วันที่ 1 | นัดพบเพื่อทำการเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ - ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี |
19.00 น. | นัดหมายคณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ U1–U6 ชั้น 4 (ประตู 10) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในเรื่องสัมภาระและการเช็คอิน |
21.45 น. | เดินทางออกจากกรุงเทพ ด้วย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airlines) เที่ยวบินที่ TK065 เวลา 21.45 – 04.10น.(+1)(ณ เวลาท้องถิ่นประเทศตุรกี) |
วันที่ 2 | อิสตันบูล - ไกเซรี - นครใต้ดิน ไกมากลิ - โกเรเม่ |
04.10 น. | เดินทางถึง นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี และเดินทางต่อ ไปยังสนามบินไกเซรีโดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK2010 เวลา 06.40 – 08.15 น. เมื่อผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและได้สัมภาระเรียบร้อย รถโค้ชนำท่านเพื่อเดินทางเข้าสู่ เมืองไกเซรี (Kayseri) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม Radisson Blu Kayseri ออกเดินทางสู่ นครใต้ดิน (Underground City Derinkuyu or Kaymakli) (98 กม./ 1 ชม. 50 นาที) หนึ่งในเมืองใต้ดินที่สำคัญ เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 12 ชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูในยามสงครามของชาวแคปปาโดเกีย โดยพยายามออกแบบให้เป็นเมืองใต้ดินที่สมบูรณ์ พร้อมมีระบบระบายอากาศภายใน โดยท่านสามารถเดินชมสภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ใต้ดินของ เมืองไกมากลิ (Kaymakli) ได้อย่างใกล้ชิด |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโกเรเม่ (Goreme Open Air Museum) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 เป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์และที่หลบภัยให้กับประชาชนในเมือง |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | Hotel Grand Cave Suites หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | โกเรเม่ (แคปปาโดเกีย) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม อิสระพักผ่อนอิริยาบถ หรือ ท่านใดที่มีความประสงค์จะ ขึ้นบอลลูน สามารถเลือกทำกิจกรรมที่ท่านต้องการได้ตามอัธยาศัยจุดเด่นที่ให้นักท่องเที่ยวจะได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์เพิ่มเติมกับการชมวิวบนบอลลูน ของเมืองแคปปาโดเกีย (สามารถซื้อทัวร์ขึ้นบอลลูนเพิ่มเติมได้ ไม่รวมในราคาทัวร์) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | เยี่ยมชมภูมิภาค แคปปาโดเกีย (Cappadocia) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไตต์ แปลว่า“ดินแดนม้าพันธุ์ดี”ให้ท่านได้ชื่นชมดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์ซึ่งเกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ภูมิประเทศแห่งนี้ เกิดจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แล้วทับถมเป็นเวลาหลายล้านปี เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน และหิมะได้เป็นกัดเซาะแผ่นดิน มาเรื่อยๆก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขาร่องลึก กรวยหินและเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม แปลกตาและน่าอัศจรรย์ จนได้ชื่อว่า “ดินแดนแห่งปล่องนางฟ้า” และได้รับการแต่งตั้งจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี นำท่านผ่านชม Love Valley เป็นหุบเขาที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งโกเรเม่และตัวเมืองโกเรเม่ ลักษณะเหมือนทุ่งหินที่มีหินทรงยาวๆ ตั้งเรียงรายคล้ายต้นเห็ดสูงอยู่เต็มไปหมด เป็นทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตา หาชมได้เมื่อมาเที่ยวตุรกีเท่านั้น, ที่พลาดไม่ได้เลยหากมาที่เมืองนี้คือปล่องนางฟ้า (Fairy Chimney’s) ที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย และผ่านชม พิพิธภัณฑ์เซลเว (Zelve Open Air Museum) จากนั้นให้ท่านแวะ จิบกาแฟสไตล์คนตุรกี กับวิวหลักล้าน ที่เห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองแห่งนี้ที่ร้าน Çiko'nunYeri (ไม่รวมในราคาทัวร์) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | HOTEL GRAND CAVE SUITES หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | โกเรเม่ (แคปปาโดเกีย) - คอนยา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม ได้เวลาออกเดินทางต่อไปยัง เมืองคอนยา (Konya)(236กม./ 3 ชม.) อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูค ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 เป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกี หรือในชื่อ “อนาโตเลีย” เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศรวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้ ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่งดงามตลอดสองฝั่งทางของภูมิภาคอนาโตเลีย |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำคณะเดินทางเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana Museum)ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1231 มีอาคารหลังใหญ่ที่มีโดมสีเขียวทรงแปลกตา แม้จะเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน แต่ในอดีตแล้วที่นี่คือสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามที่สำคัญที่สุดของอาณาจักร ระหว่างทางนำท่านแวะถ่ายภาพกับ อะลาดินฮิลล์ ปาร์ค (Alaadin Hill Park) วิวสวยตามนิทานในตำนาน เรื่องอะลาดิน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ โรมแรมที่พัก |
ที่พัก | NOVOTEL KONYA หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | คอนยา - ปามุกกาเล่ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม ออกเดินทางสู่ เมืองดินาร์ (Dinar)(276 กม./ 4 ชม.) เพื่อแวะพักทานข้าว |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองปามุกกาเล่ (Pamukkale)(140 กม./ 1 ชม.40 นาที) นำท่านชม เมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1 แห่งแพร์กามุม สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักสิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุกกาเล่ สถานที่สาคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุกกาเล่ โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์ สมควรแก่เวลานำท่านเข้าชม ไฮไลต์ สำคัญของเมืองคือ ปามุกกาเล่ หรือปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle)เมืองนี้ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988 เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ทำให้เกิดความวิจิตรงดงาม รวมทั้งยังมีสรรพคุณในการบำบัดโรคผิวหนัง จนกลายเป็นสปาธรรมชาติทีมีมายาวนานกว่าพันปี เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติอันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยากจะหาที่ใดเหมือน เชิญท่านอิสระถ่ายภาพเก็บความประทับใจที่ไม่รู้ลืมแห่งนี้อย่างจุใจ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | DOGA THERMAL HOTEL & SPAหรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | ปามุกกาเล่ - เอเฟซุส - อิสเมีย - อิสตันบูล |
เช้า | นำคณะเดินทางต่อไปยัง นครเอเฟซุส (Ephesus)(190 กม./ 3 ชม.) เมืองโบราณที่ก่อเกิดขึ้นก่อนยุคคริสตกาล เติบโตในยุคที่กรีกโบราณและรุ่งเรืองสูงสุดในช่วงยุคจักรวรรดิโรมัน “นครเอเฟซุส” ในพื้นที่มรดกโลกดังกล่าวมีสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าอย่าง ห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) โรงละครเอเฟซุส (Great Theatre) โรงอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) นอกจากนี้เอเฟซุสยังได้ถูกสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงของเขตการปกครองในเอเซีย เอเฟซุสนั้นยิ่งใหญ่ รุ่งเรืองถึงจุดสูงสุดและงดงามจนขนาดมีการจารึกไว้ว่า “ถือเป็นมหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” นำท่านเดินสำรวจและเยี่ยมชมจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจและเก็บภาพความประทับใจไม่รู้ลืม |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | จากนั้นนำท่านเข้าชม บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary) เชื่อกันว่าเป็นสถานที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่ก่อนสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาสูง โดยถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคริสต์ศาสนิกชน จากนั้นนำคณะเดินทางไปยัง สนามบินอัดนัน เมรเดเรส |
17.15 น. | ออกเดินทางจาก สนามบินอัดนัน เมรเดเรส (Adnan Menderes InternationalAirport) เมืองอิสเมีย (Izmir) (80 กม./1 ชม.) สู่ เมืองอิสตันบูล โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK2327 เวลา 17.15 – 18.35น. หลังจากผ่านขั้นตอนพิธิการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าแล้ว เดินทางเข้าไปยัง เมืองอิสตันบูล (Istanbul)ศูนย์กลาง เมืองหลวงและมหานครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตุรกี ถือเป็นนครแห่ง 2 ทวีป ระหว่างยุโรปและเอเชีย มีทั้งวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกผสมผสานกันมาอย่างยาวนาน เป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหล มีประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่ยาวนานมากกว่า 2,600 ปี มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในประเทศรวมถึงยังเป็นเมืองท่าพาณิชย์ที่สำคัญที่สุดของประเทศตุรกีอีกด้วย |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | SHANGRI-LA BOSPHORUS ISTANBUL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | อิสตันบูล |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำคณะเดินทางสู่ จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (Sultan Ahmed Complex) มีชื่อเรียกโบราณคือ “ฮิปโปโดม” (Hippodome) เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์ จากนั้นชม สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง รวมไปถึงชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน “พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย” (Ayasofya Museum) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกส์ แต่ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่ามหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหารที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในยุคนั้น ยังนับเป็นจุดเริ่มต้นและตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ตลอดกาลอีกด้วย และสุดท้ายเข้าชม โรงเก็บน้ำใต้ดิน อายุกว่า 1,500 ปี สร้างในสมัยโรมัน ซึ่งเป็นโรงเก็บน้ำสำรองของเมืองคอนสแตนติโนเปิล เมืองหลวงแห่งจักรวรดิโรมันตะวันออกซึ่งด้านล่างนี้ท่านจะได้เห็นโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างโบราณที่น่าอัศจรรย์ พร้อมเก็บภาพความประทับใจ หมายเหตุ :โปรดแต่งกายด้วยชุดสุภาพ สำหรับการเข้าชมสุเหร่า และจำเป็นต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าชมทุกครั้ง สุภาพสตรี :ควรสวมกางเกงขายาวคลุมข้อเท้า เสื้อแขนยาวคลุมข้อมือ มิดชิดไม่รัดรูป และเตรียมผ้าสำหรับคลุมศีรษะด้วย สุภาพบุรุษ : ควรสวมกางเกงขายาว และเสื้อแขนยาวไม่รัดรูป |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำคณะเดินทางเข้าชมพระราชวัง “โทพคาปี” (Topkapi Palace)เป็นพระราชวังของสุลต่านออตโตมัน (Ottoman Sultun) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1460 ตั้งอยู่ในฝั่งแผ่นดินยุโรป ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของ “The Republic of Turkey” จากนั้นนำทุกท่านเดินทางไปที่ "แกรนด์บาซาร์” (Grand Bazzar) อิสระช้อปปิ้งตลาดใจกลางเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของ อิสตันบูล มีร้านค้าให้เลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกมากมาย อาทิ พรมหลากหลายสีสัน เครื่องประดับ เครื่องเงินและโลหะ เครื่องหนัง สินค้าหัตถกรรม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
ที่พัก | SHANGRI-LA BOSPHORUS ISTANBUL หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | อิสตันบูล |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม นำคณะเข้าชม พระราชวังโดลมาบาห์เช่ (Dolmabahce) พระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญของชนชาติ สร้างโดยสุลต่านอับดุล เมซิด (Abdul Mecit) สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1922 โดยใช้เวลาสร้างถึง 30 ปี เป็นพระราชวังหรูหราอลังการ ที่ทุ่มทุนสร้างไม่อั้น คิดเป็นเงินในปัจจุบันอาจถึงประมาณ 1,000ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว สร้างด้วยหินอ่อน เป็นศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับศิลปะตะวันตกในทุกรูปแบบ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามทั้งภายในและภายนอก ถือเป็นมรดกทางสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดชิ้นสุดท้าย ก่อนที่จะถึงการสิ้นสุดของการปกครองด้วยระบบสุลต่านของชนชาติตุรกีที่ยาวนานกว่า 700 ปี ของจักรวรรดิออตโตมัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย | นำท่านคณะล่องเรือ ณ ช่องแคบบอสฟอรัส (Bosphorus Cruise) เป็นช่องแคบขนาดใหญ่ที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย เชื่อมระหว่างทะเลดำ (The Black Sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองฝากฝั่งที่สวยงาม ช่องแคบบอสฟอรัสถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกี จากนั้นเดินทางไปช้อปปิ้งที่ ตลาดเครื่องเทศ (Spice Market)ตามอัธยาศัย ตลาดเครื่องเทศเก่าแก่แห่งนี้ เริ่มต้นโดยชาวอียิปต์เข้ามาค้าขายเครื่องเทศสารพัดชนิด มีทั้งชาแอปเปิ้ลขึ้นชื่อของตุรกี ขนมหวานสไตล์ตุรกี เป็นต้น จากนั้นนำคณะเดินทางไปยัง สนามบิน |
17.55 น. | ออกเดินทางจาก สนามบินนานาชาติ อตาเติร์ก โดย สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ TK058 เวลา 17.55 – 07.30 น.(+1) |
วันที่ 9 | กรุงเทพมหานคร |
07.30 น. | เดินทางกลับถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ |