วันที่ 1 | กรุงเทพฯ - เมืองกวางเจา - เมืองอูรูมูฉี |
08.00 น. | คณะพร้อมกันที่ สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 4 สายการบินไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ (CZ) ROW M ประตู 6 โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระให้กับท่าน |
11.20 น. | เหินฟ้าสู่ เมืองกวางเจา ประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่ CZ358 (BKK-CAN 1120-1525) (ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 5 นาที) (บริการอาหารบนเครื่อง) <กรุณาปรับนาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นที่ ประเทศจีน เร็วกว่า ประเทศไทย 1 ชั่วโมง> |
15.25 น. | ถึงสนามบินนานาชาติกวางโจวไปหยุ่น เมืองกวางเจาเป็นเมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง และเป็นเมืองใหญ่สุดทางภาคใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง มีความประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,800 ปี เป็นจุดเริ่มของเส้นทางสายไหมทางทะเลในครั้งอดีต และยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดต้อนรับชาวตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขายเสฉวน |
17.05 น. | เหินฟ้าสู่ เมืองอูรูมูฉี ประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่ CZ6896 (CAN-URC 1705-2220) (ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมง 15 นาที) (บริการอาหารบนเครื่อง) |
22.20 น. | เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอูรูมูฉีเตอวัวเป่า เมืองอูรูมูฉี เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ “อูรูมูฉี” (Urumqi) เป็นคำภาษามองโกล หมายถึง ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าอันแสนงาม เป็นเมืองเดียวในซินเจียงที่มีชาวฮั่นอยู่อาศัยมากที่สุด คือถึงกว่าร้อยละ 72 ของประชากร หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองพร้อมรับกระเป๋าสัมภาระแล้ว นำท่านเดินทางมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่พัก |
ที่พัก | Sheraton Urumqi Hotel 5* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 2 | เมืองอูรูมูฉี - ผ่านเมืองอู่เจียคู - ผ่านเส้นทางหลวง S21 - เมืองปู้เอ่อจิน - หาดห้าสี |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม ออกเดินทางสู่ เมืองปู้เอ่อจิน โดยนั่งรถผ่าน เมืองอู่เจียคู ตั้งอยู่ในเทือกเขาเทียนซาน (Tianshan) มีทะเลทรายจากใต้สู่เหนือ ซึ่งเป็นเมืองระดับเทศมณฑล อยู่ภายใต้เขตอำนาจของเขตปกครองตนเองซิน เจียงอุยกูร์โดยตรง ได้ใช้ระบบการจัดการเมืองแบบแบ่งส่วนแบบครบวงจรเมื่อเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนได้เปิดทางด่วนข้ามทะเลทรายสายแรก ซึ่งช่วยลดระยะเวลาเดินทางจากเมืองอูรูมูฉีไปยังเขตอัลไตทางตอนเหนือสุดได้เกือบครึ่งหนึ่ง ทางด่วนทะเลทรายสายแรกของซินเจียง มีชื่อเรียกว่า S21 (Altay-Urumqi Expressway) ระยะทาง 343 กิโลเมตร โดยมีระยะทางมากกว่า 150 กิโลเมตร ที่ตัดผ่านทะเล ทรายกูบันตุงกุต ซึ่งเป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับ 2ของซินเจียง ระหว่างทางท่านจะได้ชื่นชมทิวทัศน์ทะเล ทรายกูบันตุงกุตอันกว้างใหญ่ |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | ออกเดินทางต่อสู่ เมืองปู้เอ่อจิน เพื่อนำท่านชม หวูไฉ่ทาน หรือ หาดห้าสี ที่หินแต่ละก้อนริมฝั่งธารน้ำคาเอ่อฉีสือเหออันยาวไกลสุดสายตา เมื่อยามที่ต้องแสงสุริยาเพลาบ่ายจะระยิบระยับพริบพรายไปยาวไกลจนเห็นหลากสีสันดูคล้ายอัญมณีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หลังอาหาร นำท่านเดินเล่นที่ ตลาดนัดกลางคืนเมืองปู้เอ่อจิน ชมปลาท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ปลาย่างแม่น้ำอีเฮซึ่งใช้ "ปลาแดงตัวใหญ่" เมนูบาร์บีคิวพิเศษในท้องถิ่น |
ที่พัก | Nightlight Town Hotel 4*, Burqin หรือเทียบเท่า |
วันที่ 3 | เมืองปู้เอ่อจิน - คานาสือ - สามโค้งงามแห่งคานาส (เย้เลี่ยงวาน) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม ออกเดินทางสู่ คานาสือ ดินแดนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแผ่นดินที่บริสุทธิ์ที่เป็นแหล่งสุดท้ายของมวลมนุษย์ที่ปราศจากมลภาวะและสวยงามที่สุดที่หลงเหลืออยู่ในโลกใบนี้ พร้อมสัมผัสกับกลิ่นอายของความบริสุทธิ์ของธรรมชาติรอบกายโอบล้อมด้วยภูเขาโดยรอบ ระหว่างทาง ท่านสามารถพบเห็น รูปปั้นหินกลางทุ่งหญ้า ส่วนใหญ่เป็นหินแกะสลักรูปปั้นคนที่เสมือนจริง เป็นภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญของซิน เจียงที่วางกระจัดกระจายในทุ่งหญ้าโดยส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับสุสาน พวกเขาบ้างถูกฝังอยู่ในหลุมฝังศพหรือตั้งไว้เฝ้าหลุมฝังศพ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศของพระอาทิตย์ขึ้น เป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นของชีวิตและความแข็งแรง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | ออกเดินทางต่อสู่ เขตทิวทัศน์คานาสือ เปลี่ยนใช้รถอุทยาน นำชม ทะเลสาบเทวดา เป็นทะเลสาบที่มีจุดเด่นอยู่ที่ความใสของน้ำและภูเขาที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ฉากหลังของทะเลสาบแห่งนี้ มีตำนานเล่าขานว่าทะเลสาบนี้มีรอยเท้าของเจงกิสข่านเป็นรอยเท้าก่อนที่ท่านจะขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้จะมีหลากหลายสีสัน สีของน้ำนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิกับลักษณะของท้องฟ้าในแต่ละช่วง ถ้าท้องฟ้ามีลักษณะครึ้ม สีของทะเลสาบจะมีสีฟ้าคราม และในคราวที่ท้องฟ้าแจ่มใส ลักษณะของน้ำจะมีสีฟ้าใส แต่ความน่าอัศจรรย์ของทะเลสาบนี้จะอยู่ที่ทะเลสาบนี้แบ่งเป็น 2 สีในเวลาเดียวกัน นำชมความสวยบรรเจิดของ สามโค้งงามแห่งคานาส (เย้เลี่ยงวาน) หรือ ทะเลสาบวงพระจันทร์ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Hongfu Lake Kanas Resort Altai 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 4 | เขตทิวทัศน์คานาสือ ครั้งที่ 2 - ศาลาปลา - เมืองปู้เอ่อจิน - เมืองคาลามาอี้ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม เดินทางเข้าสู่ อุทยานคานาสือ ครั้งที่ 2 นำชมวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบคานาสือที่จุดชมวิวคานาสือ เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดที่ ศาลาชมปลา ณ ระดับความสูง 2,030 เมตร ศาลานี้อยู่บนยอดเขาเป็นสถานที่ชมวิวที่ดีที่สุด สามารถมองเห็นทะเลสาบคานาสือได้กว้างไกลและวิวทิวทัศน์ของขุนเขา ผืนป่า ทุ่งดอกไม้ ป่าสนเขา หากในวันฟ้าใสกระจ่างจะสามารถเห็นยอดเขาหิมะโหย่วอี้เฟิง ปราการกั้นพรมแดนจีน-รัสเซียได้ พร้อมกับผืนน้ำทะเลสาบสีครามในอ้อมกอดของภูเขาอัลไตอันทอดยาวไกลลิบ ตัดกับทิวทัศน์ของป่าสนไซเปรส ป่าเบิกซ์ และหลากพันธุ์ไม้เมืองหนาวที่ปกคลุมด้วยสีเขียวขจีสดใส (ช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฏาคมที่คานาสือจะมีทุ่งดอกไม้ป่าบาน บนยอดเขามีหิมะ อากาศเย็นสบาย และช่วงเดือนปลายเดือนกันยายน ช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผืนป่าเปลี่ยนสีและยอดเขาเปลี่ยนสี) |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | ออกเดินทางสู่ ปู้เอ่อจิน (Burqin) มีความหมายว่าคนที่เลี้ยงอูฐ ตั้งอยู่ในเขตซินเจียง เป็นเทศมณฑลเล็กๆ แห่งเดียวในจีนตะวันตกที่มีพรมแดนติดกับรัสเซีย คาซัคสถาน และมองโกเลีย ตั้งอยู่ที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเทือกเขาอัลไตและทางตอนเหนือของลุ่มน้ำจุงการ์ ได้ชื่อเมืองมาจากแม่น้ำ Burqin ซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำ Ertix แม่น้ำสายนี้เป็นเพียงแม่น้ำสายเดียวที่ไหลไปทางทิศตะวันตกก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลสาบในคาซัคสถาน จากนั้นไหลไปย้อนทางเหนือเพื่อบรรจบกับแม่น้ำออบ และไหลลงสู่มหาสมุทรอาร์กติกในที่สุด เป็นแม่น้ำสายเดียวในจีนที่ไหลลงสู่มหาสมุทรอาร์กติก ระหว่างทางผ่าน อิสระให้ท่านได้แวะถ่ายรูปจุดชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามตระการตาตามจุดต่างๆ |
เย็น | รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น หลังอาหาร เดินทางต่อสู่ เมืองคาลามาอี้ ที่ร่ำรวยขึ้นมาด้วยทรัพยากรใต้ดิน ทองคำสีดำ มีแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบอันมหาศาลกระจัดกระจายอยู่กลางผืนทะเลทรายอันแสนเวิ้งว้างและเปล่าเปลี่ยวทางตะวันตกของแอ่งที่ราบจุนการ์ คำว่า “คาลาเมย์” เป็นภาษาเหวยหวูเอ่อร์ หมายถึง “น้ำมันสีดำ” |
ที่พัก | Boda hotel 4*, Karamay หรือเทียบเท่า |
วันที่ 5 | เมืองคาลามาอี้ - เมืองขุยถุน - แกรนด์แคนยอนอันจี้ไห่ - เมืองจิงเหอ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม ออกเดินทางสู่ เมืองขุยถุน ระหว่างทางนั่งรถผ่านชม แหล่งน้ำมันคาลามาอี้ ในปีค.ศ.1955 มีการค้น พบแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน ที่นั่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมืองคาลามาอี้ก็พัฒนาเติบโตขึ้นจนกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและการกลั่นน้ำมัน |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชม แกรนด์แคนยอนอันจี้ไห่ หรือที่รู้จักในฐานะ ภูเขาสีแดง เป็นดินแดนที่ธรรมชาติจัดสรรสร้างขึ้นมาหลายล้านปี อันเนื่องจากการไหลเซาะของน้ำหิมะที่ไหลผ่านจากภูเขาเทียนซาน ใต้จรดเหนือมีความยาว 20 กิโลเมตร ส่วนเว้าของหุบเขาลึก 100-400 เมตร กว้าง 800-1,000 เมตร สูง 200 กว่าเมตร ผาหินตั้งตระหง่านสูงๆต่ำๆราวกับป่าหินที่ถูกเสริมสร้างจากสวรรค์ เรียงรายเป็นชั้นๆ บ้างคล้ายภูเขาหิมะ ช่องแคบ สนามหญ้า และลำห้วยไหลผ่านส่องสะท้อนสีสันสวยงามอีกภาพหนึ่ง แล้วเดินทางต่อสู่ เมืองจิงเหอ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Jinghe Ying Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 6 | เมืองจิงเหอ - ทะเลสาบไซลีมู - ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ - เมืองเท่อเค่อซือ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบไซลีมู (Sayram) ที่ทอดตัวอยู่ในวงล้อมของเทือกเขาเทียนซานด้านตะวัน ตกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่บนความสูง 2,073 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล น้ำลึกสุด 86 เมตร เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดในเขตซินเจียง เกิดจากการบิดตัวของแนวเทือกเขาหิมาลัยทำให้บริเวณนี้มีการยุบตัวและเกิดเป็นทะเลสาบ นำท่านชม ทะเลสาบไซลีมู น้ำสีฟ้าใสตัดกับท้องฟ้าสีสวยสดทำให้ทั่วบริเวณดูสว่างกระจ่างตา ในฤดูร้อนทิวทัศน์รอบทะเลสาบเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี มีดอกไม้ป่าสีเหลือง สีชมพู สีม่วง ดารดาษอยู่ทั่วไป ในช่วงฤดูหนาว ขุนเขารอบทะเลสาบจะปกคลุมด้วยหิมะ เมื่อแสงอาทิตย์สาดกระทบกับผิวน้ำจะทำให้เกิดเงาสะท้อนดูเสมือนว่ามีภูเขาหิมะอยู่บนผิวน้ำ ความงดงามที่กล่าวมาทำให้ทะเลสาบไซลีมูถูกขนานนามว่า “ทะเลสาบสรวงสวรรค์” |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชม ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ตื่นตาไปกับท้องทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เบ่งบานสะพรั่งไปตามหุบเขาแม่น้ำอีหลี ส่งผลให้เมืองอีหลีกลายเป็นผู้ผลิตดอกลาเวนเดอร์รายใหญ่แห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้แล้วเมืองอีหลียังโดดเด่นไปด้วยทัศนียภาพของทุ่งหญ้าที่เปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล จึงส่งผลให้เมืองอีหลีกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เริ่มมีความคึกคักและได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากขึ้นทุกๆ ปีอีกด้วย จากนั้นเดินทางต่อสู่ เมืองเท่อเค่อซือ (Tekesi) เป็นเมืองที่ได้รับการออกแบบผังเมืองรูป “ปาถั่ว” หรือสัญลักษณ์แปดเหลี่ยม |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Shang Cheng Tekesi Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 7 | เท่อเค่อซือ - ทุ่งหญ้าคาลาจุ้น - ผ่านชมแม่น้ำคูเนส - แกรนด์แคนยอนคั่วเค่อซู |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม วันนี้คณะออกเดินทางสู่ ทุ่งหญ้าคาลาจุ้น (ฝั่งตะวันออก) ทุ่งหญ้าแห่งนี้ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 1,600-2,000 เมตร จึงทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี คำว่า “คาลาจุ้น”(Kalajun) เป็นภาษาคาซัค แปล ว่า ทุ่งหญ้าสีดำ โดยเหตุที่ว่าทุ่งหญ้าแห่งนี้มีเนินสูงๆต่ำๆสลับกันไป มองแล้วเหมือนดั่งคลื่นในมหาสมุทร โดยเฉพาะในเวลาพลบค่ำ เราจะเห็นได้ชัดว่าเป็นระลอกคลื่นสีดำทะมึนปรากฎตรงหน้าเรา คนจีนเขาได้กล่าวไว้ว่าเสมือนหนึ่งมหาสมุทรดอกไม้ ซินเจียงจึงได้ชื่อว่าเป็นสวนหลังบ้านของประเทศจีน ซึ่งเมื่อไปถึงที่นั่นแล้วก็ไม่สามารถปฎิเสธได้จริงๆว่ามันคือสวนสวรรค์ของประเทศจีนทีเดียว ท่านสามารถถ่ายภาพดอกไม้ป่าในบริเวณภูเขาและทิวทัศน์ที่สวยงาม มีดอกไม้ป่านานาชนิดเต็มเทือกเขาและแนวที่ราบสูง |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | นำท่านชม แกรนด์แคนยอนคั่วเค่อซู (Kuokesu Grand Canyon) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองเท่อเค่อซือ ด้วยชั้นหินที่ทับถมกันและมีน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาเทียนซานกัดเซาะหลายร้อยล้านปี มีแม่น้ำกว้างลักษณะคดเคี้ยวในผาสูงชัน ล้อมรอบด้วยภูเขาที่สลับทับซ้อน เกิดเป็นแคนยอนที่มีภูมิทัศน์อันงดงามยิ่ง อาทิเช่น น้ำตกหูโข่ว โค้งน้ำจระเข้ เก้าเลี้ยวสิบแปดโค้ง เป็นจุดชมวิวจากด้านบนตั้งอยู่บนเนินเขาขนาดเล็กที่ต้องเดินผ่านขึ้นไปตามทางเดินไม้ เมื่อถึงจุดชมวิว เบื้องล่างของท่านก็คือแม่น้ำที่มีโค้งวกไปวนมาที่ได้รับการขนานนามว่า เก้าเลี้ยวสิบแปดโค้ง เป็นทิวทัศน์อันงดงามโดยเฉพาะยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและแม่น้ำก็สะท้อนแสงสีแดงนั้นเป็นภาพที่ตราตรึงใจชวนหลงใหลต่อผู้ที่มาพบเห็น จากนั้นเดินทางกลับสู่ เมืองเท่อเค่อซือ ระหว่างทาง ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของป่าเขา ตื่นตาไปกับดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่ง ผ่านชม แม่น้ำคูเนส (Kunes River) ซึ่งเป็นแม่น้ำช่วงตอนบนของแม่น้ำอีหลี ไหลผ่านทุ่งหญ้านาราถี ครั้นเดินทางถึง เมืองเท่อเค่อซือ |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Shang Cheng Tekesi Hotel 4* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 8 | เมืองเท่อเค่อซือ - เมืองอี้หนิง - เมืองอูรูมูฉี (บินภายใน) |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม แบบ Breakfast Box นำท่านเดินทางสู่ เมืองอี้หนิง (ใช้เวลาเดินทางราว 2.5 ชั่วโมง) ระหว่างทาง ผ่านชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ตลอดสองข้างทาง จนถึงเมืองอี้หนิง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "เมืองแห่งสวนดอกไม้" เป็นเมืองการค้าสำคัญอีกแห่งหนึ่งของซินเจียง |
08.45 น. | เดินทางถึงสนามบินอี้หนิง เตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศเพื่อกลับสู่ เมืองอูรูมูฉี |
11.10 น. | เหินฟ้าสู่ เมืองอูรูมูฉี ประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่ CZ6853 (YIN-URC 1110-1225) (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 15 นาที) |
12.25 น. | เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอูรูมูฉีเตอวัวเป่า เมืองอูรูมูฉี |
กลางวัน | รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
บ่าย | พาท่านเดินชม ตลาดต้าปาจา (Grand Bazaar) เป็นย่านคึกคักที่สุดและมีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองอูรูมูฉี ไม่ว่าชาวฮั่น ชาวอุยกูร์ หรือชนชาวเผ่าอื่นๆ ก็ชอบมาเดินเล่นช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง ที่นี่ท่านยังจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเมือง นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ภูมิภาคซินเจียง (Xinjiang Regional Museum) ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างเสร็จในปีค.ศ. 2005 เป็นพิพิธภัณฑ์ครบวงจรชั้นนำระดับชาติที่มีคอลเล็กชันวัฒนธรรม มากกว่า 31,000 รายการ นักท่องเที่ยวสามารถชมศิลปวัตถุโบราณต่างๆ ที่ได้รวบรวมเก็บรักษาไว้อย่างดีตั้งแต่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าขนสัตว์ หนังสือโบราณ ประติมากรรมไม้ ตุ๊กตาดินเผา ภาพวาด สัมฤทธิ์ไปจนถึงเครื่องแต่งกายประจำชาติและสิ่งของมีชีวิต ตลอดจนซากศพและฟอสซิลโบราณบางส่วน |
ค่ำ | รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น |
ที่พัก | Sheraton Urumqi Hotel 5* หรือเทียบเท่า |
วันที่ 9 | เมืองอูรูมูฉี - เมืองกวางเจา - กรุงเทพฯ |
เช้า | รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม เดินทางถึง สนามบินนานาชาติอูรูมูฉีเตอวัวเป่า เตรียมตัวเช็คอินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อ เดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ |
10.45 น. | เหินฟ้าสู่ เมืองกวางเจา ประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่ CZ6895 (URC-CAN 1045-1550) (ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมง 5 นาที) (บริการอาหารบนเครื่อง) |
15.50 น. | เดินทางถึงสนามบินนานาชาติกวางโจวไปหยุ่น รอเปลี่ยนเครื่อง |
19.55 น. | เหินฟ้าสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ CZ361 (CAN-BKK 1955-2200) (ใช้เวลาบิน 3 ชั่วโมง 5 นาที) (บริการอาหารบนเครื่อง) |
22.00 น. | เดินทางถึง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ |