วันที่ 1 | กรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) - เซียะเหมิน - ถนนจงซาน |
08.00 น. | คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (TG) โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารให้กับท่าน |
10.55 น. | ออกเดินทางสู่ เมืองเซียะเหมิน โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 618 |
15.05 น. | เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเซียะเหมิน เมืองเซียะเหมิน ซึ่งเป็นเมืองท่าที่เป็นที่รู้จักกันดีด้วยมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นถิ่นที่อยู่ของนกกระยางตั้งแต่ครั้นโบราณกาล ต้องขอบคุณสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและดอกไม้ที่ผลิบานและ ทุ่งหญ้าที่สวยงาม รู้จักกันในชื่อเกาะนกกระยางเซียะเหมิน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของมลฑลฝูเจี้ยน อยู่ตรงข้ามมลฑลไต้หวัน เป็นหัวเมืองสำคัญของมณฑลฝูเจี้ยน ไข่มุกแห่งท้องทะเล สัญลักษณ์ คือ นกกระยางขาวเป็นศูนย์กลางของการพาณิชย์หนึ่งในห้าเขตของจีน ห่างจากเกาะ Quemoy ราว 2,000 เมตร หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางช้อปปิ้งที่ ถนนจงซาน ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1925 ถนนแห่งนี้มีความยาวประมาณ 1.2 กิโลเมตร สองข้างมีตึกสไตล์หมิ่นหนานที่เรียกว่าฉีโหลว ซึ่งตึกทั้งหมดนี้เป็นโบราณที่มีลักษณะเด่น คือ ชั้นหนึ่งจะมีพื้นที่ส่วนหน้าซึ่งเว้นไว้ให้เป็นทางเดินของผู้คนที่มาเดินช้อปปิ้ง ปัจจุบันถนนจงซานเป็นถนนช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะมีห้างร้านมากมายและมีสินค้าให้เลือกช้อปเกือบทุกประเภท |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่1) |
พักที่ | PARK CITY HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | เซียะเหมิน - เมืองหย่งติ้ง - บ้านดินถู่โหลวเกาเป่ย (เฉิงฉี่โหลว+เฉียวฝูโหลว+ซื่อฉือโหลว) - เซี่ยะเหมิน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่2) นำท่านเดินทางสู่ เมืองหย่งติ้ง (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) บ้านดินถู่โหลว ตั้งอยู่ที่อำเภอหย่งติ้ง มณฑลฝูเจี้ยน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกลำดับที่36ของจีนจากที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ครั้งที่ 32 ที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดาซึ่งคณะกรรมการลงความเห็นว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาของชาวจีนแคะ หรือ เค้อเจียที่สืบทอดวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น บ้านดินถู่โหลวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกมีทั้งสิ้น 46 หลัง ลักษณะโครงสร้างของถู่โหลวภายในเป็นไม้ไผ่สาน พอกทับด้วยดินเหนียว ซึ่งหมู่บ้านดินดังกล่าวกระจายอยู่ในเขตภูเขาด้านทิศใต้และทิศตะวันตกของ มณฑลฝูเจี้ยน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร(มื้อที่3) |
บ่าย | นำท่านชม สถาปัตยกรรมบ้านดิน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมรอบข้างที่ได้ผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติและอาคารที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ลักษณะภายนอกของบ้านดินมีรูปทรงตามแบบเลขาคณิตหลากหลายไม่ว่าจะเป็นทรงกลม ครึ่งวงกลม สี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยมจัตุรัส ห้าเหลี่ยม แปดเหลี่ยม สำหรับชาวจีนฮากกา รูปทรงกลมเป็นการแสดงถึงการรวมกลุ่ม ความสวยงาม และความสุข ลักษณะภายในตัวบ้านมีลานกว้าง โดยรอบจะเป็นห้องพักติดกันหลายห้อง ขนาดของห้องจะแตกต่างกันไปตามขนาดของตัวอาคาร อาคารส่วนใหญ่จะมีความสูงราว 3-4 ชั้น สถาปัตยกรรมจะสะท้อนถึงภูมิปัญญาของชาวจีนฮากกาเป็นอย่างดี และยังป้องกันแผ่นดินไหวได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถปรับอุณหภูมิตามสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี นำท่านชม บ้านดินเฉิงฉี่โหลว เล่าลือกันว่าบ้านดินแห่งนี้ เริ่มขุดดินก่อสร้างตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉงเจิน แห่งราชวงศ์หมิง จนถึงสมัยจักรพรรดิคังซี แห่งราชวงศ์ชิง จึงสร้างเสร็จ ใช้เวลาถึง 3 ยุดในการก่อสร้าง เส้นผ่านศูนย์กลาง 73 เมตร อยู่อาศัยกว่า 400 คน เป็นบ้านดินทรงกลมที่ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เก่าแก่ที่สุด ได้ชื่อว่าเป็น KING OF TULOU แล้วนำท่านชม บ้านดินเฉียวฝูโหลว ตั้งอยู่ทางตะวันตกของบ้านดินเฉิงฉี่โหลว สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1962 เจ้าของบ้านคือสามพี่น้องชาวอเมริกัน ผู้ออกทุนในการก่อสร้าง บ้านมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 เมตร สูง 3 ชั้น เป็นทางเดินเชื่อมถึงกัน ทั้งอาคารแบ่งเป็นห้องทั้งหมด 30 ห้อง ห้องโถงหลักถูกออกแบบให้ผสมผสานกันระหว่างสไตล์จีนและตะวันตกได้อย่างลงตัว ได้ชื่อว่าเป็นบ้านดินแห่ง ดร. จากนั้นนำท่านชม บ้านดินซือจือโหลว ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของหมู่บ้าน เป็นบ้านดินรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิเจียชิ่ง (จักรพรรดิชิงเหรินจง) ปี ค.ศ.1565 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 5,100 ตารางเมตร สูง 4 ชั้น กว้าง 40.8 เมตร ยาว 41.2 เมตร แต่ละชั้นมี 38 ห้อง แต่ละห้องกั้นด้วยอิฐ ที่พื้นประตูทางเข้าหลักปูด้วยก้อนหิน ให้คล้ายกับรูปเหรียญเงินโบราณเป็นสัญลักษณ์มงคล หมายถึงความมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรือง สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซี่ยเหมิน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่4) |
พักที่ | PARK CITY HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เซียะเหมิน - นั่งรถไฟความเร็วสูง (G1652 /09.21-11.46) - อู่อี๋ซาน - อุทยานชาต้าหงเผา - วัดเทียนซิงหย่งเล่อ - โชว์จางอวี้โหมวต้าหงเผา |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม(มื้อที่5) หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง เพื่ออกเดินทางสู่ เมืองอู๋อี้ซาน ( ใชเ้วลาเดินทางประมาณ 2.25 ชั่วโมง) อู่อี๋ซาน ตั้งอยู่ในเมืองหนานผิง เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 3 ของมณฑล อยู่ติดกับเจียงซีและเจ้อเจียง ตัวเมืองตั้งอิงกับเทือกเขาอู่อี้ซาน |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่6) |
บ่าย | จากนั้นนําท่านชมแหล่งท่องเทียว แปลงไร่ชาต้าหงเผา ชมแปลงเพาะปลูกใบชาอันลือชื่อของฮกเกียน เช่น ต้าหงเผา, อู่หลง, เถียกวนอิม และสุ่ยเซียน เป็นต้น ให้ท่านชมต้นชาต้นโบราณต้าหงเผา ซึงเป็น ชาโบราณทีใช้เป็นเครื่องดื่มของผู้นําประเทศเท่านัน ปัจจุบันได้รักษาไว้ด้วยทุนประกัน 100 ล้านหยวน จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ วัดเทียนซิงหย่งเล่อ เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่และใหญ่ ทีสุดในทีนีวัดนี้ สร้างในราชวงศ์ถังตังอยู่ใจกลางเขาอู่อี้ซาน ปัจจุบันได้สร้างและขยายเพิ่มเติ่ม เรื่อยๆจนเป็นวัดที่สวยงาม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 7) จากนั้นนำท่านชมโชว์ IMPRESSION ต้าหงเผา เป็น 1 ใน 5 โชว์ของผู้กํากับชื่อดังจางอวี้โหมว เป็นการแสดงกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ตระการตาเวทีที่ใช้มองด้วยสายต่างมีความยาวทีสุดในโลกถึง 12,000 เมตรและเป็นโชว์เดียวในโลกทีมีทีนังหมุนได้ 360 องศา เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชม โชว์นี้ใช้วัฒนธรรมชาเพื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวเกียวกับวัฒนธรรมธรรมชาติและความเป็นอยู่ของคนท้องถิ่นนี่ |
พักที่ | HONGLIN HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | อุทยานมรดกโลกอู่อี๋ซาน - เขาเทียนโหยวฟง - ล่องแพไม้ไผ่จิ่วชีว์ซี - ถนนโบราณราชวงศ์ซ่ง - ผ่านชมวังอู่อี่ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม(มื้อที่8) นำท่านเดินทางเข้าสู่ อุทยานมรดกโลกอู่อี๋ซาน เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ มีอาณาเขต 70 ตารางกิโลเมตร เขาอู่อี๋ซานครอบคลุมพื้นที่ของเขตอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ 4 เขตได้แก่ เขตทิวทัศน์เขาอู่อี๋ซาน เขตอนุรักษ์ธรรมชาติเขาอู่อี๋ซานโบราณสถาน และเขตอนุรักษ์ต้นน้ำจิ่วชีว์ซีและยังเป็นแหล่งกำเนิดของวัฒนธรรมความเชื่อทางศาสนาตลอดจนแหล่งผลิตชาด้วย นำท่านถ่ายรูปคู่กับ เขาเทียนโหยวฟง มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 408.8 เมตรถือเป็นหินที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียมีนักเขียน นักท่องเที่ยวและจอมพลต่างๆมาเที่ยวที่นี้และได้เขียนแกะสลักบทความต่างๆไว้บนหน้าผา เพื่อชื่นชมถึงความสง่างามของหินก้อนนี้ จากนั้นนำท่านเดินผ่านเส้นผ่านฟ้าเล็ก เพื่อขึ้นสู่จุดชมวิวท่านจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยตระการตาของเขาอู่อี๋ซานแห่งนี้ |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่9) |
บ่าย | นำท่าน ล่องแพไม้ไผ่จิ่วชีว์ซี ชมความงามของธารน้ำ 9 โค้ง 18 เลี้ยว ที่ใสสะอาดดุจกระจกเงา ชมทิวทัศน์อันสวยงามดุจแดนสวรรค์สองฝั่งธารน้ำ พร้อมฟังตำนานเรื่องเล่าต่างๆจากผู้ค้ำถ่อแพไม้ไผ่ นำท่าน ช้อปปิ้งถนนโบราณราชวงศ์ซ่ง ตั้งอยู่ใต้เขาต้าหวังฟงมีความยาว 300 เมตรถนนเส้นนี้ก่อสร้างเลียนแบบสไตล์รราชวงศ์ซ่งมีร้านจำหน่ายสินค้าอาทิเช่นร้านชาร้านเหล้าและร้านขายของที่ระลึกต่างๆอิสระให้ท่านได้เดินเลือกซื้อสินค้าและถ่ายรูปบรรยากาศ จากนั้นนาท่าน ผ่านชมวังอู่อี่ เป็นวัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดในอู่อี๋ซาน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 10) |
พักที่ | HONGLIN HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | อู่อี๋ซาน - นั่งรถไฟความเร็วสูง - เซียะเหมิน (G1635 / 08.43-12.11) - เกาะกู่ลั่งยี่ (รวมเรือ+รถกอล์ฟ) - สวนซูจวงหยวน - พิพิธภัณฑ์เปียโน - เซียะเหมิน |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า แบบปิคนิคบนรถ(มื้อที่11) หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง (G1635 / 08.43-12.11) เพื่ออกเดินทางสู่ เมืองเซียะเหมิน ( ใชเ้วลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) |
เที่ยง | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่12) |
บ่าย | นำท่านข้ามเรือยนต์สู่ เกาะกู่ลั่งยี่ (เกาะเปียโน) เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเมืองเซี่ยะเหมิน ชมทัศนียภาพของ เกาะกู่ลั่งยี่ (รวมนั่งรถกอล์ฟ) ซึ่งมีบ้านพักทรงยุโรป ในอดีตเป็นสถานกงศุลนานาชาติในสมัยราชวงศ์ชิง ปัจจุบันมีแมกไม้ สวนไผ่ปกคลุมให้ความร่มรื่นและสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เป็นสถานที่ตากอากาศที่ดีเลิศอีกแห่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่กำเนิดนักดนตรีโดยเฉพาะนักเปียโนชื่อดังอีกด้วย จึงได้รับสมญานามว่า “เกาะเปียโน” ท่านจะได้ชม สวนซูจวงหยวน ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1913 สวนที่สร้างโดยอาศัยธรรมชาติทางทะเลที่มีถ้ำ 12 แห่ง สะพาน 44 แห่ง พร้อมเก๋งจีนต่างๆ จากนั้นนำท่านชม พิพิธภัณฑ์เปียโน ภายในพิพิธภัณฑ์มีเปียโนเก่าแก่มากกว่า 70 หลัง ซึ่งหาดูได้ยากและประมาณค่าไม่ได้ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับเมืองเซียะเหมิน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 13) |
พักที่ | PARK CITY HOTEL 4 ดาว หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | วัดหนานผู่โถว ถนนรอบเกาะ - หมู่บ้านชาวประมงเจิงชั่วอัน - ส่งออก เซียะเหมิน - กรุงเทพฯ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม(มื้อที่14) จากนั้นนำท่านชม วัดหนานผู่โถว หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดผู่โถวใต้ เนื่องจากเป็นวัดที่สักการะเจ้าแม่กวนอิมและอยู่ทางทิศใต้ของ เขาผู่โถวซาน ตั้งอยู่ที่ตีนเขาอู่เหล่าฟง ใจกลางเมืองเซียะเหมิน มีพื้นที่ประมาณ 30,000 ตารางเมตร วัดนี้ถูกสร้าง ขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง มีการเปลี่ยนชื่อและบูรณะซ่อมแซมในหลายยุคหลายสมัย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง ของพุทธศาสนาในหมิ่นหนาน สิ่งก่อสร้างในวัดเป็นสถาปัตยกรรมของวัดจีนเหมือนอื่นทั่วไปที่มีวิหารจตุโลก บาลวิหารใหญ่และวิหารพระไตรปิฎก ภายในวิหารใหญ่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปแห่งอดีต ปัจจุบันและ อนาคต ภายในวัดมีศาลต้าเปยเตี้ยนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิมพันมือ แล้วยังมีโรงเจใหญ่สำหรับไว้ รับรองผู้มาสักการะ จากนั้นนำท่านชม หมู่บ้านชาวประมงเจิงชั่วอัน เป็นหมู่บ้านชาวประมงพื้นเมืองของฮกเกี้ยน คำว่า"เจิง" แปลว่า ภูเขา คำว่า"ชั่ว" แปลว่า บ้าน ในภาษาฮกเกี้ยน ชื่อของหมู่บ้านแห่งนี้จึงมีลักษณะตามที่ตั้งของหมู่บ้าน คือเป็นหมู่ บ้านที่ ด้านหลังเป็นภูเขา ด้านหน้าเป็นทะเล ซึ่งมีชาวบ้านอาศัยอยู่อย่างเสรีภาพ ผู้ชายจะมีหน้าที่ออกทะเลหาปลา ส่วนผู้หญิงจะมีหน้าที่ทำนา ในสมัยราชวงศ์หมิง เริ่มก่อตั้งเซียะเหมิน สถานที่แห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่สำคัญทาง ทหาร จนในปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม ปัจจุบันหมูบ้านชาวประมงได้ผสม ผสานสิ่งก่อสร้างที่ทันสมัย ตามฝาผนังมีศิลปะภาพวาดที่มีสีสันสวยงาม ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่พักผ่อนหย่อน ใจของชาวเซียะเหมินและและนักเที่ยวมากมาย หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติเซียะเหมิน เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ |
16.05 น. | ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย การบินไทย เที่ยวบินที่ TG 611 |
18.25 น. | เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |