วันที่ 1 | กรุงเทพมหานคร - ปารีส |
08.30 น. | คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เชคอิน สายการบินแอร์ฟร้านซ์ แถว P 1-15 ประตูทางเข้าที่ 7-8 อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ |
11.30 น. | ออกเดินทางสู่ มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยสายการบินแอร์ฟร้านซ์ เที่ยวบิน AF165 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.20 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับจอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ บนเครื่องบิน |
18.45 น. | เดินทางถึงสนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Mercure Paris Charles De Gaulle Hotel **** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | ปารีส - ริโอเดอจาเนโร |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) |
10.40 น. | ออกเดินทางจากสนามบินชาลส์เดอโกว์ (CDG) สู่สนามบินริโอเดอจาเนโร (GIG) ประเทศบราซิล โดยสายการบินแอร์ฟร้านซ์ เที่ยวบิน AF442 สัมผัสประสบการณ์บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล (ใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารกลางวัน และ อาหารค่ำบนเครื่องบิน ********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล ******* |
18.15 น. | เดินทางถึงสนามบินริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร ระดับโลก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Winsor Plaza Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 3 | รูปปั้นของพระเยซู (Christ of Redeemer) - เคเบิ้ลคาร์ขึ้นยอดเชาชูการ์โลฟ - เที่ยวชมเมืองริโอเดอจาเนโร |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ กรุงริโอเดอจาเนโร (Rio De Janeiro) ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “เมืองแห่งพระเจ้า” สำหรับเมืองริโอเดอจาเนโร ถูกเอ่ยถึงอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อ 500 กว่าปีก่อน ในเดือนมกราคม ปี 2045 นักสำรวจชาวโปรตุเกสนาม กาสปาร์ เลมอส ล่องเรือมาถึงอ่าวแห่งนี้และได้เรียกเมืองแห่งปากแม่น้ำนี้ว่า “ ริโอเดอจาเนโร” ซึ่งมีความหมายว่า “แม่น้ำแห่งเดือนมกราคม” นำท่านเดินทาง ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ สู่ยอดเขาคอร์โควาโด (Corcovado Mountain) (ระยะทาง 14 กม. ใช้เวลาเดินทาง 30นาที) อันเป็นที่ตั้งของรูปปั้นของพระเยซู ชื่อ Christ of Redeemer ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ รูปปั้นพระเยซูที่มีความสูงประมาณ 700 เมตรนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาคอร์โควาโด เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองและชายหาดที่สวยที่สุด นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถรางไปบนยอดเขาเพื่อมองรูปปั้นอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบราซิลและคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลกได้อย่างใกล้ชิด ชาวบราซิลมักจะกล่าวอ้างว่า พระเจ้าเป็นชาวบราซิล ซึ่งอาจเป็นเพราะรูปปั้นพระเยซู ที่ยืนเพ่งมองมายังเมืองราวกับว่า ริโอ อยู่ในความคุ้มครองของพระองค์ (ทั้งนี้การขึ้นสู่ยอดเขาขึ้นกับสภาพอากาศ) อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและถ่ายรูปตามอัธยาศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านเดินทางขึ้นเคเบิ้ลคาร์ สู่ยอดเขาชูการ์โลฟ (Sugar Loaf Mountain) (ระยะทาง 14 กม. ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที) เป็นยอดเขาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดเลื่องชื่อ โคปาคาบานา ยอดเขาแห่งนี้ มีความสูง 1,400 เมตร ซึ่งสูงตระหง่านอยู่ที่ปลายแหลมสุดของปากอ่าว กวานาบารา และตั้งโดดเด่นคู่กับภูเขาคอร์โควาโด ท่านสามารถชมทิวทัศน์และภาพอันงดงามของเมืองริโอ เดอจาเนโร จากมุมสู่ของยอดเขาชูการ์โลฟ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมือง ริโอ เดอจาเนโร ซึ่งเป็นประตูสู่ประเทศบราซิล ได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นำท่านแวะถ่ายรูปกับ สนามกีฬามารากาน่า (Maracana stadium) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเหมือนวิหารของฟุตบอลบราซิล เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 3 ของเมือง และเป็นสถานที่ที่ชาวเมืองภาคภูมิใจมาก มีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของฟุตบอลบราซิลเกิดขึ้นที่นี่มากมาย เช่น การยิงประตูที่ 1,000 ของเปเล่ ตำนานลูกหนังแซมบ้าเมื่อ 40 ปีก่อน และยังเป็นสนามที่เขาลงเล่นให้ทีมชาติเป็นนัดแรกด้วย สนามนี้ถูกใช้เป็นที่จัดพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ รวมถึงจะใช้จัดพิธีเปิดและปิดกีฬาโอลิมปิกปี 2016 ได้เวลานำท่านผ่านชมฟลาเมนโกพาร์ค (Flamengo Park) สะพาน Neteroi ก่อนลัดเลาะไปตามชายฝั่งทะเล ผ่านชายหาดที่มีชื่อเสียงก้องโลก จนถึงหาดโคปาคาบานา (Copacabana Beach) ที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร นำท่านเชคอินในโรงแรมที่พัก อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยก่อนมื้ออาหารค่ำ เพื่อปรับร่างกาย หรือหากท่านยังไม่ง่วง ท่านสามารถเดินเล่นริมชายหาดโคปาคาบานา หรือ เลือกช้อปปิ้ง หรือท่านจะเลือกเล่นน้ำทะเล พักผ่อนบนชายหาดอันเลื่องชื่อระดับโลก |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน |
ที่พัก | Winsor Plaza Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 4 | น้ำตกอิกวาซู (1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก) ฝั่งอาร์เจนติน่า |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่สนามบินริโอ เดอ จาเนโร |
11.10 น. | ออกเดินทางจากสนามบินริโอ เดอ จาเนโร เพื่อเดินทางสู่น้ำตกอิกวาซู (ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง) อิสระอาหารกลางวันบนเที่ยวบิน (อาจมีค่าใช้จ่าย) |
13.25 น. | เดินทางถึงสนามบินอิกวาซู นำท่านสัมผัสบรรยากาศ น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งอาเจนตินา) (ระยะทาง 47 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1.05 ชม.) น้ำตกทางฝั่งอาร์เจนติจะยาวกว่าน้ำตกทางฝั่งบราซิลมาก ท่านสามารถชมน้ำตกได้แบบใกล้ชิดมากกว่า อีกทั้งยังมีทางเดินริมน้ำตกไปสู่จุดชมวิวต่างๆมากมาย ซึ่งน้ำตกส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งอาร์เจนตินามากถึง 80% ดังนั้นท่านจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติน้ำตกได้อย่างใก้ชิดมากกว่า น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) และชมบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ในยามเย็น มีเส้นทางเดินชมน้ำตกจุดสูงสุด คือ Devil’s Throat จุดที่ท่านยืนเหนือน้ำตก จะได้สัมผัสละอองน้ำจากด้านบน และตื่นตาตื่นใจไปกับต้นกำเนิดของสายน้ำตก ประเทศบราซิลและประเทศอาร์เจนตินาต่างประกาศให้บริเวณพื้นที่ป่าริมน้ำตกเป็นเขตอุทยานแห่งชาติของทั้งสองประเทศ เพื่อคุ้มครองรักษาสัตว์ป่าเขตร้อนที่มีอยู่อย่างชุกชุม เช่น นกไทนามัส แมวป่าโอเซล เสือจากัวร์ สมเสร็จ เพ็คคารี และสัตว์นานาชนิดอีกมากมาย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Wyndham Foz Iguazu Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1) |
วันที่ 5 | น้ำตกอิกวาซุ (ฝั่งบราซิล) - ล่องเรือ Jet Macuco – เขื่อนอิไตปู |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชมเขื่อนอิไตปู (Itaipu Dam) (ระยะทาง 18 กม. ใช้เวลาเดินทาง 25 นาที) เขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตนั้นจัดว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่เขื่อนในประเทศจีนจะมีการก่อสร้างเสร็จ เขื่อนอิไตปูสร้างในปีค.ศ.1984 แล้วเสร็จในปีค.ศ.1988 รวมระยะเวลาการก่อสร้าง 4 ปี คำว่า “อิไตปู” มาจากภาษากวารานิของชาวอินเดียนแดงชนเผ่าดั้งเดิม แปลว่า “เสียงเพลงจากก้อนหิน” เขื่อนอิไตปู กั้นแม่น้ำปารานาบริเวณเขตแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศปารากวัย ซึ่งนอกจากเป็นผนังกั้นน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศอีกด้วย ตัวเขื่อนมีขนาดความสูง 180 เมตร ความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใช้คอนกรีตในการก่อสร้างกว่า 28 ล้านตัน และใช้เหล็กมากขนาดที่ว่าใช้สร้างหอไอเฟลได้ถึง 380 หอเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย เนื่องจากความอลังการของเขื่อนแห่งนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นเก็บภาพความน่าประทับใจของเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้แห่งนี้ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่าน ล่องเรือ Jet Macuco (Great Adventure Boat) ชมความสวยงามของแม่น้ำอิกวาซู และชมความงดงามของน้ำตกแห่งนี้แบบใกล้ชิด (กรุณาเตรียมเสื้อผ้า 1 ชุด สำหรับเปลี่ยนหลังล่องเรือแล้ว) (ทางบริษัทจัดเตรียมเสื้อกันฝนให้ลูกค้าทุกท่าน) นำท่านชมความงดงามและความยิ่งใหญ่ของน้ำตกอิกวาซู (Iguazu Falls) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาเดินทาง 25 นาที) ซึ่งเป็นคำมาจากภาษากวารานี (Guarani) ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม แปลว่า “สายน้ำอันยิ่งใหญ่” ค้นพบโดยนักสำรวจชาวสเปนชื่อ AI VARO NUNES CABEZA DE VECA เมื่อปี ค.ศ. 1542 น้ำตกอิกวาซู ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้และขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกโดยใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการ่าประมาณ 30 เท่า อย่างไรก็ตามขนาดของน้ำตกใกล้เคียงกับน้ำตกวิกตอเรียในทวีปแอฟริกา น้ำตกอิกวาซูเกิดจากแม่น้ำอิกวาซูซึ่งไหลมาจากที่ราบสูงปารานา ตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบต่ำกว่า จึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกใหญ่น้อยอีกกว่า 275 แห่ง ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมีนาคมปริมาณน้ำมีมากถึงกว่า 13.6 ล้านลิตรต่อวินาที แต่ในช่วงฤดูร้อน คือระหว่างเมษายนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำจะลดลงเหลือ 2.3 ล้านลิตรต่อวินาที บริเวณรอบๆ น้ำตกจะเกิดละอองน้ำอยู่ตลอดเวลาและมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร บนฝั่งประเทศบราซิลจะมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงาม นำท่านสัมผัสบรรยากาศ น้ำตกอิกวาซู (ฝั่งบราซิล) ซึ่งเป็นฝั่งที่ท่านสามารถมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงามที่สุด ท่านจะได้สัมผัสกับความงามแสนมหัศจรรย์ของธรรมชาติ น้ำตกทรงเกือกม้าที่เกิดจากแม่น้ำริโออิกวาซูทั้งสายไหลมาจากหน้าผาเบื้องบนตกลงสู่หุบเหวย่อย ๆ กว่า 30 แห่ง พลังน้ำตกที่ตกลงมากระทบก้อนหินเบื้องล่างก่อให้เกิดละอองน้ำกระเซ็นกระจายไปทั่วปรากฏเป็นรุ้งกินน้ำสีสวยสดใส ซึ่งท่านสามารถเดินเข้าไปสัมผัสกับพลังของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำในโรงแรม |
ที่พัก | Wyndham Foz Iguazu Hotel **** หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2) |
วันที่ 6 | อิกวาสุ - ลิมา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย |
11.00 น. | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
12.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินอิกวาซู |
14.55 น. | ออกเดินทางจากสนามบินอิกวาซู สู่สนามบินเมืองลิมา (ประเทศเปรู) แวะเปลี่ยนเครื่องที่เซาเปาโล สายการบินมีบริการของว่างและเครื่องดื่มระหว่างเที่ยวบิน |
16.40 น. | เดินทางถึงสนามบินเซาเปาโล แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน |
19.15 น. | ออกเดินทางจากสนามบินเซาเปาโล สู่ สนามบินลิมา โดยเที่ยวบิน LA8039 |
22.45 น. | เดินทางถึงสนามบินลิมา ประเทศเปรู นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร |
ที่พัก | Holiday Inn Lima Flores Hotel**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | ลิมา - คูซโก้ (ค้าง 2 คืน) - วิหารพระอาทิตย์ - กำแพงเมืองซัคเซฮัวมัน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชม กรุงลิมา (Lima) เมืองหลวงที่ยังคงรักษาความเป็นละตินอเมริกาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดเมืองหนึ่ง เมืองลิมาตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.1535 โดยชาวสเปนชื่อฟรานซิสโก ปิซาโร และ ในปี 1991 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้ลิมาเป็นเมืองมรดกทางวัฒนธรรม นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทองคำ (Golden Museum) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมศิลปะวัตถุซึ่งทำด้วยทองคำของชาวเปรูมาตั้งแต่อดีตกาล นับเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บวัตถุโบราณที่ผลิตจากทองคำ อันใหญ่เป็นอันดับสองของอเมริกาใต้ รองจากพิพิธภัณฑ์ทองคำในประเทศโคลัมเบีย จากนั้นนำท่านชม จตุรัส อาร์ม (Plaza De Armas) นำท่านแวะถ่ายรูปกับทำเนียบรัฐบาล (Lima Parliament) ซึ่งเด่นสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล นำท่านถ่ายรูปกับ The Basilica Cathedral of Lima โบสถ์คาทอลิคที่สร้างตั้งแต่ ค.ศ.1535 นำท่านผ่านชมย่านที่พักอาศัยชานเมืองแถวมิราโฟลเรสและซานอิสโตรซึ่งมีชื่อเสียงด้านความงามของบ้านและสวน จากนั้นนำท่านเข้าชม โบสถ์ซานฟรานซิสโก (San Franc Cisco Convent) ซึ่งเป็นโบสถ์เรียกในภาษาสเปน โบสถ์แห่งนี้ได้สร้างอุทิศให้แก่ เซนต์ฟรานซิส โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลิมา ซึ่งเมืองเก่าแห่งนี้ได้รับการยกย่องและขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1991 |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
13.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินลิมา เพื่อเดินทางสู่เมืองคูซโก้ อันเป็นที่ตั้งของอาณาจักรอินคาอันยิ่งใหญ่ มาชูปิคชู |
15.50 น. | ออกเดินทางสู่เมืองคูซโก้ (Cuzco) โดยเที่ยวบิน LA2322 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ช.ม.) |
17.20 น. | เดินทางถึงสนามบินคูซโก้ นำท่านเดินทางสู่หุบเขาซาเครท (Sacred Valley) อันเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ ที่จะเปิดให้ท่านเดินทางไปชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างมาชู ปิคชู |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม |
ที่พัก | Posada del Inca Yucay Hotel**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | นั่งรถไฟไต่เขาขึ้นสู่ มาชู ปิคชู (1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดของโลก) – คูซโก้ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่เมืองโอลันตาทัมโบ (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1.25 ชม.) เพื่อขึ้นรถไฟสู่นครโบราณของอาณาจักรอินคา มาชู ปิคชู (Machu Picchu) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ใหม่ล่าสุดของโลก โดยรถไฟไต่ขึ้นเทือกเขาแอนดิสอันยิ่งใหญ่ ระหว่างทางท่านจะได้ชมความงามและความลึกลับของบรรยากาศโดยรอบที่เข้ากับสถานที่ ข้างทางเป็นแม่น้ำอูรูบัมบา (Urubamba) ไหลแรงคดเคี้ยวขนานไปกับทางรถไฟสู่ปลายทางที่สถานีที่ เมืองอควาส์ กาเลียนเต้ส์ (Aquas Calientes) จากนั้นเดินทางโดยรถบัสสู่ มาชู ปิคชู (Machu Picchu) นครที่หายสาบสูญไปของอาณาจักรอินคา บนยอดเขาสูงที่ถูกหมอกปกคลุมอยู่เสมอ จนถึงปี 1911 นครแห่งนี้จึงปรากฏสู่สายตาชาวโลกในลักษณะสภาพบ้านเมือง บ้านเรือน พระราชวัง วิหาร ซึ่งยังคงสภาพเดิมที่ดีราวกับได้รับการอนุรักษ์ดูแลไว้อย่างน่าอัศจรรย์ นครโบราณแห่งนี้ถูกค้นพบโดยฮิรัม บิงแฮม ซึ่งตั้งใจจะหาเมืองโบราณสองเมืองที่ปรากฎชื่ออยู่ในเอกสารโบราณ แต่กลับมาพบเมืองที่ไม่ปรากฎอยู่ในเอกสารใดทั้งสิ้น จึงได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อภูเขาอันเป็นที่ตั้งคือ Machu Picchu ซึ่งมีความหมายว่า Old Mountain และ ยังมียอดเขา Huayna Picchu หรือ New Mountain ขนาบข้าง ตัวโบราณสถานมาชู ปิคชู ซ่อนอยู่บนยอดเขาสูงเฉียดฟ้า และ ณ ที่แห่งนี้คือเมืองที่ไม่กี่ร้อยปีมานี้ยังมีผู้คนอาศัย ก่อนจะถูกทิ้งร้างไปเมื่อสเปนเข้ามาปกครองในสมัยศตวรรษที่ 15 อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยศัย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ***** อิสระให้ท่านชม เก็บภาพ ความสวยงามของเมืองโบราณแห่งอาณาจักรอินคา ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่ควรพลาดที่จะได้มาเยือน***** |
บ่าย | ออกเดินทางโดยรถไฟกลับสู่เมืองโอลันตาทัมโบ ท่านจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อีกฟาก ของรถไฟ ตลอดเส้นทางการไต่ลงจากเทือกเขาแอนดิส พร้อมความภูมิใจและความประทับใจที่ครั้งหนึ่งท่านได้มาเยือน เมืองโบราณอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอินคา เมืองโบราณที่หายสาบสูญมานาน และได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคูซโก้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม |
ที่พัก | Sonesta Cuzco Hotel**** หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | คูซโก้ - กำแพงหิน 12 Side Stone - จตุรัสอาร์ม - ลิมา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านชมย่านเมืองเก่าของเมืองคูซโก้ เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1983 นำท่านชมกำแพงหิน หรือที่รู้จักในนาม 12 Side Stone ที่สร้างขึ้นโอบล้อมเมืองเก่าคูซโก้ กำแพงนี้สร้างจากภูมิปัญญาของชาวอินคาโบราณ โดยการนำหินก้อนใหญ่มาเรียงกันสร้างเป็นกำแพงเมืองขนาดใหญ่ นับได้ ว่าเป็นอีกสิ่งมหัศจรรย์ของเมืองเก่าคูซโก้ นำท่านเดินชมความสวยงามของเมืองคูซโก้ นำท่านสู่จตุรัสอาร์ม (Arms Square) หรือที่รู้จักในนาม จตุรัสนักรบ (Square of the warrior) และเป็นที่ตั้งของ โบสถ์ลาคัมปาเนีย (Church of la Compania de Jesus) นำท่านเข้าชมโบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1576 และได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่สร้างแบบสถาปัตกรรมโคโลเนียล บาโร๊คที่สวยงามคู่เมืองคูซโก้มานาน อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจของเมืองคูซโก้ อดีตเมืองราชธานีที่รุ่งเรืองที่สุดของอเมริกาใต้ |
10.00 น. | นำท่านเดินทางสู่สนามบินคูซโก้ *** อิสระให้ท่านรับประทานอาหารกลางวัน ภายในสนามบิน**** |
12.30 น. | ออกเดินทางจากสนามบินคูซโก้ สู่ สนามบินลิมา โดยเที่ยวบิน LA2321 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.20 ช.ม.) |
14.30 น. | เดินทางถึงสนามบินลิมา ประเทศเปรู นำท่านสู่เคาน์เตอร์เชคอินสายการบิน KLM |
18.00 น. | ออกเดินทางจากสนามบินลิมา (LIM) สู่สนามบิน อัมสเตอร์ดัม (AMS) โดยสารการบิน เค แอล เอ็ม (KLM) เที่ยวบินที่ KL744 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.30 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าบนเครื่องบิน |
วันที่ 10 | อัมสเตอร์ดัม - กรุงเทพมหานคร |
| ********* บินข้ามเส้นแบ่งเขตเวลาสากล ******* สายการบิน มีบริการอาหารเช้า และ อาหารกลางวัน บนเครื่องบิน |
13.30 น. | เดินทางถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อแวะเปลี่ยนเที่ยวบิน |
17.05 น. | ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เค แอล เอ็ม (KLM) เที่ยวบินที่ KL875 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.45 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหารค่ำ และ อาหารเช้าบนเครื่องบิน |
วันที่ 11 | กรุงเทพมหานคร |
09.30 น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ.... |