| วันที่ 1 | สนามบินสุวรรณภูมิ (ประเทศไทย) |
| 23.00 น. | พร้อมคณะที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเคาน์เตอร์ T สายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน |
| วันที่ 2 | กรุงเทพฯ - ดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) - ริโอ เดอจาเนโร (บราซิล) |
| 01.05 น. | สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ ออกเดินทางสู่นครดูไบ โดยเที่ยวบินที่ EK 385 (Airbus A380-800) |
| 05.00 น. | ถึงท่าอากาศยาน นครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน ใช้เวลาบิน 6 ชั่วโมงครึ่ง |
| 08.05 น. | ออกเดินทางสู่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล โดย สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK247 (Boeing 777-300 ER) ใช้เวลาบิน 14 ชั่วโมงครึ่ง |
| 15.25 น. | ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติแอนโตนิโอ คาร์ลอส โจบิม นครริโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล เมืองริโอ เดจาเนโร หรือ “แม่น้ำแห่งเดือนมกราคม” ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ด้วยชายหาดชื่อดัง โคปาคาบานา และ อีปาเนมา ที่คนทั่วโลกกล่าวขวัญถึง รวมถึงเทศกาลคาร์นิวัล เทศกาลรื่นเริงประจำปีของชาวแซมบ้า ที่โลกต้องตะลึงไปกับขบวนพาเหรดอันอลังการที่สุดที่โลกเคยมีมา |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ Belmonte Restaurant |
| ที่พัก | HILTON COPACABANA HOTEL ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 3 | Tijuca National Park - Escadaria Selaron – Championship Carnival Parade |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำคณะสำรวจ Tijuca National Park ด้วยรถ 4x4 Jeep Tour ป่าท่ามกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างอุทยานแห่งชาติ Tijuca ที่นี่มีความสมบูรณ์ กินพื้นที่มากถึง 7 เปอร์เซ็นต์ของเมืองริโอ เดอ จาเนโร ท่านจะได้พักผ่อนไปกับป่าสีเขียว อากาศบริสุทธิ์ ตลอดเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ มากมายไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ ดอกไม้ป่าหลากสีสัน พร้อมทั้งสัตว์ป่าอีกมากมาย มีจุดชมวิวสวย ๆ หลายจุด มีน้ำตกสุดเย็นฉ่ำให้ได้คลายร้อน และยังสามารถชมวิวเมืองริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งเมือง |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ Steakhouse at Copacabana |
| บ่าย | Escadaria Selaron จุดเช็กอินสุตฮิตของนักท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็กเกอร์ เป็นที่เที่ยวที่ซ่อนตัวอยู่ภายในย่านพักอาศัยอย่างย่าน Santa Teresa และ Lapa แรกเริ่มเดิมทีนั้นที่นี่เป็นเพียงทางเดินบันไดธรรมดา มีเพียงชาวบ้านที่ใช้เส้นทางนี้ในการเดินไปมาในชุมชน แต่ในช่วงปี ค.ศ. 1990 ศิลปินชาวชิลีนามว่า Jorge Selaron ได้เริ่มนำกระเบื้องหลากสีสันมาตกแต่งบันได จนมันมีชีวิตชีวา มีทั้งหมด 250 ขั้น ซึ่งมีกระเบื้องจากทั่วทุกมุมโลกอยู่ที่นี่ |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่ งาน ริโอ คาร์นิวัล 2025 เป็นเทศกาลประจำปีของประเทศบราซิลซึ่งจัดขึ้นก่อนที่จะเริ่มเทศกาล อีสเตอร์ ขบวนแห่อันงดงามที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของคาร์นิวัลนี้ ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมโปรตุเกสและแอฟริกา ผู้คนสองล้านคนจากทุกเชื้อชาติต่างมารวมตัวกันบนถนนสายต่าง ๆ การแสดงกลางแจ้ง ชุดแต่งกายหลากสีสัน ขบวนพาเหรดใหญ่โตมโหฬาร นักเต้นแซมบ้าสุดเจ๋ง ที่คุณจะได้เห็นที่สนามซัมโบโดรโม (BOX SEAT – FRISA SECTOR 9) |
| ที่พัก | HILTON COPACABANA HOTEL ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 4 | ริโอ เดจาเนโร - รูปปั้นพระเยซูคริสต์ - ซูการ์โลฟ - สนามฟุตบอลมาราคานา - ฟาเวโล |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
นำท่านขึ้นสู่ยอดเขากอร์โกวาโด จุดหมายปลายทางฝันของนักท่องเที่ยวที่ยืนคู่กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มนุษย์สร้างขึ้นนั่นก็คือ “รูปปั้นพระเยซูคริสต์” แห่งเมืองริโอ เดจาเนโร (Rio de Janeiro) สัญลักษณ์อันโด่งดังของบราซิล ถูกคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ทิวทัศน์แบบพาโนรามาไปจนถึงพระอาทิตย์ตกบนชายหาดรีโอเดจาเนโร หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cidade Maravilhosa “เมืองมหัศจรรย์” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำในบราซิล ทางชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ ซึ่งเป็นเมืองที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในซีกโลกใต้ |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ Cais do Oriente Restaurant |
| บ่าย | นำคณะขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาซูการ์โลฟ (Pao De Acucar) หรือภูเขาก้อนน้ำตาลที่ตั้งอยู่เคียงข้างกับยอดเขากอร์โกวาโด แต่มีความสูงเพียงครึ่งหนึ่งของรูปปั้นพระเยซูคริสต์ เพื่อไปชมทัศนียภาพแบบ 360 องศา
นำคณะสู่ เอสตาดิโอ โด มาราคานา สนามฟุตบอลขนาดยักษ์จุคนได้ 103,022 คน เพื่อให้ท่านได้ซื้อของที่ระลึกจากทีมบราซิล เมืองริโอ มีสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ ต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศทั้งในแถบลาตินอเมริกา อเมริกา และยุโรป ซึ่งมีการจัดแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ และมีจุดเด่นอยู่ที่ บัววิกตอเรียขนาดใหญ่ และทิวแถวของต้นปาล์มที่ถูกไว้เป็นแนวสวยงาม ท่ามกลางความเขียวขจี ผ่านย่านชุมชนแออัดที่ ฟาเวลา (Favela) เป็นภาพของบ้านเรือนปลูกไล่กันไปบนภูเขาหลายร้อยหลายพันหลัง ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ นักเตะชื่อดังหลายคนก็เติบโตมาจากที่นี่ทั้ง โรนัลโด, โรนัลดินโญ |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
| ที่พัก | HILTON COPACABANA HOTEL ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 5 | ริโอ เดจาเนโร - บินสู่เมืองอิกวาซู - น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
| 11.10 น. | ออกเดินทางสู่เมืองอิกวาซู โดยสายการบิน LATAM Airline เที่ยวบินที่ JJ 3684 |
| 13.20 น. | ถึงสนามบิน Cataratas International airport รถรอรับคณะแล้วเดินทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกอิกวาซู 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกยุคใหม่ ครอบคลุมพรมแดนระหว่างประเทศอาร์เจนตินาและบราซิล |
| 14.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ Restaurante Porto Canoas |
| บ่าย | นำท่านสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) มีต้นกำเนิดจากแม่น้ำ อิกวาซูที่ไหลมาจากที่ราบสูงปารานา และตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบเกินเป็นน้ำตกขนาดใหญ่มหึมา ถึงแม้น้ำตกโดยส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งอาร์เจนตินา แต่ท่านสามารถสัมผัสสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดด้วยทางเดินสะพานไม้ ที่ออกแบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ชุ่มฉ่ำไปกับสายน้ำตกอย่างใกล้ชิดที่สุด ละอองของสายน้ำในช่วงหน้าร้อนจะมีปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำให้ท่านได้ชม (ในกรณีที่ท่านมีความประสงค์จะขึ้น Helicopter ชมวิวทิวทัศน์และความยิ่งใหญ่บนมุมสูง ค่าเฮลิคอปเตอร์ 165 US$ / ท่าน กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ล่วงหน้า) |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม |
| ที่พัก | BOURBON CATARATAS DO IGUACU THERMAS ECO RESORT **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 6 | ชมน้ำตกอิกัวสุ (ฝั่งอาร์เจนตินา) - ล่องเรือชมน้ำตก - ท่องป่าร้อนชื้น |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
หลังอาหาร นำคณะเดินทางข้ามพรมแดนสู่ฝั่งอาร์เจนตินา
นำชม น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งอาร์เจนตินา) ฝั่งด้านนี้หนาแน่นไปด้วยป่าร้อนชื้น และกิจกรรมในการเที่ยวชมน้ำตกอย่างมากมาย น้ำตกอิกวาซู ประกอบไปด้วยน้ำตก 275 แห่ง สูงระหว่าง 60-82 เมตร แต่ละน้ำตกมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ ขนาดของน้ำตกกว้างประมาณ 4 ก.ม. นับเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในโลก ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่า 30 เท่า น้ำตกส่วนใหญ่อยู่ในอาร์เจนตินาราว 90% พื้นที่ป่าริมน้ำตกเป็นเขตคุ้ม ครองรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขตร้อนที่มีอยู่อย่างชุกชุม เช่น นกไทนามัส แมวป่าโอเซล เสือจากัวร์ สมเสร็จ เพ็คคารี และสัตว์นานาชนิดอีกมากมาย เส้นทางเดินชมน้ำตกจุดสูงสุดคือ Devil’s Throat จุดที่ท่านจะยืนเหนือน้ำตก สัมผัสละอองน้ำจากด้านบน และตื่นตาตื่นใจกับต้นกำเนิดของสายน้ำตก
จากนั้นเปลี่ยนวิวทิวทัศน์บนเส้นทางเดิน Upper Trail และ Lower Trail ที่ให้ความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน |
| บ่าย | สนุกสนานไปกับกิจกรรมที่ท่านรอคอย “ล่องเรือชมน้ำตก” เรือขนาดความจุ 30 ที่นั่ง แล่นไปตามสายน้ำจนเข้าสู่เขตม่านน้ำตก ที่ฝ่าด่านของสายน้ำอันเชี่ยวกราก และสายน้ำตกที่ส่งเสียงกึกก้องมหึมา ที่ท่านไม่ควรพลาดกับประสบการณ์ดีๆ ของความงามแบบธรรมชาติอย่างแท้จริง สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางกลับสู่ที่พักโรงแรม |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม |
| ที่พัก | BOURBON CATARATAS DO IGUACU THERMAS ECO RESORT **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 7 | เมืองอิกัวสุ - บินสู่ลิม่า (แวะเปลี่ยนเครื่องที่เซาเปาโล ประเทศบราซิล) |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
อิสระตามอัธยาศัย จนกระทั่งเวลาเช็คเอ๊าท์ |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
| 14.40 น. | ออกเดินทางสู่นครลิม่า (Lima) ประเทศเปรู โดยสายการบิน LATAM Airline เที่ยวบินที่ LA 3203/LA 8039 (แวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวรูลโฮส นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล) ***ไม่มีอาหารค่ำบริการ เนื่องจากอยู่ระหว่างทำการบิน*** |
| 22.25 น. | ถึงสนามบิน Jorge Chavez International Airport ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง แล้วนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก |
| ที่พัก | INNSIDE MIRAFLORES LIMA **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 8 | ลิม่า (เปรู) – คุสโก นครอันศักดิ์สิทธิ์ – Sacred Valley (หุบเขาอันศักดิ์สิทธิ์) |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
เที่ยว กรุงลิมา (Lima) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเปรู ศูนย์กลางการขนส่ง การเงิน อุตสาหกรรม และวัฒนธรรมของประเทศอีกด้วย ลิมาตั้งขึ้นโดยฟรันซิสโก ปีซาร์โร ผู้พิชิตชาวสเปน ในปีค.ศ. 1535 โดยให้ชื่อว่า นครแห่งกษัตริย์ (City of Kings) ลิมา เป็นเมืองหลวงมรดกโลกแห่งเปรู และนครหลวงที่สำคัญที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศเปรูมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของอเมริกาใต้ และเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำอเมซอน เป็นประเทศที่มีความหลากหลายในด้านชาติพันธุ์ ชนพื้นเมืองเชื้อสายสเปนผสมกับอินเดียนแดง, อัฟริกา, จีน, และญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งรกราก นำวัฒนธรรมมาเผยแพร่อย่างลึกซึ้ง
นำท่านเข้าสู่ ศูนย์กลางประวัติศาสตร์เมืองลิมา" (Historic Centre of Lima) ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองลิมา ประกอบไปด้วยเหล่าอาคาร รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญหลายแห่ง ซึ่งต่อมาได้ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก ในปี 1988 ปลาซา มายอร์ (Plaza Mayor) จัตุรัสเก่าแก่จุดกำเนิดของเมือง รอบจัตุรัสนั้นเรียงรายไปด้วยเหล่าอาคารที่มีสำคัญ อาทิทำเนียบประธานาธิบดี, วังอาร์คบิชอป (Archbishop Palace), วิหารแห่งลิมา (Lima Cathedral) วิหารคาทอลิกที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งสเปนเข้ามายึดครอง, ศาลาเทศบาลเมือง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม แล้วนำคณะเข้าสู่ที่พักโรงแรมย่านมิราฟอเรส (Miraflores) เมืองตากอากาศที่สุดแสนโรแมนติค ริมมหาสมุทรแปซิฟิก ร่มรื่นด้วยสวนสาธารณะและชายหาดที่งดงาม |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
| 15.50 น. | ออกเดินทางสู่เมืองคุสโก โดยสายการบิน LATAM Airline เที่ยวบินที่ LA2609 (Airbus 320-200) |
| 17.10 น. | ถึงสนามบินเมืองคุสโก (Cuzco) อดีตเมืองหลวงศูนย์กลางอาณาจักรอินคา บนเทือกเขาแอนดีส ที่ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 3,400 เมตร คุสโกเป็นเมืองที่สวยและมีเสน่ห์ในตัวเอง
รถรอรับคณะแล้วเดินทางสู่ “Sacred Valley” หรือ “เขตหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคา” ที่ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ขนาดใหญ่ในแถบเทือกเขา Andes ตั้งแต่เมือง Cusco ไปจนถึง Machu Picchu ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคาที่เรียกกันว่า “อินคาเทรล” |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม |
| ที่พัก | AGUSTO’S URUBAMBA *** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 9 | Sacred Valley - มาชูปิกชู (เมืองมรดกโลก) - คุสโก |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
ออกเดินทางสู่มาชู ปิกชู ได้รับการโหวตให้เป็น New7Wonders of the world และ ได้จัดอันดับแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดในโลก ทั้งความยิ่งใหญ่ และความสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณของชาวอินคา มาชูปิกชู เมืองสาบสูญแห่งอินคา นครกลางฟ้าแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในเทือกเขาแอนเดส ประเทศเปรู เนื้อที่ประมาณ 13 ตร.กม.ของหุบเขาอุรุบัมบ้า ที่ความสูง 2,430 เมตรระดับน้ำทะเล เป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีต ถูกทิ้งร้างเอาไว้และถูกปกคลุมอยู่ด้วยป่าดงดิบนานนับศตวรรษ นักผจญภัยชาวอเมริกัน ฮีราม บิงแฮม ได้ถูกพาไปหามันในปีค.ศ.1911 โดยเด็กหนุ่มท้องถิ่นวัยเพียง 10 ขวบ ปัจจุบันเชื่อกันว่า ที่นี่เป็นที่พักผ่อนของชนชั้นสูงชาวอินคา คาดว่าสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1450 โดยจักรพรรดิปาชากูตีของชาวอินคา มาชูปิกชู ถูกปล่อยทิ้งไว้นับร้อยปี เพราะชาวสเปนได้เข้ามาล่าอาณานิคม และฆ่าชาวเปรูและชาวอินคา เมืองอินคาเลยถูกปล่อยร้างไว้ จนกระ ทั่งฮีรามมาค้นพบ แล้วแพร่กระจายข่าวไปทั่วโลก |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
| บ่าย | นำท่านเข้าชมนครที่สาบสูญ "The Lost City of the Incas" โบราณสถานถูกสร้างเป็นลักษณะขั้นบันไดไล่ลงมาตามความชันของหุบเขา แต่ละชั้นสูง 3-4 เมตร มีจำนวนทั้งหมด 40 ชั้นซึ่งถูกเชื่อมถึงกันด้วยบันไดกว่า 3,000 ขั้น และมีสิ่งก่อสร้างซึ่งสร้างด้วยหินกว่า 200 หลัง สมมติฐานจากนักสำรวจและผู้ค้นพบ เปิดเผยว่า มาชูปิกชู เคยถูกปกครองโดยนักบวชของลัทธิบูชาสุริยะ และมีการทำพิธีถวายหญิงสาวเป็นเครื่องสังเวยแก่พระเจ้าของพวกเขา ที่นี่ยังเป็นป้อมปราการสุดท้ายของชาวอินคาที่ต่อสู้กับชาวสเปนอีกด้วย อีกสมมติฐานหนึ่งว่า มาชูปิกชู น่าจะเป็นที่พักตากอากาศสำหรับเชื้อพระวงศ์ในฤดูร้อน ประกอบด้วยวัง มีวิหารและคฤหาสน์ ล้อมอยู่รอบ ๆ รวมไปถึงที่พักของผู้ทำงานในสถานที่นั้น ๆ ด้วย คาดว่าน่าจะมีผู้อาศัยอยู่ไม่เกิน 750 คน จนกระทั่งถูกชาวสเปนมายึดดินแดนในอีก 80 ปีต่อมา
คณะเดินทางกลับเมืองคุสโก้ |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
| ที่พัก | XIMA CUSCO HOTEL **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 10 | คุสโก - เที่ยวเมืองคุสโก - ลิม่า |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
เที่ยวชมเมืองคุสโก เสน่ห์เมืองเก่าผสมผสานอารยธรรมที่แตกต่าง เมืองนี้ตั้งถิ่นฐานมาเป็นพันปีและเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดโดยชาวเผ่าอินคา เข้ามามีอำนาจโดยใช้เมืองคุสโก (ตามภาษาเกอชัว (Quechua) ภาษาของชาวอินคาโบราณแปลว่า “สะดือของโลก”) เป็นศูนย์กลางอำนาจขยายอิทธิพลไปทั่วเทือกเขาแอนดีส ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงสิ้นสุดลงในคริสต์ศตวรรษที่ 16 โดยการรุกรานจากสเปนในช่วงล่าอาณานิคม ชมสถาปัตยกรรมยุคก่อนอินคา ,อินคา ,สเปน และรวมไปถึงอารยธรรมสมัยใหม่ ปลาซ่าเดออาร์มัส (Plaza de Armas) จัตุรัสกลางเมือง แหล่งพบปะของชาวอินคา ตรงกลางเป็นสวนสาธารณะ มีน้ำพุ รูปปั้น ล้อมรอบด้วยอาคารเก่า ๆ เรียงรายด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่ทันสมัย บรรยากาศย้อนยุคแบบชิลล์เอ๊าท์ ชมโบสถ์แห่งเมือง Cathedral of Cusco ก่อสร้างขึ้นในยุคอาณานิคม สถาปัตยกรรมแบบโกธิค โบสถ์แห่งนี้ก็สร้างขึ้นบนฐานของราชวังเดิมของชาวอินคาและยุคก่อนอินคา ชมโบสถ์ซานโตโดมิงโก้ (Church of Santo Domingo) โบสถ์แห่งนี้สร้างทับลงบนศาสนสถานดั้งเดิมที่เรียกว่า โคริกันชา (Qoricancha) วิหารแห่งสุริยา หรือ Temple of the Sun ของชาวอินคา ซึ่งเดิมเรียกว่า อินติคันชา (Inti Kancha) หรือวิหารทองคำ ที่ชาวอินคาใช้บวงสรวงสุริยะเทพ ว่ากันว่าในยุคอินคานั้น โครงสร้างหินขนาดใหญ่ ที่ทำเป็นห้อง ๆ เหล่านี้ฉาบทาไปด้วยทองคำล้วน ๆ แล้วพาท่านออกนอกตัวเมืองเพื่อชมโบราณสถานแซคไซวามาน (Sacsayhuaman) อดีตป้อมปราการขนาดใหญ่ สร้างจากหินแกรนิต เรียงเข้ามุมกันหินแต่ละก้อนหนัก 90-120 ตัน ไม่มีทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง (ก่อนยุคอินคา) และสร้างไว้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร หลักฐานทางโบราณคดีบ่งบอกว่า ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ปัจจุบันมีงานเทศกาลเฉลิมฉลองทุก ๆ ปีในวันที่ 24 มิถุนายน โดยมีผู้คนแต่งกายชุดพื้นเมืองออกมาเต้นรำกันอย่างงดงาม |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
| 16.55 น. | ออกเดินทางสู่เมืองลิม่า เมืองหลวงของประเทศเปรู โดยเที่ยวบินที่ LA2024 (Airbus 319) |
| 18.25 น. | ถึงสนามบินเมืองลิม่า รถปรับอากาศรอรับคณะแล้วออกเดินทางสู่ภัตตาคาร |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม |
| ที่พัก | INNSIDE MIRAFLORES LIMA **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 11 | ลิม่า - บัวโนสไอเรส |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม |
| 09.40 น. | ออกเดินทางสู่เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า โดยสายการบิน LATAM AIRLINES โดยเที่ยวบินที่ LA 2380 (AIRBUS 320) **ไม่มีบริการอาหารกลางวันเนื่องจากอยู่ในระหว่างทำการบิน** |
| 16.00 น. | ถึง สนามบิน International airport Ezeiza กรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงที่ผสมผสานวัฒนธรรมใหม่และเก่าได้อย่างลงตัว และได้รับวัฒนธรรมยุโรปมาอย่างมากมาย จึงถูกเรียกว่า "ปารีสใต้" หรือ "ปารีสแห่งอเมริกาใต้" เมืองนี้เป็นเมืองสมัยใหม่ที่สุดแห่งหนึ่งในลาตินอเมริกา โดยมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม ชีวิตกลางคืน และกิจกรรมทางวัฒนธรรม บัวโนสไอเรส คือ สุดยอดเมืองสุนทรีย์แห่งลาตินอเมริกา นำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
| ที่พัก | 725 CONTINENTAL HOTEL ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 12 | บัวโนสไอเรส - ลาโบกา - ปลาซา มายอร์ - ซาน เตลโม – ชมแทงโก้โชว์ |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
นำคณะเที่ยวชมกรุงบัวโนสไอเรส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำริโอ เดอ ลาพลาตา (Rio de la Plata) ย่านลาโบกา (La Boca) จุดกำเนิดของทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โบคาจูเนียร์ และนักฟุตบอลระดับโลกอย่าง ดิเอโก้ มาราโดนา เป็นย่านที่มีสีสันมากที่สุด ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง (กราฟฟิตี) ถนนคนเดิน, สโมสรแทงโก เข้าสู่ปลาซ่า มายอร์ ที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี หรือที่มีชื่อเรียกว่า “ลา กาซาโร ซาดา” (casa rosada) แปลว่าบ้านสีชมพู ถนน Avenida 9 de Julio ที่ตั้งของเสาโอบิลิกส์ ถูกสร้างขึ้นในปี 1936 เป็นสถานที่ที่ธงอาร์เจนตินาถูกเชิญสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก มหาวิหารโรเซอแรตต้า (The Metropolitan Cathedral) วิหารแห่งนี้เป็นที่ประทับของ คาร์ดินัลฆอร์เก้ มาริโอ้ แบร์กอกลิโอ หรือ พระสันตะปาปาฟรานซิสที่ 1 แห่งคริสตจักร ก่อนที่จะย้ายไปประทับที่วังวาติกัน |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
| บ่าย | นำท่านไปชมย่าน San Telmo เป็นชุมชนเก่าแก่ที่สุดในเมืองหลวงแห่งนี้ แหล่งรวมของศิลปะ หัตถกรรมชาวพื้นเมืองและของโบราณ รวมไปถึงการแสดงพื้นเมืองและการดนตรี การเต้นรำจังหวะ Tango (แทงโก้) และความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวยามราตรี แวะชมแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือ แกลลอรี่แปซิฟิก สถาปัตยกรรมแบบบองมาเช่ในฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจุดที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพจิตรกรรมเพดานภายในโดมขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 450 ตร.กม. อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งร้านขายสินค้ากว่า 150 ร้าน ในพื้นที่กว่า 11,000 ตร.ม. |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พร้อมชมการเต้นแทงโก้ ศิลปะการเต้นรำนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวอาร์เจนตินา ที่ท่านไม่ควรพลาดชม |
| ที่พัก | 725 CONTINENTAL HOTEL ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 13 | บัวโนสไอเรส - ฟาร์ม Estancia - วิถีชีวิตแบบ Gauchos |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางท่องเที่ยวฟาร์ม เอสตันเซีย ตามแบบฉบับของอาร์เจนตินา และค้นพบชีวิตของ "gauchos" เพลิดเพลินกับบ้านของโคบาลในตำนาน จินตนาการโรแมนติกเกี่ยวกับอาร์เจนตินาทั้งหมดกระจุกตัวอยู่ที่นี่ Pampa of Buenos Aires ปัมปาเป็นหญ้าทะเลสีเขียวที่ครอบคลุมพื้นที่แห่งนี้ เริ่มการต้อนรับด้วย Empanadas อาหารทานเล่นแบบ Pastry อาร์เจนตินาแบบดั้งเดิม บ้านเรือนใน เอสตันเซีย มีโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคที่ยังคงรักษาไว้ ให้ท่านได้สัมผัสกับการขี่ม้าเล็กๆในทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้คุณได้เข้าใจวิถีชีวิตของโคบาลที่ทำงานด้านการเลี้ยงโค ร่วมการแข่งขัน "เกมโคบา" แบบดั้งเดิมและการแข่งขัน "Sortijas" (เกมทักษะการขี่ม้าที่แท้จริง) |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวันแบบ "Asado" โดย Gachos บาร์บีคิว "อาร์เจนติน่า" ที่มีเนื้อหลายชิ้น พร้อมการสาธิตการแสดงพื้นบ้านจะทำให้มื้ออาหารของคุณมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น |
| บ่าย | เดินทางกลับสู่กรุงบัวโนสไอเรส |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
| ที่พัก | 725 CONTINENTAL HOTEL ***** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
| วันที่ 14 | บัวโนส ไอเรส - San Isidro - Tigre - เดินทางสู่สนามบิน |
| เช้า | รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
ออกเดินทางจากตัว เมืองบัวโนสไอเรสไม่ไกลมากนัก ท่านจะได้ชมวิถีชีวิตแบบชานเมืองที่มีชื่อเสียง San Isidro และ Tigre ย่านที่อยู่อาศัยอันโอ่อ่า ถนนที่มีต้นไม้เรียงราย และวิวแม่น้ำอันตระการตา ซาน อิซิโดร สำรวจศูนย์กลางประวัติศาสตร์และอาสนวิหารสไตล์นีโอโกธิคที่มีชื่อเสียง และเดินทางมาถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำปารานา หนึ่งในแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ทอดยาว 14,000 กิโลเมตร ควรค่าแก่การได้มาเยี่ยมชมเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการล่องเรือ ผ่านคลองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ ใช้เวลาเดินเรือ 50 นาทีและชมทิวทัศน์อันงดงามของบัวโนสไอเรส รวมถึงพืชและสัตว์พื้นเมือง |
| เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท่ามกลางวิวอันแสนสวยของแม่น้ำ |
| บ่าย | นำท่านชมแหล่งช้อปปิ้งที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองคือ แกลลอรี่แปซิฟิก สถาปัตยกรรมแบบบองมาเช่ในฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 และจุดที่โดดเด่นที่สุดคือ ภาพจิตรกรรมเพดานภายในโดมขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 450 ตร.กม. อิสระให้ท่านได้เลือกช้อปปิ้งร้านขายสินค้ากว่า 150 ร้าน ในพื้นที่กว่า 11,000 ตร.ม. |
| ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
| 19.00 น. | ออกเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติมินิสโตร ปิสตารินี เพื่อเตรียมเดินทางกลับสู่ประเทศไทย |
| 22.20 น. | สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ ออกเดินทางสู่นครดูไบ โดยเที่ยวบินที่ EK248 (Boeing 777-300 ER) |
| วันที่ 15 | สนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
| 23.35 น. | ถึง สนามบินนครดูไบ (สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์) รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
| วันที่ 16 | ดูไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ |
| 03.05 น. | ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ โดยเที่ยวบินที่ EK 384 (Airbus A380-800) |
| 12.35 น. | นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
หมายเหตุ ทางบริษัทได้เตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ก่อน 45 วัน โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองที่พัก, ร้านอาหาร สถานที่เข้าชมต่างๆ ไว้ล่วงหน้าให้กับกรุ๊ปทัวร์ กรณีที่เกิดเหตุการณ์ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การจลาจล, ภัยพิบัติ, การถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ทำให้การเดินทางล่าช้า หรือเหตุสุดวิสัยอื่นๆ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายตามโปรแกรมได้ หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ชำระแล้ว เพราะทางบริษัทฯ ได้ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เกิดขึ้นนอกจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัทฯ มิอาจรับผิดชอบได้ |
หน้าแรก
สมาชิก
Blogs
Site Map
เฟสบุค
ทัวร์ต่างประเทศ 
คัดลอก URL 
ทัวร์อาร์เมเนีย
ทัวร์มาดากัสการ์
ทัวร์เม็กซิโก
ทัวร์ป่าหูหยาง
ทัวร์มัลดีฟ
ทัวร์ฟินแลนด์
ทัวร์โครเอเชีย
ทัวร์ไอซ์แลนด์
ทัวร์ตุรกี
ทัวร์รัสเซีย
ทัวร์ออสเตรเลีย
ทัวร์นิวซีแลนด์
ทัวร์อังกฤษ
ทัวร์อิตาลี
ทัวร์สวิส
ทัวร์ฝรั่งเศส
ทัวร์ออสเตรีย
ทัวร์เยอรมัน
ทัวร์เชค
ทัวร์กรีซ
ทัวร์สเปน
ทัวร์โปรตุเกส
ทัวร์อเมริกา
ทัวร์แคนาดา
ทัวร์ญี่ปุ่น
ทัวร์ไต้หวัน
ทัวร์โรมาเนีย
ทัวร์สวีเดน
ทัวร์บัลแกเรีย
ทัวร์นอร์เวย์
ทัวร์เดนมาร์ก
ทัวร์ลัตเวีย
ทัวร์เอสโตเนีย
ทัวร์โปแลนด์
ทัวร์เบลเยียม
ทัวร์เนเธอร์แลนด์
ทัวร์สโลวาเกีย
ทัวร์ฮังการี
ทัวร์บอสเนีย
ทัวร์สโลวีเนีย
ทัวร์มอนเตเนโกร
ทัวร์ตูนิเซีย
ทัวร์แอฟริกาใต้
ทัวร์เปรู
ทัวร์เอธิโอเปีย
ทัวร์อียิปต์
ทัวร์บราซิล
ทัวร์ชิลี
ทัวร์โมร็อกโก
ทัวร์เคนย่า
ทัวร์อินโดนีเซีย
ทัวร์เวียดนาม
ทัวร์เกาหลี
ทัวร์อินเดีย
ทัวร์ภูฏาน
ทัวร์ศรีลังกา
ทัวร์ปากีสถาน
ทัวร์มองโกเลีย
ทัวร์อัฟกานิสถาน
ทัวร์ฟิลิปปินส์
ทัวร์ซาอุดิอาระเบีย
ทัวร์อิหร่าน
ทัวร์ลิเบีย
ทัวร์น่าน