำหนักถึง 5 ตัน ปูพื้นด้วยพรมเปอร์เซียผืนใหญ่ ห้องรับรองซึ่งสร้างจากหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ให้ท่านได้สัมผัสถึงความโอ่อ่า ความยิ่งใหญ่ของอาคารรัฐสภาที่ใช้งบประมาณมหาศาลในการก่อสร้างมหาศาลถึง 3 ล้านล้านยูโร |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย |
ที่พัก | Crown Plaza Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | รูเซ – เวลิโค ทาร์โนโว - ชิพก้า - พลอฟดิฟ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองรูเซ (Ruse) ประเทศบัลกาเรีย (Bulgaria) (ระยะทาง 82 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) เมืองใหญ่อันดับ 5 ของบัลกาเรีย เมืองที่มีพรมแดนติดกับโรมาเนีย และเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศบัลกาเรีย ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ลิตเติ้ลเวียนนา (Little Vienna) เป็นที่รู้จักกันมากในช่วงศตวรรษที่ 19 - 20 โดยเฉพาะความโดดเด่นทางด้าน สถาปัตยกรรมแบบนีโอ-บาโรก และนีโอ-โรโคโค (Neo-Baroque and Neo-Rococo) นำท่านผ่านชมอนุสาวรีย์เสรีภาพ (Monument of Liberty) อนุสาวรีย์ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยประติมากรชาวอิตาเลี่ยน Arnoldo Zocchi นำท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า (Old City Centre) ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่าอาคารที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ของเมืองรูเซ ชื่นชมในความงดงามของเหล่าอาคารมีการตกแต่งด้วยสไตล์บาร็อค จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวลิโค ทาร์โนโว (Veliko Tarnovo) (ระยะทาง 108 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.) หนึ่งในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของบัลแกเรีย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีภูมิประเทศและสถาปัตยกรรมเก่าแก่สวยงาม และเป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาถึงสามลูก ซึ่งได้แก่ Tsarevets Trapezitsa และ Sveta Gora ด้วยความพร้อมในทุกๆด้านทำให้เมืองแห่งนี้ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของบัลแกเรียตอนเหนือ นอกจากนี้ในยุคกลางนั้น เวลิโค ทาร์โนโว ถือได้ว่าเป็นเมืองป้อมปราการที่มีความแข็งแกร่งอีกแห่งของบัลแกเรียอีกด้วย นำท่านเดินชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนที่มีการอนุรักษ์ไวในแบบเดิมโดยบ้านแต่ละหลังนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางเข้าชมป้อมปราสาท (Tsarevets Fortress) อดีตที่ประทับของกษัตริย์แห่งบัลแกเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการรายอยู่รายล้อมซึ่งปัจจุบันคงเหลือเพียงกลิ่นอายของความรุ่งเรืองในอดีต ซากปราสาทปรักหักพังอันโดดเด่นของ ซึ่งเป็นป้อมปราการในยุคกลางที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำยานตา ซึ่งในอดีตเป็นที่อยู่อาศัยของกษัตริย์และมีโบสถ์ที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ในปัจจุบันได้มีการตกแต่งด้วยศิลปะร่วมสมัยที่สวยงามและแปลกตา ปัจจุบันได้มีการทำนุบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ป้อมปราการแหล่งนี้อยู่ในลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ นำท่านเดินทางสู่เมืองชิพก้า (Shipka) (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) นำท่านแวะถ่ายรูปกับโบสถ์ประจำเมืองแห่งเมืองชิพก้า (Shipka Memorial Church) โบสถ์คริสต์นิกายบัลแกเรี่ยนออโธดอกซ์ สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1885-1902 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานอุทิศให้แก่ทหารรัสเซีย ยูเครน และบัลแกเรีย ที่เสียชีวิตในสงครามรุสโซ่-เตอร์กิช หรือสงครามระหว่างอาณาจักรอ็อตโตมันและอาณาจักรรัสเซียเมือปี ค.ศ.1877 นำท่านเดินทางสู่เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) เมืองทันสมัยที่มีต้นตอมาแต่โบราณ (ระยะทาง 102 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศบัลแกเรียรองจากเมืองโซเฟีย ตั้งอยู่บนฝั่้งแม่น้ำมาริทซา ล้อมรอบด้วยภูเขาเจ็ดลูก จึงถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งขุนเขาทั้งเจ็ด” นอกจากนี้หลักฐานทางโบราณคดียังพบว่าเมืองนี้ถูกตั้งรกรากมากว่า 6,000 ปี ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Holiday Inn Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | โรงละครโรมัน – โซเฟีย – โบสถ์เซนต์จอร์จ - มหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเข้าชมโรงละครโรมัน (Roman Amphitheatre) หนึ่งในโรงละครโรมันโบราณที่ได้รับการบูรณะรักษาและยังคงความสมบูรณ์ไว้ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.98-117 หน้ากว้างทั้งหมด 82 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ราว 7,000 คน จากนั้นนำท่านชมย่านเมืองเก่า (Old Town) ส่วนที่เก่าแก่ของตัวเมืองได้รับการอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรม ซึ่งทำให้พลอฟดิฟยังคงมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมยุคเรอเนซองส์จนถึงปัจจุบัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่เมืองโซเฟีย (Sofia) (ระยะทาง 147 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) เมืองหลวงของประเทศบัลแกเรีย หนึ่งในเมืองสวยของยุโรปตะวันออก และยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดลำดับที่ 15 ของสหภาพยุโรปด้วยประชากรกว่า 1.2 ล้านคน เมืองโซเฟียตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาวิโตชา และห่างจากชายแดนประเทศเซอร์เบียเพียง 50 กิโลเมตร นับเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง กระจัดกระจายไปด้วยร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นำท่านเที่ยวชมเมืองโซเฟีย และนำท่านแวะถ่ายรูปกับอาคารรัฐสภาแห่งกรุงโซเฟีย (Parliament) อาคารสีขาวรูปทรงโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้ามหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ ซึ่งปัจจุบันยังใช้เป็นที่ทำการของคณะรัฐบาลอยู่ จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George Church) โบสถ์หินโบราณที่เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซเฟีย สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 และถูกต่อเติมเรื่อยมา นอกจากนี้ในอดีตยังเคยถูกใช้เป็นสุเหร่าหรือมัสยิดในสมัยที่กรุงโซเฟียถูกปกครองโดยจักรวรรดิออตโตมันก่อนจะถูกปรับปรุงกลับมาใช้งานเป็นโบสถ์ในคริสตจักร จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ (Alexander Nevsky Cathedral) มหาวิหารที่ก่อสร้างในแบบนีโอไบเซนไทน์เมื่อปี ค.ศ.1882 มีโดมหลังคาทรงกลมสีเขียว ตกแต่งด้วยหินอ่อนที่วิจิตรตระการตา ซึ่งถือเป็นมหาวิหารคริสตจักรนิกายบัลแกเรี่ยนออโธดอกซ์ที่ใหญ่อันดับต้นๆของภูมิภาค และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองบนคาบสมุทรบอลข่าน เป็นรองเพียงแค่มหาวิหารแห่งเซนต์ ซาวาที่เมืองเบลเกรดของประเทศเซอร์เบีย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Ramada by Wyndham Hotel Sofia **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 10 | สำนักสงฆ์เมืองรีล่า – โซเฟีย - อิสตันบูล |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สำนักสงฆ์เมืองรีล่า (Rila Monastery) (ระยะทาง 119 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.) สำนักสงฆ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศบัลแกเรีย ตั้งอยู่บนภูเขารีล่าทางตอนใต้ของนครหลวงโซเฟีย บนความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 และตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งสำนัก คือ นักบวชไอแวนแห่งเมืองรีล่า สำนักสงฆ์เมืองรีล่าถูกรับรองโดยยูเนสโก้ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของบัลแกเรีย (UNESCO World Heritage) โดยในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวกว่า 900,000 คนเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ |
12.30 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินโซเฟีย (SOF) อิสระอาหารกลางวัน ภายในสนามบินตามอัธยาศัย |
15.55 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินอิสตันบูล (IST) ประเทศตุรกี โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK1032 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.35 ชม.) |
18.30 น. | เดินทางถึง สนามบินอิสตันบูล (IST) เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน |
19.40 น. | ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ TK 64 (ใช้เวลาบินประมาณ 9.15 ชม.) สายการบินฯ มีบริการอาหารค่ำและอาหารเช้าระหว่างเที่ยวบิน |
วันที่ 11 | อิสตันบูล - กรุงเทพมหานคร |
08.20 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE) |