วันที่ 1 | ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ - กรุงออสโล (นอร์เวย์) |
22.00 น. | พร้อมคณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ Check-in สายการบินไทย ประตู 4 เคาน์เตอร์ H/J เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน จากนั้นเชิญรอ ณ ห้องพักผู้โดยสารขาออก |
วันที่ 2 | ออสโล - เที่ยวชมเมือง – สวนวิกเกอร์แลนด์ – พระราชวังหลวง - โอเปร่าเฮ้าส์ |
00.55 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงออสโล โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG954 |
07.25 น. | คณะถึงท่าอากาศยานออสโล การ์เดอร์มอน ประเทศนอร์เวย์ ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำคณะเที่ยวชมเมือง ออสโล ผ่านไปชมปราสาท Akurshus งานสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ในยุคเรอเนสซองส์ สร้างในปี 1648 นำคณะเข้าชม พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านนอร์สค์ จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์เปิด มีอาคารกว่า 160 หลัง ที่นำมาจัดแสดงให้ท่านได้ชมทั้งจากเขตชนบทและเมืองต่างๆทั่วประเทศนอร์เวย์ รวมรวมมาตั้งสมัยยุคกอล หรือ ยุคกลางจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 20 แม้จะไม่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสิ่งของล้ำค่าแต่ก็มีคุณค่าทางจิตใจของชาวนอร์เวย์ King Oscar II's Collection , อาคารสมัยเก่าในย่าน Old Town และกลุ่มอาคารแบบชนบท The Countryside รวมถึงโบสถ์ไม้ The Stave Church from Gol |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ชม อุทยานฟร็อกเนอร์ ที่มีประติมากรรมที่แสดงถึงความเป็นอยู่สภาพชีวิตและการดิ้นรนต่อสู้ของมนุษย์ชาติ ซึ่งเป็นผลงานประติมากรชื่อดังกุสตาฟ วิเกอแลนด์, ชมทำเนียบรัฐบาล, พระบรมมหาราชวัง, อาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อาทิ เนชั่นแนลเธียเตอร์, อาคารรัฐสภา และศาลาเทศบาลเมืองเก่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองถ่ายรูปกับโรงละครโอเปร่า สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของเมือง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | RADISSON BLU AIRPORT HOTEL **** หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 3 | ออสโล - นาร์วิก – หมู่เกาะโลโฟเทน - หมู่บ้านเฮนนิงสไวร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนที่โรงแรม |
08.55 น. | เดินทางสู่ Harstad/Narvik Airport โดยสายการบิน Norwegian Airline เที่ยวบินที่ DY 360 |
10.35 น. | ถึงสนามบินนาร์วิก ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ แวดล้อมด้วยภูเขาและทะเลกว้างไกลอีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสมาทรงทอดพระเนตรการทำเหมืองแร่ของเมืองซึ่งยังคงเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน รถโค้ชรอรับแล้วเดินทางสู่ตัวเมือง สโววาร์ด (Svolvær) หรือเมืองหลวงแห่งหมู่เกาะ เมืองศูนย์กลางเขตชุมชน Vågan ในเขตการปกครองอันโด่งดังในเขต Nordland ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เที่ยวชมเมือง Svolvær ถือเป็นเมืองหลวง และศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และศูนย์กลางการเดินทางของหมู่เกาะโลโฟเทน มีทั้งสนามบิน และท่าเรือเฟอร์รี่เพื่อเดินทางไปยังเกาะต่างๆ โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ มากมาย อีกทั้งยังมีอายุเก่าแก่นับพันปีเลยด้วย เดินทางสู่เมือง เฮนนิงสไวร์ (24 ก.ม.) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ บนเกาะชายฝั่งทิศใต้ของออสต์วอเกยยา ในอดีตสามารถเข้าถึงได้ทางเรือเท่านั้น หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง เดินเล่นไปตามทางเดินเลียบชายน้ำ และบ้านชาวประมง ที่กระจุกตัวอยู่รวมกันโดยมีฉากหลังเป็น เมาท์โวกาคัลลิน เขาลูกที่สูงที่สุดในเขตนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Henningsvær Bryggehotell หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 4 | เที่ยวหมู่เกาะโลโฟเทน - นุสฟยอร์ด - มอคคาเนส - หมู่บ้าน Å - หมู่บ้าน Reine - หมู่บ้านชาวประมง Hamnoy |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนที่โรงแรม นำคณะ ท่องเที่ยวในหมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ในเมือง Nordland ประเทศนอร์เวย์ อาณาเขตของหมู่บ้านตั้งอยู่เหนือเส้นอาร์คติกเซอร์เคิลบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ ล้อมรอบด้วยฟยอร์ดและเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี เกาะโลโฟเทน ประกอบไปด้วยเมืองหรือหมู่บ้านเล็กๆ หลายๆหมู่บ้าน กระจายตั้งอยู่รอบๆ เกาะ นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านนุสฟยอร์ด (Nusfjord) หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดที่อีกแห่งของนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ยังคงมีวิถีชีวิตแบบชาวประมงดั้งเดิมซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยชาวประมงที่นี่จะออกหาปลาและนำปลามาผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยการตากแห้งเพื่อส่งขายและเก็บไว้ทานในฤดูหนาว ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ในเขตนี้คือปลาค็อด อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะมุ่งหน้าสู่บริเวณทางตอนใต้ของเกาะที่เมืองมอคคาเนส เที่ยวชมหมู่บ้าน Å ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดบนหมู่เกาะโลโฟเทน และเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ถนน King Olav’s ถนนหลวงสายหลักสายเดียวของหมู่เกาะโลโฟเทน เข้าชม Norwegian Fishing Village Museum ที่บอกเล่าถึงวิถีชีวิตชาวประมงที่สืบต่อกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี แวะหมู่บ้าน Sakrisøy เราจะได้เห็นบ้านชาวประมง (Rorbuer Cabins) ทาด้วยสีเหลืองสดใส ตัดกับสีมรกตของน้ำทะเล แวะหมู่บ้าน Reine อันได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่มี Landscape ในการถ่ายภาพวิวธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะโลโฟเทน หมู่บ้านชาวประมง Hamnoy ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดในเกาะโลโฟเทน มีความสวยงามไม่แพ้กับหมู่บ้านอื่นๆ และเป็นอีกหนึ่งที่ที่ท่านไม่ควรพลาดการเก็บภาพประทับใจ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม |
ที่พัก | Henningsvær Bryggehotell หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 5 | เกาะโลโฟเทน – สวนสัตว์โพลาร์ - ทรอมโซ่ - ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Mt.Storsteinen) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนที่โรงแรม ออกเดินทางสู่ สวนสัตว์ Polar Park สวนสัตว์ที่อยู่เหนือสุดของโลก |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | ชมชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ในเขตขั้วโลกเหนือ ที่นี่ยังเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ในแถบขั้วโลก และถือว่าเป็นบ้านขนาดใหญ่ของสัตว์สายพันธุ์นักล่า อาทิ หมี, หมาป่า, แมวป่า Lynx, และรวมไปถึงสัตว์อื่นๆ อีกหลากสายพันธุ์ อาทิ พวกกวางมูซ, กวางเรนเดียร์, วัวมัสก์อ็อกซ์ อีกด้วย แล้วเดินทางสู่เมืองทรอมโซ่ (184 ก.ม.) Tromsø อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เป็นเมืองและเทศบาลในเทศมณฑลทรุมส์ ประเทศนอร์เวย์ มีประชากรมากเป็นอันดับ 7 ของนอร์เวย์ ทรูมเซอ เป็นเมืองเล็กๆแต่มีความเจริญและทันสมัยอย่างมากจนได้รับการขนานนามว่าเป็นปารีสแห่งยุโรปเหนือ (Paris of the North) ด้วยภูมิทัศน์อันสวยงาม มีทะเลเป็นฉากหน้าและภูเขาเป็นฉากหลัง เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งเหนือที่ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังเป็นประตูสู่ขั้วโลกเหนือและศูนย์กลางการสำรวจขั้วโลกเหนืออีกด้วย นำท่านนั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Mt.Storsteinen) ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 420 เมตร ให้ท่านได้ชมทัศนียภาพทั่วเมืองทรูมเซอ ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางฟยอร์ดมีเกาะใหญ่ๆร้อมลอบ ทางด้านทิศตะวันออกมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศสวีเดนและฟินแลนด์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร |
ที่พัก | MOXY HOTEL TROMSOหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 6 | เมืองทรูมเซอ – บินสู่ลองเยียร์เบียน (สฟาลบาร์) - Wilderness evening |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนที่โรงแรม นำท่านเที่ยวชมเมืองทรูมเซอ เริ่มจากย่านใจกลางเมือง ให้ท่านได้ชื่นชมความงดงามของเหล่าสถาปัตยกรรมที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะเหล่าอาคารบ้านไม้เก่าแก่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันฉูดฉาด ซึ่งทรุมเซอเป็นเมืองที่มีบ้านเก่าทำจากไม้จำนวนมากที่สุดในนอร์เวย์เหนือ บ้านเก่าที่สุดสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1789 ชมมหาวิหารอาร์กติก (Arctic Cathedral) วิหารสมัยใหม่ที่สร้างในปี ค.ศ. 1965 มีภาพประดับกระจกใหญ่ที่สุดในยุโรป เดินทางสู่สนามบินเพื่อเตรียมเดินทางสู่เมืองลองเยียร์เบียน (สฟาร์ลบาร์) |
12.05 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองลองเยียร์เบียน (Longyearbyen) หมู่เกาะสฟาลบาร์ (Svalbard) โดย สายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน SK 4414 ***ไม่มีบริการอาหารกลางวัน เนื่องจากอยู่ในระหว่างทำการบิน*** |
บ่าย | เดินทางถึงเมืองลองเยียร์เบียน Svalbard Lufthavn ท่าอากาศยานอันทันสมัย พร้อมการต้อนรับด้วยหุ่น Polar Baer บนหมู่เกาะธรรมชาติสุดขั้ว หมู่เกาะสฟาลบาร์ ที่ตั้งอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่ละติจูด 74 ถึง 81 องศาเหนือ อยู่ห่างจากขั้วโลกเหนือเพียง 1,338 กิโลเมตรเท่านั้น ชื่อสฟาลบาร์หมายถึง “ชายฝั่งอันหนาวเย็น” ปรากฏครั้งแรกเมื่อปี 1194 ในหนังสือประจำปีของชาวไอซ์แลนด์ แต่มารู้จักดินแดนแห่งนี้ในปี 1596 ได้ปรากฏบนแผนที่โลกโดยคณะนักสำรวจชาวดัตช์นำโดยวิลเลม บาเร็นตส์ การค้นพบนำไปสู่ยุคที่เต็มไปด้วยกิจกรรมเช่น การล่าวาฬ, ล่าแมวน้ำ, ทำเหมืองถ่านหินและการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ ตลอดหลายปี จนปี 1925 หมู่เกาะนี้ได้ตกเป็นของนอร์เวย์ สฟาลบาร์มีประชากรอาศัยอยู่ราว 2,642 คน แต่มีหมีขั้วโลกอยู่ถึงราว 3,000 ตัว นับเป็นบ้านที่แท้จริงของหมีขั้วโลก นำคณะเข้าเช็คอิน ณ โรงแรมที่พัก |
19.00 น. | นำท่านเข้าร่วมกิจกรรม Wilderness evening ห่างจากเมืองไม่ไกลนัก Advent Valley โอบล้อมด้วยภูเขาสูงเป็นที่ตั้งของ Camp Barentz ภูมิใจนำเสนอเรื่องราวของสฟาลบาร์ Willem Barentz ผู้ค้นพบสฟาลบาร์ ที่แคมป์บาเรนท์ เรามักจะเห็นกวางเรนเดียร์สฟาลบาร์ หรือ สุนัขจิ้งจอกหากคุณโชคดี เจ้าหน้าที่จะคอยเฝ้าระวังในกรณีที่หมีขั้วโลกปรากฏขึ้น ภายในกระท่อมไม้อบอุ่นสบาย ต้อนรับด้วยเครื่องดื่มชั้นดี และกวางเรนเดียร์โฮมเมดแสนอร่อย พร้อมด้วยกาแฟ แคมป์ไฟและของหวาน ต้อนรับท่านสู่มื้ออาหารสวาลบาร์ที่แท้จริง! และให้ท่านได้เรียนรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับหมีขั้วโลก หรือ ราชาแห่งอาร์กติก หลังจากอาหารค่ำแสนอร่อยของคุณ |
ที่พัก | Radisson Blu Polar Hotel Spitsbergen หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 7 | Wildlife and Glacier Cruise – ชมปรากฏการณ์ พระอาทิตย์เที่ยงคืน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนที่โรงแรม นำคณะสำรวจฟยอร์ดแห่งสฟาลบาร์ โดยล่องเรือ ผ่านภูมิประเทศอันงดงามไปยังบิลเลฟยูร์เดินและหน้าธารน้ำแข็งนอร์เดนสกีโอลด์บรีน ธรรมชาติของสวาลบาร์ดเปลี่ยนแปลงตลอดในทุกๆปี บางส่วนของบิลเลฟยอร์ดยังถูกปกคลุมไปด้วยธารน้ำแข็ง เรือเดินอย่างเงียบ ๆ ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน ทำให้มีโอกาสในการชมสัตว์ป่านั้นมีมากขึ้น ไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้น สัตว์ป่าที่อยู่รอบๆ จะถูกรบกวนน้อยลง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือแบบ Light Lunch |
บ่าย | ล่องเรือชมความงานของธารน้ำแข็ง กลับสู่ที่พัก แล้วอิสระตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Radisson Blu Polar Hotel Spitsbergen หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 8 | Dogsledding on wheels - เที่ยวชมเมืองลองเยียร์บีน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าแบบสแกนดิเนเวียนที่โรงแรม นำท่านสนุกกับ กิจกรรม Dogsledding on wheels กิจกรรมสุนัขลากเลื่อนมักจะทำในฤดูหนาวที่อุณหทีภูมิเย็นจัด แต่สุนัขก็ต้องการออกกำลังกายในช่วงฤดูร้อนเช่นกัน กิจกรรมนี้ได้ออกแบบล้อเลื่อนให้มีความสัมพันธ์กับเหล่าบรรดาสี่ขาในการออกไปเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของสวาลบาร์ด สุนัขลากเลื่อนในหุบเขาโบลเตอร์ เตรียมพร้อมที่จะนำท่านทะยานออกไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อดึงเลื่อนเลื่อนไปข้างหน้า เพื่อให้ท่านเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันน่าอัศจรรย์รอบๆ หุบเขาใกล้กับสัตว์ป่ามักพบเห็นได้ในบริเวณนี้ อาทิ กวางเรนเดียร์สฟาลบาร์ สุนัขจิ้งจอกขั้วโลก และนก Grouse สฟาลบาร์ และนกที่พบเห็นได้ทั่วไป เช่น นกออกตัวเล็ก นกนางนวลอาร์กติก และนกสคูอาอาร์กติก เราจะเดินทางไกลจากตัวเมืองและความงามของ Advent Valley ก็น่าหลงใหล ทำให้สฟาร์บาร์ดเป็น Unique Landscape ผ่อนคลายด้วยเครื่องดื่มร้อนในกระท่อมไม้ซุงบรรยากาศสบายๆ และเพลิดเพลินกับการกอดกับลูกสุนัขครอกใหม่ล่าสุด |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านเดินเล่น ใจกลางเมืองลองเยียร์เบียน นำท่านชมโบสถ์สวาลบาร์ด โบสถ์ไม้แห่งเดียว ในหมู่เกาะสวาลบาร์ด หรือชมบ้านเรือน สีสันสดใสเรียงรายเป็นแถว และเลือกซื้อหาของที่ระลึกได้ในย่านใจกลางเมือง ผ่านชมธนาคารเมล็ดพันธุ์พืชโลกสวาลบาร์ด (Svalbard Global Seed Vault) ธนาคารแห่งนี้ ตั้งขึ้นเพื่อเก็บรักษาตัวอย่างเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้รอดพ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภาวะโลกในกรณีเกิดเหตุภัยธรรมชาติ หรือสงคราม เพื่อให้ประชากรในอนาคตยังคงมีพืชพันธุ์ธัญญาหารต่อไป โดยที่ธนาคารฯ ตั้งอยู่ในใต้ดินของภูเขา (permafrost) ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณลบ 3-4 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยในการรักษาเมล็ดพันธุ์ไม่ให้เสียเร็วในกรณีสภาพภูมิอากาศของสวาลบาร์ดเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นประเทศไทยก็ได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าว 81 สายพันธุ์ ไปเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารเมล็ดพันธุ์แห่งนี้ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Radisson Blu Polar Hotel Spitsbergen หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน |
วันที่ 9 | สฟาร์ลบาร์ด – บินสู่ออสโล |
05.30 น. | รับประทานอาหารเช้า Breakfast Box |
07.20 น. | ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานออสโล - การ์เดอมอน โดยสายการบิน Scandinavian Airline เที่ยวบินที่ SK 4499 |
10.15 น. | ถึงท่าอากาศยานการ์เดอมอน – ออสโล รอเปลี่ยนเที่ยวบิน |
14.15 น. | ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 955 |
วันที่ 10 | เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ |
06.15 น. | นำท่านเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |