วันอังคารที่ 15 ต.ค. 62 | สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงอิสตันบูล |
20.00 น. | พบกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์เช็คอิน U ประตู 9 สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง |
21.45 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดย สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 65 (บินตรง) (ใช้เวลาในการบินประมาณ 10.30 ชั่วโมง) |
วันพุธที่ 16 ต.ค. 62 | กรุงอิสตันบูล - เมืองกาซิแอนเทป - เมืองอดิยามาน |
04.10 น. | เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูล Istanbul (เปลี่ยนเที่ยวบิน เพื่อบินต่อภายในประเทศ) |
06.00 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองกาซิแอนเทป โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2220 |
07.50 น. | เดินทางถึงสนามบิน เมืองกาซิแอนเทป Gaziantep ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ซุกมาโมเสก Zeugma Moziak Muzesi ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้จัดแสดงชิ้นงานโมเสกได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด มีชิ้นงานโมเสกที่สวยงามมากมายหลายชิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดและโด่งดังไปทั่วโลก คือ ยิปซี ความน่าสนใจกับผลงานยิปซีชิ้นนี้ คือ ดวงตาของนางยิปซีนี้เมื่อท่านมองหรือจ้องตากับนางแล้ว ไม่ว่าท่านจะเดินไปทางไหนราวกับว่าดวงตาของนางยิปซีท่านนี้จะชายตามองมายังท่านอยู่ตลอดเวลา นี่ถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ทางด้านศิลปะในสมัยโบราณที่ผลิตผลงานออกมาสู่ชาวโลกได้อย่างน่าทึ่ง ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์ซุกมาโมเสกแห่งนี้ ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์โมเสกที่สำคัญและใหญ่ที่สุดในโลก ได้เวลาพอสมควรนำท่านชมย่านตลาด Gaziantep Buyuksehir Belediyesi และ Copper Bazaar เป็นตลาดขายสินค้าพื้นเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกภาชนะต่าง ๆ ที่ทำมาจากดีบุก ทองแดง เครื่องเงิน แล้วนำมาแกะสลักเป็นลวดลายต่าง ๆ สวยงามมาก ระหว่างทางท่านจะได้เห็น Han หรือที่พักแรมของพวกกองคาราวานค้าขายในสมัยก่อน สินค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่ใช้กันภายในประเทศ และเป็นสินค้าส่งออกไปตามประเทศที่อยู่ในกลุ่มตะวันออกกลางทั้งหมด |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาห์ตา Kahta (ระยะทาง 215 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เตรียมตัวพบกับประสบการณ์ใหม่ล่าสุดของนักท่องเที่ยวตัวจริง นำท่านเดินทางสู่ ภูเขา เนมรุต Mount Nemrut เป็นภูเขาสูงประมาณ 2,134 เมตร มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องรูปสลักขนาดใหญ่ที่สร้างในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาลให้แก่หลุมฝังศพที่อยู่บนยอดเขา เป็นสุสานของกษัตริย์แอนติโอนุส ที่ 1 ธีโอส แห่ง คอมมาจเน Antiochus I Theos of Commagene โดยมีรูปสลักขนาดใหญ่ สูงประมาณ 8-9 เมตร ของพระองค์เองยืนเด่นตระหง่านอยู่ และมีรูปสลักของสิงโต 2 ตัว รูปนกอินทรีย์ 2 ตัว และรูปสลักของเทพเจ้ากรีก, เทพเจ้าอาร์เมเนียน Aremenian Godes และเทพเจ้าเปอร์เซี่ยน ผสมผสานกันอยู่ทั่วไป อาทิเช่น เฮอร์คิวลิส วาฮาน Hercules Vahagn ซุส-อารามาสต์ Zeus-Aramazd หรือ โอโรมาสเดส Oromasdes ถือเป็นไฮไลท์ที่สำคัญอีกที่หนึ่งในพื้นที่แถบนี้ มีนักท่องเที่ยวบางท่านพูดว่า “เมื่อกล่าวถึงสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก สำหรับการชม พระอาทิตย์ขึ้น กับ พระอาทิตย์ตกดินแล้ว ภูเขาเนมรุต จะต้องเป็นหนึ่งในสถานที่แห่งนั้น” คำพูดเหล่านี้จะเป็นจริงหรือไม่ท่านเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสินด้วยตัวท่านเอง จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอดิยามาน อีกครั้ง |
ค่ำ | บประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
ที่พัก | Hilton Garden Inn Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรกี |
วันพฤหัสบดีที่ 17 ต.ค. 62 | เมืองอดิยามาน - เมืองคารามานมาราซ - เมืองคัปปาโดเกีย |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ เมืองคารามาน มาราส Kahraman Maras (ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในฐานะ เมืองต้นกำเนิดของไอศกรีมที่มีชื่อเสียงของตุรกี ไอศกรีมที่เหนียวหนึบ เข้มข้น จนต้องใช้มีดและส้อมเวลาจะรับประทาน ให้ท่านได้เลือกซื้อ ไอศกรีมที่มีชื่อเสียงนี้ด้วย นำท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาด Copper Bazaar เป็นตลาดเก่าแก่ที่ชาวบ้านนำของมาขาย สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวก ขนเกาะ อาหารแห้ง เครื่องเทศต่าง ๆ สินค้าที่ทำด้วยมือไม่ได้ใช้เครื่องจักร เช่น การทำอาร์นบนหลังม้า ลา และการทำถลุงภาชนะที่ทำมาจาก ทองแดง ดีบุก สังกะสี เครื่องเงิน ให้ท่านได้แวะร้านขายรองเท้า เป็นร้านขายรองเท้าธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากเป็นร้านที่ผลิตรองเท้าให้กับภาพยนตร์ฮอลลี่วู้ด หลายๆ เรื่อง เช่น Lord of The Ring เป็นต้น |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia (ระยะทาง 339 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4.30 ชั่วโมง) ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่าง ๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย Cappadocia เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า ดินแดนม้าพันธุ์ดี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยส และ ภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณจนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนหิน แผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อย ๆ นับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูป แท่ง กรวย ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า ปล่องไฟนางฟ้า ในปี ค.ศ. 1985 ยูเนสโก้ได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานเซรามิค และ โรงงานเพชร อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นนำท่านชม “ระบำหน้าท้อง” Belly Dance ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี |
ที่พัก | Anatolia Cave House โรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำ |
วันศุกร์ที่ 18 ต.ค. 62 | เมืองคัปปาโดเกีย |
05.00 น. | สำหรับท่านที่สนใจ ทัวร์ขึ้นบอลลูน ชมพระอาทิตย์ยามเช้า พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ของโรงแรม (ทัวร์นั่งบอลลนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 230USD ในกรณีที่ชำระเป็นเงินสด และ 240USD ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต) เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด (สำหรับท่านที่ไม่ได้ซื้อ ทัวร์ขึ้นบอลลูน อิสระพักผ่อนที่โรงแรมได้ตามอัธยาศัย) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี Underground City of Derinkuyu or Kaymakli เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม ชมกรรมวิธีการผลิตพรมที่มีคุณภาพ เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญอีกของตุรกี |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ Kor de Bilir Avanos’un Yolunu Restaurant |
บ่าย | นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church ได้รับขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกในปี 1984 ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านสู่ หุบเขานกพิราบ Pigeon Valley ได้ชื่อเรียกมาจากนกพิราบที่สลักเข้าไปในหิน นกชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งสารที่สำคัญสำหรับผู้ที่เคยอาศัยอยู่ในแถบนี้ และยังเป็นสัตว์เลี้ยงอีกด้วย ผู้มาเยือนบางคนเลือกที่จะสำรวจภูมิประเทศแปลกประหลาดนี้ เรียนรู้เกี่ยวกับผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านถ้ำที่แกะหรือขุดเข้าไปในภูเขาเป็นบ้านถ้ำที่พักอาศัย หุบเขานิกพิราบแห่งนี้จะมีความแตกต่างจากชุมชนมนุษย์ถ้ำคือจะไม่มีโบสถ์ จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานพรม อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
|
ที่พัก | Anatolia Cave House โรงแรมตกแต่งสไตล์ถ้ำ |
วันเสาร์ที่ 19 ต.ค. 62 | เมืองคัปปาโดเกีย - เมืองคอนย่า - เมืองปามุคคาเล่ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เดินทางสู่ เมืองคอนย่า Konya (ระยะทาง 236 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ นิยมใช้เป็นจุดพักของการเดินทางในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกี หรือที่ยุคนั้นเรียก อนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | ท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา Mevlana Museum เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลาม ใช้สำหรับทำสมาธิ Whirling Dervishes โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ยก่อนไปทำการหมุนต้องอดอาหาร มีการเข้าห้องฝึกทรมานร่างกายก่อนที่จะไปหมุนได้ ผู้ที่มีสมาธิมากตัวจะลอยขึ้นเมื่อหมุนไปช่วงเวลาหนึ่ง ก่อตั้ง โดยเมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูมี่ ผู้วิเศษในศาสนาอิสลาม ส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑ์เมฟลาเป็นสุสานของ เมฟลานา เจลาเลดดิน รูมี Mevlana Celaleddin Rumi ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใน ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตาซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลาด้วย ได้เวลาพอสมควรนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก นำท่านชมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ณ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale คำว่า “ปามุคคาเล่” ในภาษาตุรกี หมายถึง “ปราสาทปุยฝ้าย” Pamuk หมายถึง ปุยฝ้าย และ Kale หมายถึง ปราสาท เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซี่ยมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อล้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศเกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตา และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ ปามุคคาเล่ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม |
ที่พัก | Doga Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันอาทิตย์ที่ 20 ต.ค. 62 | เมืองปามุคคาเล่ - เมืองคูซาดาซึ - เมืองอิซเมียร์ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม เมืองปามุคคาเล่ นำท่านชม หน้าผาที่ขาวกว้างใหญ่ด้านข้างของอ่างน้ำ เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครงและน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดูจะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆหรือ ปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อย่างมหัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
บ่าย | นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ Kusadasi (ระยะทาง 188 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) นำท่านชมความสวยงามของ เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus อดีต เป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ แต่พวกโรมันมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น จากนั้น นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอิซเมียร์ Izmir (ระยะทาง 99 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์ |
ที่พัก | Whyndam Izmir Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันจันทร์ที่ 21 ต.ค. 62 | เมืองอิซเมียร์ - กรุงอิสตันบูล |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบิน เมืองอิซเมียร์ เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล |
10.00 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2311 |
11.20 น. | เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูล Istanbul จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ภัตตาคาร |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ Salt Bae Restaurant พิเศษ!! กับเมนูสเต็ก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับโลก และเป็นที่ที่เหล่า Blogger และ Celebrity ทั้งหลายต่างก็นิยมมาเช็คอินกัน นักท่องเที่ยวอย่างเราก็ไม่ควรที่จะพลาดเช่นกัน |
บ่าย | นำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1924 พิพิธภัณฑ์พระราชวังทอปกาปิ ห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจคือห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติ และวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึด้ามประดับด้วยมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต เป็นไฮไลท์ที่สำคัญ นำท่านสู่ย่าน ทักซิม สแควร์ Taksim Square เป็นย่านคึกคักที่สุดในมหานครอิสตันบูล และเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งอยู่ในเขตยุโรปของนครอิสตันบูล คำว่า Taksim หมายถึงการแบ่งแยก หรือ การกระจราย ซึ่งมีที่มาจากในรัชสมัยของ Sultan Mahmud I สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำในยุคของออตโตมันและเป็นจุดที่สายน้ำจากทางตอนเหนือถูกรวบรวมและกระจายออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของเมืองนอกจากนี้คำว่า Taksim ยังหมายถึงรูปแบบดนตรีพิเศษในเพลงคลาสสิคของตุรกีอีกด้วย ระหว่างที่เราเดินเพลินบางช่วงเวลาจะมีรถรางสีแดงที่วิ่งมาตามรางมีกิจกรรมพิเศษบนรถรางได้นักท่องเที่ยวได้เห็นการแสดงต่างบนรางได้ตลอดเวลานอกจากนี้ Taksim Square ยังรายล้อมไปด้วยร้านอาหารตุรกี, ร้านค้า, ผับ, คาเฟ่และร้านอาหารจานด่วนนานาชาติมากมายได้แก่ Pizza Hut, Mc Donald’s, Subway และ Burger King และสินค้าแบรนด์เนม ชื่อดัง อื่น ๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินได้ตลอดเวลา |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง |
ที่พัก | Ritz Carlton Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันอังคารที่ 22 ต.ค. 62 | กรุงอิสตันบูล |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม นำท่านชม ฮิปโปโดรม Hippodrome หรือ สนามแข่งม้าโบราณ มีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว 20 เมตร แต่กระนั้นก็ยังสวยงามน่าดูมาก เพราะทั้งเสามีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ จากนั้นนำท่านเดินต่อไปชม สถานที่ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุเหร่าเซนต์โซเฟีย Mosque of Hagia Sophia ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ภายในมีเสางามค้ำที่สลักอย่างวิจิตร และประดับไว้งดงาม 108 ต้น นำท่านสู่ อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน Yerebatan Sarnici สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิจัสตินเนียน ในปี ค.ศ. 532 เพื่อเป็นที่เก็บน้ำสำหรับใช้ในพระราชวัง สำรองไว้ใช้ยามที่กรุงอิสตันบูลถูกข้าศึกปิดล้อมเมือง |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ Seven Hill Restaurant |
บ่าย | พิเศษ!! เป็นร้านอาหารที่เหล่าบรรดาเหล่า Blogger และ Celebrity ทั้งหลายต่างก็ให้การยอมรับว่า เป็นร้านอาหารที่มีวิวที่สวยที่สุดในอิสตันบูล นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาเช่ Dolmabahce Palace เป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใด ๆ ทั้งสิ้น ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ที่ ช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus ภายในประกอบด้วยห้องหับต่าง ๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรงแก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Sea เข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ส่งท้ายก่อนอำลาด้วยการ นำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ต Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ฯลฯ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารจีน นำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน กรุงอิสตันบูล เพื่อเตรียมตัวเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร |
วันพุธที่ 23 ต.ค. 62 | กรุงอิสตันบูล - กรุงเทพมหานคร |
01.25 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK68 |
15.00 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |